เพียงเธอหลับตา, เธอจะได้พบความรัก...ตอนที่5

Oct 23, 2008 11:33

ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน ที่คอยติดตามอ่านและให้กำลังใจคณะผู้แปลทั้งสองเสมอมา และแล้วโปรเจ็คเรื่องนี้ก็ดำเนินมาถึงตอนที่ห้า โค้งสุดท้ายใกล้ถึงตอนจบเต็มที

ตอนนี้ได้เปิดเผยปมในอดีตแล้วนะคะว่าทำไมคาเมะถึงจำจินไม่ได้เสียที

และแน่นอนว่า ตอนนี้ก็ยังจบลงด้วยน้ำตาของคาเมะอยู่ดี (เหอะๆๆ เรื่องนี้ไม่มีตอนไหนที่คาเมะไม่ร้องไห้เลย ร้องไห้ได้ทุกตอนตั้งแต่ต้นจนจบ)



สำหรับคนอ่านที่ถามเข้ามาว่าจะสามารถอ่านต้นฉบับฟิคชั่นภาคภาษาอังกฤษได้ที่ไหน สามารถอ่านได้ตาม livejournal ของคนเขียนแต่ละเรื่องเลยค่ะ แล้วถ้าใครอยากอ่านต้นฉบับเรื่อง If you close your eyes, you'll find จากคุณ vani13ตามไปที่นี่ได้เลยค่ะ http://vani13.livejournal.com/

แต่อาจจะต้องมีการ join community กับคนเขียนก่อนนะคะถึงจะอ่านฟิคชั่นได้

=====================================

เพียงเธอหลับตา, เธอจะได้พบความรัก
หัวเรื่อง: เพียงเธอหลับตา, เธอจะได้พบความรัก

แนวเรื่อง: โรแม้นซ์, บ้าๆบอ หื่นกระจาย

เรตติ้ง : NC-17

คู่หลัก: Jin X Kazuya

เรื่องย่อ: คาเมะตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเมื่อต้องจ่ายหนี้จำนวนมหาศาล ซึ่งเขาไม่สามารถหามาชดใช้ได้ และแล้วจินได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้านการเงินแต่ยื่นข้อเสนอบางอย่างกับคาเมะ...

คำเตือน: เรื่องนี้อาจดิบเถื่อน และมีเนื้อหาและภาษาที่ค่อนข้างรุนแรง

Notes: ฟิคชั่นเรื่องนี้เจ้าของเรื่องคือคุณ vani_13ได้แต่งให้กับคุณ blue_orbs เพื่อเป็นของขวัญวันเกิด ทางคณะผู้แปลได้ทำการขออนุญาตจากคุณ vani_13 ซึ่งเป็นผู้เขียนก่อนจะกระทำการแปลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ไม่อนุญาตให้ผู้อื่นกระทำการคัดลอกฟิคชั่นเรื่องนี้ไปกระทำการใดๆ เพื่อการค้า หรือส่งต่อเผยแพร่ที่อื่นทั้งสิ้น
=====================================

เพียงเธอหลับตา, เธอจะได้พบความรัก...ตอนที่5

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นปลุกให้ร่างบางสะดุ้งตื่น

นี่เขาเผลอหลับไปตอนไหนเนี่ย? นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว?

“สวัสดีครับ”

“คาเมะ, นายไปมุดหัวอยู่ที่ไหน? นายเป็นอะไรไปหรือเปล่า? ปกตินายไม่เคยโดดเรียนแบบนี้นี่นา เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนายหรือเปล่า?”

“อ๊า...ฉันเผลอหลับเพลินไปนะ ไม่ได้เป็นอะไรหรอก นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ฉันจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้ล่ะ เดี๋ยวเจอกันนะ”

“รีบมาก็แล้วกัน รู้ไหมว่าพวกเราเป็นห่วงนายมาก”

“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะยูอิจิ” ร่างบางพูดก่อนจะตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงใกล้ๆ กับนาฬิกาข้อมือที่ถูกลืมทิ้งไว้

คนตัวเล็กค่อยๆ หยิบนาฬิกาเจ้าปัญหาขึ้นมากำไว้ในมือ ก่อนจะใช้นิ้วหมุนมันเล่น

คาซึยะลองสวมมันกับข้อมือของตัวเอง พบว่าเมื่อมันอยู่ในข้อมือของเขาสายของมันห้อยลงมาด้วยความหลวม ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจอะไรเพราะจินมีโครงร่างที่หนากว่าเขาอยู่แล้ว

แล้วเขาควรจะทำอย่างไรดี? แต่เวลานี้เขาควรจะไปอยู่ที่โรงเรียนแล้วนี่นา เมื่อคิดได้ดังนี้คาซึยะจึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวพร้อมไปโรงเรียน
+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+

คาซึยะลืมถอดนาฬิกาข้อมือของจินออก ทำให้ตลอดทั้งวันที่ผ่านมาร่างบางถูกเพื่อนทั้งสองรุมตั้งคำถามมากมายกับเขา ก็มันไม่ใช่เรื่องปกติเลยที่จะมีใครใส่นาฬิกาข้อมือที่มีขนาดใหญ่กว่าข้อมือของตัวเองเกือบสองเท่าอย่างนี้

ดวงตาเรียวเล็กจับจ้องไปที่ร่างที่สั่นเทา กำลังเฝ้ารออย่างกระวนวายอยู่ที่หน้าประตูบ้านเขา

ผู้ชายคนนี้มาทำอะไรอยู่ที่นี่?

หากเขาอยากจะเดินเข้าไปในบ้านแล้วล่ะก็ ร่างบางไม่มีทางเลือกที่จะเลี่ยงไม่เผชิญหน้ากับผู้ชายคนนั้น ทำให้คนตัวเล็กจำใจเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มที่ดูมีอายุมากกว่าเขา

“เอ่อ...นายเห็นจินบ้างไหม?” คนตัวเล็กแทบผงะเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายถามคำถามนี้ออกมา

“มะ-ไม่นี่ เขาเป็นอะไรไปเหรอ?”

“บ้าชะมัด” ยามะพีสบถออกมา “หมอนั่นหายหัวไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว แถมตอนนี้ฉันไม่สามารถติดต่อหมอนั่นได้เลย โทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง ไปหาที่บ้านก็ไม่อยู่ ฉันไม่รู้จะไปตามหาหมอนั่นที่ไหนแล้ว” ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างหมดความหวัง ก่อนจะเริ่มหันมาถามร่างบาง “นายพอจะคิดออกบ้างไหม ว่าตอนนี้หมอนั่นหนีไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกัน?”

จินหายไปตั้งแต่เมื่อวาน มันจะเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องที่จินพูดกับเขาเมื่อวานนี้หรือเปล่านะ?

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อคืนนี้เขามาที่นี่ แต่เขาก็ออกไปแล้ว” เสียงของคนตัวเล็กสั่น ขณะที่มองเห็นความกังวลฉายชัดบนใบหน้าของเพื่อนจิน

“นายน่าจะรู้นะ ว่าเวลาแบบนี้จินน่าจะไปซ่อนอยู่ที่ไหน” ชายหนุ่มคว้าไหล่ของร่างบางเอาไว้ก่อนแน่นก่อนจะเขย่าไปมาอย่างรุนแรง ส่งผลให้คาซึยะต้องรีบผละหนีจากสัมผัสนั้น “เขาบอกว่านายเคยรู้จักกับเขามาก่อน นายเคยเจอกับเขาที่ไหน? เมื่อห้าปีก่อนนั่น นายเคยพบกับจินครั้งแรกที่ไหนกัน?” ยามะพียังคงเขย่าร่างบางไม่เลิก

“ผมเคยรู้จักกับเขามาก่อนด้วยเหรอ? ไม่.. ผมไม่เคยรู้จักเขามาก่อน” ยามะพีเริ่มสงบสติอารมณ์ลงเมื่อมองเห็นร่างบางร้องไห้ออกมา

“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายนาย ฉันก็แค่...” ชายหนุ่มใช้เวลาชั่วขณะหนึ่งถอนหายใจออกมา “ฉันไม่รู้ว่าหมอนั่นจะไปหนีไปทำอะไรบ้าๆไหม ฉันเพิ่งรู้จักกับจินแค่ห้าปี หลังจากที่หมอนั่นเรียนจบมัธยมต้น แต่หมอนั่นเคยบอกกับฉันว่านายเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แต่เขาก็ไม่ได้เล่ารายละเอียดอะไรเกี่ยวกับนายหรือเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น”

เดี๋ยวนะ...ผู้ชายคนนี้กำลังบอกอะไรกับเขากันนะ? เขาแน่ใจว่าตัวเขาไม่เคยรู้จักกับจินมาก่อนแต่...โรงเรียนเก่า...เขารู้ว่าโรงเรียนนั่นอยู่ที่ไหน บางทีอคานิชิอาจจะหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่นั่นก็ได้

“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ผมไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องที่ผมช่วยชีวิตจินเลย แต่ผมคิดว่าผมรู้แล้วล่ะครับว่าตอนนี้จินอยู่ที่ไหน” คาซึยะยอมรับออกมา

“งั้นก็รีบไปกันเลย” ยามะพีคว้าแขนร่างบาง ก่อนจะดึงให้อีกฝ่ายตามออกไปทันทีแต่เขาก็ต้องรู้สึกถึงการฝืนตัวของอีกฝ่าย ทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดรอ

ยามะพีหันกลับมามองข้ามบ่าของตัวเองเพื่อมองหาคนตัวเล็ก “นายเป็นอะไรไปรึ? ไปกันเสียทีสิ”

“ผมขอร้องได้โปรดให้ผมไปหาจินเพียงคนเดียวเถอะครับ ผมสาบานเลยว่าผมจะพาเพื่อนของคุณกลับมาให้ได้” เมื่อได้ยินคำขอร้องของร่างบาง ยามะพีจึงยอมปล่อยมือของตนออก

“ระวังตัวด้วยล่ะ” คาซึยะพยักหน้ารับคำ ก่อนจะเริ่มออกวิ่งไปยังจุดหมายปลายทางของเขา จินจะต้องอยู่ที่นั่นแน่ ถ้าจินไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วล่ะก็ เขาก็คิดไม่ออกอีกแล้วว่าจินจะหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน

ดะเดี๋ยวก่อน....โรงเรียนเก่าของเขาน่ะเหรอ?

“พวกเราแวะเข้าไปในนั้นกันได้ไหม?”

“ไม่เราจะไม่เข้าไปในนั้น” จินตวาดกลับ ส่งผลให้คาซึยะกระถดตัวหนีด้วยความกลัวจากน้ำเสียงที่โกรธจัดจากอีกฝ่าย มือหนาที่จับลงมาบนไหล่ของเขากดแน่น ก่อนจะผลักร่างเล็กให้ถอยไปติดกับกำแพง ขณะที่ริมฝีปากหนากดเม้มลงมาที่ซอกคอ

นี่เองคือเหตุผลที่ทำให้จินโกรธเขาจนแทบเป็นบ้าในตอนนั้น

เป็นใครใครจะไม่โกรธล่ะ? จินพูดเกี่ยวกับโรงเรียนเก่าของเขา แต่เขากลับจำจินไม่ได้เลยสักนิด

แต่ตอนนี้เขารู้สาเหตุแล้วว่ามันเป็นเพราะอะไร เพราะว่าเขาไม่ใช่คนที่ช่วยชีวิตของจินเอาไว้ในตอนนั้น เขาไม่ใช่คนที่จินเฝ้าตามหามาเนิ่นนาน มันไม่เคยเป็นเขาเลย
Previous post Next post
Up