ชั้นจะไม่อยู่นานพอที่จะไปก่อเรื่องได้หรอก ร่างบางดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมเรียวขาที่เปลือยเปล่า จากนั้นทั้งสองเตียงก็ตกอยู่ในความเงียบกริบ
ร่างสูงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ได้แต่เฝ้ามองไปยังเพดานด้านบนของเตียง
มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร? ก่อนที่เขาจะนอนสลบหลับไหลอยู่ตั้งอาทิตย์หนึ่งนั้นคาเมะเป็นฝ่ายที่เข้ามาหาเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าจะเป็นการมาเพื่อแก้ไขในเรื่องที่จินปกปิดเอาไว้เมื่อตอนที่เขาโยนคนตัวเล็กออกจากห้องไป ไม่ก็มาหาเพื่อเซ็กส์... หรือไม่ก็เป็นฝ่ายที่เข้ามาใช้แขนโอบรอบคอของเขา ...จูบเขา... จากนั้นก็ขอกลับมาที่ห้องนี้อีกครั้ง...
เกิดเรื่องอะไรในตอนที่เขาไม่อยู่? มันไม่ยุติธรรมเลย ก่อนที่จะเกิดเรื่องยุ่งๆพวกนั้นขึ้นมา...เขากำลังจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับคาเมะอยู่แล้วเชียว พอหลังจากนั้นก็ต้องตื่นมาเจอเรื่องแบบนี้งั้นหรอ?
จินไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรดี เขารู้ดีว่านี่อาจจะเป็นโอกาสดีในการที่จะร่วมเล่นไปด้วยเสียเลย ด้วยการทำตัวห่างเหินพอๆกัน แต่ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างทำให้เขาอยากที่จะโยนความคิดนั้นทิ้งไป แล้วทำตัวใกล้ชิดกับคาเมะอีกครั้ง เหมือนที่พวกเขาเคยเป็น ....ก่อนหน้าที่เขาจะต้องปล่อยสิ่งที่หวงแหนเพียงสิ่งเดียว...และคนเดียวที่นึกห่วงใยมากที่สุดให้ต้องจากไป ...
เมื่อมาถึงจุดๆหนึ่ง....ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับเด็กของเล่นนั้นเริ่มจะแปรเปลี่ยนความหมาย พวกเขาทั้งสองเริ่มจะกลายเป็นเหมือนคนรักกันจริงๆ ตลอดเวลาที่อยู่ในคุกนี้....ช่วงเวลาเหล่านั้นเป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุขมากที่สุด แล้วเขาก็ต้องการมันกลับคืน
นี่พวกเขาสูญเสียโอกาสนั้นไปแล้วหรือ? โอกาสเพียงโอกาสเดียวที่พวกเขาจะสามารถใกล้ชิดกันอย่างคู่รักให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เขารู้ว่าเขาทำร้ายคาเมะ เขารู้ว่าเขาทำร้ายคาเมะมาโดยตลอดด้วยการที่อยู่ใกล้คนตัวเล็ก คาเมะควรจะได้อยู่คนเดียวเพื่อจะได้มีเวลาคิดตรองเรื่องต่างๆได้อย่างถ้วนถี่ นั่นเป็นสิ่งที่คนตัวเล็กไม่สามารถทำได้เมื่อมีจินอยู่ร่วมในห้องขังเดียวกัน ..คาเมะคงไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้เมื่อยามที่มีจินอยู่ตรงหน้า เพราะจินมักจะทำให้ต้องสับสนอยู่เรื่อย แล้วที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ อีกฝ่ายคงคิดอะไรไม่ออกแน่ถ้าจินยังคงมีเซ็กส์กับร่างบางอยู่ร่ำไป
แต่ในระยะเวลาหนึ่งเดือนครึ่งที่ได้อยู่ด้วยกันคงไม่สามารถทำให้คนตัวเล็กได้รับอันตรายอย่างใดแน่ ..ถ้าเทียบกับหนึ่งปีครึ่งที่ได้อยู่ด้วยกันมาแล้ว
บางทีเขาคงเริ่มเห็นแก่ตัว แต่ในช่วงวินาทีที่เกิดอุบัติเหตุนั้นเองที่เขาเพิ่งตระหนักได้ว่า...เขาอยากเลือกที่จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ในคุกนี้ด้วยการที่มีคาเมะอยู่เคียงข้าง....มากกว่าที่อยู่อย่างไม่มีอีกฝ่ายข้างกาย...ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเช่นไรก็ตาม
เสียงเอี๊ยดอ๊าดจากเตียงบนดังขึ้นเมื่อคนตัวเล็กขยับเขยื้อนตัว จินได้แต่จ้องมองไปยังเจ้าสิ่งที่แบ่งแยกเตียงพวกเขาออกจากกัน
เมื่อไหร่กันที่บทบาทของพวกเขาได้แปรเปลี่ยนไป? ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขากลับกลายมาเป็นเด็กของเล่นที่ป่วยเป็นไข้ใจเหมือนเด็กคนก่อนๆของเขาเอง แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เพื่อนร่วมห้องกลับกลายมาเป็นเจ้านายเขาได้ กลับกลายเป็นคนที่จินไม่สามารถจะไขว่คว้าได้เลย? ตอนนี้จินรู้สึกเหมือนว่าตัวเขาเองเป็นฝ่ายที่โลดแล่นไปตามจังหวะที่คาเมะเป็นผู้กำหนด
ร่างสูงถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ก่อนที่จะยกแขนข้างขวาขึ้นวางก่ายที่หน้าผาก... เขาคงต้องคอยดูอาการที่คาเมะแสดงออกเมื่อยามที่อีกฝ่ายอยู่ข้างตัว ไม่ช้าก็เร็วร่างบางจะต้องแสดงสัญญาณอะไรบางอย่างที่บ่งบอกว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าความพฤติกรรมนี้จะเป็นผลลัพธ์ที่มาจากความรู้สึกผิด หรือว่าจะเป็นการฟื้นขึ้นมาจากอาการโคม่าที่คนตัวเล็กนอนอยู่ในนั้นมาตลอดช่วงระยะเวลาที่อยู่ในคุกนี้
゚♡゚・。♥。・゚♡゚・。♥。・゚♡゚
“นายไปเอาชุดนี้มาจากไหน?” นั่นคือคำถามแรกที่เพื่อนในแก๊งถามขึ้นในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น เมื่อยามที่พวกเขาทอดสายตามองไปยังคาเมะที่ยังอยู่ในชุดนางพยาบาล ภายใต้สายตาทุกคู่ที่มองมานั้นเริ่มจะทำให้คาเมะรู้สึกไม่สะดวกสบายใจ
“จากนากายันจัง~” จินบอกออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ทำไมหมอนั่นถึงยอมให้ชุดนี้กับนายล่ะ?” โคคิยังถามต่อ
“ก็เพราะว่าชั้นขอไปน่ะสิ ชั้นขอตอนที่หมอนั่นมาตรวจอาการแล้วให้ยาไปเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง ชุดนี้เป็นชุดเก่าของนากายัน แล้วหมอนั่นก็ไม่ได้ใส่อีกแล้วด้วย เป็นชุดแรกที่หมอนั่นได้ด้วยนะ มันก็เลยพอดีตัวคาเมะเป๊ะเลย นายว่าไหม?” หัวหน้าแก๊งพูดขึ้น ไม่ยอมที่จะถอนสายตาห่างจากคนตัวเล็กได้เลย แล้วการที่ถูกจินจดจ้องอยู่แบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้คาเมะรู้สึกสบายใจเลยสักนิด
“ถ้ายังงั้นทำไมหมอนั่นถึงยอมให้ชุดนี้กับนายล่ะ?” โคคิถามอีกครั้ง จินก็ได้แต่แสยะยิ้ม
“เอาเป็นว่าถ้าให้ชั้นยืมมันก็เป็นผลดีกับหมอนั่นแล้วกันนะ....”
“นี่นายไปแบล็กเมย์เขามาล่ะสิ?” อุเอดะพูดพลางถอนหายใจ จินก็มองตอบด้วยท่าทีใสซื่อ
“ชั้นบอกไปว่า เขาเองก็คงจะมีอยู่ตั้งหลายชุด ก็คงจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าจะต้องขาดไปแค่ชุดเดียว แล้วชั้นก็จะไม่บอกใครต่อใครว่าชั้นรู้อะไรมาบ้างเมื่อตอนที่ชั้นตื่นขึ้นมา” หัวหน้าแก๊งตอบ
“ซึ่งนายก็คงจะเอาไปพูดอยู่ดี...” โคคิถอดใจ “เพราะยังไงนายก็คงปิดปากเงียบไม่ได้แน่”
“นากายาม่าผู้น่าสงสาร...” จุนโนะเอ่ยขึ้น รู้สึกเสียใจไปกับคุณหมอคนโปรดในคุกนี้ไปด้วย... ตุ๊ตี้เองก็เป็นคุณหมอคนโปรดของเขาด้วยเช่นกัน
“ยังไงก็เถอะน่า ชั้นให้คาเมะสัญญาว่าจะสวมชุดนี้ทุกวันในช่วงที่เราต้องถูกขังอยู่แต่ในฝั่งนี้” จินพูดต่อ แต่คาเมะก็ดูไม่ตื่นเต้นเหมือนที่เพื่อนร่วมห้องรู้สึกเลยสักนิด
คาเมะจะปฏิเสธได้อย่างไรเมื่อจินมีทีท่าเหมือนคนบอบช้ำขนาดนี้ แล้วจินยังถูกผ้าพันแผลพันรอบอยู่อย่างนี้ไม่มากก็น้อย? คาเมะนั่งลงข้างตัวจินบนเตียงชั้นล่าง พยายามทำไม่สนใจกับชุดแปลกๆที่ถูกฝืนใจให้ต้องสวมอยู่ แล้วเริ่มที่จะช่วยป้อนข้าวปั้นให้อีกฝ่าย ขณะที่มือข้างที่ไม่เจ็บของร่างสูงก็แอบสอดไปด้านหลังเอวบางเพื่อดึงร่างคนตัวเล็กให้เข้ามาใกล้
อีกหลายวันที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนั้นด้วย คนตัวเล็กยังคงสวมใส่ชุดของนากายัน เขาเริ่มจะรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นนางพยาบาลให้จินจริงๆเสียแล้ว ร่างบางทำทุกอย่างให้จิน ทั้งป้อนข้าวป้อนน้ำ พาไปนอน ป้อนยา อยู่เป็นเพื่อนอีกฝ่าย หรือแม้แต่ช่วยทำความสะอาดร่างกายให้ ซึ่งพวกเขาก็ต้องพากันไปชำระล้างที่ห้องน้ำเล็กๆที่อยู่ในห้องขังนั่นเอง เพราะไหนๆก็ไม่ได้ออกไปจากฝั่งเพื่อชำระร่างกายในห้องน้ำที่มีฝักบัวตั้งมากมายหลายอันนั่นแล้ว
คาเมะนึกกลัวไปล่วงหน้าว่าถ้าประตูห้องขังเปิดแล้วพวกเขาได้รับอนุญาตให้ไปอาบน้ำที่นั่นอีกครั้ง ตัวเขาก็คงจะต้องได้ตามเข้าไปอาบน้ำให้จินในห้องน้ำด้วยแน่ๆ ...แล้วจินก็มักจะเกิดความคิดแปลกๆพิสดารในตอนที่อยู่ในนั้นร่ำไป..แต่ถึงอยู่ที่อื่นอีกฝ่ายก็ยังคิดสรรหาได้อยู่ดีแหล่ะ
จินไม่เข้าใจเลยสินะ
จริงๆแล้วจินเองก็เริ่มจะเข้ามาหาเขามากขึ้นมากขึ้น ไม่ว่าคาเมะจะทำท่าทีตอบกลับไปเล็กน้อยเพียงไร อีกฝ่ายก็ยังคงชอบสอดแขนมาโอบรอบเอวบาง พยายามที่จะทำให้เขาอยู่ด้วยที่เตียงล่าง บางคืนคาเมะก็ไม่อาจจะทำเสียงแข็งแล้วพูดปฏิเสธได้เลย สุดท้ายก็เลยได้ใช้ค่ำคืนร่วมกับจิน...แต่ก็ในแบบที่สวมใส่เสื้อผ้าครบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จินก็ดูจะพออกพอใจที่ได้บอกให้ร่างบางทำอะไรเพื่อตัวเองได้ด้วย การแสดงสวมบทบาทนางพยาบาลเหมือนเป็นการปลุกอารมณ์เพื่อนร่วมห้องจริงๆ แล้วตอนนี้มันก็ดูจะแย่ยิ่งกว่าเดิมแล้วสิ
“หูยย ผ้าที่พันรอบอกชั้นเปียกมากจริงๆ สงสัยจะเปียกตอนที่เราล้างตัวกันน่ะ” จินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ในเย็นวันหนึ่ง ก่อนจะส่งสายตามองลงมายังคนตัวเล็กที่กำลังวุ่นอยู่กับการใช้ผ้าขนหนูเช็ดลำตัวด้านบน เพราะจินไม่สามารถทำเองได้นั่นเอง จินใช้มือข้างที่ว่างยันผนังห้องเอาไว้เพื่อช่วยในการทรงตัว “คาซึจัง ช่วยชั้นเปลี่ยนผ้าพันแผลหน่อยได้ไหม? ชั้นว่านากายันคงทิ้งผ้าพันแผลสำรองเอาไว้ที่ไหนสักแห่งนี่แหล่ะ...”
คาเมะแขวนผ้าขนหนูไว้ยังอ่างล้างหน้าอันเล็ก “อยู่ในหิ้งน่ะ” ร่างบางพูดขึ้นพลางเดินเข้าไปหยิบผ้าพันแผลที่วางอยู่ระหว่างเสื้อผ้าของพวกเขามาห่อหนึ่ง
คาเมะเดินกลับไปหาจิน ก่อนจะค่อยๆยกมือขึ้นปลดผ้าพันแผลที่พันอยู่รอบอกกว้างประมาณฟุตหนึ่งออกมาอย่างช้าๆ เมื่อร่างบางได้เริ่มปลดผ้าพันแผลออกจากร่างหนานั้น ผิวเนื้อที่ซ่อนอยู่ภายในก็เริ่มจะปรากฏให้เห็นแก่สายตา
เมื่อได้ถอดและดึงผ้าพันแผลทั้งหมดมาถือไว้ในมือ เรียวตารีเล็กก็เบิกกว้างขึ้นในทันที เขาไม่เคยเห็นรอยแผลเป็นบนร่างจินมาก่อน เท่าที่ผ่านมาก็มีแต่ตุ๊ตี้และนากายันเท่านั้นที่เป็นคนเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ ร่างบางไม่เคยได้เห็นว่าอาการที่แท้จริงของจินเป็นเช่นไร อกกว้างที่เขาชื่นชมหลงใหลอยู่เสมอมายังคงมีรอยแผลแล้วก็รอยช้ำจางๆอยู่บ้าง
สายตาของคนตัวเล็กไล่มองทั่วร่างของคนที่อยู่ตรงหน้า เขาเป็นคนทำให้จินเป็นเช่นนี้
“ชั้นอยากจะอาบน้ำแบบจริงๆสักที” ร่างสูงพูดพลางถอนหายใจ ก่อนจะปลุก..หรือแทบจะเรียกว่าเขย่าคนตัวเล็กให้กลับเข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริง คาเมะรีบร้อนพันผ้าพันแผลที่อกกว้างของจินทันที
“ถ้าชั้นพันแน่นไปให้บอกมาน่ะ” คนตัวเล็กร้องบอกขณะที่กำลังพันผ้าพันแผลทบอีกรอบ
ร่างสูงส่งยิ้มให้มา “แน่นกว่านี้อีก~” อีกฝ่ายพึมพำบอก คาเมะส่งสายตามองที่ร่างสูงแวบหนึ่ง ...เพราะรู้สึกเหมือนว่าน้ำเสียงของจินคลับคล้ายคลับคลาจะเป็นคำถามมากกว่าคำบอกเล่า ...แต่ร่างบางก็ทำตามอีกฝ่ายด้วยการพันให้แน่นกว่าเดิมเล็กน้อย “แน่นกว่านี้อีก~”
คาเมะทำตามอีกครั้ง
“โอ๊ย แน่นไปแล้ว”
“ขอโทษนะ” ร่างบางเอ่ยคำขอโทษ ก่อนจะคลายผ้าออกไม่ให้แน่นมากเกินไป ร่างบางแอบเหลือบมองว่าอีกฝ่ายทำสีหน้าท่าทางแสดงอาการเจ็บปวดออกมาบ้างหรือไม่ เพราะถ้าจินทำแบบนั้นก็แสดงว่าเขาพันผ้าแน่นเกินไป แต่เมื่อเหลือบมองอีกฝ่าย..ก็กลับพบกับสายตาอบอุ่นที่ส่งตรงมาให้ จินคอยเฝ้ามองเขาด้วยสีหน้ารื่นเริงใจอยู่นั่นเอง
“ขอบคุณนะ” จินพึมพำบอก ก่อนที่จะเอนตัวลงไปเพื่อจูบอย่างแผ่วเบาที่แก้มเนียน
คาเมะดึงตัวออกห่างเล็กน้อย ก่อนจะยึดผ้าพันแผลติดเข้าด้วยกันเพื่อกันหลุด “นายรู้เปล่าว่าชั้นไม่ชอบให้นายลุกขึ้นยืนเลย” ร่างบางพูดพล่ามอะไรบางอย่างที่ตั้งใจจะให้มันฟังดูเข้าที ขณะเดียวกันก็พยายามเลี่ยงที่จะมองจิน
“งั้นกลับไปที่เตียงกันนะ...”
ร่างบางหยุดนิ่งในสิ่งที่ทำอยู่ เขารู้น้ำเสียงแบบนี้ดีเลยล่ะ
คาเมะลังเลนิดๆที่จะมองไปที่จิน แต่เมื่อได้มองไปนั้นเขากลับพบว่าอีกฝ่ายยังคงเอนตัวเข้ามาหา จากนั้นไม่นานริมฝีปากอิ่มของจินก็ตรงเข้ามาประกบเขาในทันที
ดวงตาของคาเมะค่อยๆปรือ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงเป็นการสนองตอบ ในขณะที่เฝ้าบอกกับใจตัวเองว่าเขาไม่ได้เต็มใจเลยสักนิด
ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กันนะที่จินจูบเขา? อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในตอนที่ร่างสูงกลับมาอย่างแน่นอน คาเมะแน่ใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี ....เขาพยายามทำตีหน้าเคร่งทำทีไม่ใส่ใจมาตลอด แต่ความพยายามนั้นก็ไม่เป็นผลสำเร็จแต่อย่างใด เพราะรู้สึกได้ว่าร่างกายนี้เริ่มจะทรยศเหมือนทุกครั้งที่เกี่ยวกับจิน
มือข้างซ้ายของจินที่ใช้ยันผนังห้องเมื่อก่อนหน้านี้ มาตอนนี้มือข้างนั้นกลับตรงเข้ารั้งร่างบางให้เข้าชิดกายหนาที่อยู่ตรงหน้า ถึงแม้ว่าคนตัวเล็กจะกลัวนักหนากับการที่จะถูกเนื้อต้องตัวให้อีกฝ่ายต้องเจ็บ แต่เมื่อได้มาใกล้ร่างกายส่วนบนของจินด้วยแล้ว เขาก็ไม่อาจจะถอยห่างออกไปได้เลย
ร่างสูงดันร่างเล็กให้เดินถอยหลังกลับเข้าไปในทิศทางที่เตียงตั้งอยู่ คาเมะก็ยินยอมโดยดี ..แม้จะไม่แน่ใจว่าที่ยินยอมนั้นเพราะเขาอยากจะให้จินได้เอนตัวนอนลงกับเตียง หรือเพราะอยากจะให้จินได้เอนตัวพวกเขาทั้งสองลงไปนอนด้วยกัน มันคงต้องจบลงไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่แล้ว สุดท้ายก็จบท้ายด้วยการที่เขาเป็นฝ่ายนอนอยู่ใต้ร่างจินนั่นเอง
เสียงร้องครางเสียงหวานดังลอดมาจากเรียวปากบางอย่างง่ายดาย แล้วจู่ๆคาเมะก็รับรู้ได้ทันทีว่ามือของจินนั้นกำลังโลมเลียอยู่ทั่วเรียวขาที่เปลือยเปล่า ก่อนจะเริ่มไล้สูงขึ้นไปยังสะโพกผาย ด้วยหวังที่จะแอบลับหายเข้าไปในเสื้อตัวบางเป็นลำดับต่อไป
ต่อเมื่อแขนข้างขวาที่เจ็บได้สอดเข้าไปโอบรอบแผ่นหลังนั้น คาเมะรีบกระถดตัวออกห่างพร้อมดึงตัวหนีในวินาทีนั้นเอง
จินมองมาที่เขา แต่ร่างสูงก็ยังไม่ยอมดึงตัวออกห่างแม้จะรับรู้ได้ถึงอาการสนองตอบ และแรงต่อต้านจากร่างบาง จินไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
“ชั้น...ชั้นคิดว่าเราน่าจะนอนกันได้แล้วนะ” คาเมะตะกุกตะกักบอกออกมา คนตัวเล็กไม่ได้ให้เวลาอีกฝ่ายมากนัก ก่อนที่จะรีบพาตัวออกจากใต้ร่างของจิน ตะเกียกตะกายไปที่ราวบันไดแล้วปีนป่ายหนีหายขึ้นไปบนเตียงบนโดยที่ไม่ยอมเหลียวกลับมามองที่จินอีกเลย
คาเมะกลั้นลมหายใจเมื่อทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสงัด ร่างบางรู้ว่าจินไม่ได้ยินดีกับผลลัพธ์แบบนี้แน่นอน แต่เขาเกรงกลัวกับผลลัพธ์ของเช้าวันถัดไปมากกว่า ถ้ายังยินยอมอีกฝ่ายไม่ต่อต้านออกมาแบบนี้อาจจะทำให้จินต้องเจ็บหนักมากกว่าเดิม
มือเล็กๆสั่นไหวนิดๆเมื่อได้ลูบไล้อยู่บนเรียวปากสีกุหลาบ
การที่ได้รู้เห็นในอาการของจินนั่นเองที่ทำให้คาเมะไม่ยินยอมให้มีอะไรเกิดขึ้น เขาหนีออกมาได้ แต่ก็ไม่แน่ใจนักว่าจะสามารถสู้เพื่อถอยห่างจากจินได้มากขนาดไหน จินเริ่มจะทำอะไรได้มากขึ้นเพราะอาการที่กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ
คาเมะรู้ดีว่าเขาควรจะถอยออกมาก่อนที่ความสัมพันธ์นั้นจะเริ่มออกนอกลู่นอกทาง แล้วจบลงที่ใครสักคนต้องเจ็บตัวอีกครั้ง
คาเมะข่มตานอนแทบไม่หลับเลยสักนิด เขาได้แต่หวังว่าเขาจะสามารถมีความสุขได้ในเวลาอย่างนี้ ...จินฟื้นขึ้นมาแล้ว แล้วก็ยังมีชีวิตอยู่ ทำไมจะต้องมีอะไรบางอย่างที่ไม่เป็นดังที่วาดหวังอยู่เรื่อย?
ร่างบางกลัวอยู่นิดๆว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างในเช้าของวันนี้ ...จากนั้นไม่นานแสงแห่งดวงอาทิตย์ก็เริ่มจะสอดแสงเข้ามาในห้องของพวกเขาได้อย่างรวดเร็วเหลือเกิน สิ่งแรกที่คาเมะเห็นขณะที่กำลังก้าวลงจากบันไดก็คือใบหน้าเปิดยิ้มแบบบื้อๆของจิน อีกฝ่ายนั่งจุ๊มปุ๊กอยู่บนเตียงล่างเรียบร้อยแล้ว
“สวัสดีตอนเช้า” จินทักพลางหาวหวอดๆ
“สวัสดีตอนเช้า” คาเมะแทบจะไม่ทันได้ตอบ เมื่อจู่ๆก็เกิดเสียงดังขึ้นจากทางประตูห้องขัง จากนั้นประตูห้องก็เปิดออกกว้าง ไม่นานนัก TTUN ต่างก็มารวมตัวกันอยู่ที่ห้องของพวกเขา แล้วทั้งหกหนุ่มก็เริ่มลงมือทานข้าวเช้า ซึ่งการมาพบปะและทานอาหารร่วมกันก็เหมือนจะกลายเป็นกิจวัตรสำหรับพวกเขาไปแล้ว
มันเหมือนจะกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของคาเมะที่ต้องช่วยป้อนข้าวปั้นให้จิน ซึ่งในเช้าวันนี้ ร่างบางก็ช่วยป้อนให้อีกฝ่ายเหมือนเช่นเคย
“อ๊า นี่คือสวรรค์ชัดๆ~” จินพูดพลางถอนหายใจออกมาด้วยความสุข อีกฝ่ายจัดการกับข้าวปั้นเสร็จสรรพก่อนที่จะเอนหัวลงนอนหนุนตักคนตัวเล็ก
“สวรรค์งั้นเหรอ?” สมาชิกที่เหลือดูจะไม่ได้มีความรู้สึกร่วมไปด้วยสักนิด พวกเขาไม่เข้าใจว่าการที่ถูกต้องโทษจำคุก แถมยังไม่สามารถเดินว่อนไปไหนมาไหนได้ ต้องมาติดแหง่กอยู่ในฝั่งของตน ต้องมากินอาหารของเรือนจำ แบบนี้แล้วมันจะมีอะไรไปเทียบชั้นกับสวรรค์ได้
จินแสยะยิ้มกว้างจากที่นอนหนุนตักนุ่ม มือก็เฝ้าหยอกเย้าอยู่ตรงชายกระโปรงที่ 'เด็กของเล่น' คนโปรด สวมใส่อยู่ “ชั้นน่าจะตกจากชั้นสองบ่อยกว่านี้เนาะ”
“แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว” คนในแก๊งต่างก็พึมพำออกมา คาเมะเองก็เห็นด้วยกับคนในแก๊ง
“นายน่าจะไปนั่งบนเตียงนะ ตรงนั้นน่ะทั้งนุ่มแล้วก็สบายกว่าตั้งเยอะนี่?” อุเอดะพูดบอกหัวหน้าแก๊งที่กำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนพื้นห้องและบนตักของคาเมะ
“นายประเมินค่าความนุ่มและสบายของเตียงในคุกมากไปแล้ว” จินส่งเสียงงึมงำลอดมาจากบนพื้นห้อง น้ำเสียงของร่างสูงยังฟังดูมีความสุข อุเอดะอดไม่ได้ที่จะไปดึงหัวหน้าแก๊งให้ลุกขึ้น
จินพึมพำขณะที่ต้องจำใจลุกขึ้นนั่ง ครั้งนี้น้ำเสียงไม่ได้ดูมีความสุขนัก
“ถ้างั้นวันนี้พวกเราจะทำอะไรกันดีล่ะ?” ร่างสูงถามขึ้น มือข้างที่แข็งแรงก็แอบสอดเข้าไปโอบรอบเอวบาง ทำให้คนตัวเล็กต้องสั่นสะท้านจากแรงสัมผัสนั้น คาเมะดูเหมือนจะสติสตังไม่อยู่กับตัวนักในเช้านี้..อาจเพราะผลจากเมื่อคืนนั่นเอง อารมณ์ของร่างสูงสว่างไสวขึ้นมาทันตาเมื่อคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืน เขาเกือบจะได้รับความเห็นใจจากคนตัวเล็กอยู่แล้วเชียว แค่อีกนิดเท่านั้นคาเมะก็จะยอมเป็นของเขาแล้ว ถ้าเพียงแต่จะสามารถทลายกำแพงที่ร่างบางสร้างขึ้นในตอนที่เขาไม่อยู่ลงไปได้ ถ้าอย่างนั้นแล้วคาเมะก็จะเปลี่ยนท่าทีที่แสดงออกมาเอง
“อ่ะ แล้วพวกเราชอบทำอะไรล่ะ?” ยูอิจิตอบ “ก็ไม่เห็นจะทำอะไรกันมาก นอกจากจะช่วยกันห้ามนายไม่ให้อารมณ์เตลิดไป แล้วก็...ไม่ได้ทำอะไร..จากนั้นก็กินเยอะๆ ฝึกซ้อมนิดๆ แล้วก็นอน”
“ชั้นไม่ต้องการให้พวกนายมาเฝ้าชั้นหรอก ชั้นมีคาเมะจังคอยเฝ้าดูแลชั้นอยู่แล้วนี่” ร่างสูงตอบ เรียวนิ้วยาวยังคงคลึงเคล้นอย่างแผ่วเบาอยู่รอบเอวบาง เหมือนเป็นการส่งสารบอกคนตัวเล็กว่าเขาอยากจะแหวกมันออกแล้วล่ะ
“นั่นแหล่ะที่เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเราต้องคอยช่วยไม่ให้นายเตลิด” โคคิพึมพำบอก ท่าทางมีความสุขกับข้าวปั้นก้อนสุดท้าย “แล้วนายเสียอีกที่เป็นคนเฝ้าดูคาเมะจังน่ะ ยิ่งคาเมะจังใส่ชุดนี้แล้วยิ่งแล้วใหญ่”
“อย่าอิจฉาที่คาเมะใส่ชุดนี้ได้สวยกว่าเพื่อนร่วมห้องของนายสิ อีกอย่างนะ พวกนายไม่ต้องมานั่งเล่นในนี้หรอก ชั้นแน่ใจว่าชั้นกับคาเมะจังคงจะคิดหาอะไรๆสนุกทำกันได้ ยิ่งคาเมะยังใส่ชุดนี้ด้วยแล้วล่ะก็...” หัวหน้าแก๊งหัวเราะร่า ก่อนจะก้มลงไซร้ซอกคอขาวเนียน อีกฝ่ายก็ได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อเพราะรสสัมผัสนั้น
จินเริ่มจะไล่ตามร่างบางมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขามักจะสื่ออะไรบางอย่างให้กันและกันด้วยคำพูด แต่ก็ไม่เคยจะพูดกันออกมาดังๆ ดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะเป็นเกมสำหรับจิน แล้วเท่าที่คาเมะรู้เกี่ยวกับอีกฝ่ายนั่นก็คือ หัวหน้าแก๊งจะทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะเกมนั้นให้ได้
เขาทำเช่นนี้อีกต่อไปไม่ได้แล้ว เขาควรจะให้มันจบลงได้เสียที ก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะไปจบที่เตียงกันอีก คนในแก๊งคงไม่สามารถห้ามไม่ให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกันตลอดไปแน่ อีกไม่นานจินก็จะฟื้นตัวเป็นอย่างดี และพวก TTUN เองก็คงพูดห้ามปรามจินในเรื่องที่อีกฝ่ายจะทำอะไรๆกับเด็กของเล่นไม่ได้แน่
ถึงจินจะเป็นฝ่ายกุมอำนาจทุกอย่างไว้ในมือ แต่ก็ยังมีอยู่อย่างหนึ่งที่คาเมะสามารถที่จะพูดได้ในเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา..ก็เรื่องที่ว่าจะจบมันลงหรือไม่ดียังไงล่ะ...
“ชั้นจะไม่ทำ” เสียงหัวเราะของจินเหือดหายไปทันที ก่อนที่จะมองไปยังคาเมะด้วยทีท่าแปลกใจ
“ก็เอ่อ..นายไม่ต้องทำก็ได้นี่...” จินตอบออกมา สมาชิกที่เหลือในแก๊งต่างก็มองไปยังคาเมะด้วยทีท่าแปลกใจพอๆกัน ขณะเดียวกับที่ร่างบางจัดการวางข้าวปั้นที่กัดกินไปครึ่งก้อนลงบนจาน
“ชั้นหมายถึงว่า ...ชั้นเองก็ไม่ได้...” จินพูดเสริม
“ไม่ใช่ ชั้นไม่ขอทำอะไรกับนายอีกต่อไป” คนตัวเล็กพูดออกมาอย่างชัดแจ้ง เขาคงเป็นคนเดียวในห้องนี้กระมังที่ไม่ได้มีเครื่องหมายคำถามผุดขึ้นบนใบหน้า ร่างบางพยายามที่จะข่มสีหน้าให้ดูเยือกเย็น ไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาทั้งสิ้น พยายามที่จะเก็บกลั้นอารมณ์ต่างๆไว้ภายใน คาเมะช้อนตาขึ้นมองสบกับดวงตาที่เต็มไปด้วยอาการประหลาดใจของจิน
“ชั้นขอปฏิเสธที่จะเป็นเด็กของเล่นของนายอีกต่อไป” คาเมะพูดต่อ ฝ่ายตรงข้ามก็ดูเหมือนกำลังคิดหาคำพูดเหมาะๆออกมาให้ได้ในวินาทีนี้
“ห๊ะ นายพูดเรื่องอะไรน่ะ?” เป็นเพียงแค่คำพูดที่ฉลาดที่สุดที่เพื่อนร่วมห้องจะสามารถคิดพูดออกมาได้ คาเมะเบี่ยงตัวจากวงแขนเพื่อลุกขึ้นยืน
“ชั้นว่าถ้าชั้นไม่ได้อยู่ในห้องของนาย แบบนั้นมันคงดีที่สุดแล้ว” คาเมะพูดต่อ
“คาเมะจัง? เป็นอะไรไปเหรอ?” ยูอิจิถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่โคคิรีบดึงแขนอีกฝ่ายเป็นการบอกไม่ให้เข้าไปแทรก
“ทำไมล่ะ?” จินถามพลางจ้องสำรวจร่างบาง “เป็นเพราะชุดนางพยาบาลนี่เหรอ?”
“คาเมะจังคงจะรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดกับนายน่ะ..” อุเอดะพูดขึ้น ร่างสูงเหลือบตามองเพื่อนร่วมแก๊งเพียงแว่บเดียว ก่อนจะมองกลับไปที่คาเมะอีกครั้ง
“จริงหรือ?” จินถามขึ้น เพราะเรื่องนี้น่ะหรือ? ความรู้สึกผิด?
“นายไม่บังคับฝืนใจใครใช่ไหม? ก่อนหน้านั้นชั้นยอมเป็นเด็กของเล่นของนายก็จริง แต่ตอนนี้ชั้นขอคืนคำ” คาเมะทำเมินกับคำถามที่อีกฝ่ายถามขึ้น “นายจะโยนชั้นออกไปหรือจะเลิกปกป้องชั้นก็ได้ ชั้นไม่สนหรอก ชั้นขอจบข้อตกลงระหว่างเรา”
เรียวปากอวบอิ่มเผยอออกมาเพียงนิดๆ ข้อตกลงงั้นเหรอ? นี่คาเมะคิดว่าการที่เขารับตัวคาเมะกลับมาที่ฝั่งนี้ก็เพื่อให้เป็นเด็กของเล่นอีกน่ะเหรอ?
คาเมะจะทำอย่างไรถ้าเขาจะบอกออกไปว่านั่นไม่ใช่ความตั้งใจของเขาเลยสักนิด?
จินมองสำรวจคนตัวเล็ก มือบางๆนั้นกำแน่น ช่วงเข่าก็ดูจะเริ่มสั่นได้ทุกเมื่อ
ไม่สิ นั่นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้คาเมะขุ่นเคืองใจแน่ ความจริงในข้อที่คาเมะคิดว่าตัวเองกลับมาที่นี่เพื่อเป็นทาสผู้ให้ความสุขกับเขาอีกนั้น สาเหตุข้อนี้ไม่ใช่แน่... ปัญหาที่แท้จริงก็คือคาเมะเหมือนจะคิดโทษตัวเองว่าเป็นความผิดของตนในทุกครั้งที่มีเรื่องแล้วทำให้เขาต้องบาดเจ็บ ทั้งที่จริงๆแล้วสาเหตุครึ่งหนึ่งนั้นก็มาจากการต่อสู่ระหว่างแก๊งโดยที่ร่างบางบังเอิญถูกจับมาอยู่ระหว่างกลางปัญหาพวกนี้เท่านั้น.... อุบัติเหตุในครั้งนี้ก็เป็นผลมาจากหนึ่งในนั้นด้วย การที่จะบอกร่างบางว่าเขาไม่สนใจที่จะอยากได้อีกฝ่ายมาเป็นทาสบนเตียง ก็คงจะไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมามากนัก
แต่ถ้าเล่นไปตามเกมของคนตัวเล็ก มันก็อาจจะช่วยได้บ้าง ...คาเมะเพิ่งจะทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายยังคงคิดกับเขาอย่างคนที่เป็นเจ้านาย แล้วตัวคาเมะเองก็เป็นเด็กของเล่นที่ไม่มีสิทธิ์พูดอะไรมากในชะตากรรมของตัว
เอาล่ะ..ถ้าจะเล่นแบบนั้นแล้วล่ะก็...
“ชั้นจะไม่โยนนายออกไป แล้วชั้นก็จะไม่หยุดปกป้องนายด้วย ชั้นสัญญากับนายไว้แล้วไม่ใช่เหรอ?” จินพูดต่อ ดูจะมีทีท่าสงบมากกว่าที่ร่างบางคาดไว้
“นายกำลังจะบอกชั้นว่านายรักษาคำสัญญานั่นอย่างจริงจังเหรอ? ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่นายรับฟังคำสั่งของชั้น? ชั้นไม่ต้องการความคุ้มครองจากนายแล้วชั้นก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่ด้วย?” ร่างบางตอบออกมา พยายามข่มตัวที่จะไม่กระทืบเท้าลงกับพื้น “แค่ปล่อยให้ชั้นไป แล้วนายก็หาคนใหม่ซะ! ชั้นรับใช้นายมามากพอแล้วไม่ใช่หรือ?”
แต่ร่างบางก็ต้องนึกแปลกใจที่เห็นรอยยิ้มผุดขึ้นเรียวปากอวบอิ่ม ก่อนที่จินจะส่ายหัวนิดๆ “ไม่ นายยังรับใช้ชั้นไม่พอ ยังหรอก แล้วการที่มาอ้อนขอให้ชั้นปล่อยนายไปก็ไม่เคยสำเร็จมาก่อนไม่ใช่เหรอ ถ้างั้นนายจงยอมแพ้ซะ”
“ถ้านายฉลาดก็ปล่อยชั้นไปในตอนที่สามารถจะทำได้เถอะ” คาเมะถอนหายใจ พยายามที่จะหากลยุทธอื่นๆ หรือเหตุผลต่างๆ ซึ่งมันก็ไม่เคยใช้ได้ผลกับจินเลย ทำไมจินดื้อดึงมากแบบนี้นะ ทั้งๆที่สิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดมันก็เป็นผลดีต่อตัวจินเองแท้ๆ? “ชั้นทำให้นายเจ็บมามากพอแล้ว ชั้นไม่อยากอยู่ข้างๆนายอีกต่อไปแล้ว”
“นี่ คาซึจัง ชั้นสบายดีนะ”
“ไม่ นายไม่สบายสักนิด” คนตัวเล็กพูดขัด “นายตกจากชั้นสองเชียวนะ! นายนอนนิ่งอยู่ในอาการโคม่าตั้งเกือบอาทิตย์! ชั้นเคยก่อเรื่องเดือดร้อนให้นายมาก่อนก็จริง แต่ครั้งนี้มันมากเกินไป แล้วต่อไปมันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกล่ะ? ชั้นไม่อยากให้นายต้องมาตายเพื่อปกป้องชั้น!”
จินเอื้อมมือข้างซ้ายเพื่อสัมผัสยังเรียวขาบาง แต่อีกฝ่ายก็ถอยกลับไป
“ชั้นไม่ตายหรอกน่า” จินพูด พยายามทำน้ำเสียงให้รื่นเริง “แล้วนี่ก็ไม่ใช่ความผิดของนายเลยสักนิด”
“ไม่สำคัญหรอก..ชั้นอยากจะเปลี่ยนห้อง” คาเมะค้าน
“ชั้นไม่ยอมให้นายเปลี่ยนห้องแน่” ร่างสูงตอบ ร่างบางก็ทำได้แค่จ้องมองยังอีกฝ่าย
“ชั้นจะไม่ยอมนอนกับนายอีกแล้ว ได้ยินไหม? ชั้นจะไม่เป็นเด็กของเล่นของนายอีกต่อไปแล้ว ถ้าชั้นอยู่นี่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับนายหรอก!” ร่างบางตะโกนเข้าใส่ “แล้วก็หยุดมองลอดใต้ชายกระโปรงชั้นด้วย!”
“นั่นก็ยังไม่ทำให้นายถูกโยนออกไปนะ” จินพูดพลางยักไหล่ทำไม่สน
คาเมะไม่อยากจะเชื่อเลย เมื่อตอนที่เขาอ้อนวอนอยากอยู่ที่นี่เพื่อเป็นเด็กของจิน อีกฝ่ายกลับเตะเขาออกไป แต่พอเขาเป็นฝ่ายอยากจะออกไปแถมยังปฏิเสธที่จะรับใช้จิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมปล่อยให้เขาไป
“ถ้างั้น..ชั้นจะทำตัวหยาบคายใส่นาย ชั้นจะทำอะไรที่เป็นการดูหมิ่นเพื่อนๆแล้วก็พรรคพวกนายซะ สุดท้ายแล้วนายก็จะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องโยนชั้นออกไป”
“ชั้นไม่โยนนายออกไปแน่ “จินพูดขัด “แล้วก็ขอบคุณที่พูดเตือนนะ ชั้นจะทำทุกทางที่จะไม่ให้แผนของนายสำเร็จไปได้แน่ หรือจะพูดอีกอย่างก็คือชั้นจะไม่ยอมให้นายได้เข้าใกล้พวกเขาแน่”
“ชั้นจะหาวิธีอื่นเพื่อไปกวนจิมมี่ แม๊กกี้”
“มีอะไรใหม่ๆไหม?” จินหัวเราะคิกคัก
“ชั้นจะไปเกร่กับพวกอดีตเด็กของเล่นนั่นซะ”
“งั้นเหรอ..งั้นเหรอ...”
“ชั้นจะนอนกับยามะพี”
“โอ๊ะ! มันจะมากไปแล้วนะ!” จินส่งเสียงคำราม ความคิดที่ว่ายามะพีและคาเมะอยู่ด้วยกันมักจะทำให้เขาเป็นบ้าได้ มากกว่าที่จะคิดว่าคาเมะอยู่กับคนอื่นเสียอีก ...ถึงเขาจะไม่ชอบความคิดแบบนั้นด้วยก็เถอะ "ถึงนายจะไปนอนกับพวกนิวส์ทั้งแก๊ง ชั้นก็จะยังเก็บนายไว้ที่นี่ ที่ชั้นเตะนายออกไปตอนนั้นก็เพื่อปกป้องนาย ในความเป็นจริงแล้วล่ะก็..ไม่มีอะไรที่นายจะทำให้ชั้นปล่อยนายไปได้หรอก นายเป็นของชั้น อย่าคิดที่จะทำอะไรแบบนั้นเด็ดขาด!” หัวหน้าแก๊งหยุดพูด ก่อนที่จะเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ “แล้วชั้นก็ไม่คิดว่านายจะทำตามที่ขู่ได้ด้วย เพราะชั้นคิดว่านายชอบที่จะอยู่กับชั้นน่ะสิ...”
คาเมะเริ่มจะรู้สึกสิ้นหวังท้อแท้
“ปล่อยชั้นไปเถอะ! ชั้นไม่ขอทำอะไรกับนายอีกต่อไป! ชั้นขอสั่งให้นายปล่อยชั้นไป!”
“นายสั่งให้ชั้นปล่อยนายไปงั้นเหรอ? คำขอนี้โยนทิ้งไปได้เลย” จินแสยะยิ้ม ทำให้คนตัวเล็กอึดอัดในใจ ด้าน TTUN ก็เฝ้ามองคนตัวเล็กด้วยทีท่าใคร่รู้ เพราะพวกเขาไม่เคยได้อยู่เป็นพยานรู้เห็นเรื่องแบบนี้มาก่อน ทั้งสี่หนุ่มต่างก็เหมือนจะถูกลืมไปชั่วขณะ
“นายทำอย่างนั้นไม่ได้นะ!” คาเมะตอกกลับ
“ทำไม่ได้เหรอ? ชั้นทำได้แน่” ร่างสูงเปิดยิ้มนิดๆ
“ถ้างั้น...ชั้นจะ..ชั้นจะ...เอ่อ....” คาเมะเริ่มพูดตะกุกตะกัก ชักเกลียดการที่จินมองมาที่เขาด้วยทีท่าสนุกเสียจริง เหมือนอีกฝ่ายรอดูว่าเขาจะคิดหาเหตุผลอะไรต่อไป “ชั้นจะไปตกลงกับมาสะซะ” คาเมะพูดออกมาในที่สุด นึกถึงสิ่งที่อดีตเด็กคนก่อนๆที่ชื่อเคียวจิเคยทำไว้ได้ คนทั้งแก๊งต่างก็พากันนิ่งเงียบไปชั่วขณะ
“นายไม่ทำแน่” จินพูดพลางมองสำรวจอีกฝ่ายขึ้นๆลงๆ
“มันก็ขึ้นอยู่กับ...” ร่างบางตอบด้วยทีท่าดื้อดึงเช่นเคย
“นี่นายขู่ชั้นอีกแล้วหรือ?” หัวหน้าแก๊งถามขึ้น แล้วเหมือนที่คาเมะคิดไว้..เสียงเต้นของหัวใจของเขามันเริ่มเต้นดังทะลุอกดังกว่าแต่ก่อนเสียอีก นี่เป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ
“นายปล่อยให้ชั้นรู้ความลับมากเกินไป” คาเมะพูดชี้ พยายามที่จะข่มเสียงไม่ให้สั่นมากเกินไป “เขาเคยถามชั้นมาก่อนว่าให้บอกเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนๆแล้วก็พรรคพวกของนาย แต่ตอนนั้นชั้นไม่ได้พูด ชั้นเองก็หวังว่านายจะแสดงความกรุณาแบบเดียวกัน ด้วยการให้ในสิ่งที่ชั้นขอในครั้งนี้"
"ฉันคงได้ขยี้นายให้เละก่อนที่นายจะไปหาหมอนั่นเสียอีก"
"ทำอย่างนั้นเลยสิ แต่ต้องให้แน่ใจนะว่านายสามารถกำจัดชั้นออกไปได้สำเร็จ เพราะถ้าไม่ ฉันจะไปพูดกับหมอนั่นแบบจริงๆจัง..”
continue here ยังไม่จบคะ อ่านต่อตรงนี้คะ