[Fic พีก้อง ] บ้านของหัวใจ ตอนที่ 2 By Neyon

Jan 14, 2010 18:23



Fiction : บ้านของหัวใจ ( มากกว่ารัก ซีซั่น 3 )
Cast : พีรวิชญ์ x ก้องบดินทร์
Author : Neyon
TiTle : วาคิม
[Fic พีก้อง ] บ้านของหัวใจ ตอนที่ 2 By Neyon



หน้าต่างบานยาวจรดพื้นหันไปทางทิศตะวันออก แสงแดดยามรุ่งอรุณสาดแสงลอดผ่านผ้าม่านสีขาวผืนบางเบา รุกไล่เข้ามาบนเตียงนอนสีขาวตัดกับวอลเปเปอร์สีเขียวอ่อนบนผนังห้องนอน และเพราะแสงอาทิตย์นี่เองที่ปลุกเจ้าของใบหน้าหวานในอ้อมกอดของพีรวิชญ์ซึ่งหันหน้าเข้าหาระเบียงห้องนอนให้ตื่นจากห้วงหลับฝัน เปลือกตาหนาล้อมกอรบด้วยขนตายาวเป็นแพสีดำสนิทขยับน้อยๆก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วกระพริบตาถี่เพื่อปรับแสง

เช้าแล้วเหรอเนี่ย ... อาการง่วงงุนยังไม่สร่าง เจ้าตัวยกศรีษะขึ้นเหลือบมองดูนาฬิกา ถึงได้รู้เลยว่าสายมากแล้ว ป่านนี้ตุ่มศรีคงกำลังทำกับข้าวไว้รอท่า โดยไม่รู้ว่าใครบางคนที่อุทิศแขนให้ก้องนอนต่างหมอนมาทั้งคืนก็เริ่มรู้สึกตัวตื่น แขนข้างหนึ่งชาไปหมด และแปรเปลี่ยนเป็นรู้สึกจั๊กกะจี๋เมื่อก้องขยับพลิกตัวหันหน้ามาทางเขา ปลายเส้นผมหอมกลิ่นอ่อนๆของแชมพูไล้ไปบนแขนราวกับเป็นการหยอกล้อ คนตั้งใจว่าจะแกล้งนอนหลับเลยต้องเก็บอาการยอมทนจั๊กกะจี๋

เมื่อหันกลับมาก้องบดินทร์ก็ได้เห็นใบหน้ายามหลับของคนรักซึ่งนอนอยู่ข้างกายมาตลอดคืน ... ริมฝีปากสีระเรื่อขยับยิ้ม ดวงตาคู่นี้มีความหมายขึ้นมามากมายเหลือเกิน เมื่อได้ใช้มันมองดูคนที่เรารัก

ใบหน้ายามหลับของพีรวิชญ์ดูท่าว่าจะมีเสน่ห์ดึงดูด คนแอบมองถึงได้ค่อยๆขยับเลื่อนริมฝีปากเข้ามาประทับลงข้างแก้ม ... เพราะไม่คิดว่าคนรักจะแกล้งหลับ ใครจะคิดว่าพีรวิชญ์จะมาแกล้งหลับใส่คนตาบอด ที่ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น ก้องก็ไม่มีทางมองเห็น ...

รสสัมผัสนั้นเนิ่นนานพอๆกับความรู้สึกจั๊กกะจี๋ที่แขน ... พีรวิชญ์อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขาตื่นขึ้นมาตอนนี้เลย ก้องจะทำสีหน้าแบบไหน ว่าแล้วก็เลยแกล้งขยับพลิกตัว ตั้งใจจะปรับท่าเป็นการนอนหงาย ริมฝีปากที่ประทับอยู่บนแก้มเนียนเลยกลายเป็นว่าต้องมาสัมผัสริมฝีปากของคนรักโดยไม่ตั้งใจ

เปลือกตาหนาเปิดขึ้นสบสายตากับก้องบดินทร์ ... พีเองก็ไม่ได้คิดว่าการที่เขาพลิกตัวจะทำให้ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำรับเช้าวันใหม่ขนาดนี้

!!? ,,,

ดวงตาที่เคยเบิกกว้างหรี่เล็กลงพลางทำสายตาพร่าเลือน .. แม้จะตกใจแต่ก็กลัวพีรู้ความจริง เจ้าตัวรีบขยับตัวถอยออกห่างแล้วเบือนสายตามองไปทางอื่น ... แววตาคู่นั้นยังคงไร้จุดหมายไม่จับมองสิ่งใดๆ

ถ้าเป็นก่อนหน้านั้นพีรวิชญ์คงรู้สึกเจ็บปวด ... แต่ในเวลานี้ท่าทีแบบนั้นกลับทำให้เขานึกอยากจะหัวเราะออกมาเบาๆด้วยรู้สึกเอ็นดูในความพยายามของก้อง

"เอ่อก้อง เมื่อกี้นี้มัน..!?"พีรีบลุกขึ้นมานั่งตามแล้วแสร้งทำหน้าตกใจบ้าง "คุณมอร์นิ่งคิสผมเหรอ"

"บ้าเหรอพี"ไม่แค่พูดยังพลักอกคนถามเข้าให้ "ผมจะไปทำแบบนั้นได้ยังไง"

คนฟังพยักหน้าหงึกหงัก แล้วรอดูว่าก้องจะหาข้อแก้ตัวอะไรอีก "เมื่อกี้ผมจะลุก แล้วคุณก็พลิกตัว แล้ว... เอ่อ ผมก็ล้ม ก็แค่นั้นเอง" คิ้วขมวดมุ่นตอนให้เหตุผล น้ำเสียงก็ขุ่นๆคล้ายกับกำลังหงุดหงิด ฟังที่ตัวเองพูดไปด้วยก็พอรู้ว่า มันไม่เกี่ยวกันเลยทีพีพลิกตัวแล้วตัวเองจะล้ม ... " ก็นั่นแหละ เอาเป็นว่าผมไม่ได้ตั้งใจ "

ร้อนตัวเสียยกใหญ่ ... พีรวิชญ์ทำหน้ายิ้มๆ

"แต่เมื่อกี้คุณรู้มั๊ยก้อง ว่ามันเป็นมอร์นิ่งคิส" คนรู้ทันยังไม่เลิกแกล้ง ทำหน้าระรื่นดีใจออกนอกหน้า "ผมนึกว่าคุณตั้งใจซะอีก"

"บ้าน่าพี!" ครั้งนี้ก้องเสียงดังกว่าเดิมหน้ำซ้ำยังพลักหน้าอกพีแรงกว่าเดิมอีก " ก็ผมตามองไม่เห็น จะไปรู้ได้ไงว่าปากคุณอยู่ตรงไหน คุณเลิกพูดเรื่องนี้เลย" ... เพราะผมเขิน

ก้องต่อประโยคในใจ แล้วเริ่มเก็บอาการไม่อยู่ เลยรีบหาทางปีนลงจากเตียงแล้วแอบยิ้มเขิน โดยไม่รู้ว่ามีสายตาของพีรวิชญ์แอบมองอยู่ แล้วเขาเองก็ยิ้มกว้างจนแทบจะเห็นฟันครบ 32 ซี่

"แล้วทำไมต้องทำเหมือนงอนผมล่ะก้อง ผมก็แค่เล่าให้ฟังว่ามันเป็นมอร์นิ่งคิส" พีรวิชญ์ร้องบอกไล่หลังคนกำลังแสร้งคำทางเดินไปห้องน้ำ

"พอแล้วพี เลิกพูดได้แล้ว!" ก้องสั่งน้ำเสียงขุ่น ปะป่ายมือจนไม่จับถูกลูกบิดประตูห้องน้ำ พีรวิชญ์เลยรีบลุกขึ้นจากเตียงบ้าง

"นี่คุณจะทำอะไร ผมยังไม่ได้เตรียมน้ำให้คุณอาบเลยนะ" เดินเข้ามายืนใกล้ๆแล้ววางมือลงบนมือของก้องที่จับอยู่บนลูกบิดประตู

คนเป็นฝ่ายถูกแกล้งมาตั้งแต่เมื่อครู่นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เลยหันหน้าไปทางเจ้าของน้ำเสียงเอ่ยถามเมื่อครู่

"ผมจะล้างปาก" ก้องเลิกคิ้วข้างนึงขึ้น แล้วยิ้มน้อยๆ แต่คนฟังกลับหัวเราะชอบใจที่ถูกคนรักเอาคืน ... ร้ายนักนะก้อง

เห็นพีหัวเราะคนแกล้งพูดใส่ก็ยิ้มบ้าง ... คนรักของเขากำลังมีความสุข  "คุณจะล้างบ้างมั๊ยล่ะพี?" ว่าแล้วก็เลิกคิ้วรอฟังคำตอบ พีรวิชญ์มองสีหน้าท่าทางยียวนของก้องแล้วเม้มปากส่ายหน้า แววตามีประกายเจ้าเล่ห์

"บ้า แล้วคุณจะไม่แปรงฟันเหรอไง" ก้องถามเสียงดุ พีรวิชญ์เลยได้ทีเอาคางมาเกยไหล่แล้วทำเสียงอ้อน

"ถ้างั้น ถ้าผมแปรงฟันแล้ว คุณทำแบบนั้นให้ผมอีกรอบได้มั๊ยล่ะ หื้อ" คนขี้อ้อนทำน้ำเสียงขึ้นจมูก แต่คนถูกอ้อนไม่เอาด้วย รีบดึงประตูห้องน้ำเปิดออกแล้วแทรกตัวเข้าไปข้างในแล้วกดล็อก

"เรื่องของคุณพี คุณจะไม่แปรงฟันก็ช่างคุณ แต่ไม่ต้องมาเข้าใกล้ผมเลย" ก้องบดินทร์ร้องตะโกนออกมาจากด้านใน ... คนฟังยิ้มเอ็นดูแล้วตะโกนตอบกลับไปบ้าง

"อะไรล่ะก้อง ง่ายๆแค่นี้เอง คุณทำให้ผมไม่ได้เหรอ" ..ถามไปแล้วก็แอบยิ้มเขิน ขณะอีกฝากนึงของประตูคนรักของเขาก็ยืนยิ้มจนแก้มปริแล้วเหมือนกัน

"ถ้าคุณไม่อยากทำ ผมทำเองก็ได้นะ ผมจะทำแบบนั้นทุกเช้าเลย"

ร้องบอกออกไป แล้วรอฟังคำตอบ ... ผมทำจริงนะก้อง

"คุณพูดไม่รู้เรื่องเหรอพี ผมบอกให้คุณเลิกพูดเรื่องนั้นไง ผมจะไปอาบน้ำแล้ว" น้ำเสียงตอบกลับฟังดูไม่ค่อยสบอารมณ์ แต่ใครจะรู้ล่ะว่า คนพูดมีสีหน้าแบบไหน มีเพียงกระจกเงาในห้องน้ำเท่านั้นที่ได้เห็น ... เจ้าของใบหน้าหวานๆที่กำลังยิ้มอาย

แต่ถึงไม่เห็น ... พีก็รู้

ก็คนรักกัน  ... ทำไมจะไม่รู้

"แล้วคุณจะอาบได้เหรอ ผมยังไม่ได้เตรียมน้ำให้อาบเลยนะ" พีถามออกไปเหมือนเช่นทุกวัน ที่ไม่รู้ว่าตาของก้องหายแล้ว

"ผมอาบได้ คุณไปอาบห้องพี่ตุ่มเลย จะได้รีบๆแต่งตัว เดี๋ยวไปขึ้นเครื่องช้า" ก้องตะโกนกลับไปบ้าง พีเลยบอกว่าเขาจะให้ตุ่มมาเฝ้าหน้าห้องน้ำ แม้ว่าก้องจะไม่อยากให้ตุ่มศรีเสียเวลามาคอยเฝ้า แต่ถ้าปฏิเสธออกไปก็กลัวพีจะสงสัย

ต่างฝ่ายต่างยืนยิ้มมองบานประตูห้องน้ำ ราวกับจะมองทะลุไปยังอีกฝากนึง ... และผละออกไปคนละทางด้วยความรู้สึกเขินอาย

.............

.................................

13.45 น ตามเวลาในประเทศไทย

เสียงเพลง IN MY LIFE ของวง The Beatles ดังขับขานอยู่ภายในห้องนอนขนาดกว้างเกินความต้องการใช้สอย ภายในห้องมีเพียงเตียงนอนขนาดใหญ่สีขาว แอมป์ กีต้าร์ไฟฟ้า2 ตัว ทีวีจอพลาสม่า เครื่องเล่นดีวีดี ตู้เสื้อผ้าขนาดไม่ใหญ่มากตั้งขนาบข้างไปกับกำแพงห้องบุด้วยวอลเปเปอร์สีสันและลวดลายแปลกตา บนเตียงนอนมีกีต้าร์คลาสสิควางอยู่ และที่ปลายเตียงมีผู้ชายร่างสูงคนนึงกำลังหันหน้ามองออกไปทางหน้าต่าง ห้องของเขาไม่มีผ่าม่าน มีเพียงหน้าต่างกระจกบานยาวจรดพื้น

ฟ้ายังไม่ทันจะสางด้วยซ้ำ ... แต่ใบหน้าของวาคิมในเวลานี้กลับไม่มีความง่วงงุนหลงเหลืออยู่เลย ในมือของเขาถือกระป๋องเบียร์ที่ยังไม่ทันจะคลายความเย็นก็ลดลงไปกว่าครึ่งกระป๋อง บนพนังด้านนึงมีที่ไว้สำหรับแขวนหมวก แต่กลับมีชุดสูทสีดำสนิทไว้ใช้สำหรับงานศพแขวนอยู่แทนที่

วาคิมปล่อยกระป๋องเบียร์ลงพื้น ไม่บ่อยนักที่เขาจะใช้ชีวิตอยู่เงียบๆคนเดียวในห้องสี่เหลี่ยม หากว่ารู้สึกเหงา เบื่อหน่าย เจ้าตัวก็จะออกไปเที่ยว ไปสังสรรค์ แต่เพราะที่นี่ไม่ใช่อเมริกา เจ้าตัวเลยไม่รู้จะออกไปไหน นอกจากขลุกตัวอยู่ในห้อง รอให้พระอาทิตย์โผล่หัวขึ้นมา แล้วค่อยออกไปตามหาคนในความทรงจำ

คนเอนตัวลงนอนไม่ทันสังเกตุด้วยซ้ำว่ามีคนเปิดประตูห้องเข้ามา เพราะเสียงเพลงที่เขาเปิดเอาไว้

"ตื่นเช้าเหมือนกันนี่หว่า" เสียงห้าวๆนั้นร้องทัก เจ้าของห้องเลยเหลือบไปมอง ก่อนจะขยับลุกขึ้นนั่ง แล้วหยิบกีต้าร์ลงมาวางตั้งไว้ข้างเตียง

"ผมคงยังปรับตัวกับเวลาไม่ได้" เขาตอบ "แล้ว ทำไมพี่นะตื่นเช้าล่ะครับ" วาคิมถามแล้วมองร่างสูงของพี่เขยเดินเข้ามานั่งลงข้างเขาบนเตียง ณภัทรเป็นหนุ่มใหญ่วัยล่วงเข้าเลข 4 แต่ใบหน้ายังคงไม่ล่วงตามวัยมากนัก เพราะเป็นคนรักษาสุขภาพ ริ้วรอยบนใบหน้าได้มากเพราะหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ แต่โดยนิสัยแล้วเป็นคนไม่คิดอะไรมาก และในความไม่คิดมาก บางครั้งณภัทรก็ไม่แยกแยะความดี-เลว ความสุข ความพอใจต่างหากที่มาก่อน

"วิเค้าตื่นมาใส่บาตรให้คุณพ่อ ฉันเลยต้องพลอยตื่นมาด้วย ต้องไปวัดเป็นเพื่อนอีก ไปดูว่าขาดเหลืออะไรบ้าง"

คนฟังไม่มีทีท่าสนใจ ... ทั้งที่เป็นงานศพของพ่อตัวเอง แต่ณภัทรก็พอดูออก แม้ว่าวาคิมจะถูกส่งไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เขาแต่งงานกับวิกานดา พี่สาวคนเดียวของวาคิม แต่เขาเองก็มีความสนิทสนมกับน้องชายคนนี้ของภรรยาพอสมควร และเป็นคนส่งเงินค่าใช้จ่ายไปให้วาคิมได้ใช้ถลุงไปกับชีวิตในอเมริกา

"ผมคงแวะไปตอนเย็นๆ ยังไม่อยากเจอหน้าแม่เลย" ... วาคิมเป็นคนรักแม่ เลยไม่อยากเห็นแม่ที่กำลังร้องไห้เสียใจ

"ไว้ฉันจะบอกวิให้" ว่าแล้วก็เอื้อมมือไปวางลงบนแผ่นหลังเปลือยเท่าของวาคิม ตบลงทีสองที "ไม่ต้องคิดมาก เรื่องมันผ่านไปแล้ว ยังไงก็แวะไปให้คุณพ่อเค้าเจอหน้าเป็นครั้งสุดท้าย"

วาคิมเม้มปากแล้วหันมายิ้ม แต่แววตากลับไม่ได้ยิ้มไปด้วย ณภัทรเลยคิดว่าน่าจะปล่อยให้เจ้าตัวได้อยู่คนเดียว แต่จังหวะที่เขาจะลุกขึ้น ซองสีน้ำตาลที่ถือมาด้วยกลับเลื่อนหลุดมือ จนบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในนั้นเลื่อนหลุดออกมา

รูปภาพ 3-4 ใบของใครบางคนซึ่งวาคิมรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตา จนอดหยิบขึ้นมาดูไม่ได้ "นี่ใครเหรอพี่นะ"

"คนที่เพื่อนฉันขอให้จัดการให้  รู้สึกจะชื่อ ... ." ณภัทรทำท่านึก พอดีกับที่วาคิมพลิกดูหลังรูปมีชื่อเขียนติดเอาไว้

"ก้องบดินทร์" วาคิมอ่านชื่อนั้น ... แล้วเงยหน้าขึ้น สีหน้าและแววตาดูร้อนใจ "แล้วเค้าให้จัดการอะไรกับก้อง เพื่อนพี่นะจะให้พี่ทำอะไร"

แต่ดูเหมือนณภัทรไม่ได้สังเกตเห็นท่าทีผิดปกตินั้น ...

"ไอ้พัฒน์มันไม่ได้บอกว่าวิธีไหน แค่ให้หายไปจากชีวิตน้องชายมันก็พอ" เขาหมายถึงพิพัฒน์ ที่ตอนนี้ได้แค่นอนแหมะอยู่บนเตียงไปไหนไม่ได้ แต่เมื่ออาทิตย์ก่อนเขาแวะไปเยี่ยม ด้วยความเป็นเพื่อนสนิทสนมกันมานาน และแม้พิพัฒน์จะเจ้าชู้และเลวร้ายในสายตาของผู้หญิง แต่ในความเป็นเพื่อน ระหว่างเขากับณภัทรก็เป็นเพื่อนที่ช่วยเหลือกันมาตลอด ทั้งในวงการธุรกิจ และเรื่องอื่นๆนอกจากนั้น

"เห็นสภาพมันแล้วสงสาร เรื่องแค่นี้ก็ไม่ได้ยากอะไร หาลูกน้องคนสองคนจัดการเรื่องก็จบ"

วาคิมรู้สึกหัวใจกระตุกฮวบ เม็ดเหงื่อผุดซึมขึ้นมาตามรูขุมขน เขารู้ว่าณภัทรเป็นคนมีอิทธิพล และมีเพื่อนอยู่ในแวดวงอันตรายอยู่มากมาย

"พี่นะ " เสียงนั้นขาดหายไป เมื่อเห็นรูปถ่ายอีกใบที่ก้องบดินทร์ถ่ายคู่กับฟองจันทร์ ... โลกมันช่างกลมจนเขาบอกไม่ถูกว่าควรดีใจหรือเสียใจกันแน่  "ทำไมเพื่อนพี่ต้องให้จัดการกับก้อง พี่บอกผมได้มั๊ย"

"ก็ไอ้เด็กนั่นมันดันวิปริตมาคบกับน้องชายไอ้พัฒน์"

ก้องเป็น...   คนฟังนิ่งคิด แล้วก้มลงมองรูปภาพซึ่งเป็นภาพแอบถ่าย โดยเจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องด้วย รอยยิ้มของก้องมีชีวิตชีวาจนคนมองอดไม่ได้ที่จะคิดถึง ว่าครั้งนึงรอยยิ้มนี้เคยเป็นของเขา

"มันกลัวตระกูลมันจะไม่มีทายาท มันเลยให้จัดการเด็กนั่นให้" พูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ... แต่วาคิมกลับไม่กล้านึกตามว่า ณภัทรคิดจะจัดการยังไงกับก้องบดินทร์ เจ้าตัวรีบเก็บรูปภาพของก้องใส่ซองเอกสาร แต่ไม่ส่งคืนให้พี่เขย คนยื่นมือมารอรับเลยต้องชักมือกลับอย่างงงๆ

"คนนี้ผมขอนะพี่นะ เขาเป็นเพื่อนผม"

คนฟังมีสีหน้าแปลกใจ แต่เมื่อได้ยินว่าเป็นเพื่อนกัน ณภัทรก็คลายความแปลกใจ แต่แปรเปลี่ยนเป็นวี่แววของความกังวลเข้ามาแทนที่ ... เพื่อนแบบไหน? แล้วทำไมคบเพื่อนแบบนี้?

อยากถาม แต่ก็พอจะรู้ว่าคนอย่างวาคิมไม่ชอบให้ใครก้าวก่าย

"ส่วนเรื่องแยกก้องออกจากน้องชายเพื่อนพี่ ผมจะเป็นคนจัดการเอง" วาคิมรับปากหนักแน่น ... ณภัทรมองเข้าไปในแววตาของน้องเขยแล้วกลับรู้สึกว่าเขาไม่ได้ห่วงเรื่องจะจัดการสำเร็จหรือไม่ยังไง แต่เขากำลังห่วงว่า ทำไมวาคิมถึงคิดเอาตัวเข้าไปพัวพันกับก้องบดินทร์ ทั้งที่รู้ว่าเด็กคนนั้น ...

และวาคิมเองก็เป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล ... เป็นความหวังเดียวของแม่และวิกานดา ที่อยากจะได้อุ้มหลาน

.........

TBC

// เป็นการเปิดตัวที่อลังการมากเลยวาคิม ฉากของวาคิมยาวมากก >.  < 
ยังเหลืออีก 1 คนที่ยังไม่ได้เปิดตัววว แต่คนนี้เป็นผู้หญิงเน้ อิอิ

ขอตอบเม้นท์ของคุณ one_deadly

เมื่อวานตอนเกือบจะเที่ยงคืนแวะเข้ามาในกระทู้อีกรอบ เห็นเม้นท์นี้แล้วแบบอึ้งเลย นึกว่ามาต่อฟิกแทนมิน อิอิ (ล้อเล่นน้าาา) อ่านแล้วมีความสุขมากค่ะ อยากบอกว่า ขอบคุณมากที่พิมพ์อะไรยาวๆแบบนั้นมาให้อ่าน มันแบบ ถึงยาวกว่านี้ก็จะอ่านนะ เพราะอ่านแล้วมันปลื้ม มันทำให้วันๆนึงอยากแต่งฟิกออกมาสัก 3-4 ตอนเลย ดีใจมากที่มีคนอ่านชอบฟิกที่มินแต่งค่ะ

**เพียงแต่อยากบอกว่าความรักของก้องพีในมากกว่ารักชัดเจนขึ้นจากในละครมาก คนอ่านอินจัดจริงๆค่ะ คุณมินถ่ายทอดคาแรคเตอร์นิสัยต่างๆของตัวละครออกมาได้ดีจริงๆ ทั้งนิสัย ลักษณะท่าทางกิริยาของแต่ละคนที่คนอ่านเห็นผ่านตัวหนังสือ จะเห็นได้ชัดเลยว่าแต่ละคนมีนิสัยต่างกันยังไง และทัศนคติของพวกเขาเป็นแบบไหน****  <---  จริงๆมินก็กลัวเหมือนกันว่า คนอ่านจะรู้สึกมั๊ยว่า เป็นคุณพีกับน้องก้องจริงๆนะ กลัวแต่งหลุดออกไป จนคนอ่านอ่านแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่คุณพีกับน้องก้อง แต่พออ่านตรงคอมเม้นท์นี้แล้ว โล่งใจมากเลย อิอิ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

Ps. รักคนอ่านทุกๆคนเลยยย อิอิ ( แต่รักพีก้องมากกว่าได้มั๊ยอ้ะ >.  < )

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มินไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถึงอัพฟิกลงทั้งบ้านพีก้อง และ FB ไ ม่ได้
เพราะงั้น ขออนุญาติ อัพลงในนี้นะคะ T^T

fic

Previous post
Up