สวัสดีค่ะทุกคน
ตอนแรกว่าจะเอาเรื่องนี้มาฝากในวันคริสมาสต์ แต่ในวันนั้นคอมพ์คนเขียนโดนไวรัสโทจันบุกจนแฮงค์ ยังดีค่ะที่เพื่อนเขากู้ข้อมูลไว้ได้หมด (เลยยังมีฟิคให้อ่านกันอยู่) พักทำใจอีกสองวันก่อนนำเรื่องสั้นน่ารักๆ มาฝาก เรื่องนี้ย้อนอดีตเฟรชชี่กันหน่อยๆ ฮุๆๆๆๆๆ ใครชอบแบบแสบๆ คันๆ น่ารักแล้วล่ะก็คงไม่ผิดหวังกับเรื่องสั้นเรื่องนี้นะคะ
ส่วนฟิคเรื่องอื่นหรือโปรเจ็คสาม ก็รอกันต่อไปนะคะ คนเขียนแอบขอเวลาไปลัลล้าก่อนนา แล้วอาจจะมีข่าวอะไรมาแจ้งในต้นปีหน้า
[SF] _+_+_+คู่กัด...คู่กัน_+_+_+ (Jin x Kame)
Paring (Jin x Kame)
Author :::::Reeya:::::
เสียงเอะอะอึกทึกดังระงม บรรยากาศคึกคักสนุกสนานแผ่ขยายไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย กับช่วงเวลารับน้องใหม่ของบรรดารุ่นพี่นักศึกษาที่ปฏิบัติสืบทอดกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า สร้างทั้งรอยยิ้มแห่งมิตรภาพและหยาดน้ำตาให้กับรุ่นน้องเฟรชชี่ ซึ่งรอคอยโอกาสที่จะแก้แค้นคืนกับรุ่นน้องรุ่นต่อๆ ไป จนกลายเป็นประเพณีสืบทอดกันมาในรั้วมหาวิทยาลัยเกือบทุกแห่ง
ท่ามกลางแดดอ่อน ๆ ยามเย็น หนุ่มน้อยหน้าสวยสองคนเดินหอบถุงของกินพะรุงพะรังจากบรรดาร้านค้าแผงลอยหน้ามหาวิทยาลัย เดินกลับเข้ามายังเขตมหาวิทยาลัยพร้อมเสียงบ่นอุบอิบของหนึ่งในสองหนุ่ม
“โอ๊ย! ทำไมวันนี้ถึงซวยอะไรอย่างนี้นะ โดนใช้ให้ออกมาซื้อของเซ่นพวกรุ่นพี่ คนมีตั้งเยอะ ทำไมต้องเป็นเราสองคนด้วยนะ เดินก็ไกล หนักก็หนัก”
เด็กหนุ่มรูปร่างผอมบาง ใบหน้ารูปไข่เรียวสวย แต่สิ่งที่เด่นที่สุดของใบหน้าเห็นจะเป็นดวงตาที่คมดุ ผมค่อนข้างยาวคลอเคลียบ่านั้น มาตอนนี้ผมส่วนหน้าถูกรวบด้วยยางรัดผมรวบเป็นจุกน้ำพุกลางหัวทำให้แลดูน่ารักไปอีกแบบ บุคลิกและท่าทางของเด็กหนุ่มดูเรียบง่าย แต่แปรปรวนบ่อยตามประสาคนอารมณ์ศิลปิน ซึ่งเวลานี้กำลังหงุดหงิดกับโชคร้ายของตัวเองที่ต้องมาเป็นเบ๊เดินออกมาซื้อของให้พวกรุ่นพี่
หนุ่มหน้าหวานอีกคนที่เดินมาด้วยกันยิ้มหวานให้กับเพื่อนจนเห็นรอยยักบนแก้มทั้งสอง ก่อนจะพูดชี้แนวให้เพื่อนขี้บ่นได้คิดในอีกแง่มุมหนึ่ง
“เราสองคนอาจโชคดีกว่าพวกนั้นก็ได้นะคาเมะ อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องนั่งฟังพวกรุ่นพี่ว๊ากตั้งสิบห้านาที”
“ก็จริงของนาย อย่างน้อยพวกเราก็ไม่ต้องมานั่งฟังพวกพี่ว๊ากตั้งสิบห้านาที” เมื่อคิดตามคำพูดของเพื่อนรัก เด็กหนุ่มอารมณ์แปรปรวนที่มีชื่ออย่างเพราะพริ้งว่า คาเมนาชิ คาซึยะ หรือ คาเมะ ก็หายหงุดหงิดและหันมายิ้มให้เพื่อนหนุ่มหน้าหวานแทน
ขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินคุยกันอยู่นั้น ทั้งสองคนต้องเดินเลียบสนามฟุตบอลซึ่งเป็นทางผ่านเพื่อจะเดินกลับไปยังคณะที่มีบรรดารุ่นพี่และเพื่อนๆ เฟรชชี่กำลังอยู่ในกิจกรรมรับน้องคณะ
สองหนุ่มมัวแต่เดินหิ้วของกินจำนวนมากที่ซื้อมาเป็นของเซ่นพวกรุ่นพี่เต็มทั้งสองแขน และใส่ใจกับการพูดคุยกันจนลืมสังเกตสิ่งผิดปกติรอบตัว
ลูกฟุตบอลลอยปลิวจากในสนาม พุ่งมายังทิศทางที่ทั้งสองเดินอยู่อย่างเหมาะเจาะ
จังหวะนั้นเองคาซึยะ ยกถุงข้าวของในมือขวาชูขึ้นมาระดับอก เพื่อขยับแขนบรรเทาอาการเมื่อยล้าจากการหิ้วของหนัก
แม่นราวกับจับวาง ลูกฟุตบอลเจ้ากรรมปลิวมากระแทกข้อมือคาซึยะอย่างแรง จนข้าวของในมือร่างบางส่วนหนึ่งหลุดร่วงลงพื้น และอีกส่วนหนึ่งตกลงบนตัวของเด็กหนุ่ม
คาซึยะรู้สึกถึงความเหนียวหนึบบริเวณเสื้อนักศึกษา เขาก้มลงมาดูเสื้อของตัวเองซึ่งบัดนี้มีสีส้มอมแดงเลอะไปทั่วเสื้อขาวและกำลังลามไปถึงกางเกงนักศึกษา ต้นเหตุก็คือน้ำจิ้มลูกชิ้นที่ไหลย้อยจากถุงที่หกรดบนตัวร่างบาง ส่วนเจ้าตัวต้นเหตุก็ลงไปนอนกองเรี่ยราดกระจายทั่วพื้น พร้อมกับถุงขนมอื่นๆ ในมือเด็กหนุ่ม
โทโมฮิสะเพื่อนหนุ่มหน้าหวานที่เดินมาคู่กัน ได้แต่มองสภาพของเพื่อนร่วมทางที่เลอะเทอะในเวลาเสี้ยววินาทีด้วยความตกตะลึง
เด็กหนุ่มเคราะห์ร้ายได้สติก่อนเพื่อน รีบมองหาคนรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากบรรดานักฟุตบอลในสนามที่พากันมองมาที่เขาเป็นจุดเดียว
สายตาของคนตัวเล็กเต็มไปด้วยแรงโทสะ เสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนนั้นยังไม่เท่าไหร่ แต่ที่สำคัญคือป้ายชื่อที่ทำจากกระดาษแข็งสีแดงเจาะรูร้อยเชือก ที่รุ่นพี่ทำให้รุ่นน้องเฟรชชี่ทุกคนคล้องคอโดยกำชับนักหนาว่า
‘ป้ายชื่อพวกนี้ น้องๆ จะมีคล้องคอกันทุกคน เวลาที่น้องๆ ใส่ชุดนักศึกษาจะต้องคล้องป้ายชื่อนี่ไว้ด้วย จะได้รู้จักชื่อกันไว้ ห้ามน้องคนไหนทำป้ายชื่อหาย ทำขาด ทำเปื้อนเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นพวกพี่จะลงโทษพวกน้องแน่’
แล้วตอนนี้ป้ายชื่อเขายับเยินขนาดนี้ยังไม่รวมกับเครื่องเซ่นของรุ่นพี่ที่เขากับเพื่อนออกไปตระเวนซื้อมาเสียหายไปส่วนหนึ่ง เมื่อกลับไปถึงคณะเขากับเพื่อนจะยังไม่รู้ว่าจะถูกลงโทษสถานใดจากบรรดารุ่นพี่
“ขอโทษครับ น้องเป็นยังไงกันบ้าง เจ็บมากไหมครับ?” ในที่สุดร่างสูงโปร่ง ผิวขาวจัดของชายหนุ่มนักฟุตบอลในสนามก็วิ่งออกมาหาสองหนุ่มหน้าหวานแสดงความรับผิดชอบกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
ดูจากการแต่งกายของสองหนุ่ม ทำให้จินรู้ได้ทันทีว่าทั้งสองเป็นรุ่นน้องปีหนึ่ง (ก็เล่นแต่งกายถูกระเบียบเป๊ๆ ผูกไทเรียบร้อย แถมมีป้ายชื่อคล้องคอแบบนี้ มองไม่รู้ว่าเป็นเฟรชชี่ก็บ้าแล้ว) แต่ทำไมถึงออกมาเดิน แถวนี้ได้ ช่วงนี้เป็นช่วงรับน้องใหม่ พวกรุ่นน้องปีหนึ่งส่วนใหญ่ต้องร่วมกิจกรรมรับน้องอยู่ที่คณะนี่
“เจ็บซิถามมาได้ ลองมาโดนลูกบอลกระแทกดูบ้างสิ จะได้รู้ว่าเจ็บหรือเปล่า คราวหน้าคราวหลังจะได้ระวังคนข้างๆ สนามบ้าง” คนตัวเล็กโวยวายออกมาเป็นชุด ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่ ก็ช่วงนี้พวกปีหนึ่งต้องเข้ากิจกรรมรับน้อง พวกที่มาเล่นบอลในสนามได้อย่างนี้ก็ต้องเป็นพวกรุ่นพี่แน่นอน แต่เขาไม่สนหรอกว่าอีกฝ่ายจะเป็นรุ่นพี่ เมื่อหมอนั่นทำให้เขาเจ็บตัวและเปื้อนขนาดนี้ ทำไมเขาต้องไปพูดจาดีๆ กับหมอนั่นด้วย อีกอย่างหมอนั่นก็ไม่ใช่รุ่นพี่คณะเขาสักหน่อย จะกลัวไปทำไมกัน
โทโมฮิสะเริ่มได้สติ พยายามดึงแขนเพื่อนตัวเล็กแต่ซ่าส์เกินตัวให้ลดดีกรีความดุลง ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นรุ่นพี่ แถมยังเป็นนักกีฬากล้ามบึกอีกด้วย เด็กปีหนึ่งอย่างพวกเขาไม่สมควรที่จะไปตอแยยุ่งเกี่ยวอย่างยิ่ง
แปลกที่จินกลับไม่โกรธคนตัวเล็กที่โวยวายใส่หน้า ชายหนุ่มกลับขำที่เด็กหนุ่มร่างบางจอมโวยวายขณะที่เพื่อนที่มาด้วยกันพยายามปรามคนตัวเล็กให้หยุดอาละวาด ร่างสูงส่งยิ้มให้สองหนุ่มรุ่นน้องและพยายามอ่านชื่อของทั้งสองคนจากป้ายชื่อสีแดงที่ผูกเชือกคล้องคอทั้งสองอยู่
อ๋อ! เจ้าตัวเล็กขี้โวยวาย ชื่อ คาซึยะ คณะวิจิตร ส่วนเด็กหนุ่มห้ามทัพนั่นชื่อ โทโมฮิสะ คณะวิจิตร เหมือนกัน
“จะให้พี่พาพวกน้องไปส่งที่ห้องพยาบาลไหม?” อาคานิชิ จินอาสาอย่างมีน้ำใจ แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ การโดนตวาดจากเด็กขี้โมโห
“ไม่ต้อง แค่นี้ฉันก็ซวยพอแล้ว ป้ายชื่อก็เปื้อน ขนมก็ตกไปครึ่งหนึ่ง กลับไปถึงคณะต้องโดนพวกรุ่นพี่ลงโทษแน่เลย ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของนายคนเดียว”
“มันเป็นอุบัติเหตุนี่ แล้วพี่ก็ขอโทษไปแล้วด้วย พี่ไม่ได้ตั้งใจเตะลูกบอลใส่น้องเลยนะ เอาอย่างนี้แล้วกัน ผมจะตามไปพูดกับพวกรุ่นพี่ของน้องให้ เขาจะได้ไม่ลงโทษพวกน้อง”
“ไม่ต้อง แค่ช่วยไปอยู่ไกลๆ ฉันเป็นพอ หวังว่าเราคงไม่พบกันอีก” คาซึยะตัดบทด้วยความโกรธ พูดจบร่างบางก็สะบัดหน้าเดินหนีชายหนุ่มนักฟุตบอล โดยไม่สนใจเลยว่าเพื่อนรักหน้าหวานจะเดินตามเขาออกมาหรือไม่
โทโมฮิสะรีบหิ้วถุงขนมที่เหลือวิ่งตามเพื่อนตัวเล็กที่เดินจ้ำอ้าวออกไปอย่างเร่งรีบจนทัน ปล่อยให้อีกฝ่ายชายมองตามรุ่นน้องทั้งสองอย่างงุนงง
เป็นการพบกันครั้งแรกที่ไม่น่าประทับใจสำหรับฝ่ายรุ่นน้องจอมซ่าส์ แต่สำหรับฝ่ายรุ่นพี่นั้นเป็นการพบกันที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียว
วันนี้คนตัวเล็กเดินหนีเขา แต่ช่างเถอะ เขารู้ว่าเด็กนั่นชื่ออะไร อยู่คณะไหน เขาสามารถตามหาอีกฝ่ายได้ไม่อยาก ไม่มีอะไรที่เกินความสามารถของนายอาคานิชิ จิน ถ้าเขาตั้งใจจะทำมันต้องสำเร็จอยู่แล้ว
http://i236.photobucket.com/albums/ff55/reeya_areeya/4d2f9a20.jpg