In his care 36

Oct 07, 2009 00:44


Title: In his Care
Author:blue_orbs
Translated and wrote in Thai by daniellove
Pairing: Akame
Rating: NC-17
Disclaimer:The plot belongs to blue_orbs darling
Summary: For this chapter N/A

Thanks รียา อารียา reeya-areeya to be my lovely
beta.

Chapter 36

มันก็เหมือนเช้าวันอื่นในเรือนจำ ดวงอาทิตย์ฉายแสงส่องตรงเข้ามาทำให้ร่างบางรับรู้ได้ถึงไอร้อนที่กรุ่นอยู่ทั่วห้อง นั่นก็หมายความว่าได้เวลาที่เขาต้องตื่นนอนแล้วออกไปทานอาหารเช้าแล้วนั่นเอง

วงแขนของจินโอบรอบร่างเล็ก ให้ความอบอุ่นแก่เขายิ่งกว่าลำแสงแห่งดวงอาทิตย์เสียอีก วงแขนอีกข้างของจินก็แอบสอดเข้าใต้เสื้อของคนตัวเล็กอย่างดีที่สุดเพื่อไม่ให้ใครได้สังเกตเห็น คาเมะแอบอมยิ้มกับตัวเอง จินมักจะหาโอกาสล่วงเกินร่างบอบบางของเขาในทุกครั้งที่มีโอกาส

เสียงดังก้องจากทางประตูห้องขังนั่นเองที่ทำให้ร่างบางจำต้องฝืนเปิดเปลือกตาออกมาในที่สุด ก่อนจะพบว่าตัวเขากลับมานอนแผ่โดยที่มีคนเจ็บนอนทับอยู่ด้านบน ส่วนพวก TTUN ก็พากันยืนอออยู่ตรงประตูหน้าห้องขังที่เปิดอ้า

เดี๋ยวก่อน...มีบางสิ่งบางอย่างที่ดูผิดแปลกออกไป

“พุธโธ่เอ้ย อย่าลวนลามเขาในตอนที่นายเจ็บอยู่สิวะ! ขนาดว่ามือข้างหนึ่งหัก นายก็ยังเก็บไม้เก็บมือไว้กับตัวเองไม่ได้เลยหรือไง?” โคคิพูดเหมือนเทศนาสั่งสอนพลางถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แต่จินก็ทำเมินเพื่อนๆในแก๊ง ชายหนุ่มยังคงลากมือเลื้อยผ่านเข้าใต้เสื้อตัวบาง ในขณะที่ที่มืออีกข้างก็สอดเลื้อยเข้าไปในกางเกงของคนตัวเล็ก

“พอแค่นี้แหล่ะ มิสเตอร์!” โคคิคำราม ก่อนจะรุดเข้าไปดึงคาเมะกระชากเข้ามาหาตัว ทำให้จินแทบจะหน้าคว่ำคะมำลงกับหมอน “ตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่เหลืออยู่นี้ นายถูกห้ามไม่ให้แตะต้องเนื้อตัวคาเมะจังอีกต่อไป!”

เมื่อตั้งหลักได้จินรีบทรงตัวกลับมาดังเดิม ชายหนุ่มเริ่มเปล่งเสียงครางออกมาเล็กน้อย ร่างสูงทำให้โคคิเข้าใจไขว้เขวด้วยการทำเป็นเหมือนกับว่าเจ็บปวดมากเสียเหลือเกิน..เหมือนกับลูกหมาที่เพิ่งจะถูกใครเตะมา แล้วการทำเช่นนั้นก็ทำให้หนุ่มนักแร๊บผู้มีจิตใจอ่อนโยน เกิดใจอ่อนยวบลงไปในทันที จินรีบถือโอกาสนั้นคว้าตัวร่างบางกลับมาเช่นเดิม คาเมะเซถลากลับเข้ามาซุกยังอ้อมแขนที่เปิดรับของร่างสูง อุเอดะ ยูอิจิและจุนโนะต่างก็ถอนหายใจออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

โคคิเปลี่ยนจากความสงสารเป็นโมโหขึ้นมาเพียงไม่กี่นาที “ถ้านายทำแบบนี้แล้วล่ะก็! ชั้นก็จะเปลี่ยนห้องกับคาเมะจังซะ แล้วชั้นจะไม่ปล่อยให้เขาเข้ามาในนี้อีกจนกว่านายจะหายสนิท...!”

จินขู่คำรามพร้อมกับพยายามจะลุกขึ้นยืนเพื่อปล่อยหมัดถวายเพื่อนร่วมแก๊งไปสักป๊าป แต่คาเมะก็รั้งตัวชายหนุ่มให้นอนลงกับเตียง

“เข้ามาพูดแบบนั้นอีกสิ!” ร่างสูงพูดขู่เมื่อเห็นว่าไม่สามารถจะไปยังที่ตรงนั้นได้

“อคานิชิซัง มันก็เพื่อตัวนายเองนะ” ร่างบางพยายามที่จะยกเอาเหตุผลมาอ้าง เมื่อรับรู้ได้ว่ามืออีกข้างที่ยังสบายดีของจินกำลังโลมลูบอยู่ช่วงสะโพกผาย

“ชั้นรู้ว่าอะไรดีกับชั้น...” จินพึมพำ โคคิก็รุดกลับไปเพื่อที่จะดึงร่างบางให้ห่างจากจินอีกครั้ง อีกฝ่ายจึงได้แต่ร้องครวญคราง

“เอาล่ะ ก็ได้ ก็ได้” หัวหน้าแก๊งบ่นพึมพำ “ชั้นจะไม่ทำอะไรแล้วกัน”

“สัญญานะ?” อุเอดะถามด้วยความเคลือบแคลง ร่างสูงก็พยักหน้ารับหงึกหงัก

โคคิปล่อยคาเมะไปทันทีเมื่อเห็นอุเอดะหันมาพยักหน้าให้ จินเองก็ดูจะมีความสุขที่ได้ตัวคาเมะกลับมาอยู่เพียงครู่เดียว ก่อนที่คนตัวเล็กจะเดินเลี่ยงออกไปเมื่ออาหารเช้าถูกนำเข้ามาเสิร์ฟในห้องขัง

ขณะที่เพื่อนๆร่วมแก๊งต่างก็พยายามช่วยหาท่านั่งสบายๆให้จินอย่างดีที่สุด คาเมะก็วางแก้วน้ำและอาหารเช้าที่มีอยู่เต็มจานวางลงบนพื้นห้อง เป็นพื้นที่ที่พวกเขาทุกคนต่างก็พากันล้อมวงลงนั่งกินข้าว ยกเว้นจินที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงมาจากเตียง

อุเอดะเหลือบมองข้ามไหล่มองสังเกตุไปยังคนตัวเล็กอย่างสงสัย

“นี่คาเมะจังเพิ่งจะเรียกจินว่า ‘อคานิชิซัง’ ใช่ไหม?” เด็กหนุ่มหน้าสวยบ่นพึมพำเมื่อซุกหมอนใบเขื่องไว้ให้ร่างสูงได้พิงหลัง จินก็พยักหน้ารับ

“เขาพูดแบบนี้เมื่อวานนี้ด้วย” จินพูดเสียงเบาใส่อุเอดะ “ตอนแรกชั้นก็คิดว่าชั้นแค่คิดไปเองเพราะผลจากยาที่ตุ๊ตี้และนากายันให้ชั้นกินซะอีก...”

“อะไรทำให้เขาเป็นแบบนั้นล่ะ?” ยูอิจิพึมพำถามเป็นรายต่อไป

“โอ๊ะ พูดถึงเรื่องยาแล้ว เอ้านี่ยาสำหรับเช้านี้” อุเอดะกล่าวพลางเทเม็ดยาลงบนฝ่ามือของจิน ก่อนจะยื่นแก้วน้ำให้หัวหน้าแก๊งดื่มพร้อมยา “คาเมะจัง ชั้นจะทิ้งยาไว้ตรงนี้นะ นายคอยดูจินให้กินยาทุกวัน แล้วก็กินให้ครบทุกครั้งด้วยล่ะ?”

ร่างสูงทำหน้าบึ้งใส่เด็กหนุ่มผมสีดำสนิท ก่อนจะฝืนกลืนทุกอย่างที่อยู่ในมือลงคอหอย

“ชั้นจะพยายาม” คาเมะตอบ “ตะ แต่เขากินยามากขนาดนั้นในครั้งเดียวได้เหรอ?”

“ชั้นก็ว่างั้นแหล่ะ” จินบ่นพึมพำ “ชั้นว่าชั้นคงจะได้กินมันหมดวันนี้แหง”

“งั้นก็ดีแล้ว หมอนี่น่าจะฟังนายมากกว่าฟังพวกชั้นล่ะนะ” จุนโนะพูดพลางแย้มยิ้ม ทำทีเป็นไม่สนใจกับสิ่งที่จินพูด ก่อนจะเดินเข้าไปช่วยคาเมะจัดวางสำรับอาหารเช้า

“ใช่ ก็นายแค่ติดสินบนหมอนี่ด้วยจูบซะ ทำอย่างนั้นแล้วจินก็คงเต็มใจกินยาทันทีเลยล่ะ” โคคิหัวเราะร่าพลางแตะเบาๆที่ไหล่ของร่างบางเมื่อยามที่คนตัวเล็กเดินผ่านกลับมาที่เตียง

“เอ้านี่อคานิชิ-“ คาเมะเอ่ยขึ้น ก่อนจะเหยียดมือออกไปเพื่อยื่นอาหารเช้าให้จิน ต่อเมื่อมือข้างซ้ายของร่างสูงรีบคว้าหมับเข้าที่ข้อมือบาง

“เห็นไหมเนี่ยว่าชั้นกินเองไม่ได้นะ นี่ไง?” จินพูดพลางพยักเพยิดหน้าไปยังมือข้างขวาที่ถูกหุ้มด้วยผ้าพันแผล เรียวหน้าเล็กของคาเมะมองหลุบไปยังแขนข้างนั้นก่อนที่จะหันกลับมาสบตากับอีกฝ่าย

“ตอนเช้านี่นายก็เพิ่งจะสอดไอ้มือข้างนั้นเข้าไปในกางเกงของคาเมะจังได้อย่างเหมาะเหม็งนี่หว่า อีกอย่างนี่มันข้าวปั้นน่ะโว้ย กินด้วยมือข้างซ้ายซะ...” โคคิพูดแจกแจง แต่หัวหน้าแก๊งก็ทำเมินไม่สนใจกับหนุ่มนักแร๊บเลยสักนิด ยังคอยส่งยิ้มหวานจ๋อยให้คาเมะ

“นี่ ช่วยชั้นหน่อยนะ?” จินพูดเน้น คาเมะลังเลใจอยู่เพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะลงนั่งบนเตียงข้างๆจิน แล้วป้อนข้าวปั้นเข้าปากอวบอิ่มของอีกฝ่าย ร่างสูงดูเหมือนคนที่เพิ่งได้ชัยชนะมาแหม่บๆ เขาจึงได้เปิดปากรับอาหารเช้านั้น พร้อมกับแอบสอดแขนข้างซ้ายเพื่อโอบรอบเอวบาง..

โคคิถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ทำทีส่ายหัวไปมา ยูอิจิก็รีบเข้ามาลูบหลังปลอบประโลมในทันใด ยูอิจิมักจะคอยอยู่ตรงนี้ในทุกเมื่อที่โคคิต้องการ..แล้วโคคิก็มักจะอยู่ข้างเขาในยามที่อีกฝ่ายต้องการเช่นกัน

เมื่อได้ลงมือทานข้าวเช้าไปได้ครึ่งทาง ก็มีเสียงประกาศข่าวผ่านลำโพงดังก้องเข้ามา

“..พวกนั้นคงอยากขอบคุณที่ชั้นช่วยชีวิตคาเมะจังไว้” จินพูดด้วยน้ำเสียงหัวเราะเย้ยหยันเมื่อได้นั่งฟังชายคนที่มีอำนาจควบคุมคุกของที่นี่พูดลอยมาตามลำโพง

“คาเมะอาจจะตายได้นะถ้าไม่ใช่เพราะนาย” ยูอิจิพูดชี้แจง แม้จะรู้สึกตะหงิดๆใจอยู่บ้างเหมือนกันกับการทำอะไรแบบดูไม่จริงใจของคนพวกนี้ พวกเขาต่างก็รู้ดีว่าชายแก่นั่นไม่ได้สนใจอะไรนักหนาหรอก ก็แค่พูดไปตามพิธีเท่านั้นเอง

“แทนที่จะเอาเวลามาพูดขอบคุณชั้นสู้เอาเวลานั้นไปต่อเติมคุกนี้ให้มันดีกว่าที่เป็นอยู่ดีไหม” จินตอบ “จริงๆเลยนะ..ชั้นไม่กล้าเอนหลังพิงไอ้ราวระเบียงสนิมเขรอะนั่นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ชั้นไม่สงสัยเลยว่าทำไมในที่สุดไอ้ระเบียงพวกนั้นถึงได้ร่วงหล่นลงไปได้ ถ้าของอะไรในคุกนี้ถูกสร้างมาอย่างมั่นคงแข็งแรงแล้วล่ะก็ พวกเราก็คงไม่ต้องตื่นตกใจกันมากนักหรอก”

“อีกหนึ่งอาทิตย์พวกเขาก็จะเริ่มก่อสร้างเต็มรูปแบบที่โรงอาหารแล้ว” โคคิแจ้งให้หัวหน้าแก๊งฟัง

“หนึ่งอาทิตย์?! นี่พวกเราคงต้องถูกขังอยู่ในนี้จนกว่าจะถึงเวลานั้นเลยเหรอ” จินถาม จนเกือบจะทำเครื่องดื่มหล่น

“ใช่แล้ว ชั้นว่าพวกเขาคงจะเอาลูกกรงไปปิดฝั่งต่างๆ พูดให้ถูกก็คือพวกเราถูกขังอยู่ที่ฝั่งตะวันตกนี่เลยล่ะ เห็นว่าตำรวจพยายามที่จะหาหลักฐานต่างๆ แล้วพวกเขาก็จะเดินสำรวจรอบๆคุกตรงส่วนอื่นด้วย ไอ้การก่อสร้างก็คงจะใช้เวลาอย่างน้อยเดือนหนึ่งแหงๆ” โคคิพูดด้วยท่าทีเหยียดๆ

“ขอให้โชคดีแล้วกันว่ะ! พวกรุ่นพี่ใช้ทางลับเป็นเส้นทางหนีไป แล้วจอห์นนี่ก็จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนเข้าไปสืบสวนตรวจสอบแน่ๆ!” จินหัวเราะร่า ชายหนุ่มมักจะมีความสุขกับการที่ได้เห็นพวกตำรวจตกอยู่ในสถานการณ์ท้อแท้สิ้นหวังเสมอ “คดีนี้ก็จะไม่มีทางคลี่คลายได้ หรือว่ามาสะจังจะเป็นคนรับงานนี้แทนล่ะ จากนั้นความผิดพวกนั้นก็จะถูกโยนใส่ใครบางคน ในขณะที่เส้นทางหลบหนีทางจริงก็ไม่มีทางจะถูกบันทึกลงในรายงานเล่มไหนๆทั้งสิ้น”

“ชั้นล่ะสงสัยจริงๆว่าจอห์นนี่จะทำท่ายังไง” อุเอดะพูดด้วยท่าทีกังวลนิดๆ “หมอนั้นคงกรีดร้องหาเลือดอยู่แหงๆ”

“ไม่นานเราก็คงจะได้รู้แล้ว” ร่างสูงพูดเดา “ชั้นล่ะแปลกใจมากเลยนะที่เรื่องวุ่นๆพวกนั้นไม่ทำให้อาคารนี้พังครืนลงมาทั้งอาคาร แล้วอีกอย่างนะ มันเป็นไปได้ยังไงที่พวกรุ่นพี่ไม่ถูกเจอตัวในตอนที่หนีไปตามทางเดินชั้นแรกน่ะ?”

“ชั้นบอกได้เลยว่า นั่นก็เพราะคิมุทาคุยังไงล่ะ” จุนโนะพูดให้ขำ

“จริงๆแล้วชั้นว่าพวกเขาถูกพบตัวนะ เพราะไหนๆก็หนีไปพร้อมกับพวกเดอร์ ออง เกรย์นี่ นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมพวกนักโทษถึงได้เกิดบ้ากันขึ้น” อุเอดะตอบ

“เดอร์ ออง เกรย์หนีไปกับพวกรุ่นพี่น่ะ” จุนโนะพูดเสริมรายละเอียดให้จินฟัง

“อ้อ นั่นก็พอจะอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมจู่ๆทุกคนถึงได้แตกตื่นกันได้” ร่างสูงถอดใจ “พวกเราคงจะติดแหง่กอยู่ที่นี่จนกว่าจะได้ออกจากคุกใช่ไหมเนี่ย?”

“อาจจะ ถ้างานก่อสร้างนั้นใช้เวลาอยู่เป็นเดือนจริงๆ” โคคิงึมงำตอบ

“ดีจริงๆ ขอบคุณมากๆนะพวกรุ่นพี่” จินคราง “พวกเขาหนีไปกันได้หมดทุกคนเลยเหรอ?”

“ใช่ ทั้งหมดเลย สแมป โทคิโอ แล้วก็ V6 หายไปหมดเลย พวกตำรวจน่ะไม่รู้เลยล่ะว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนแล้วก็หนีออกไปตั้งแต่แรกได้ยังไง” อุเอดะแจ้งแถลงไข “โอ๊ะอีกอย่างนะ พวกอาราชิแหกคุกหนีออกไปในเวลาเดียวกันด้วย”

“โอ๊ะ ฉิบหายล่ะ หลังจากที่ชั้นทำห่าเหวกับมัสสุโมโตะมาตั้งหลายปี ตอนนี้หมอนั่นกลับได้หนีออกไปก่อนชั้นเนี่ยนะ? พอถึงตอนที่เราออกไปจากนี้ได้หมอนั่นคงให้ฉันจ่ายคืนอานแน่เลย!” จินครวญคราง มันชักเริ่มจะดีขึ้นดีขึ้นเสียจริ๊งจริง

“ใช่แล้วล่ะ พวกเขาดูจะไม่ชอบนักหรอกที่เราให้บทองครักษ์พิทักษ์พวกเด็กๆหน้าสวยของนายน่ะ แล้วยิ่งกว่านั้นพวกเขายิ่งถือตัวว่าเป็นรุ่นพี่พวกเราอีก” ยูอิจิเห็นด้วย

“พวกเขาก็เป็นนี่น่า” จุนโนะพูดสอด จินก็แทบจะทำตัวจมลงไปกับเตียง ออกท่าทีเศร้าอย่างเห็นได้ชัด

“แค่บอกชั้นมาก็พอว่าพวกนิวส์ไม่ได้หนีไปด้วยน่ะ!” หัวหน้าแก๊งเกือบกลัวที่จะต้องถามออกไป

“ไม่” อุเอดะแทบจะไม่มีเวลาได้ตอบ

“โอ้ขอบคุณ คุณพระคุณเจ้า ถ้าพวกนั้นหนีไปได้มันคงเกินกว่าที่ชั้นจะรับได้เลยล่ะ!” จินถอนหายใจด้วยความโล่งอก รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อยแล้ว

“อีกเดือนกว่าๆ ที่เราจะได้ออกจากที่นี่ไป แค่พวกอาราชิก็เกินกว่าที่เราจะรับมือได้แล้ว” ยูอิจิแจกแจง

“ก็ใช่ แต่ตอนที่พวกเราเด็กๆแล้วก็เริ่มตั้งแก๊ง พวกนั้นก็ชอบทำให้เราต้องปวดหมองด้วยนี่ มันก็ถือว่าเป็นการเอาคืน!” จินพูดปกป้องตัวเอง

“พีไปหานายที่ห้องพยาบาลด้วย” อุเอดะพูดขึ้น ส่วนจินก็นิ่งเงียบ

“หมอนั่นไปด้วยเหรอ?” หัวหน้าแก๊งถามพลางหมุนแก้วน้ำที่อยู่ในมือเล่น ทำเหมือนกับว่าสิ่งของที่ถืออยู่ในมือมันดูน่าสนใจขึ้นมาเสียงั้น “หมอนั่นแอบหนีไปที่นั่นได้ยังไงล่ะ?”

“นิวส์ไปต่อยกับพวกรุ่นพี่แล้วก็หนึ่งในสมาชิกของเดอร์ ออง เกรย์” จุนโนะอธิบาย “พวกเขาถูกต่อยซะน่วมเลย ยามะพีก็เลยใช้เหตุนั้นเป็นข้ออ้างเข้าไปในเขตห้องพยาบาล”

“พวกนิวส์พยายามที่จะหลบหนีไปกับพวกรุ่นพี่ แต่ก็อย่างที่นายคิดไว้แหล่ะ พวกรุ่นพี่ไม่เห็นด้วยก็เลยเกิดสู้กันขึ้นมา” ยูอิจิพูดเติม

“แต่พอยามะพีได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายหมอนั่นก็แอบไปพบนาย หมอนั่นน่ะนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆนายทั้งคืน” อุเอดะพูดต่อ ร่างสูงก็เบี่ยงสายตาให้ห่างจากเครื่องดื่ม ก่อนจะนำแก้วน้ำขึ้นมาจ่อที่เรียวปากแทน

“จริงหรือ...” จินพึมพำดื่มทุกหยดที่อยู่ในแก้วน้ำ แต่ท่าทีเหมือนไม่ใส่ใจไม่ได้ทำให้พวกเพื่อนๆเชื่อมากนัก จินคงไม่อยากแสดงให้คนอื่นๆเห็นว่าเขาใส่ใจในทุกสิ่งที่ยามะพีทำเพื่อเขา เพราะไหนๆพวกนั้นก็เป็นแก๊งฝ่ายศัตรูอีกด้วย ยามะพีน่าจะรู้จักจินมากกว่าที่พวกเขารู้เสียอีก อีกฝ่ายเป็นคนที่สำคัญมากในชีวิตของจินเช่นกัน

ร่างบางส่งสายตามองเพื่อนร่วมห้องด้วยท่าทีใคร่รู้ ..... มันเหมือนกับว่าจินไม่ได้นึกใส่ใจเลยสักนิด

“ว่าแต่คนอย่างพวกเดอร์ ออง เกรย์ หนีไปได้ยังไง?” จินถามขึ้นเพื่อเปลี่ยนหัวข้อเรื่อง “ชั้นไม่เคยเห็นพวกนั้นสร่างยาเลยนี่หว่า พูดจริงเลยนะ พวกนั้นแอบเอายาเข้ามาในคุกได้ยังไงว่ะ?”

“ก็อย่างที่นายรู้น่ะแหล่ะ พวกนั้นเป็นมืออาชีพนี่น่า"

“แล้ว ลาค ออง เซียร์ล่ะ? พวกนั้นหนีไปด้วยหรือเปล่า? พวกนั้นไม่เล่นยาที่ตัวเองแอบเอาเข้ามานี่” ร่างสูงแจกแจง

“ไม่ได้ไปหรอก แต่ชั้นคิดว่าไฮด์คงไม่ดิ้นรนอยากที่จะออกไปจากที่นี่กับพวกเพื่อนๆในแก๊งนักหรอก เพราะคงรู้น่ะสิว่าถ้าไปก็ต้องทิ้งกัคคุโตะไว้ในนี้” อุเอดะอธิบาย “กัคคุโตะอยากจะออกไปเมื่อไหร่ก็ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าไปเขาก็คงไม่มีข้ออ้างดีๆที่จะได้พบยูคุงทุกวันน่ะสิ”

“ถ้ายังงั้น หมอนั่นเดทใครกันแน่ ไฮด์จังหรือว่ายูจัง?” จินถาม พลางส่งสายตาตรงเข้มไปยังอุเอดะ

อุเอดะยักไหล่นิดๆ “ชั้นไม่รู้หรอก แต่...แล้วมาสะล่ะ? ก็เหตุผลจริงๆที่มาสะเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเราก็เพราะว่าหมอนั่นถูกกัคคุโตะตัดสัมพันธ์มาน่ะสิ แล้วยังจะคามิ-“

“ว่าแต่พวกเขาบอกว่ามีกี่คนที่บาดเจ็บนะ?” จินถามขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เป็นการเปลี่ยนหัวข้อเรื่องอีกครั้งเพราะเขาไม่อยากจะเวียนหัวกับเรื่องความสัมพันธ์อันมากมายหลากหลายของกัคคุโตะมากกว่านี้อีกแล้ว

“เขาป่าวประกาศทางลำโพงในตอนที่นายอยู่ในโคม่าน่ะ มีหลายคนเหมือนกันที่บาดเจ็บแล้วก็มีบางคนที่ไม่รอดด้วย” โคคิตอบ

“มีใครที่เรารู้จักไหม?” หัวหน้าแก๊งถาม

“ไม่นี่ พวกนิวส์ตอนนั้นก็ยังอยู่ที่ฝั่งเหนือ เพิ่งจะฟื้นตัวจากที่ไปตะลุมบอนมา คันจานิ 8 ก็อยู่ในโรงอาหาร แต่พวกเขาก็ไม่เป็นอะไร มารุยาม่ายังได้ช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่ง พวกนั้นกำลังกินข้าวเที่ยงกันอยู่น่ะ แล้วจู่ๆมารุยาม่าก็คว้าตัวเด็กเกาหลีที่หล่นลงมาจากชั้นสองเข้ามาสู่อ้อมแขนได้เลยล่ะ พวกเขาก็เลยพากันย้ายที่ อาราชิก็อยู่ในฝั่งตะวันตก ส่วนรุ่นพี่โคอิจิก็ไม่ได้เข้ากะในวันนั้น” โคคิพูดต่อ คาเมะเหลือบตาจากจานอาหารเช้าขึ้นมองคนพูด

หนุ่มเกาหลีเหรอ? มีนักโทษเกาหลีอยู่ในนี้ด้วยเหรอ?

“ชั้นได้ยินมาว่าสิ่งแรกที่รุ่นพี่โคอิจิจังทำหลังจากที่รู้เรื่องแล้วก็คือวิ่งตรงเข้าไปที่ฝั่งเหนือ” ยูอิจิพูดด้วยรอยยิ้ม

“ไปหาซึโยชิน่ะเหรอ?” จินพูดเดาพลางเปิดยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ขึ้นมา คล้ายๆกับรอยยิ้มที่ฉีกอยู่บนหน้าของยูอิจิ

“ใช่แล้ว” ยูอิจิพยักหน้ารับ “ชั้นยังได้ยินมาว่าซึโยชิเล่นฉวยโอกาสเต็มๆในสถานการณ์อย่างนั้นด้วย”

“.. แล้ววันรุ่งขึ้นรุ่นพี่โคอิจิเดินขากระเผลกมาหรือเปล่า?” จินถามด้วยความตื่นเต้น

“ไม่หรอก ไม่ได้ฉวยโอกาสอะไรมากขนาดนั้น นายยังไม่ได้พลาดอะไรไปหรอกน่า” โคคิพูดล้อ

“ดีแล้ว เพราะถ้าได้เห็นคงเป็นอะไรที่เจ๋งสุดๆไปเลย” จินหัวเราะ

“ชั้นว่าตอนนี้นายก็ตามทันเหตุการณ์ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่นายไม่อยู่แล้วนะ” จุนโนะเอ่ยขึ้น จินก็พยักหน้ารับด้วยสีหน้าครุ่นคิด

“มิยาบิรู้ หมอนั่นรู้ว่าพวกรุ่นพี่จะทำอะไร หมอนั่นรู้ด้วยว่าพวกรุ่นพี่จะพากันแหกคุกหนีแล้วไม่คิดจะเอาพวกเด็กของเล่นไปด้วยแน่ๆ มิยาบิจะถูกทิ้ง หมอนั่นก็เลยเริ่มออกตามหา ‘เจ้านาย’ คนใหม่ด้วยตัวเอง” จินพูดขึ้น “แล้วทำเป็นชอบพูดว่า ชั้นสามารถที่จะดูแลตัวเองได้ฮึ?”

“มิยาบิหนีไปด้วย” ร่างสูงแทบจะหล่นตุ๊บจากเตียงเมื่อได้ยินยูอิจิพูดต่อด้วยรอยยิ้ม “ตอนที่พวกแก๊งพากันหนีไปในทางลับของจอห์นนี่น่ะ เจ้านายของหมอนั่นจู่ๆก็ย้อนกลับมาเอาตัวหมอนั่นไปด้วย เพราะยังงั้นพวกอาราชิก็เลยรู้ว่าพวกรุ่นพี่กำลังแหกคุกหนีไป พวกนั้นก็เลยตามออกไปด้วยเลย อาราชิน่ะโชคดีที่ออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เลยได้สังเกตเห็นมิยาบิกับรุ่นพี่โจชิม่า”

“มัสสุโมโตะโทรมาเพื่อจะอวดเรื่องนี้กับนายด้วยแหล่ะ ก็เลยได้รู้ว่านายอาการโคม่า” อุเอดะกล่าว “นั่นเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ชั้นได้ยินเหมือนมัสสุโมโตะจะสั่นๆ”

“จริงเหรอ?” จินถามเมื่อจู่ๆคิดบางอย่างออกมาได้ “นี่ๆ ถ้าพวกนั้นยังสงสารชั้นอยู่ล่ะก็ เมื่อถึงตอนที่ได้ออกไปแล้ว เราก็คงไม่ถูกพวกนั้นมาเอาคืนในเรื่องที่เราทำกับพวกนั้นในคุกก็ได้น้า!”

“ฝันไปเถอะ” เพื่อนร่วมแก๊งที่เหลือต่างก็พากันตอบตรงกัน

แต่ยังไงจินก็กล้าฝันอยู่ดี

จินยังอยากที่จะเติมเต็มความฝันของเขาให้เป็นจริงด้วย เป็นความฝันที่คาเมะจะได้สังเกตเห็นก็ในอาทิตย์เดียวกันนี่แหล่ะ

“อะไรนี่?” เพื่อนร่วมห้องตัวเล็กถามขึ้นเมื่อเห็นจินยื่นชุดสีขาวให้ในเย็นวันหนึ่ง

“ใส่สิแล้วนายจะได้เห็น” จินยิ้มตรงมาจากเตียงของคาเมะด้วยความหวังอย่างเต็มที่ ร่างบางเพ่งสายตามองไปยังชิ้นส่วนเสื้อผ้าที่จินยัดใส่มือ เมื่อคนตัวเล็กคลี่ผ้าออกมานั้น..จินก็รู้ได้ในทันทีว่าเขาคิดเดาไว้ไม่มีผิดเลยสักนิด ขนาดของชุดตัวนี้พอดีกับขนาดตัวของคาเมะจริงๆ เป็นชุดที่นากายันเคยใส่มาแล้วนั่นเอง

“ชุดนางพยาบาล... ?” คาเมะถามขึ้นเมื่อมองยังชิ้นส่วนเสื้อผ้า ก่อนจะผละสายตาขึ้นมองร่างสูง

จินอยากจะให้เขาใส่ชุดนี้หรือ? จินอยากจะให้เขาเหมือนผู้หญิงหรือไง? คาเมะไม่เข้าใจหลักเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความคิดของจินเลยสักนิด บางทีจริงๆแล้วจินอาจจะชอบผู้หญิงนั่นเอง ...แล้วอีกฝ่ายก็คงคิดถึง อยากจะได้เพื่อนผู้หญิงเพราะไหนๆก็ไม่ได้พบเจอผู้หญิงเลยสักคนมานานตั้งห้าปี

“ชั้นจะดีใจมากเลยนะถ้านายใส่” ร่างสูงพูดขึ้นมา คาเมะทำได้แค่มองตอบ “ได้โปรดเถอะนะ?”

คนตัวเล็กไม่ได้เอ่ยคำใดออกมาทั้งสิ้น แต่สุดท้ายก็ดูจะยอมแพ้แล้วเดินเข้าไปยังหิ้งใส่ของ ร่างบางจัดการแขวนชุดไว้ใกล้ๆกับชุดนักโทษของพวกเขา ก่อนจะเริ่มลงมือปลดกระดุมเสื้อตัวบางออก จินนั่งไขว้ขารออย่างกระตือรือร้น ก่อนจะรู้สึกเจ็บขึ้นมานิดๆเมื่อความเจ็บได้แล่นผ่านมาจากท่วงท่านั้น

เมื่อคนตัวเล็กกำลังจะปล่อยเสื้อตัวบางให้หลุดจากไหล่ลาดเนียนลงมานั้น จู่ๆคาเมะก็หยุดแล้วเหลือบมองจินด้วยแววตาเคลือบแคลง ด้านจินก็มองกลับเช่นกัน

เป็นช่วงระยะเวลาที่แสนจะเงียบเชียบระหว่างสองหนุ่ม ก่อนที่ร่างสูงจะยอมแพ้แล้วเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน

“นายจะบอกให้ชั้นหันหลังกลับทั้งๆที่ชั้นอยู่ในสภาพนี้จริงๆเหรอ?”

ช่วงวินาทีนั้นเองที่คาเมะเหมือนจะตอบออกมาว่า ‘ใช่แล้ว’ หรืออาจจะเพิ่มเสริมเข้าไปด้วยว่า ‘นายลุกขึ้นเดินไปเดินมาทั้งๆที่นายไม่ควรจะทำแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ เพราะงั้นตอนนี้ก็ไม่ควรจะมาบ่นโอดครวญ’ แต่ร่างบางก็ทำแค่หันหลังกลับไป ปล่อยให้เสื้อตัวบางได้เลื่อนหลุดจากไหล่ลงมา

ตอนนี้จินมั่นใจแล้วล่ะ คาเมะทำทีเหินห่างมากขึ้นกว่าเดิมจริงๆ มันไม่ใช่แค่สิ่งที่เขาคิดจินตนาการไปเองแล้วสิ คนตัวเล็กไม่ยอมแม้แต่จะนอนร่วมเตียงเดียวกับเขาอีกต่อไป แล้วในตอนที่คาเมะขึ้นไปนอนบนเตียงบนเรียบร้อยแล้ว จินก็ไม่กล้าที่จะแอบขึ้นไปนอนบนเตียงบนด้วย เขาเคยลองแอบปีนขึ้นไปมาแล้ว แต่พอคนตัวเล็กตื่นนอนในคืนนั้น คาเมะแสดงอาการว่าโกรธมากแล้วก็พยายามที่จะปีนลงมานอนเตียงล่างคนเดียว คาเมะทำให้จินนึกกลัวขึ้นมา...แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จินจะยอมรับออกมาเร็วๆนี้อย่างแน่นอน

มือเล็กบางจัดแจงพับเสื้อตัวบางอย่างประนีตเรียบร้อยก่อนที่จะวางไว้ข้างๆเสื้อพับกองอื่นๆที่อยู่บนหิ้ง มือบางคู่สวยคู่เดียวกันนั้นก็เริ่มที่จะเปลื้องเม็ดกระดุมกางเกงออก แล้วค่อยๆปล่อยให้กางเกงได้เลื่อนหลุดออกจากเรียวขาด้วยทีท่ากระอักกระอ่วนใจ

คาเมะไม่ชอบให้ใครมานั่งดูอยู่อย่างนี้ ..จินเองก็รู้ดี แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะสนุกรื่นรมย์ใจกับการแสดงชุดนี้ยิ่งนัก จากนั้นไม่นานสิ่งเดียวที่เหลืออยู่บนร่างบางก็มีเพียงแต่กางเกงชั้นใน

ตอนนี้คาเมะก็น่าจะรู้แล้วนี่น่า สัญญาณเล็กๆน้อยๆที่เขาเคยแสดงออกมาในตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้นมันก็มากพอที่จะบอกเล่าถึงความรู้สึกที่แท้จริงที่เขามีต่ออดีตเด็กของเล่นคนนี้ แล้วยิ่งการที่เขาเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อคาเมะด้วยแล้ว...มันก็ยิ่งทำให้เห็นได้อย่างชัดเจน คาเมะน่าจะรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร แต่ทำไมคาเมะไม่พูดอะไรออกมาเลย? คนตัวเล็กไม่น่าจะสมองกลวงได้ขนาดนั้น

หรือว่าคาเมะจะตื่นจากเทพนิยายที่สร้างขึ้นมาแล้ว? เมื่อตอนที่เขาได้สวมกอดเพื่อนร่วมห้องตัวเล็กนั้น..มันไม่เหมือนกับว่าเพื่อนร่วมห้องของเขาจะชอบใจเลยสักนิด บางทีการที่ได้พลัดตกมาจากชั้นสองวันนั้นอาจจะทำให้คาเมะช็อค ก็เลยได้รู้ใจตัวเอง

ร่างสูงพยายามข่มใจที่จะไม่ผ่อนลมหายใจออกมา เขาพุ่งความสนใจมองไปยังคาเมะที่สวมใส่เสื้อผ้าตัวใหม่ เขาไม่เคยคิดถึงสิ่งเหล่านั้นจนมากระทั่งวันนี้นี่เอง เมื่อตอนที่ได้ฟื้นขึ้นมานั้น เขารู้สึกมีความสุขอย่างที่สุดที่พวกเขาทั้งสองต่างก็รอดชีวิต แล้วสุดท้ายเขาก็ยินยอมให้ใจตัวเองได้มีความสุขกับการที่ได้อยู่กับคาเมะอีกครั้ง มันน่าขันจริงๆที่ครั้งนี้เขาไม่ใช่คนที่ทำตัวเหินห่างออกมาเลยสักนิด คาเมะกลับเป็นฝ่ายทำเช่นนั้นแทน

ร่างบางหันกลับมาที่จินด้วยชุดสีขาวที่สวมใส่อย่างเต็มยศ ภาพที่เห็นนั้นมากพอที่จะพัดพาความกังวลกลัดกลุ้มต่างๆให้ลอยไปจากใจจินได้ รอยยิ้มอย่างชื่นมื่นแผ่กระจายทั่วเรียวปากอิ่ม แต่คาเมะไม่ได้แย้มยิ้มเลยสักนิด ดูเหมือนว่าความสั้นของกระโปรงจะกวนใจคนตัวเล็กยิ่งนัก

“หมุนให้ชั้นดูสักครั้งสิ” จินพูดเร่ง ร่างบางลังเลใจเล็กน้อย ก่อนจะรีบหมุนตัวอย่างเร็ว “ดีมาก ~ ดูดีมากจริงๆ ชั้นว่าแล้วว่านายต้องใส่ได้สวยกว่านากายัน”

แต่อย่างไร...ตุ๊ตี้ก็คงไม่เห็นด้วยกับเขาในข้อนี้แน่ๆ..

“ชั้นถอดออกได้ยังล่ะ?” คาเมะถามออกมาด้วยความรู้สึกอับอายนิดๆ

“ยังหรอก แต่ชั้นจะถอดออกให้นายเร็วๆนี้แหล่ะ” เมื่อร่างสูงตอบ ก็ถูกอีกฝ่ายมองกลับสีหน้าเข้ม “อะไรกัน? นายไม่อยากเล่นสวมบทอะไรสักหน่อยเหรอ?”

“อาการเจ็บของนายมันดูเกินจริงที่จะเล่นน่ะสิ” คนตัวเล็กพูดขึ้น จินก็ทำปากจู๋ เขาไม่ชอบถูกขัดใจเลยจริงๆ โดยเฉพาะถูกคาเมะขัดใจด้วยแล้ว

“ถ้างั้นลองเล่นแบบอื่นดูไหม?” จินพูดแนะออกมา แต่ก็ไม่สามารถที่จะอ่านได้เลยว่าคาเมะคิดอะไรอยู่

“อย่างเช่นอะไรล่ะ?” ร่างบางเหมือนกลัวที่ถามออกมาด้วยซ้ำ

จินเปิดยิ้มพร้อมทั้งขยิบตาบอกให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ “มาหาชั้นสิ”

คาเมะลังเลที่จะเขยิบเข้าไปใกล้ ร่างบางหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเตียงในระยะที่คิดว่าปลอดภัยดีแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไกลมากพอที่จินจะไม่สามารถเอื้อมมือออกมาสัมผัสแตะต้องอีกฝ่ายได้ นิ้วเรียวยาวโลมไล้ต่ำลงมาตามแนวของชุด

ร่างบางพยายามกลั้นแรงกระตุ้นที่สั่งให้นึกอยากจะปิดเปลือกตาแล้วเอนศีรษะไปด้านหลัง เขาคิดถึงรสสัมผัสจากจินเหลือเกิน เขาไม่อาจคิดภาพได้ว่าตัวเองจะยินยอมให้ใครคนอื่นมาแตะต้องเนื้อตัวได้แบบนี้

เมื่อร่างสูงหยุดมืออยู่ห่างเพียงไม่กี่นิ้วจากช่วงสะดือของคนตัวเล็กนั้น ก็เกิดเสียงครางแว่วหวานที่อีกฝ่ายเฝ้าข่มกลั้นเอาไว้ได้เปล่งออกอย่างทันทีทันใด.. คาเมะรีบกระโดดถอยหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว

“นะ นายจะทำอะไรน่ะ?” ถึงแม้ว่าจินจะเป็นฝ่ายที่กุมอำนาจอยู่ในห้องขังห้องนี้อยู่ตลอดเวลาก็เถอะ แต่คาเมะก็จะไม่ยอมทนแน่ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่จะทำให้จินต้องบาดเจ็บไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ในฐานะเจ้านายของเขาแล้ว..จินก็น่าจะยินดีที่เขาทำเช่นนี้นี่

“อย่าห่วงไปเลยน่า ชั้นจะไม่ทำอะไรมากหรอก” หัวหน้าแก๊งหัวเราะหึๆออกมาจากเตียง รู้สึกรื่นรมย์ใจที่เห็นอาการสนองตอบของร่างบาง “ชั้นก็แค่จะจับลูบๆคลำๆนายนิดหน่อย”

ดวงหน้าของคาเมะเริ่มแดงก่ำขึ้นมาทันที “ไม่นะ แขนข้างหนึ่งของนายยังเจ็บอยู่นะ ชั้นไม่เข้าไปใกล้นายหรอก”

“มานี่เถอะ ชั้นสัญญาว่าจะใช้แค่มือข้างซ้ายพอ” จินส่งเสียงงุ้งงิ้งๆ

“ไม่” คาเมะกล้าที่จะปฏิเสธอีกครั้ง

“ทำไมล่ะ?” จินเปล่งเสียงถาม เขาเกลียดที่จะถูกคาเมะปฏิเสธยิ่งนัก

“เพราะว่า...” ร่างบางเริ่มเรื่องพร้อมกอดอกอยู่เบื้องหน้าอีกฝ่าย เพราะหวังว่าการทำเช่นนี้จะทำให้เขาสามารถทนต่อสายตาที่เอาแต่จะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาไว้ได้ “เพราะว่านายยังบาดเจ็บอยู่น่ะสิ”

“แขนข้างซ้ายของชั้นไม่ได้เจ็บนี่น่า แล้วแขนข้างขวาน่ะก็ไม่เจ็บแล้ว ชั้นนอนพักจนผ่านช่วงร้ายๆนั้นมาแล้ว” จินพยายามโน้มน้าว

“แต่ชั้นไม่อยากให้นายเสี่ยงนี่” คนตัวเล็กค้านออกมา แล้วก็ต้องนึกแปลกใจที่เห็นจินยอมแพ้ ด้วยการเอนหลังลงไปที่เตียงดังเดิม

“งั้นก็ได้ ถ้าชั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ลูบๆคลำๆนายแล้วล่ะก็ นายทำเพื่อชั้นหน่อยได้ไหมล่ะ?” ร่างสูงถามขึ้น คาเมะก็เฝ้ามองสำรวจอีกฝ่ายด้วยทีท่างุนงงสับสน

“อะไรนะ?”

ตอนนี้จินกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? นี่เขาต้องไปบริการอีกฝ่ายหรือ? แต่ตราบใดที่ไม่ต้องใช้ปากทำรักให้ก็คงเป็นพอ

หัวหน้าแก๊งยิ้มเปล่งประกายขึ้นมา “ชั้นก็แค่จะนั่งดูอยู่ตรงนี้ไง นายก็แสดงให้ชั้นดูในทุกสิ่งทุกอย่างที่ชั้นอยากจะทำให้นาย ถ้านายงงหรือไม่รู้ว่าจะทำยังไง ชั้นยินดีที่จะบอกนายนะ”

“อะไรนะ?!”

“ชั้นสัญญาว่าจะไม่แตะตัวนายเลยเอ้า นายก็แค่วาดภาพไปว่ามือของนายน่ะก็คือมือของชั้นเอง แล้วนายก็ทำอย่างที่คิดว่าชั้นจะทำกับนาย-“

“ชั้นจะไปที่เตียง!” คนตัวเล็กประกาศเจตนาออกมาอย่างแน่วแน่ ก่อนจะพาตัวหายขึ้นไปบนเตียงบน ขณะเดียวกับที่ได้ยินร่างสูงเปล่งเสียงค้านในคำพูดของเขา “เพื่อที่จะนอน!” คนตัวเล็กรู้สึกเหมือนกับว่าอย่างไรเขาก็ควรที่จะพูดเสริมเพื่อให้ทุกอย่างดูแจ่มแจ้งระหว่างเขากับจินเสีย

อย่างไรจินก็ไม่สามารถเก็บไม้เก็บมือไว้กับตัวได้แน่ แล้วไม่มีทางที่เขาจะยอมทำอะไรที่น่าอายแบบนั้นได้ เขาจะไม่ยอมทำอะไรที่มันดูโจ่งครึ่มแล้วมีจินนั่งดูอยู่อย่างนั้นแน่

“เอาน่า~” ร่างสูงร้องโอดครวญมาจากเตียงล่าง “เราไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลยนะ!”

คาเมะไม่ได้ตอบกลับ แล้วเพียงไม่นานร่างบางก็ได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างหนักหน่วงดังก้องมาจากเตียงล่าง

“สักวันชั้นจะให้นายทำให้ได้เลย..” จินพูดขู่ “...ครั้งหน้าที่นายก่อเรื่องอีกล่ะก็..”

continue here ยังไม่จบคะ อ่านต่อตรงนี้คะ
Previous post Next post
Up