เพียงเธอหลับตา, เธอจะได้พบความรัก
หัวเรื่อง: เพียงเธอหลับตา, เธอจะได้พบความรัก
แนวเรื่อง: โรแม้นซ์, บ้าๆบอ หื่นกระจาย
เรตติ้ง : NC-17
คู่หลัก: Jin X Kazuya
เรื่องย่อ: คาเมะตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเมื่อต้องจ่ายหนี้จำนวนมหาศาล ซึ่งเขาไม่สามารถหามาชดใช้ได้ และแล้วจินได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้านการเงินแต่ยื่นข้อเสนอบางอย่างกับคาเมะ...
คำเตือน: เรื่องนี้อาจดิบเถื่อน และมีเนื้อหาและภาษาที่ค่อนข้างรุนแรง
Notes: ฟิคชั่นเรื่องนี้เจ้าของเรื่องคือคุณ vani_13ได้แต่งให้กับคุณ blue_orbs เพื่อเป็นของขวัญวันเกิด ทางคณะผู้แปลได้ทำการขออนุญาตจากคุณ vani_13 ซึ่งเป็นผู้เขียนก่อนจะกระทำการแปลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไม่อนุญาตให้ผู้อื่นกระทำการคัดลอกฟิคชั่นเรื่องนี้ไปกระทำการใดๆ เพื่อการค้า หรือส่งต่อเผยแพร่ที่อื่นทั้งสิ้น
=====================================
เพียงเธอหลับตา, เธอจะได้พบความรัก...ตอนที่3
“เกิดอะไรขึ้นกับนายกันแน่?” จินเอ่ยถาม พร้อมกับเดินเข้าไปใกล้เพื่อจะมองดูแขนของร่างบางให้ชัดๆ
“ออกไปเดี๋ยวนะ! มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคุณ” ก็ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของจินเองนี่นา เขาถึงได้เป็นแบบนี้
“ฉันบอกนายไปแล้วไง ว่ายังไงนายก็ไล่ฉันออกไปจากบ้านไม่สำเร็จหรอก” ร่างสูงตอบพร้อมกับกดมือเบาๆลงมาที่หน้าผากของคนตัวเล็กเพื่อวัดอุณหภูมิร่างกายของอีกฝ่าย
“นายมีไข้นี่ นายเก็บยาไว้ตรงไหนของบ้านกัน?” คาซึยะจ้องมองมาที่ร่างสูงอย่างชั่งใจชั่วขณะหนึ่ง แน่นอนล่ะว่าจินอยากให้เขาหายป่วยเร็วๆ เพราะอีกฝ่ายคงไม่ต้องการที่จะมีเซ็กส์กับคนป่วย แต่ตอนนี้เขาไม่นึกอยากจะโต้เถียงอะไรทั้งสิ้น ...เขากำลังไม่สบายอย่างหนัก จนแทบจะขยับเนื้อขยับตัวไม่ไหว เพราะฉะนั้น..ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือในรูปแบบไหน..หรือจะเป็นความช่วยเหลือจากตัวจินเองก็ตาม เขาก็ยินดีที่จะรับมันไว้ทันที
“อยู่ที่ลิ้นชักอันที่สามที่ตั้งอยู่นั่นล่ะ” ในที่สุดร่างบางก็ยอมบอกออกมา หลังจากที่ได้รับคำตอบจากริมฝีปากบาง จินรีบตรงดิ่งไปที่ลิ้นชักเพื่อค้นหายาลดไข้
ชายหนุ่มอ่านเอกสารกำกับยาที่ข้างกล่องยาทุกกล่องในลิ้นชัก หลังจากใช้เวลาในการค้นหาอยู่ครู่หนึ่งเขาก็พบมัน จินหยิบมันขึ้นมาก่อนจะวิ่งออกไปนอกห้อง หายไปสักครู่ก็กลับเข้ามาพร้อมกับแก้วบรรจุน้ำ
“นี่ยากินซะ” ชายหนุ่มส่งแก้วน้ำพร้อมกับยาให้คนป่วย
“เดี๋ยวเราต้องทำอะไรบางอย่างกับแขนนายแล้วล่ะ มันจะได้ดีขึ้น”
“ไม่เอา! มันไม่เป็นไรแล้ว ตอนนี้ผมหายแล้ว” คาซึยะบอก วอนขอต่ออะไรก็ตามไม่ให้อีกฝ่ายมายุ่งกับแขนของเขา
“ไม่อย่าดื้อสิ แขนของนายมันยังดูไม่ดีขึ้นเลย ดูท่าทางกระดูกของนายจะซ้นนะ เดี๋ยวฉันจะช่วยจัดมันให้เข้าที่ให้ หรือไม่นายก็ยอมไปที่โรงพยาบาลกับฉัน นายเลือกเอาแล้วกันว่าจะเอาอย่างไหน?” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“ไม่เอา ไม่ไปโรงพยาบาลนะ...ได้โปรด...” ร่างบางบอกด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ
“ดี ถ้านายเลือกแบบนี้ฉันจะจัดการมันเอง” พูดจบจินก็คว้าแขนของคาซึยะเอาไว้ เพียงแค่สัมผัสโดนเพียงนิดเดียวความเจ็บปวดก็แล่นริ้วไปทั่วทั้งแขน
คาซึยะหลับตาปี๋ ขณะที่หยาดน้ำตาหล่นลงมาบนใบหน้าหวาน ทุกๆ ครั้งที่มีการขยับแขน คลื่นแห่งความเจ็บปวดก็ถาโถมเข้ามา
“ทนเจ็บอีกนิดนะ อีกแป๊บเดียวก็จะเสร็จแล้ว แต่นายต้องอดทนให้ฉันขยับจัดมันให้เข้าที่ก่อนนะ ตกลงไหม?” จินพยายามปลอบอีกฝ่าย จนคนตัวเล็กจะยอมพยักหน้า
ชายหนุ่มค่อยๆ จับแขนของคาซึยะขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะค่อยๆ เริ่มดึงแขนเรียวให้เหยียดตรง
ระยะทางทุกๆ กระเบียดนิ้วที่ขยับแขน สร้างความเจ็บแปลบและหยาดน้ำให้แก่ร่างบาง คาซึยะจิกเล็บลงบนฝ่ามือของอีกฝ่าย ...เพื่อลดความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นซึ่งมากเกินกว่าที่ร่างบางจะทนรับได้
ในที่สุดจินก็เหยียดแขนบางออกมาได้สำเร็จ พร้อมกับที่ชายหนุ่มชี้แจงออกมาว่า “ฉันอาจจะทำให้นายเจ็บหน่อยนะ แต่มันจะแค่แป๊บเดียว...ไม่ต้องกลัวนะ” และก่อนที่คาซึยะจะได้มีโอกาสทำความเข้าใจกับทุกคำพูดที่อีกฝ่ายเอ่ยมา จินกลับรั้งร่างเล็กเข้าหาอกกว้างแล้วออกแรงดึงตรงช่วงข้อศอกอย่างรวดเร็ว
เสียงกระดูกลั่นดังกร็อบ แสดงให้เห็นว่ามันกำลังเคลื่อนกลับเข้าสู่ที่เดิมของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คาซึยะกรีดร้องออกมาอยู่ภายใต้อกแกร่ง จนในที่สุดร่างบางก็ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจที่กลั้นเอาไว้ออกมา หยาดน้ำตาเริ่มไหลรินออกมาจากดวงตาคู่งาม จนเปียกชุ่มไปทั่วเสื้อของจิน
“โอ๋... ไม่เป็นไรแล้วนะ ตอนนี้มันหายเจ็บแล้ว” ชายหนุ่มเฝ้าปลอบประโลมคนตัวเล็ก พร้อมกับใช้นิ้วลูบไล้แทรกอยู่ท่ามกลางผมเส้นเล็กที่ดูยุ่งเหยิง
หยาดน้ำตาที่ไหลรินเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นเมื่อความเจ็บปวดและอาการช็อคเริ่มผ่านพ้นไป จินคอยดูแลให้ร่างเล็กซุกอยู่ในอ้อมแขน จนกระทั่งสังเกตเห็นว่าร่างบางเริ่มสงบและเงียบเสียงลง ชายหนุ่มจึงค่อยๆรั้งร่างบางให้ห่างออก เพื่อที่จะพบว่าคาซึยะได้เผลอหลับไปเสียแล้ว
“สงสัยวันนี้นายจะเหนื่อยมากเกินไป...หลับให้สบายนะคาซึยะ”
+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+
เมื่อร่างบางตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขายังคงมีความรู้สึกปวดรุมๆ ที่แขนมารบกวนอยู่ แต่อาการปวดเหล่านั้นก็บรรเทาเบาบางลง ไม่ได้เจ็บปวดรุนแรงมากเท่ากับตอนที่เจ็บอยู่ครั้งแรก
พร้อมกับที่จินจากไปอีกครั้ง
ร่างบางค่อยๆ พยุงร่างขึ้นมาด้วยแขนเพียงข้างเดียวอย่างช้าๆ ก่อนจะลุกออกมาจากเตียงได้สำเร็จ เมื่อพยุงกายออกมาถึงหน้าประตูห้องนอน เขาก็พบกระดาษโน้ตแปะอยู่ คาซึยะลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนที่จะหยิบมันขึ้นมาอ่าน
ฉันไม่อยากจะปลุกนาย
มีอาหารอยู่ในครัวนะ ถ้านายอาการดีขึ้นแล้วอย่าลืมลุกไปกินมันด้วยล่ะ แล้วฉันจะกลับมาเยี่ยมนายคืนนี้
อ้อ..อย่าลืมระมัดระวังแขนข้างที่เจ็บอย่าให้กระทบกระเทือนด้วยล่ะ แล้วพรุ่งนี้อย่าลืมไปโรงเรียนด้วย อย่าทำให้เพื่อนๆ ของนายต้องเป็นห่วง
อาคานิชิ จิน
มันเป็นโน้ตที่ยาวที่สุดเท่าที่เขาเคยได้รับจากจิน และมันเติมเต็มความรู้สึกให้เขารู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญ มุมปากของร่างบางยกขึ้นสูงกลายเป็นรอยยิ้มออกมาก่อนจะเลือนหายไป ในทุกๆ ครั้ง จินก็แค่ให้ความหวังกับเขา ทำให้เขาแอบหวังว่าอีกฝ่ายจะห่วงใยเขาจากใจ แต่ในความจริงแล้วมันจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยสักนิด
คาซึยะเดินเข้าไปในครัว เพื่อจะพบกันอาหารจำนวนมากที่เตรียมไว้เพียงพอสำหรับเลี้ยงคนสามถึงสี่คนเป็นอย่างต่ำ อย่าบอกนะว่าจินเป็นคนทำอาหารพวกนั้น? อาหารทั้งหมดนั่นสำหรับเขารึ?
ดวงตาของร่างบางเหลือบไปพบโน้ตอีกแผ่นวางอยู่บนโต๊ะ ถัดจากจานอาหาร
ครั้งหน้าที่ฉันแวะมา นายจะต้องตอบแทนฉันด้วยเซ็กส์แบบสุดเหวี่ยงนะ ไม่อย่างงั้นฉันจะเก็บค่าอาหารมื้อนี้กับนายเสียเลย
อาคานิชิ จิน
“มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยใช่ไหมที่จะให้นายมาห่วงใยฉันโดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง?” คาซึยะสรุปออกมา ที่สุดแล้วจินก็ทำลายความหวังทั้งหมดของเขาให้พังทลายไม่เหลือชิ้นดี
+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+
“นายจะรีบไปไหนกันจิน?” ยามะพีเอ่ยถามเพื่อนรักที่กำลังเร่งรีบเก็บหนังสือเรียนของตนใส่ลงในกระเป๋า แล้วรีบออกไปจากห้องเรียนทันทีที่เสียงออดหมดเวลาดังขึ้น
“ไปโรงเรียนนะสิ”
“จิน จะบ้าหรือไง ตอนนี้นายก็อยู่ที่โรงเรียนแล้วนี่”
“ไม่ใช่ที่นี่ แต่เป็นโรงเรียนของคาซึยะ”
“โอ้...นายไปที่นั่นทำไมล่ะ ไปรับหมอนั่นมาหาความสุขกันอีกหรือไง?” อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่นพร้อมกับจ้องเขม็งไปที่จิน
“ไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อวันก่อนไม่รู้หมอนั่นไปซุ่มซ่ามอะไรอีท่าไหนถึงได้เจ็บตัว ฉันก็เลยต้องคอยไปดูแลเขาหน่อยว่าอาการเป็นยังไงบ้างแล้ว”
“โอ้... คุณพระช่วย คนอย่างอาคานิชิ จิน รู้จักเป็นห่วงทาสรักบนเตียงของเขาด้วย”
“หุบปากไปเลยไอ้พี” ร่างสูงส่งกำปั้นลุ่นๆ ใส่เพื่อรัก จนอีกฝ่ายต้องรีบเอี้ยวตัวหลบ
เมื่อสบโอกาสที่อีกฝ่ายเผลอ จินก็รีบหยิบกระเป๋าเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
“ไอ้บ้าเอ๊ย! นายทำอย่างนี้ เขาต้องจับไต๋นายออกแน่เลย” ยามะพีตะโกนไล่หลังเพื่อนรัก แต่สงสัยว่าอีกฝ่ายจะไม่ทันได้ยินประโยคนี้
+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+
“ดูสิ มีผู้ชายหน้าตาดีมายืนอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนเราด้วยล่ะ” กลุ่มเด็กสาวพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
คาซึยะไม่ได้ให้ความสนใจกับบทสนทนาเหล่านั้น จนกระทั่งเขามองเห็นร่างสูงที่ยืนดักรออยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน คนตัวเล็กรีบกวาดตามองโดยรอบเพื่อจะหาที่หลบซ่อนตัว
“คาเมะ มีอะไรหรือเปล่า?” นากามารุเพื่อนของเขาถามออกมา เมื่อเห็นท่าทางผิดปกติบนสีหน้าของคนตัวเล็ก หลังจากนั้นร่างบางก็วิ่งหนีออกไปอย่างรวดรวดเร็ว “คาเมะ!”
เสียงเรียกชื่อที่ดังก้อง ทำให้จินหันมามองตามทิศทางของเสียงจนเห็นร่างเล็ก ดวงตาคมกริบที่มองมาทำให้คาซึยะต้องหยุดวิ่งอยู่กับที่ คนตัวเล็กรู้สึกเหมือนตัวเองถูกสาปแช่แข็งให้ยืนนิ่งอยู่กับที่ จนกระทั่งจินกระโจนเข้ามาอยู่ข้างๆ แล้วจับมือเขากุมไว้ด้วยอุ้งมือหนา ก่อนจะลากเขาออกไปนอกโรงเรียนด้วยกัน
ก่อนที่คนตัวเล็กจะทันได้ประท้วงการกระทำของอีกฝ่าย จินก็ก้มลงมาถาม “แขนของนายเป็นยังไงบ้าง? รู้สึกดีขึ้นหรือยัง?” คาซึยะใบหน้าแดงก่ำด้วยเหตุผลบางประการที่แม้แต่เจ้าตัวก็ยังไม่เข้าใจตัวเอง แต่ร่างบางก็เฝ้าบอกกับตัวเองว่าการที่เขาหน้าแดงขึ้นมานั้น สาเหตุมาจากสายตาผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างหาก ขณะที่จินดูไม่สนใจสายตาที่จ้องมองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นพวกนั้นเลยสักนิด
“ผะ..ผมหายดีแล้ว” คาซึยะตอบออกมา พร้อมกับนึกสงสัยว่าอีกฝ่ายจะห่วงใยเขาจริงๆ ใช่ไหม
ร่างบางกำหมัดแน่น ทำไมหัวใจของเขาต้องเต้นแรงด้วย? อาจจะเป็นเพราะเขากลัวว่าจินจะทำอะไรบ้าๆออกมาต่อหน้าสาธารณชน และ...ที่สำคัญอีกฝ่ายยังกุมมือเขาไม่ยอมปล่อยอยู่เลย
ความรู้สึกแปลกประหลาดจากความร้อนผ่าวที่เริ่มแผ่นซ่านมาจากปลายนิ้วมือข้างที่จินกุมมันเอาไว้อยู่ แล่นริ้วแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างบาง อย่างช้าๆ ที่คนตัวเล็กค่อยๆ ดึงมือเล็กของตนออกจากการกอบกุมของอีกฝ่าย เพื่อลดความรู้สึกแปลกประหลาดที่เป็นปฏิกิริยาตอบสนองที่เกิดขึ้นในร่างกายลง
“คาเมะ? นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” นากามารุที่เพิ่งตามมาถึงหยุดยืนอยู่ข้างร่างบาง ก่อนจะจ้องมองไปที่ชายหนุ่มแปลกหน้าอีกคน
“ไม่เป็นไร” คนตัวเล็กตอบ ขณะที่ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ตรงกลางระหว่างเพื่อนของเขากับจิน ซึ่งทั้งคู่กำลังจ้องมองกันด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
“กลับบ้านกันเถอะคาเมะ” นากามารุคว้าข้อมือบางและดึงให้คนตัวเล็กออกห่างจากจิน
“ฉันพูดธุระของฉันกับคาซึยะยังไม่เสร็จเลย” ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเหนือกว่า ก่อนจะโอบแขนร่างบางรั้งเข้ามาสู่อ้อมอก
“ฉันคิดว่า หมอนั่นไม่มีอะไรจะพูดกับนายแล้วนะ” สายตาของทั้งคู่ที่จ้องมองกันเหมือนมีประจุไฟฟ้าที่มองไม่เห็นกำลังต่อสู้กันอยู่ และพร้อมจะปะทุออกมาได้ทุกเมื่อ จนคาซึยะนึกหวั่นว่าเรื่องราวทั้งหมดจะลุกลามใหญ่โตจนกลายเป็นการทะเลาะวิวาทกัน
“งั้นให้คาซึยะเป็นคนตัดสินว่า เขาต้องการไปกับใครกันแน่” และในที่สุดดวงตาสองคู่ก็จ้องมองมาที่ร่างบางเพื่อขอคำตัดสิน
เขานึกอยู่แล้วเชียว ว่าสุดท้ายแล้วมันต้องลงเอยเช่นนี้
เขาเหลือบมองไปที่จิน สายตาที่อีกฝ่ายมองมาเหมือนออกคำสั่งว่า ‘ถ้านายกล้าไปกับหมอนั่น ฉันจะให้นายชดใช้ค่าเสียเวลาของฉัน ที่ทำให้ฉันต้องเสียเวลามาที่นี่เพื่อแวะมาดูว่านายยังอยู่สบายดีไหม...รู้ใช่ไหมว่านายต้องจ่ายมันด้วยร่างกายของนาย’
ร่างบางกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากก่อนจะตัดสินใจออกมา “ฮืม...ยูอิจิ เอาไว้เราเจอกันวันพรุ่งนี้นะ” ก่อนที่คนตัวเล็กจะปล่อยมือออกจากเพื่อน แล้วเดินย่างเท้าเข้าไปหาจินซึ่งกำลังยืนยิ้มกริ่มด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะบนใบหน้า
“ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มพูดขึ้นมา ก่อนจะกุมมือบางเอาไว้อีกครั้ง ก่อนจะลากอีกฝ่ายให้ออกไปจากที่นี่ “ไปหาอะไรกินกัน”
“ถ้าคุณจะมาที่นี่ เพื่อให้ผมพาคุณไปเลี้ยงข้าวล่ะก็ ผมคงต้องขอปฏิเสธคำชวนของคุณ”
“อย่าคิดมากอย่างนั้นสิ เดี๋ยวมื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง” จินยื่นข้อเสนอออกมาส่งผลให้คาซึยะยอมตามอีกฝ่ายไปแต่โดยดี
คนตัวเล็กรู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกันที่ต้องไปไหนมาไหนกับจิน ซึ่งอีกฝ่ายจะแวะเวียนมาหาเขา เฉพาะเวลาที่มีเรื่องราวธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับร่างกายของเขาเท่านั้น
“อ๊า! นั่นมันโรงเรียนเก่าของฉันนี่ เห็นแล้วทำให้ฉันคิดถึงวันคืนเก่าๆ จังเลย” คาซึยะตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นเมื่ออีกฝ่ายพาเขาเดินผ่านบริเวณโรงเรียนเก่า ที่ซึ่งเขาเคยเรียนอยู่เมื่อห้าปีก่อน “พวกเราแวะเข้าไปในนั้นกันได้ไหม?”
“ไม่เราจะไม่เข้าไปในนั้น” จินตวาดกลับ ส่งผลให้คาซึยะกระถดตัวหนีด้วยความกลัวน้ำเสียงที่โกรธจัดของอีกฝ่าย มือหนาที่จับลงมาบนไหล่ของเขากดเอาไว้แน่น ก่อนจะผลักร่างเล็กให้ถอยไปติดกับกำแพง ขณะที่ริมฝีปากหนากดเม้มลงมาที่ซอกคอ
จินตรึงแขนทั้งสองข้างของคาซึยะเอาไว้เหนือศีรษะของร่างบาง พร้อมกับใช้อีกมือหนึ่งปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของร่างบางให้เปิดอ้า ดูดเม้มไล้ไปตามผิวขาวเนียนที่ไร้สิ่งใดปิดป้อง ก่อนจะทิ้งรอยจูบยังผิวนวลเนียน
“ไม่! หยุดเดี๋ยวนี้นะ...” คาซึยะพยายามผลักไสดิ้นรนเพื่อที่จะได้เป็นอิสระ แต่จินก็แข็งแรงกว่าเขา ทำให้คนตัวเล็กต้องยอมจำนนยืนนิ่งอยู่กับที่
บางที่สิ่งที่เปียกชื้นและอุ่นร้อนหยดลงมากระทบผิวแก้มของจิน ทำให้คนตัวสูงต้องสำรวจที่มาและพบว่ามันมาจากหยาดน้ำตาของคาซึยะ
น้ำตาของร่างบางทำให้จินรู้สึกอึ้งเหมือนถูกตบหน้าแรงๆ เรียกสติของชายหนุ่มให้กลับคืนมา เขารีบปล่อยข้อมือของร่างบางแล้วถอยออกไป
หมัดลุ่นๆ ที่ถูกปล่อยมาในทิศทางเดียวกันกับจุดที่คาซึยะกำลังยืนอยู่ ทำให้คนตัวเล็กต้องหลับตาปี๋เกร็งร่างรอรับหมัดนั้น แต่แล้วก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นนอกจากเสียงกระดูกที่ลั่นกระทบผนังซีเม้นต์ ...คนตัวเล็กจึงค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมามองอย่างช้าๆ
เลือดเป็นลิ่มๆ ไหลออกมาจากมือของจินหยดลงสู่พื้น ร่างบางกระพริบตาด้วยความสับสน เมื่อเห็นร่างสูงซุกมือข้างที่เจ็บลงในกระเป๋าเสื้อแล้วเดินจากไป คาซึยะนึกสงสัยว่าเขาควรจะตามไปด้วยดีไหม..แต่ในที่สุดคนตัวเล็กก็ตัดสินใจเลือกที่จะไม่ตามไป ซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าทางแรก
เกิดอะไรขึ้นกับจินกันแน่? ทำไมอีกฝ่ายถึงมีอารมณ์แปรปรวนตลอดเวลาเช่นนี้ อาการลมเพลมพัดของจินทำให้เขารู้สึกกลัว และไม่รู้ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าจินเขาควรจะปฏิบัติตัวกับอีกฝ่ายอย่างไรดี
อาคานิชิ จิน ยังคงเป็นสิ่งลึกลับสำหรับเขา เกินกว่าที่เขาจะเข้าใจได้
+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+