Title: Hoshi wo mezashite (Chapter 1.2 / 5)
Author:
simph8Fandom: Hey!Say!JUMP
Pairing: Yabu Kota x Inoo Kei, Takaki Yuya x Inoo Kei, Takaki Yuya x Chinen Yuri, Yabu Kota x Yaotome Hikaru
Rating: NC-17
Waring: Death!fic, Violence, Au!, Underage
Disclaimer: The story belongs to
simph8 I just translated into Thai language.
Hoshi wo mezashite - chapter 2
Even in painful silence, you are loved.
{Kanjani8 - Donna ni hanaretetatte
ยูริกวาดตามองไปรอบๆ แต่ก็ยังไม่เห็นเคย์มาสักที ทั้งๆ ที่เวลาในสัญญาหมดไปตั้งแต่สามสิบก่อนแล้ว
เขาขยับตัวยุกยิกอยู่บนเก้าอี้อย่างหงุดหงิดและกังวลใจ พยายามระงับอาการตนเองไม่ให้ขยับตัวแม้แต่เพียงนิดเดียว
เขา เหลียวหลังกลับไปมองอีกครั้ง จ้องมองประตูลิฟท์ปิดตัวลง เขาคว้าแก้วขึ้นกระดกจนหมด ก่อนจะมองตาขุ่นไปยังบาร์เทนเดอร์ที่กำลังรินของเหลวให้เขาอีกจนเต็มแก้ว
เขา ยกแก้วขึ้นจิบ ขณะที่ภาพเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดผุดขึ้นมาในหัว เคย์อาจจะตาย ถูกแทง เลือดอาบ ถูกชำแหละเป็นชิ้นๆ หรือถูกแขวนคออยู่ที่ไหนสักแห่ง
หรือไม่อาจร้องขอความช่วยเหลือได้ หรืออาจจะกำลังสนุกกับลูกค้าคนนั้นอยู่
หรืออาจจะ...
ในที่สุด เสียงติ๊งส่งสัญญาณว่าประตูลิฟท์เปิดก็ดังขึ้น เขาหมุนตัวหันไปมอง เห็นเคย์หัวเราะ กอดแขนชายหนุ่มคนหนึ่ง
ยูริเลิกคิ้วมองอย่างงุนงง ตลอดเก้าปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยเห็นเคย์เดินออกมากับลูกค้าเลย เขาหันกลับมามองแก้วในมืออย่างฉุนเฉียว
นี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ควรเป็นห่วงคนอื่นนอกจากตนเอง เขาหงุดหงิด และเกลียดความตื่นตระหนกที่เกิดจากความไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดจากความไม่รู้ว่า มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เขาเกลียดความรู้สึกโหวงเหวงในอก
เขาได้ยินเสียง เคย์พูดจาหว่านเสน่ห์ ขณะที่พูดชายคนนั้นพูดพล่ามเขินอาย เขาหันกลับไปมองทั้งคู่อีกครั้ง มองชายคนนั้นค้อมศีรษะให้เคย์ และเคย์เองก็ทำเช่นเดียวกัน ทั้งคู่กล่่าวลากัน
ยูริได้ยินเสียงฝีเท้าของเคย์ใกล้เข้ามา และเห็นเคย์ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เขา เอนศีรษะลงซบเคาน์เตอร์บาร์ สองขาแกว่งไกว
ยูริอยากจะหันไปขยุ้มผมเคย์ แล้วจับศีรษะคนอายุน้อยกว่าโขกกับเคาน์เตอร์บาร์ และบอกเคย์ให้รู้ว่าเขากังวลใจมากแค่ไหน เมื่อคิดว่าเคย์อาจจะตายไปแล้ว
แต่ยูริก็ได้แต่นิ่งเงียบ เขาจะไม่ยอมเปิดเผยจุดอ่อนนี้ให้ใครรู้ เขาจิ๊ปากอีกครั้ง แล้วกระดกแก้วดื่มจนหมด
เคย์สั่งอาหารมากินตามปกติ
"เป็นไงบ้างล่ะ" ยูริถามหลังจากต่างฝ่ายต่างไม่ได้พูดอะไรกัน
"ก็ดี เป็นครั้งแรกที่เขามีอะไรกับผู้ชาย คุณน่าจะเห็นตอนเขาทำท่ากระอักกระอ่วนใจ ดูเชื่องๆ ดี"
คนอายุมากกว่าเบ้หน้า เขารู้ดีว่าแต่ละคนที่ย่างเท้าเข้ามาที่นี่ไม่มีใครเป็นคนดี
แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกไป
"ดีใจด้วยนะ" เขาพูดเพียงแค่นั้น "แล้วเขาจะกลับมาอีกมั้ย"
เคย์พยักหน้า
"เขาสัญญาว่าถ้างานไปได้สวย เขาจะกลับมาทุกสัปดาห์"
ยูริไม่เชื่อและก็ไม่ได้ยินดีที่ได้ยินเช่นนั้น เพราะลูกค้าประจำของเคย์มักจะ...มีความผิดปกติทางกาย ไม่ก็ทางสภาพจิตใจ
ถึง เคย์จะไม่ชอบ แต่ชีวิตก็เป็ฯแบบนี้ เขาเป็นโสเภณี เขาได้ค่าตัว งานของเขาก็คือขายตัว และจากนั้นเคย์ก็จะได้เงินเข้าบัญชี ที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก จากการพลิกแพลงและตุกติกของพวกเขา
ก็แค่นั้น ไม่มีอะไรมากกว่นั้น
บางครั้งยูริก็เกลียดทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด เขาเกลียดที่ต้องเห็นเคย์อยู่กับผู้ชายพวกนั้นในห้องนั้นตลอดทั้งคืน โดยไม่รู้ หรือรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องนั้น
เขาเกลียดทุกสิ่งทุกอย่าง เขาเกลียดที่ตนเองไม่มีอำนาจพอ ไม่มีความสามารถพอ
แต่นี่คืองานของเขา ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าแค่งาน
"ไม่เห็นโคตะเลย" เคย์พูดเสียงเรียบ "แต่โชคร้ายที่ต้องทนเห็นลูกกระจ๊อกของโคตะบ่อยๆ"
"โคตะไปทำธุระที่เซี่ยงไฮ้ ค้ายาตัวใหม่"
"อืม แล้วทำไมยาโอโทเมะไม่ตามไปด้วยล่ะ อย่างน้อยเวลางานฉันจะได้ไม่ต้องทนเห็นตัวน่าขยะแขยง"
"ก็เพราะเขาต้องทำงานที่นี่ ส่วนโคตะก็ไปแค่ไม่กี่วัน เมื่อวานโคตะบอกฉันว่างานของเขาราบรื่นกว่าที่คิด"
เคย์ยักไหล่ กินอาหารในจานต่อจนหมด แล้วเอนหลังพิงเคาน์เตอร์บาร์ มองดูคาสิโนที่ปราศจากผู้คน
เขาชอบแสงนวลตาของโต๊ะเกม เครื่องสลอต ความเงียบและสงัดจนแทบจะหยุดหายใจ
แล้วเคย์จึงหันกลับมาดื่มน้ำ
"ง่วงจัง" เขาเอ่ยเสียงเบา พลางมองยูริ
"งั้นก็เรียกแท็กซี่ แล้วกลับบ้านซะ แค่ฝืนลืมตาอีกสักสิบนาที"
เคย์พยักหน้า เขาเกลียดที่จะต้องอยู่บ้านคนเดียว เกลียดที่จะต้องกลับบ้านที่ว่างเปล่า บ้านที่ไร้ความรู้สึกรอเขาอยู่
เขายืนขึ้นแล้วแตะหลังยูริ
"พรุ่งนี้เป็นวันหยุด ผมกะว่าจะนอนทั้งวันเลย" เขาหาวพลางเหยียดแขนขา
ยูริยักไหล่ เขามักจะเฝ้ามองดูว่าสิ่งต่างๆ เป็นไปตามทางที่ควรจะเป็นของมัน
"ไปนะ ยูริ"
"โชคดี เคย์" ยูริพูดได้แค่นี้
เคย์คว้ากระเป๋าและเสื้อแจ๊คเกตไว้ในมือข้างหนึ่ง และยกมืออีกข้างโบกลาขณะเดินออกไป
คนอายุมากกว่าดื่มแอลกอฮอล์ในแก้วจนหมด เขาฟังเสียงประตูลิฟท์เปิดและปิดตามหลังเคย์ที่ง่วงงุน
ได้ยินเสียงพนักงานเปิดประตูทักทาย ปิดประตูตามหลัง ได้ยินเสียงประตูแท็กซี่ปิดตามหลัง
ยูริถอนหายใจ
เมื่อแน่ใจว่าเคย์ออกไปได้อย่างปลอดภัยดีแล้ว งานของเขาก็จบลง และสามารถกลับไปนอนได้เสียที
**
เคย์มองไปรอบๆ โตเกียวที่มีชีวิตชีวาอยู่เสมอทั้งยามกลางวันและกลางคืน
*ประโยคนี้ไม่ค่อยเข้าใจ ขอข้าม*
เขาอยากจะหนักแน่นมั่นคงกว่านี้ แต่ก็ทำไม่ได้
เขาถอนหายใจ
หยิบพวงกุญแจออกมาจากกระเป๋า มองกุญแจอีกพวงหนึ่งที่ไม่ได้แขวนรวมกับดอกอื่นๆ
เขา มีทางเลือกสองทาง หนึ่ง คือกลับไปยังบ้านที่ว่างเปล่าซึ่งเขาเกลียด บ้านที่ซึ่งเตือนให้นึกถึงชีวิตที่สิ้นหวัง หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือไปยังบ้านที่ว่างเปล่าอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาไม่ได้เกลีดน้อยไปกว่ากัน แต่กลับทำให้เขาลืมเรื่องต่างๆ ไปได้บ้าง
เขาพ่นลมออกจมูก ก่อนจะบอกจุดหมายปลายทางใหม่แก่คนขับรถแท็กซี่ เขารู้สึกดีที่ได้นั่งรถไกลกว่าเดิม แม้ว่าอัตราค่าโดยสารเรตกลางคืนจะยิ่งแพงขึ้น แต่เขาก็ไม่แคร์
เขาไม่อยากกลับไปบ้านของตนเอง
**
บ้านของยาบุ โคตะ ใหญ่เกินกว่าอพาร์ทเม้นท์ญี่ปุ่นทั่วๆ ไป มีโถงทางเดินเข้าไม่ยาวนัก แต่มีห้องกว้าง พร้อมด้วยห้องครัวและห้องนั่งเล่น ทางด้านขวามีประตูที่นำไปสู่ห้องอาบน้ำ ขณะที่ทางซ้ายมีประตูที่กินพื้นที่ผนังเกือบครึ่งหนึ่งนำไปสู่ห้องนอน
เคย์ถอดรองเท้า วางกระเป๋ากับเสื้อแจ๊คเกตลงบนพื้น เขาง่วง อยากจะนอนหลับหลายๆ ชั่วโมงโดยไม่ต้องตื่น
เขา เดินลากขาช้าๆ ชุดนอนของเขาอยู่ตรงนั้น ตรงที่เขาวางมันไว้สี่-ห้าวันก่อน เขาถอดชุดที่สวมอยู่ลงกองกับพื้น สวมชุดนอน เดินอ่อนระโหยไปแปรงฟันในห้องน้ำ
เสร็จแล้วจึงเป็นซอมบี้เดินได้กลับมาที่เตียง แต่เขารู้สึกสงบอย่างประหลาด
เขาทิ้งตัวลงบนที่นอน แล้วผลอยหลับทันทีโดยไม่ได้ทันได้ห่มผ้า
**
โคตะกลับมาถึงบ้านเวลาประมาณแปดโมงเช้า เขาเหนื่อยแทบตายเพราะมีปํญหาที่สนามบิน ถูกตำรวจกักตัวอยู่เกือบสามชั่วโมง ตอนนี้เขาทนรอที่จะได้หลับตานอนไม่ไหวแล้ว
เขาเดาะลิ้น ดวงตาปิดเองโดยอัตโนมัติ ถอดรองเท้าออก เขาเดินเข้าไปในครัวโดยไม่เสียเวลาเปิดไฟ หยิบนมกล่องใหญ่ขึ้นดื่มโดยไม่เทใส่แก้ว
จากนั้นจึงโยนกระเป๋าลงบนโซฟา แล้วเปิดประตู
โคตะเบิกตาโตเมื่อเห็นเคย์นอนหลับสบายอยู่บนเตียงของเขา ผ้าห่มร่นไปกองอยู่ที่ปลายเท้า หน้าต่างเปิดกว้าง
เขาสบถกับตนเองขณะที่มองร่างตรงหน้า
เขาก้าวเข้าไปร่างหานั้นอย่างหงุดหงิด แล้วผลักเคย์กลิ้งตกเตียง
เคย์หวีดร้องแล้วรีบลุกขึ้นยืน
"นายมาทำอะไรในบ้านฉัน เจ้าโง่" โคตะซักไซ้
"โคตะ นายทำให้ฉันตกใจหมดเลย ปลุกให้นุ่มนวลกว่านี้ก็ได้นี่"
โคตะถอดชุดออกโดยไม่สนใจคำพูดอีกฝ่าย เขาจิ๊ปาก คว้าผ้าห่มแล้วล้มตัวลงนอน
"ฉันง่วง ไปให้พ้นหน้าฉันซะ ฉันจะนอน" เขาพึมพำ
"เมื่อกี้ฉันก็นอนอยู่"
"ไม่เกี่ยวกับฉันเลย ปิดหน้าต่างด้วย ฉันหนาว" โคตะหันมามองเคย์
เคย์ถอนหายใจ แต่ก็ทำตามที่บอก แล้วยืนอยู่ข้างเตียง
โคตะถอนหายใจ
"นายจะนอนด้วยก็ได้ แต่อย่ากวนฉันก็แล้วกัน หลังเที่ยงฉันต้องกลับไปทีสำนักงานใหญ่อีก"
เคย์พยักหน้า เขาก้มศีรษะต่ำลงเล็กน้อย ขณะที่เอนตัวลงนอนข้างโคตะ ขดตัวชิดริมผนัง
โคตะเอนศีรษะซบลงบนหมอน แล้วปิดเปลือกตา เคย์ยังคงมองไปที่หน้าต่างที่ปิดอยู่ พยายามจะหลับลงอีกครั้ง
“ยูริบอกว่านายจะกลับมาช้ากว่านี้”
“การเจรจาสำเร็จเร็วกว่ากำหนดน่ะ ฉันรีบจับไฟลท์แรกสุดที่หาได้กลับมา” คนอายุมากกว่าพึมพำอย่างหงุดหงิด เสียงงัวเงียเพราะง่วงนอน
“แล้วทำไม นายไม่กลับไปบ้านใหญ่ล่ะ” เคย์ถามต่อ
แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงโคตะตอบกลับมา เมื่อชะโงกหน้าไปดู จึงเห็นว่าโคตะหลับปุ๋ยไปแล้ว
เขา ขยับตัวเข้าไปใกล้โคตะ มองดูอีกฝ่ายหลับ เคย์ยิ้มเศร้า พลางลูบแก้มคนอายุมากกว่า เขารู้ว่าถ้าทำแบบนี้โคตะจะต้องโกรธแน่ๆ และรู้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไร ความรังเกียจ เกลียดชัง ความวิตกกังวล
แต่เคย์ก็ยังเอนศีรษะลงบนหมอนใบเดียวกับโคตะ วางแขนลงบนสีข้างของอีกฝ่าย แล้วในที่สุดเคย์ก็หลับไป
**
เคย์ตื่นขึ้นเพราะเสียงตะโกนของโคตะที่ดังมาจากอีกห้องหนึ่ง เขาลุกขึ้นนั่ง มองนาฬิกา ตอนนี้เวลาล่วงเข้าบ่ายสี่โมงเย็นแล้ว
เขา เดินไปหาโคตะ เห็นอีกฝ่ายสวมแค่กางเกงยีนส์ กำลังสูบบุหรี่ เดินกลับไปกลับมา พลางพูดโทรศัพ์ ตะคอกใส่ปลายสายที่เคย์ไม่รู้ว่าคือใคร
เขา มองรอยสักที่แผ่นหลังของโคตะเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ ซากุระต้นใหญ่ที่ปกปิดแผ่นหลังไว้ทั้งหมด ลำต้นใหญ่โตะและงามสง่าที่ยืนต้นจากบั้นเอว เกือบกลางหลังคือสีเขียวและกลีบดอกสีชมพูแผ่กิ่งก้านขึ้นไปตามช่วงไหล่ ที่โคนต้นคือเงาร่างมืดดำที่ศีรษะก้มต่ำ เธอกำลังมองไปยังลำต้น เคย์ไม่เคยถามถึงความหมายของรอยสักนี้ เพราะยูริเคยบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเกินไป และเคย์ก็ไม่มีความมั่นใจพอที่จะถาม
โคตะหันมามองเคย์ และคนอายุน้อยกว่าก็ระวังตนเองโดยอัตโนมัติ มองคนโตกว่าอย่างสงสัย เคย์มองโคตะตัดสายโทรศัพท์แล้วโยนลงบนเก้าอี้ แล้วคว้าข้อมือเคย์ ก่อนจะเหวี่ยงเขาลงบนเตียงแล้วขึ้นคร่อม
เคย์รู้สึกถึงลมหายใจของตนเองที่ติดขัด สองมือขยุ้มผ้าปูที่นอน
“ถึงจะขอร้องก็คงไม่ได้ผลใช่มั้ย โคตะ”
อีกฝ่ายยิ้ม
“ของของฉันไม่มีสิทธิ์ร้องขอ” โคตะขัดขึ้น ก่อนจะรีบรุกเข้ามา
เขา ถอดกางเกงออกพ้นจากร่าง คว้าสะโพกและจับเข่าอีกฝ่ายยกขึ้น แล้วโถมกระแทกเข้าไปจนสุด เคย์กัดหมอนสะกดกลั้นเสียงร้องจากความเจ็บปวดและน้ำตา เขาจะไม่ยอมให้โคตะรู้สึกลำพองใจ โคตะคว้าสะโพกเคย์แล้วโหมกระแทกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ลึก และถี่รัว หายใจหอบเสียงดัง
โคตะยิ้ม ขยุ้มผมเคย์ที่ครางเสียงต่ำด้วยความเจ็บปวด จากนั้นโคตะจึงปลดปล่อยข้างในร่างเคย์ พร้อมหอบเสียงกระเส่า
เขา ถอนส่วนนั้นออกจากร่างของเคย์ แล้วทิ้งตัวลงข้างๆ คนอายุน้อยกว่าด้วยสีหน้าพออกพอใจ ไม่ไยดีเสียงโทรศัพท์ที่ยังดังมาจากห้องนั่งเล่น
เขาลูบไล้สีข้าง ไม่สนใจว่าเคย์พยายามปัดมือของตนออก จากนั้นจึงไล้ปลายนิ้วไปที่ฐานด้านหลังคอของเคย์ ซึ่งมีรอยสักตัวอักษรคันจิ “薮宏太” ล้อมด้วยกิ่งซากุระเหยียดยาวไปตามแนวไหล่ สิ้นสุดปลายด้วยดอกซากุระบาน
เขายิ้มออกมาอีกครั้ง เขาชอบมองรอยสักนี้บนร่างกายของเคย์ เคย์เป็นสมบัติของเขา และมีเขาคนเดียวที่สามารถเป็นเจ้าของได้
คนอื่นๆ ที่ทำงานให้ยูริจะมีรอยสักที่หลังคอเป็นนามสกุลของตระกูล แต่เคย์แตกต่างจากคนอื่น เพราะว่าเคย์สำคัญ
ถึง แม้ว่าที่โคตะทำลงไปเป็นการขัดคำสั่ง แต่เคย์เป็นของเขา และด้วยความเอาแต่ใจของเขานี่เองที่ทำให้เคย์ต้องเหมือนตกอยู่ในนรก แต่เขาไม่สน ที่สำคัญสำหรับเขาคือเคย์ต้องอยู่ใกล้เขา เพราะแคย์เป็นเหมือนยาเสพติด
และสิ่งอื่นใดก็ไม่มีความสำคัญเท่า
“นายมันเป็นสัตว์ป่า โคตะ” เคย์กระซิบเสียงเบา ยันตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วยกมือของคนโตกว่าออกจากหลังคอของตนอย่างขุ่นเคือง
“เหมือน เราจี๋จ๋าแตะเนื้อต้องตัวกันไง” โคตะพูดล้อเลียน ก่อนจะเดินออกไปหยิบโทรศัพท์ ที่เริ่มดังอีกครั้ง “ฉันได้รับสิทธิ์ให้ชิมฟรีสินค้าของตัวเองอยู่แล้ว ถูกมั้ย” เขาหัวเราะ แล้วจึงรับสายโทรศัพท์
เคย์จ้องมองโคตะ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความรังเกียจ
เขาเกลียดเวลาที่โคตะเรียกเขาว่า “สินค้า” “สมบัติ” หรือ “สิ่งของ” เขาเกลียดที่ถูกเรียกแบบนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เขาถูกซื้อมาเป็นของโคตะ โคตะเป็นเจ้าของเขา และสิ่งที่ขนานนามเขาแบบนั้น ทำให้เขาได้แต่อยู่นิ่งเพียงลำพังในความเงียบ
สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นแค่โสเภณี ที่ชีวิตของตนอยู่ในเงื้อมมือของโคตะ
**
ทาคาคิ ยูยะ กลับมาอีกครั้ง โดยที่เคย์ยกให้เขาเป็นโอเอซิสที่ให้ความสงบและคลายความกังวลใจในโลกที่เขาเกลียดชัง
และยูริเป็นฝ่ายถูก ยูยะไม่ใช่คนอย่่างที่เคย์เคยคิดว่าเขาเป็น
เคย์ได้เรียนรู้ว่าอย่าใส่ใจคำพูดหวานๆ เพราะเขารู้แล้วว่าเวลาคนอายุมากกว่าหมดความอดทน ก็จะเริ่มลงมือทุบตีเขา และจะไม่ยอมหยุดจนกว่ามือจะชุ่มไปด้วยเลือด
เขาไม่เคยปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมาจากดวงตา ขณะที่เข้าไปชำระล้างตัวในห้องน้ำ เขาเกลียดที่ตนเองยังดึงดันที่จะเชื่อในตัวยูยะ คนที่เขารู้ว่าเป็นคนอ่อนโยน คนที่รอรับเขาออกมาจากแท็กซี่ จ่ายค่ารถให้ คนที่ให้ของขวัญและดอกไม้ คนที่โอบกอดเขาไว้หลังจากมีเซ็กซ์กัน
เคย์ไม่เคยถูกกกกอด และเมื่อยูยะถามเขาว่าจะทำแบบนั้นได้หรือเปล่า เคย์ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร เขาจึงทำในสิ่งที่ถนัดที่สุด คือปลุกอารมณ์อีกฝ่ายอีกครั้ง มีเซ็กซ์กันครั้งที่สอง สาม สี่
และหลงลืมไปว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น ลืมไปว่าเขาไม่เคยมีขีวิตอย่างคนธรรมดา ไม่เคยมีประสบการณ์แบบที่คนปกติทั่วไปเขามีกัน
และลืมกระทั่งว่ายูยะทำร้ายร่างกายเขาอย่างไร้ความปราณี
คืนนั้นมีอะไรบางอย่างบอกเคย์ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เขารู้สึกถึงเลือดที่ไหลลงมาอาบใบหน้าของตน บอกไม่ถูกว่าเขาทำอะไรผิดไป
เขาต้องแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างปกติดี ยูยะดูเหนื่อยง่ายเหลือเกิน
เมื่อคนอายุมากกว่าถอนร่างออกจากกายของเขา ก็นั่งลงที่ขอบเตียง ลูบใบหน้าและมือของเคย์ พึมพำอะไรบางอย่างที่เคย์ไม่เข้าใจ
เคย์ลากสังขารที่อ่อนแรงเข้าไปในห้องน้ำ ชำระล้างใบหน้าที่ปวดไปทุกๆ จุดที่สัมผัส
บางทีกระดูกโหนกแก้มอาจจะแตก หรือโพรงจมูกแตก เขาไม่แน่ใจนัก เขาชำระล้างคราบเลือดออก เช็ดถูอ่างล่างหน้าด้วยผ้าขนหนู
เมื่อกลับมาในห้อง เขาก็นั่งลงข้างยูยะ อีกฝ่ายกอดเขา ซุกหน้าลงกับไหล่ แล้วเอนตัวนอนลง เคย์ลูบศีรษะเขาด้วยมือข้างที่เป็นอิสระ
"คุณไม่เหมือนคนอื่นๆ" ยูยะพึมพำโดยไม่เงยหน้าขึ้น
คนอายุน้อยกว่าพยักหน้าช้าๆ
"ยังไงเหรอ" เขาถามเสียงเบา สงสัยว่าถ้าแตกต่างแล้วทำไมเขาจึงถูกตบ ถูกต่อยแบบนี้
"ผม เกลียดผู้หญิง พวกผู้หญิงชอบร้องไห้...ผมไม่ชอบเลย แต่คุณไม่ร้องไห้ พวกแฟนเก่าผม พวกเธอมักจะร้องไห้เสมอ" เขาพึมพำพลางลูบไล้เนื้อตัวของเคย์
"ผมไม่ชอบร้องไห้" เคย์ตอบ "ผมเลิกร้องไห้มานานหลายปีแล้ว"
"ผมเลิกร้องไห้ก็เพราะแม่" คนโตกว่าอธิบาย "พอแม่ทิ้งผมไป ผมดีใจมากที่แม่ไปซะ"
"ทำไมล่ะ" เคย์ถามเบาๆ แขนโอบรอบยูยะแน่น
อีกฝ่ายยักไหล่ กัดริมฝีปาก เคย์กลัวจะโดนตบอีกครั้ง แต่ยูยะแค่ยักไหล่อีกครั้ง ราวกับไม่รู้จะหาคำใดมาอธิบาย
"แม่...เป็นผู้หญิงขายตัว หลังจากพ่อตาย พวกเราก็ไม่มีเงินพอเลี้ยงปากท้อง และนั่นก็เป็นงานเดียวที่แม่สามารถทำได้"
เคย์เม้มริมฝีปาก
"หลัง จากพ่อตาย แม่ก็ต้องต้องตัวผม ผมคิดว่าเป็นการล่วงละเมิดนะ แต่ผมจำช่วงเวลานั้นไม่ค่อยได้หรอก แต่ผมจำได้ดีว่าผมถูกปล่อยไว้กับพวกลูกค้าของแม่ เพราะว่าแม่มัวแต่ดื่มเหล้า พวกนั้นจะทิ้งเงินไว้ให้บนโต๊ะ แล้วแม่ก็จะปิดผมเอาไว้ในห้อง ผมกรีดร้อง แล้วพวกนั้น...ก็ทำกับผมอย่างที่พวกเขาอยากทำ แล้วผมก็...รู้สึกตัวว่าร้องไห้สะอึกสะอื้นหลังจากพวกนั้นไปแล้ว"
เคย์คลายอ้อมกอด มองอีกฝ่ายด้วยดวงตา มันไม่ถูกต้องเลย ไม่ถูกต้องเลยที่ยูยะต้องทุกข์ทรมานมากขนาดนี้ เขาไม่ควรเลย
เคย์กอดยูยะ ฟังคำพร่ำขอโทษ พร่ำขอให้เคย์ยกโทษให้เขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเคย์ก็ไดแต่พยักหน้า และให้อภัย เพราะยูยะไม่ผิด
เขาเคยเห็นคนที่เคยเสียสติหลังจากมีชีวิตแบบเขาได้ไม่กี่เดือน และตอนนี้เขานึกภาพไม่ออกเลย ว่าเขาจะทำอะไรให้ยูยะได้บ้าง
เขาคงต้องขบคิด
"ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำร้ายคุณอีกแล้ว..." ยูยะกระซิบ "อิโน่ซัง คุณเป็นคนพิเศษสำหรับผม และผมจะจดจำคุณไว้ตลอดไป"
"ผมรู้ ทาคาคิวัง ผมรู้ อย่ากังวลไปเลยนะ"
**
ยูริเพิ่งปิดไฟ แล้วเดินออกจากบาร์เหมือนเช่นทุกๆ เช้า
ข้างนอกฝนตก แปลก ตอนนี้ยังคงเป็นเดือนเมษายน
9 ปีแล้วที่เขารู้จักเคย์
เขายังจำได้ดีถึงตอนที่โคตะนำตัวเคย์มาเสนอให้เขา
บอกเขาว่าเคย์จะทำงานให้เขานับตั้งแต่นี้ไป
ยูริถอนหายใจ เมื่อนึกถึงอดีตที่ผ่านมา
ยูริทำงาน ทำงานอยู่ที่นี่ เขากลายเป็นผู้นำกิจการโสเภณีในชินจูกุ และมีงานสุมเข้ามาทุกวัน
โคตะกำลังรอเขาอยู่ ไม่ใช่ว่าเพราะนึกได้ว่าไม่ได้พบหน้ากันมานานแล้ว และก็ไม่ใช่ว่าโคตะอยากจะขึ้นมาชั้นบนสุดเพราะนึกได้ว่าลืมโทรศัพท์เอาไว้
เขารู้ดีว่าโคตะนำปัญหาใหญ่เกินตัวมาให้เขาอีกเป็นครั้งที่สอง โคตะที่ไม่สามารถแก้ปัญหาเองได้ และต้องการคุยกับเขา
ถ้าจะพูดตามจริง พวกเขาเพิ่งจะกลับมาพูดคุยติดต่อกันในช่วงสาม-สี่ปีหลังนี่เอง เป็นเวลานานมากที่พวกเขาไม่ได้พูดคุยกัน ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ทำอะไรนอกจากระบายโทสะใส่โคตะ ทุบตี ทำร้าย เพียงเพราะเขาพอใจที่จะทำ และโคตะก็ไม่เคยปริปากบ่น และนั่นทำให้ยูริยิ่งโมโหจนแทบคลั่ง
ที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างถนนนั่นคือโคตะ และเด็กชายวัยรุ่นอีกคนหนึ่ง เด็กคนนี้มีแผลฟกช้ำ เลือดอาบหน้า เสื้อผ้าฉีกขาด ยูริอดสงสัยไม่ได้ว่าเด็กคนนั้นทำอะไรมาถึงได้แผลแบบนั้น
ยูริจิ๊ปากเมื่อเห็นปัญหาที่รุกเข้ามาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เขาคว้าไหล่โคตะให้หันมามองหน้า เขามองเข้าไปในดวงตาของคนอายุน้อยกว่า แต่แล้วก็นึกได้ว่าพวกเขายืนอยู่บนถนน จึงรุนหลังโคตะให้เข้าไปข้างในพาเลซ
ทั้งสามเดินไปเงียบๆ แทรกด้วยเสียงสะอื้นของเด็กที่อายุน้อยที่สุดเป็นครั้งคราว
ยูริมองดูเด็กชาย สงสัยว่าเด็กคนนี้มีความสำคัญอย่างไร ถึงขึ้นมาอยู่บนนี้ได้
ทั้งสามเข้าไปในห้องของยูริ แล้วจู่ๆ โคตะก็ผลักเด็กชายลงไปบนเตียง เด็กชายกอดเข่ามองโคตะอย่างตื่นกลัว
"เกิดอะไรขึ้น แล้วเด็กนี่เป็นใคร" ยูริตะคอก
"อิโน่ เคย์ เด็กคนนี้มาจากงานล่าสุดของฉัน" โคตะมองหน้าเด็กชาย เคย์ขยับตัวหนีทันที
ยูริยกมือลูบใบหน้าตนเอง คว้าตัวน้องชายออกมายังบริเวณทางเดิน
"ทำไมเด็กนั่นยังมีชีวิตอยู่" เขาส่งเสียงอย่างไม่พอใจ "คำสั่งชัดเจนแล้วนี่ ว่าให้ยิงเด็กกับแม่มันทิ้งซะ"
"ฉันก็อยากจะทำอยู่หรอก แต่เด็กนั่น... ต้องทำงานที่นี่ ก็เลยตายไม่ได้"
"โคตะ ฉันเหนื่อยที่จะต้องตามล้างตามเช็ดให้นาย เหนื่อยที่จะต้องตามแก้ปัญหาให้นายเต็มที เอาล่ะ เข้าไปข้างในห้อง แล้วเอาหมอนกดหน้าเด็กนั่นซะ ฉันไม่อยากเจอปัญหาเพราะนาย"
"ยูริ ฉันจะไม่ทำอย่างนั้น เด็กนั่น... ใช้ปากทำได้เก่งมาก โคตรฟินเลย เชื่อฉันเถอะว่าเราจะทำเงินจากเด็กนั่นได้เยอะแยะ เชื่อฉันสิ"
ยูรยกสองมือลูบใบหน้าตนเอง พลางเดินกลับไปกลับมา แล้วเงียบไปครู่หนึ่ง
"ฉันขอสาบานว่าถ้าเด็กนั่นตายระหว่างที่อยู่กับลูกค้าของเรา ฉันจะตามล่านาย แล้วถลกรอยสักสวยๆ ที่หลังนายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โคตะ"
คนอายุน้อยกว่าพยักหน้า แล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง เคย์ยืนอยู่ริมหน้าต่าง พลางมองออกไปข้างนอก
ฝนกำลังตก น่าแปลกที่ฝนตกเดือนเมษายน
เมื่อใจเย็นลงแล้ว ก็ถึงเวลาที่ยูริต้องสะสางงาน
เมื่อเดินกลับเข้าไปในห้อง เขาก็เห็นเด็กชายสะดุ้ง ยืนตัวลีบแนบหน้าต่าง
"ต่อไปนี้นายต้องทำงานกับเขา" โคตะบอกแค่นั้น กำลังจะเดินออกจากห้อง แต่แล้วก็หยุดกระทันหัน เมื่อคนอายุมากที่สุดเ้ดินเข้ามาหา
"อ้อ อย่าให้เขาตัดผมสั้นเกินไปล่ะ" เขาเดินไปคว้าตัวเคย์ ที่พยายามดิ้นหนีแต่ไม่สำเร็จ โคตะคว้าผมยาวสีดำของเด็กชาย แล้วลากไปหายูริ
ฐานด้านหลังคอของเด็กชายไร้ผมปิดบัง แล้วยูริก็เห็นรอยสัก เขาถอนหายใจ
"เขาเป็นของฉัน ยูริ จำไว้ด้วยนะ ว่าไม่มีใคร นอกจากฉํนกับลูกค้าที่จะเอาเด็กนี่ได้"
แล้วโคตะก็ปล่อยมือ เหวี่ยงเคย์ล้มลงไปกองกับพื้น โคตะไม่แม้แต่จะเหลียวกลับมามอง เขาไม่พูดอะไรอีก แล้วเดินออกจากห้องไป
ยูรินิ่งเงียบ มองดูเด็กชายจับผมที่ระต้นคอตนเอง เด็กชายพยายามที่จะไม่ร้องไห้ ยูริคว้าแขนเด็กชายให้ลุกขึ้น
"เข้มแข็งไว้ ที่นายจะได้เจอต่อไปมันจะเลวร้ายยิ่งกว่านี้อีก" เขาบอกพลางรุนหลังเด็กชายเบาๆ ไปทางห้องน้ำ
"เข้าไปสิ ล้างหน้าล้างตาให้ดี แล้วอย่าล้อเล่นกับฉัน ฉันไม่ใช่คนใจบุญมาจากไหนหรอกนะ"
ยูริมองเคย์อยู่ชั่ววินาที บางที เขาควรจะให้เคย์ตายไปในเงื้อมมือของโคตะ มากกว่าที่จะให้มาทำงานกับเขา
นี่มันไม่ถูกต้องเลย
ไม่ถูกต้อง แต่ชีวิตก็เป็นความทุกข์เช่นนี้เอง
สิ่งที่เกิดกับเคยฺ์นั้น ผิดที่ ผิดเวลา และผิดคน
**
/ต่อตอนที่ 2.2