เพียงเธอหลับตา, เธอจะได้พบความรัก... ตอนที่2

Sep 30, 2008 13:00

เพียงเธอหลับตา, เธอจะได้พบความรัก

หัวเรื่อง: เพียงเธอหลับตา, เธอจะได้พบความรัก

แนวเรื่อง: โรแม้นซ์, บ้าๆบอ หื่นกระจาย

เรตติ้ง : NC-17

คู่หลัก: Jin X Kazuya

เรื่องย่อ: คาเมะตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเมื่อต้องจ่ายหนี้จำนวนมหาศาล ซึ่งเขาไม่สามารถหามาชดใช้ได้ และแล้วจินได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้านการเงินแต่ยื่นข้อเสนอบางอย่างกับคาเมะ...

คำเตือน: เรื่องนี้อาจดิบเถื่อน และมีเนื้อหาและภาษาที่ค่อนข้างรุนแรง

Notes: ฟิคชั่นเรื่องนี้เจ้าของเรื่องคือคุณ vani_13ได้แต่งให้กับคุณ blue_orbs เพื่อเป็นของขวัญวันเกิด ทางคณะผู้แปลได้ทำการขออนุญาตจากคุณ vani_13 ซึ่งเป็นผู้เขียนก่อนจะกระทำการแปลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ไม่อนุญาตให้ผู้อื่นกระทำการคัดลอกฟิคชั่นเรื่องนี้ไปกระทำการใดๆ เพื่อการค้า หรือส่งต่อเผยแพร่ที่อื่นทั้งสิ้น
=====================================



เพียงเธอหลับตา, เธอจะได้พบความรัก2

เขาเหลือบมองลงไปเบื้องล่างเห็นผู้คนที่จ้องมองมาที่เขาอย่างตื่นกลัว พวกนั้นมองดูคล้ายมดตัวเล็กๆ ที่คอยสร้างความรำคาญให้กับเขา แต่การกระทำของเขาก็สามารถทำให้คนพวกนั้นชักสีหน้าด้วยความหวาดวิตกออกมา แต่เขาจะกังวลเรื่องนี้ไปทำไมกันเล่า เพราะความหวาดวิตกเหล่านั้นเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่เขากระโดดลงไปข้างล่างทุกอย่างก็จบ

ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว ไม่มีใครที่รักและห่วงใยเขา ทุกคนล้วนแต่เห็นแก่ตัวคิดแต่เรื่องของตัวเอง ชายหนุ่มค่อยๆ ชะโงกตัวไปข้างหน้าก่อนแล้วรู้สึกคลื่นเหียนอยากอาเจียนออกมา จนต้องถอยกลับมาด้านใน หัวของชายหนุ่มส่ายไปมาเพื่อขับไล่อาการดังกล่าว พร้อมกับกรอกตาไปมาอย่างช้าๆ พร้อมกับที่ขาของร่างสูงโอนเอนไปมาก่อนจะสะดุดเสียหลักเกือบล้มแต่จินก็เอนตัวกลับมาด้านหลังได้ทัน การกระทำที่น่าหวาดเสียวของชายหนุ่มทำให้หูของเขาจะได้ยินเสียงกรีดร้องจากผู้คนรอบข้าง

เสียงของผู้ชายที่อยู่ในชุดเครื่องแบบสีดำตะโกนเรียกเขา แต่คนพวกนั้นไม่กล้าเข้ามาใกล้เขามากนัก มีแต่คำว่า ‘อย่าทำ’ และ ‘หยุดนะ’ ที่เขาได้ยินซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากคนพวกนั้น

ไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้ว เขามันไม่ใช่คนสำคัญอะไร เพียงแค่เขาก้าวขาออกไปอีกก้าวความเจ็บปวดทั้งหลายที่เขาเผชิญอยู่ก็จะอันตรธานหายไป เพียงแค่ก้าวเดียวเอง

“หยุดนะ!” ด้วยทุกย่างที่ก้าวออกไปด้วยความระมัดระวังและหนักหน่วง เสียงตะโกนอันดังจากด้านหลังทำให้เขาต้องหยุดชะงักแล้วหันกลับไปมองที่มาของเสียง ซึ่งมาจากเด็กหนุ่มที่น่าจะมีอายุน้อยกว่าเขาไม่กี่ปีกำลังหายใจหอบอย่างหนักอยู่ไม่ห่าง แล้วในช่วงขณะนี้เองเด็กคนนี้กลับเป็นคนที่เข้ามาใกล้เขามากที่สุด

ท่ามกลางเสียงตะโกนร้องเรียกและเสียงต่างๆที่สอดแทรกเข้าลึกในใจจากรอบๆตัว เด็กหนุ่มคนนี้จ้องมองมาที่เขา......ดวงตาสีน้ำตาลที่ใสซื่อเช่นนี้ เด็กนี่คงไม่โกหกอะไรเขาหรอกนะ

“นายมาห้ามฉันทำไมล่ะ? ไม่มีใครสนใจฉันหรอก ไม่มีใครจะจำได้สักนิดว่าฉันเคยยืนอยู่ที่นี่” ร่างหนาหันไปตะโกนกลับใส่เด็กชายที่อยู่ด้านหลัง ขณะเดียวกันก็มีสายลมกรรโชกแรงใส่ชายหนุ่มจนเขาเสียหลักเซไปปะทะร่างบอบบางของเด็กหนุ่ม

“ผมสนสิ ผมต้องคิดถึงคุณแน่!” เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับเอื้อมมือออกไปหาอีกฝ่าย มือเรียวบางที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่เต็มใจมอบให้กับเขา และหลังจากนั้นทุกอย่างก็จบสิ้นลง...

สายลมเย็นพัดมากระทบผิวหน้าทำให้อาคานิชิสะดุ้งตื่น ความฝันบ้าๆ นั้นอีกแล้ว มันตามมาหลอกหลอนเขาอยู่เกือบทุกเมื่อเชื่อวัน ตั้งแต่เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนแล้ว

“บ้าชะมัด!” ชายหนุ่มสบถ ก่อนจะกระชากผ้าห่มลงไปกองกับพื้นด้านข้างอย่างรุนแรง

จินเดินไปที่ตู้เสื้อผ้ากวาดสายตามองไปชั่วแวบหนึ่งก่อนจะหยิบกางเกงยีนส์พร้อมเสื้อเสว็ตเตอร์มาสวม หลังจากนั้นก็คว้าเสื้อโค้ทและผ้าพันคอที่ห้อยไว้ที่ประตูมาสวมเป็นลำดับสุดท้าย ก่อนเดินออกจากบ้าน

ทันทีที่ออกมาภายนอก อากาศเย็นยะเยือกที่ผ่านเข้ามาปะทะผิวกายทำให้ชายหนุ่มต้องห่อตัว แล้วตวัดผ้าพันคอให้กระชับอยู่รอบลำคอมากขึ้น ก่อนจะถูมือทั้งสองข้างไปมาก่อนจะซุกมือลงในกระเป๋ากางเกง เพื่อปกปิดร่างกายจากความหนาวเย็นยะเยือกที่ดูจะทารุณโหดร้ายนี้ให้ได้มากที่สุด มีเพียงที่เดียวเท่านั้นที่เขาจะต้องไป
+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+

ใครกันนะที่มาเคาะประตูในยามวิกาลเช่นนี้?

จากพรายน้ำที่เรืองแสงที่หน้าปัดนาฬิกาทำให้เขารู้ว่า ตอนนี้มันเป็นเวลา 3.37 นาฬิกา ตีสามกว่านี่นะ มีคนมาเคาะประตูบ้าน

เสียงเคาะที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ร่างบางต้องลุกขึ้นจากเตียงรีบคว้าเสื้อเชิ้ตที่วางพาดไว้บนเก้าอี้ข้างเตียงขึ้นมาสวมอย่างรวดเร็ว

“ใครน่ะ?” ร่างเล็กถามออกไปหลังจากที่เขาออกมาซุ่มยืนอยู่หลังประตู กลั้นลมหายใจรอคำตอบจากอีกฝ่าย ใครจะไปกล้าเปิดประตูสุ่มสี่สุ่มห้ารับคนแปลกหน้าเข้าบ้านในเวลากลางดึกอย่างนี้ ...เอ หรือจะเรียกว่าเช้ามืดดีล่ะ?

“ฉันเอง อาคานิชิ และถ้าจะให้ดีนายควรรีบเปิดไอ้ประตูบ้านี่เดี๋ยวนี้เลย” ชายหนุ่มตะโกนกลับด้วยความหงุดหงิด

ร่างบางนึกโต้เถียงอยู่ในใจว่าควรจะเปิดหรือไม่เปิดประตูบ้านให้อีกฝ่ายเข้ามาดี และคนตัวเล็กเพิ่งนึกได้ว่า ถ้าปล่อยให้ชายหนุ่มยืนอยู่ข้างนอกเช่นนี้คงไม่มีอะไรดีขึ้นมา เขาเองไม่ควรจะปล่อยให้ชายหนุ่มยืนอยู่นอกบ้านเช่นนี้

คาซึยะรีบคลายล็อคแล้วเปิดประตูออกมาเผชิญหน้ากับจินที่กำลังโกรธจัด ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเพียงพริบตาเดียวจินก็แทรกตัวเข้ามายืนอยู่ในบ้าน หยุดห่างจากคาซึยะไม่ถึงหนึ่งช่วงแขนพร้อมกับใช้เท้าเขี่ยประตูบ้านให้ปิดลง

สัญชาตญาณเตือนให้คาซึยะรีบถอยหนีและอยู่ให้ห่างจากจินมากที่สุด

“คุณมาที่นี่ทำไมหรือครับ?”

“มันถึงเวลาที่นายต้องจ่ายหนี้ฉันแล้ว” จินตอบด้วยรอยยิ้มที่ร้ายกาจบนใบหน้า

“แต่นี่มันดึกดื่นเที่ยงคืนแล้วนะ” ร่างเล็กโต้กลับ แต่อีกฝ่ายไม่คิดที่จะถอยกลับไป

“ฉันคิดว่าฉันมีสิทธิ์ที่จะมาหักเงินค่าหนี้ของนาย ได้ทุกเวลาที่ฉันต้องการนะ” ชายหนุ่มตอบกลับพร้อมกับเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของร่างเล็ก ก่อนจะโยนมันออกจากร่างบาง

ตอนที่จินบอกเขาว่า ‘ไว้เจอกันอีกเร็วๆ นี้’ เขาไม่นึกเลยว่าคำว่า ‘เร็วๆ นี้’ ของอีกฝ่ายมันจะจะย้อนมาเร็วเยี่ยงนี้ นี่มันยังไม่ทันพ้นคืนเลย จินเพิ่งทำให้เขาเจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนบ่าย แต่เขาก็ไม่กล้าจะเอ่ยปากถามเหตุผลจากชายหนุ่ม

นิ้วเรียวลากผ่านไปตามสีข้างของคาซึยะ วนไล้เป็นจังหวะที่ค่อยๆ เร็วขึ้น พร้อมกับลมหายใจของคนทั้งคู่ที่แข่งกันหอบออกมาอย่างรุนแรง ก่อนที่จินจะเริ่มขยับตัวต่อไป

จินค่อยๆ ก้มตัวลงมาจูบที่ขากรรไกรของคาซึยะอย่างแผ่วเบา ก่อนจะซุกไซร้ลงไปที่ซอกคอขบเม้นและดูดดันที่ผิวเนียนลื่นดั่งใยไหมอย่างรุนแรง

จินเริ่มสังเกตเห็นว่าร่างบางที่อยู่ใต้ร่างเขากำลังสั่นไหวภายใต้สัมผัสที่อ่อนโยนของเขา สายตาที่จ้องเขม็งทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะถามกลับไป “วันนี้ทำไมนายเงียบจัง นายไม่ต่อต้าน หรือส่งเสียงครางออกมาเลย” จินยิ้มเยาะ ขณะที่อีกฝ่ายได้แต่แก้มแดงก่ำ

ชายหนุ่มแสยะยิ้มออกมาอีกครั้ง เมื่อเห็นสีแดงเปล่งปลั่งด้วยสีเลือดที่แต้มอยู่บนแก้มนวล ก่อนที่จะหันไปสนใจกับร่างกายของคาซึยะอีกครั้ง จินจ้องมองร่างบางอย่างหลงใหลก่อนจะก้มลงจูบที่แผ่นอกขาวเนียนของเด็กหนุ่ม

“ฉันอยาก...” ลิ้นหนาตวัดเลียรอบตุ่มไตสีชมพู “...อยากลิ้มรส...” จินหันไปทำเช่นเดียวกันกับตุ่มไตอีกข้าง “...อยากลิ้มรส...” แล้วจินก็ประสบปัญหาความร้อนรุ่มในกายที่ปะทะขึ้นสูงจนต้องเอ่ยออกมา “ลิ้มรส...ซี๊ดดดดด!” มือหนาไล้วนไล้ต่ำลงไปส่วนล่างก่อนจะผลุบหายเข้าไปในบ็อกเซอร์ตัวน้อยของคนตัวเล็ก ความร้อนรุ่มภายในกายพุ่งสูงเริ่มทำให้เขาทะยานไปกับความร้อนแรงของสายรุ้ง ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมา นอกจากเสียงครวญครางและหอบกระเส่าอย่างสุขสมดังมาจากริมฝีปากบาง ขณะที่จินกำลังเคลื่อนไหวสำรวจภายใต้ บ็อกเซอร์ของอีกฝ่าย

คาซึยะยกแขนขึ้นมาโอบรอบบ่าของจิน เพื่อยึดเป็นหลักพยุงตัวไว้มั่น ขณะที่ขาเนียนสวยถูกจับพับให้งอขึ้นภายใต้ร่างหนา

“นายยังไหวใช่ไหม?” ร่างบางได้ยินเสียงของจินกระซิบที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ก่อนที่ฟันคมจะขบลงมาเบาๆ ที่ติ่งหู การกระทำของอีกฝ่ายทำให้คาซึยะหลุดเสียงครางออกมาทันที

จินสอดแขนของตัวเองเข้าไปช้อนใต้เข่าของร่างบางเพื่อยกส่วนท้ายของคาซึยะขึ้นสูง ท่วงท่านี้ทำให้ระดับสายตาของเขาอยู่ที่ระดับเข็มขัดของอีกฝ่าย ก่อนที่ร่างสูงจะดูดเม้มลงบนผิวขาวเนียนตรงหน้าจนปรากฏร่องรอยสีกุหลาบที่ตัดกับผิวขาวผ่องอย่างเห็นได้ชัด

ร่างสูงอุ้มคนตัวเล็กตรงไปยังห้องนอนก่อนจะวางอีกฝ่ายลงบนเตียง หลังจากนั้นพยายามถอดเสื้อผ้าของทั้งคู่ให้เปลือยเปล่าอีกครั้ง เพราะเขาหลงรักผิวขาวที่เรียบเนียนของคนตัวเล็กเหลือเกิน

ชายหนุ่มหันไปถอดเสื้อเชิ้ตของตัวเองออก ก่อนจะตามติดมาด้วยกางเกง แล้วเหลือบสายตาจ้องมองไปที่กางเกงของคนตัวเล็กที่อยู่ภายใต้ร่าง มือหนาค่อยๆ เอื้อมลงไปใช้นิ้วเกี่ยวกระตุกเชือกที่รัดกางเกงบ็อกเซอร์ของคาซึยะแล้วดึงมันลงมา ทำให้ส่วนแข็งขืนของร่างบางออกมาชูชันอวดสายตาของเขา

คาซึยะหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายภายใต้สายตาคมกริบที่จ้องมองมา ก่อนพยายามจะปกปิดความเปล่าเปลือยของเรือนร่างด้วยแขนทั้งสองข้างเท่าที่เขาสามารถปกปิดได้

จินพยายามที่จะดึงมือบางออก โดยการจับมือบางวางกดลงกับเตียง เมื่อร่างบางไร้การปกปิดเลือดฝาดก็แล่นริ้วไปทั่วกาย ร่างสูงจับขาอีกฝ่ายให้พับขึ้นก่อนจะพรมจูบไปที่บริเวณข้อพับของเข่า ก่อนจะค่อยๆ เล็มจูบไซร้ไปยังช่องทางอ่อนไหว

“อ้า! อาคานิชิ...ผมไม่ไหวแล้ว...มันเจ็บ…” บางสิ่งที่พยายามรุกรานเข้ามาภายในช่องทางคับแคบของเขาทำให้ร่างบางรู้สึกเจ็บปวด และไม่อยากคิดต่อไปเลยว่าหากกิจกรรมนี้ยังดำเนินต่อไปเป็นไปไม่ได้เลยที่ช่องทางของเขาจะไม่เกิดการฉีกขาด

“อดทนอีกนิดสิ ฉันรู้ว่านายทำได้” จินก้มศีรษะลงมาที่ปากทางเข้าของร่างบาง ก่อนจะใช้ลิ้นทำหน้าที่ได้อย่างอัศจรรย์ ตวัดเลียอย่างช้าๆ รอบบริเวณปากทางเข้าเล็กๆ สีแดงระเรื่อ

“อ้า...อืม...ไม่...อ้า...อ๊า..” ร่างสูงตะครุบเอวของคาซึยะเอาไว้มั่น ก่อนจะหยุดการปลุกเร้าร่างบาง

จินถอดชั้นในของเขาออกก่อนจะจับส่วนแข็งขืนของตนจ่อที่ปากทางเข้าของร่างบาง ยกขาของคาซึยะขึ้นมาพาดบนบ่าหนา ก่อนจะค่อยๆ ดันความเป็นชายเข้าสู่ภายในของร่างบาง

คาซึยะกัดริมฝีปากล่างของตนเอาไว้แน่น เพื่อสกัดกลั้นเสียงกรีดร้องของเขาไม่ให้เล็ดลอดออกมา แต่ร่างบางก็ไม่สามารถกลั้นหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาจากตาคู่สวยหยดลงมาเปียกฟูก อารมณ์อัดแน่นที่ปะทุอยู่ภายในทำให้คาซึยะเกร็งจนต้องจิกเล็บลงกับผ้าปูที่นอนเพื่อเป็นการระบาย

“เห็นไหมล่ะ...ฉันบอกนายแล้วไง...ว่านายทำได้” จินกระซิบบอกพร้อมกับเริ่มขยับตัวเข้าออกโยกร่างอยู่เหนือร่างบอบบาง ก่อนจะหยุดชะงักลงอย่างกะทันหัน

คาซึยะจ้องไปที่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของอีกฝ่าย สายตาและใบหน้าของจินเต็มไปด้วยความกังวลที่เขาไม่สามารถอ่านออก เหงื่อเม็ดหนาผุดขึ้นเต็มใบหน้าของอีกฝ่ายไหลหยดลงมากระทบผิวขาวของคาซึยะ

“อาคานิชิ นายเป็นอะไรไปน่ะ?” คนตัวเล็กถามด้วยความเป็นห่วง มือบางค่อยๆ เอื้อมไปสัมผัสใบหน้าของคนตัวสูง แต่ก่อนที่จะทันได้สัมผัสใบหน้าของจิน อีกฝ่ายกลับปัดมือบางออกไปเสียก่อน

“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ถ้านายไม่ได้รู้สึกอยากสัมผัสจริงๆ” จินตวาดกลับ ก่อนจะจู่โจมโดยการกระแทกกายเข้าหาร่างบางอย่างรวดเร็ว

“อา-อาคา-อาคานิชิ...” คนตัวเล็กเผลอเรียกชื่ออีกฝ่ายออกมา ขณะที่จินโจมตีใส่จุดกระสันภายใน

จินก้มลงไปเพื่อประทับจูบลงบนหน้าผากเนียนของคาซึยะ ก่อนที่ชายหนุ่มจะใช้ลิ้นเลียหยาดน้ำเค็มที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย

คาซึยะประหลาดใจกับอารมณ์ที่แปรปรวนของอีกฝ่าย บางครั้งจินก็ตวาดใส่เขา บางทีก็ดูทะนุถนอมอ่อนโยนกับเขา นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เขาคิดอยู่ในใจ ก่อนที่จินจะปลดปล่อยเข้ามาภายในร่างเล็กพร้อมกับเสียงครางที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันคนตัวเล็กก็ปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นพุ่งออกมาเลอะหน้าท้องนวลเนียนพร้อมกับครวญครางเสียงหวานอยู่ในลำคอ

จินซบลงมาทับร่างบางพร้อมพยายามสูดลมหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ ก่อนจะถอดถอนกายออก ลุกขึ้นไปแต่งตัวแล้วออกไปจากห้องทันที โดยไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ

มันก็จบลงด้วยเหตุการณ์แบบนี้ทุกที...มีเซ็กส์ด้วยกันกับเขา พอปลดปล่อยแล้วก็จากไปโดยไม่มีแม้แต่คำลาหรือเหลือบมองมาที่เขาบ้าง ...ถ้าจินจะทำอะไรบ้าง ...อะไรสักอย่างที่จะทำให้เขารู้สึกเหมือนไม่ใช่ของที่ใช้แล้ว....ทุกอย่างเลยอะไรก็ได้ทั้งนั้น...ยกเว้นการปล่อยเขาไว้แบบนี้

ร่างบางได้ยินเสียงปิดประตู แต่เขาก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นไปกดล็อคมันในตอนนี้ เปลือกตาของเขากำลังหนักอึ้งก่อนจะปิดลงพร้อมกับที่ร่างบางเข้าสู่ห้วงแห่งนิทรา
+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+

คาซึยะค่อยๆ ลืมตาตื่น พร้อมกับรับรู้ถึงความปวดระบมไปทั้งตัว เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะใช้ขาทั้งสองข้างพยุงกายลุกขึ้นเดิน

โรงเรียน...เขาจะต้องรีบไปโรงเรียน แต่ภาพตรงหน้าที่พร่าเลือนและความง่วงงุนที่จู่โจมอย่างหนักเป็นตัวขัดขวางไม่ให้เขาลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนได้

อาการปวดหัวอย่างหนักเล่นงานเขาเสียแล้ว

ช่วงหลังๆ มานี้จินแวะเวียนมาหาเขาบ่อยขึ้น ทำให้เขามีเวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ

เมื่อคืนนี้จินออกไปจากบ้านพร้อมกับล็อคประตูให้ โชคดีที่เมื่อคืนนี้แถวนี้ไม่มีโจรมาด้อมๆ มองๆ เพราะเมื่อคืนนี้ถ้าพวกนั้นหากินอยู่แถวนี้คงสามารถดักปล้นทรัพย์สินไปจากจินได้แน่

ขาที่อ่อนแรงเดินไปจนถึงขั้นบันไดขั้นแรก พร้อมกับมือบางที่จับราวบันไดเอาไว้ ก่อนที่ร่างบางจะสูญเสียการทรงตัว...หลังจากนั้นภาพทุกอย่างก็ดับมืดลง
+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+

“จิน? จิน!” ยามะพีเดินเข้ามาในบ้านของเพื่อนรัก ตัวเขามีกุญแจสำรองของบ้านจินอยู่ในมือ จึงจัดการถือวิสาสะใช้มันไขเข้ามา

บ้าจริงๆ ไอ้หมอนั่นหนีไปลงนรกที่ไหนกันนะ? เขาตะโกนเรียกจนปากแทบจะฉีกถึงหูแล้วยังไม่มีเสียงตอบกลับมาเลย

ยามะพีค่อยๆ เปิดประตูห้องนอนของอีกฝ่ายอย่างช้าๆ เพื่อที่จะพบก้อนหนาของผ้าห่มที่กองอยู่บนเตียง

“จิน! ย้ายก้นของนายออกจากเตียงเดี๋ยวนี้นะ!” ผู้มาเยือนบอกพร้อมกับกระชากผ้าห่มออกจากอีกฝ่าย เพื่อที่จะเห็นเจ้าของบ้านในสภาพกึ่งเปลือยท้าทายอากาศหนาวเย็นภายในห้อง

“ฮืม...นายมาทำบ้าอะไรวะไอ้พี?” ร่างสูงตอกกลับด้วยน้ำเสียงง่วงงุน

“มาทำบ้าอะไร, กล้าถามออกมาได้? ชิ...ฉันอยากให้นายเลิกโดดเรียนเสียทีแล้วย้ายก้นไปเรียนซะ เพื่อที่นายจะได้สอบผ่านมหาวิทยาลัยไปได้ เข้าใจไหม? และ...” ยามะพีค่อยๆ ก้มลงมาใกล้หูจิน “มันถึงเวลาพักเที่ยงแล้วโว้ย!!!” ผู้มาเยือนตะโกนสุดเสียง ทำให้จินกระเด้งตัวลุกขึ้นมาทันที

“ไอ้บ้าพีเอ๊ย นายไม่ต้องมาตะโกนกรอกหูฉันก็ได้” จินขยี้ตาอย่างเกียจคร้าน

“ก็ฉันตั้งใจปลุกนายให้ลุกขึ้นมานี่ หรือว่าวิธีนี้มันใช้ไม่ได้ผล ยังไงก็ช่างเถอะ ทำไมนายถึงมานอนอุตุอยู่นี่แทนที่จะไปเรียนล่ะว่ะ? มันไม่ใช่นิสัยของนายเลยนะที่จะโดดเรียนแล้วนอนอยู่บ้านเฉยๆ....จะว่าไปการนอนอุตุมันก็เป็นนิสัยของนายอยู่แล้ว แต่ฉันไม่เห็นเคยนอนตลอดทั้งเช้าแบบนี้เลยนี่หว่า”

“เมื่อคืนนี้ฉันนอนไม่หลับแล้วตอนนี้...” จินพูดไม่ทันจบประโยคยามะพีก็ยามะพีถอนหายใจมาเฮือกหนึ่ง เขาไม่ต้องรอฟังจนจบก็พอจะรู้เรื่องราวทั้งหมดอยู่ดี

“จิน, นายฟังฉันก่อน” ยามะพีจับหน้าจินให้หันมาสบตากับเขา “ถ้านายยังปล่อยให้เรื่องทั้งหมดเป็นอย่างนี้ต่อไปนายกับคาซึยะก็จะต้องเจ็บปวด หรืออาจจะแย่กว่านั้น นี่มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาเลยนะ นายจะต้องยอมรับความจริง ด้วยการบอกความจริงทั้งหมดกับคาซึยะ” นี่เป็นน้ำเสียงที่เคร่งเครียดที่สุดสำหรับจินที่ได้ยินจากปากเพื่อนรัก เขารู้ดีว่าสิ่งที่ยามะพีพูดมานั้นก็ถูก แต่เขาก็ไม่สามารถบอกความจริงกับคาซึยะได้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในตอนนี้

“อย่าพูดถึงมันเลยพี ฉันบอกนายแล้วไงว่ามันไม่เกี่ยวกับนาย หยุดพูดเรื่องนี้แล้วอย่ามายุ่งอีกเลย” จินปัดมือยามะพีออกก่อนจะลุกขึ้นยืน ร่างสูงรีบคว้าเสื้อผ้าขึ้นมาแต่งตัว

“เขาเลิกเรียนกันหมดแล้วนะ แล้วนี่นายจะไปไหนล่ะ?”

“แล้วนายคิดว่าฉันจะไปที่ไหนล่ะ?” ร่างสูงย้อนกลับพร้อมกับกระตุกคิ้วให้เพื่อน ไม่น่าจะถามออกมาเลยว่าเขากำลังจะไปที่ไหน

“จิน นายไม่ฟังที่ฉันพูดเลยใช่ไหมเนี่ย”

“ไม่คิดจะฟังเลยล่ะ เพื่อนรัก” พูดจบจินก็สวมรองเท้าก่อนจะหันไปขยิบตาให้เพื่อนรัก

ยามะพีได้แต่มองตามไปที่ประตู ที่เพื่อนของเขาเพิ่งจะเดินผ่านไปได้สักครู่ ก่อนจะรำพันออกมากับตัวเองเบาๆ

“ถ้านายยอมบอกความจริงกับคาซึยะถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องทุกอย่างมันคงง่ายกว่านี้เยอะเลย”
+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+

“คาซึยะ!” จินตะโกนเรียกอยู่หน้าประตู ก่อนจะเดินย่องเข้าไปที่ห้องนอนของอีกฝ่าย

“ว่าแล้วเชียวว่าชั้นไม่ใช่คนเดียวแน่ๆที่เอาแต่นอนเวลาแบบนี้” ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้เตียงก่อนจะดึงผ้าห่มที่คลุมร่างบางอยู่ออก

ดวงตาของจินเบิกกว้างเมื่อเห็นร่างบางที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ดูจากท่าทางแล้วน่าจะเกิดจากฤทธิ์ไข้และความระบมจากร่างกาย ซึ่งเห็นได้ชัดจากรอยช้ำสีม่วงบริเวณข้อศอกที่บวมช้ำมากขึ้นทุกทีตามเวลาที่ผ่านไป

“บ้าชะมัด เกิดอะไรขึ้นกับนายกัน? เราต้องรีบไปโรงพยาบาลกันได้แล้ว” จินพยายามอุ้มร่างบางขึ้นมาโดยหลีกเลี่ยงไม่ให้ร่างบางเจ็บปวด แต่ทันทีที่เขาสัมผัสถูกตัวร่างบางก็ปัดมือหนาออก

“ไม่! ปล่อยผมไว้คนเดียว ออกไปเดี๋ยวนี้นะ” เสียงที่ตะโกนออกมาของร่างบางเต็มไปด้วยความเจ็บปวด พร้อมๆ กับที่หยาดน้ำตาเอ่อล้นดวงตาคู่งาม

“ดี...ถ้านายไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปมัน แล้วก็ต้องขอโทษนายด้วยที่นายไล่ฉันออกไปไม่สำเร็จ” ร่างสูงตอบกลับ วูบหนึ่งที่สายตาของจินมองมาด้วยความเป็นห่วง

ทำไม? ทำไมจินต้องทำแบบนี้กับเขา? ชายหนุ่มทำทุกอย่างที่ทำให้เขาเจ็บปวดแต่ขณะเดียวกันจินก็แสดงทีท่าเหมือนห่วงใยเขาในคราวเดียวกัน
======================================

(โปรดติดตามตอนต่อไป)
Previous post Next post
Up