[Fic] Shadow Heart Ch.2 (Thai version) (1/2)

Apr 18, 2012 21:45




Chapter 2


“คาซึยะ วันนี้ไม่ออกไปไหนใช่มั้ย” คุณนายคาเมนาชิร้องเรียกลูกชายที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่

“ไม่ไปครับ แม่มีไรหรอครับ”

“ไปช่วยแม่จัดห้องเก็บของหน่อย รกจนงูเข้าไปอยู่แล้วมั้ง”

“ครับ” ว่าแล้วก็ต้องเดินตามไปช่วยแม่ตัวเองที่ห้องเก็บของที่ตอนนี้รกจริงๆ ข้าวของเยอะแยะมากมาย

คาซึยะกับแม่ค่อยๆช่วยกันจัดแยกของออกมา อันไหนที่คิดว่าไม่ใช้แล้วก็จัดแยกออกเอาไปทิ้ง ส่วนที่เหลือก็จัดเก็บให้เป็นระเบียบมากขึ้น

กำลังรื้อๆ ไปจนใกล้จะเสร็จ คาซึยะก็ไปเจอเข้ากับอัลบั้มรูปของเก่าๆ ตัวเองเข้า คาซึยะจึงวางแยกไว้ต่างหาก เพื่อว่าเดี๋ยวจะได้เอามาดูที่หลัง

และเมื่อช่วยแม่จัดของจนเสร็จแล้ว คาซึยะจึงหยิบอัมบัลรูปนั้นติดมือขึ้นไปบนห้อง แล้วจึงค่อยๆ เปิดดู

ในนั้นเป็นรูปของเขาตั้งแต่สมั้ยแรกเกิดจนถึงเข้าเรียนประถม แต่ว่ามันไม่ได้มีแค่รูปของเขาคนเดียวน่ะซิ ในอัลบั้มนี้ มีรูปของคู่แฝดข้างบ้านอยู่ด้วยจนเหมือนกลายเป็นอัลบั้มรูปของทั้ง 3 คนไปแล้ว

คาซึยะเปิดไล่ดูรูปไปเรื่อยๆ ในทุกช่วงชีวิตของเขา ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ เรียกได้ว่ามีคู่แฝดตากลมอยู่ด้วยเสมอ เพราะบ้านที่อยู่ใกล้กัน และวันเกิดยังใกล้เคียงกันอีก

คาซึยะเป็นลูกคนเดียว แต่ตอนเล็กๆ เขามักจะคิดเสมอว่าโทโมฮิสะและโทโมอากิเป็นพี่น้องของเขา เขาจึงไม่เหงา ไม่ว่าจะที่ไปไหน จะทำอะไร จะมีกัน 3 คนเสมอ ตัวติดกันราวกับแฝด 3  แม้กระทั่งตอนที่คาซึยะไปเล่นเบสบอล ที่ถึงแม้ว่าคู่แฝดบ้านยามาชิตะจะไม่ชอบเล่นกีฬา แต่ก็ตามไปดูตามไปเชียร์ทุกครั้งที่เขาแข่ง

วันเวลาเหล่านั้นช่างมีความสุขจริงๆ คาซึยะอยากจะให้มันคงอยู่ตลอดไป แต่แน่นอนว่า ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้นั้นต้องมีการเปลี่ยนแปลง

ก๊อกๆ ๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นตามด้วยเสียงของแม่ที่ร้องบอก

“คาซึยะ อากิจังมาน่ะลูก ลงมาหน่อย”

“ครับ”

เมื่อเดินลงมาข้างล่าง คาซึยะก็เห็นแม่กับโทโมอากินั่งชิมเค้กคุยกันอย่างสนุกสนาน

“อ๊ะ คาซึยะลงมาแล้ว มาชิมเค้กเร้ว อันนี้ชั้นเพิ่งลองทำ ชิมดูซิอร่อยมั้ย” โทโมอากิหันมาเรียก พร้อมยื่นเค้กสีสันสดใสให้คาซึยะลองชิม

คุณแม่ของคาซึยะเมื่อเห็นลูกชายเดินลงมาก็ขอตัวเข้าครัวไปเตรียมดูว่า วันนี้ต้องไปจ่ายตลาดอะไรบ้าง

คาซึยะเดินมาถึงก็รับเค้กมาแล้วตักเข้าปาก เค้กของโทโมอากิอร่อยเสมอ ถึงจะไม่เทียบเท่ากับเค้กตามร้านดังๆ ที่ขายอยู่ แต่ก็อร่อยมากสำหรับเด็กม.ปลายที่เพิ่งหัดทำได้ไม่นาน

“อร่อยเหมือนเดิมเลย โทโมะ”

“จริงหรอ” โทโมอากิหันมายิ้มหน้ากลมให้คาซึยะ

แต่รอยยิ้มนั้น ก็หุบลงทันทีที่คาซึยะเอ่ยประโยคถัดมา

“ทำมาให้กินบ่อยๆ อย่างงี้ ชั้นก็อ้วนตายกันพอดี”

“ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกินก็ได้นะ พรุ่งนี้ชั้นจะเอาไปให้จินกินให้หมดเลย” โทโมอากิเอื้อมมือไปจะคว้าเค้กก้อนนั้นคืนจากคาซึยะ แก้มใสพองขึ้นมา

“อะไรอ่ะโทโมะ ให้แล้วอย่าเอาคืนดิ” คาซึยะขยับหนีมือที่เอื้อมมา

“ก็คาซึยะบอกกินแล้วอ้วนไง ชั้นก็จะเอาคืน ไม่ให้กินแล้ว จะเอาไปให้คนอื่นกิน คาซึยะจะได้ไม่อ้วน ทีจินยังไม่เคยบ่นซักคำ กินเยอะกว่าคาซึยะแท้ๆ” พูดไปพองแก้มป่องไป งอนคาซึยะแล้ว เรื่องไรมาว่าว่าเขาเป็นสาเหตุทำให้อ้วน

“ชั้นยังไม่ได้บอกว่าจะไม่กินซะหน่อย โทโมะ อย่างอนซิ”

“ไม่รู้ ชั้นจะกลับบ้านหาพี่จ๋า แล้วจะฟ้องพี่จ๋าด้วยว่าคาซึยะบอกว่า เพราะเค้กของชั้น คาซึยะเลยอ้วน”

“โถ โทโมะ แซวเล่นนิดเดียวเอง อย่าไปฟ้องพีเลยนะ เดี๋ยวพีมันเอาชั้นตาย นี่ๆ ดูนี่เห็นมั้ย ชั้นกินจะหมดแล้ว ไม่อ้วนด้วย ไม่ต้องไปฟ้องนะ” คาซึยะรีบตักเค้กเข้าปากคำใหญ่ให้โทโมอากิเห็น

ท่ากินของคาซึยะเรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากโทโมอากิได้ ดูซิ รีบกินจนครีมเลอะไปติดแก้มแล้ว

“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ คาซึยะ เลอะหมดแล้ว” โทโมอากิว่าพลางดึงกระดาษทิชชู่มาเช็ดครีมที่เปื้อนบนแก้วของคาซึยะให้เบาๆ

คาซึยะนั้นนั่งนิ่งตัวแข็ง มองคนตาโตที่ขยับเข้ามาใกล้เพื่อเช็ดหน้าให้เขา .....ทำไมกันนะ....... คาซึยะถามตัวเองอยู่ในใจ .......ทำไมอะไรๆ ต้องเปลี่ยนไปด้วยนะ......เป็นแบบเดิมตลอดไปไม่ได้รึไง...... แต่คาซึยะเองก็รู้อยู่แก่ใจว่า ที่เปลี่ยนไปน่ะ มันตัวเขาเองล้วนๆ ไม่ใช่คนตรงหน้า แล้วก็ไม่ใช่อีกคนที่อยู่บ้านข้างๆ

.........ที่เปลี่ยนไป ที่ไม่เหมือนเดิมน่ะ มันตัวเราเอง......... ความรู้สึกแบบนี้มันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ......... ยิ่งทำเป็นไม่คิดถึง ทำเป็นไม่รู้สึก ความรู้สึกนี้มันกลับยิ่งมากขึ้นทุกวันๆ ทำยังไงมันก็ไม่หายไป.......... แล้วอย่างงี้ ชั้นจะทนเก็บมันเอาไว้ได้อีกนานซักเท่าไหร่กันเชียว............. พวกนายจะว่ายังไงนะ ถ้ารู้ว่า......ชั้น....ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว.......

คาซึยะยกมือขึ้นมาจับมือของโทโมอากิที่ยังคงเช็ดหน้าให้เขาให้หยุดนิ่ง

“อะไรหรอ คาซึยะ” ตากลมใสที่มองมา ไม่ได้รู้เลยถึงสิ่งที่คาซึยะกำลังเผชิญอยู่ในใจ ณ ขณะนี้

“คาซึย้า~~~ ไปเล่นเกมส์กัน” เสียงตะโกนดังมาจากประตูหน้าบ้าน ตามมาด้วยเสียงวิ่งตึงๆ ทำให้คาซึยะปล่อยมือของโทโมอากิลงอย่างรวดเร็ว

“พี นายจะพังบ้านชั้นรึไง แล้วจะตะโกนทำไม อยู่กันแค่เนี้ย” คาซึยะหันไปพูดกับคนที่เพิ่งวิ่งเข้ามา

“บ่นเป็นตาแก่ไปได้คาซึยะ กว่าชั้นจะหลบแม่ออกมาได้ก็แทบแย่แล้ว เร็วๆ ไปเล่นเกมส์กัน เดี๋ยวแม่มาตามแล้วชั้นจะอดเล่น” แฝดคนพี่รีบตรงดิ่งไปฉุดมือของคาซึยะเตรียมลากเต็มที่ ก่อนจะหันมาพูดกับน้องชายตัวเอง “อากิ ไปเล่นด้วยกันมั้ย หนุกนะ”

“ไม่ล่ะ เดี่ยวชั้นจะกลับบ้านแล้ว” โทโมอากิปฏิเสธไปเพราะไม่ใช่ขาเกมส์อย่าง 2 คนนี้ เล่นกันได้ทั้งวันทั้งคืน อะไรก็ไม่รู้

“งั้นพี่ฝากดูแม่ด้วยนะ อย่าให้แม่รู้นะว่าพี่แอบมาเล่นเกมส์”

“อื้ม” โทโมอิกาตอบรับ

“งั้นไปกันเร็วคาซึยะ” ว่าแล้วโทโมฮิสะก็ลากคาซึยะขึ้นไปบนห้อง โดยมีเสียงบ่นของคาซึยะตลอดทาง ซึ่งโทโมฮิสะหาได้สนใจไม่

“เมื่อกี้อะไรกันหรอจ๊ะ เสียงดังเชียว” คุณแม่ของคาซึยะเดินออกมาดู ก็เห็นเพียงโทโมอากินั่งอยู่เพียงลำพัง

“พี่มาเล่นเกมส์น่ะฮะ งั้นผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะฮะ เดี๋ยวแม่จะว่าลูกหายไปจากบ้านกันหมด”

“จ้า ขอบใจสำหรับเค้กนะจ๊ะอากิจัง”

“ฮะ ไปแล้วนะครับ”

*****************************************

เสียงเพลงที่เพิ่งจบลงทำให้คนที่นั่งฟังอยู่ต้องหันมาชม

“เพลงเพราะนะจิน แต่งไว้ให้ใครรึเปล่าเนี่ย” ทากุจิ จุนโนะสุเกะ มือเบสประจำวงถามขึ้น

“ก็.......นะ” จินตอบสั้นๆ

“ไปแอบมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่บอกเพื่อนบอกฝูงเลยนะโว้ย ใครวะๆ เป็นคนในโรงเรียนเราป๊ะ?” จุนโนะถามต่อ ก็มันน่าสงสัยนี่หน่า จินเป็นทั้งนักกีฬาของโรงเรียน แล้วยังเป็นนักร้องนำของวงอีก หน้าตาก็ดี คนมาชอบก็มีเพียบ แต่เจ้าตัวกลับเฉยๆ ไม่สนใจใคร นี่แอบไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ เพื่อนร่วมวงอย่างเขาถึงไม่รู้ เอ๊ะ รึมันจะมีแฟนอยู่ตั้งนานแล้ว แต่ปิดไม่ให้ใครรู้ มันถึงไม่เคยสนใจมองใคร “บอกมาเลยจิน ใคร บอกมาเลย”

“ไม่เกี่ยวกับนายน่า อย่ารู้เลย” จินตอบเลี่ยงๆ ปฏิเสธไป

“โห แค่นี้ก็บอกไม่ได้ หวงจังนะแก ....หรือว่า........ความจริงแล้ว นายยังจีบเขาไม่ติด เลยไม่อยากบอก” จุนโนะหันมาทำตาโต(?)ใส่จินเป็นเชิงล้อเลียน “ฮ่ะๆๆๆ แน่เลย..... แต่อย่างแกกลัวไรวะ หน้าตาก็ดี บอกเขาไปดิว่าชอบ”

“ไม่ง่ายอย่างงั้นซะเมื่อไหร่ล่ะ”

“ทำไม เขามีแฟนอยู่แล้ว?”

“ไม่ ไม่มี”

“งั้นอะไร พ่อแม่เขาดุ ไม่ชอบหน้าแก?”

“เปล่า”

“รึตัวเขาเองไม่ชอบขี้หน้าแก?”

“เลิกถามเถอะน่า น่ารำคาญ!” จินโวยวายขึ้นมา

“อ้าวไอ้นี่นิ ก็มันอยากรู้นี่หว่า”

“แต่ชั้นไม่อยากบอกแกโว้ย!”

“ฮ่ะๆๆๆ อาคานิชิ จิน เขินหรอ น่าถ่ายรูปไว้ซะไม่มี นานๆ ทีจะได้เห็น” จุนโนะอารมณ์ดี หัวเราะร่า ในขณะที่จินกำลังหงุดหงิดโวยวาย

“หยุดหัวเราะซะที ไอ้บ้า เครียดจริงนะโว้ย”

“โทษทีๆ ก็มันขำนี่หว่า ใครจะรู้ว่าแกเขินเป็น”

จินหันมาตาเขียวปั๊ดใส่ จุนโนะถึงยอมหยุดหัวเราะ

“แต่โรแมนติกเหมือนกันนะแกเนี่ย แต่งเพลงให้ซะหวานเชียว พยายามเข้า ซักวันเขาคงยอมรับแกเองแหละ” แล้วจุนโนะก็ตบหลังจินดังอัก เป็นการให้กำลังใจ

“โอ๊ย เบาๆ หน่อยดิ ตัวก็ใหญ่ มือก็ใหญ่ แรงก็ควาย”

“อื้อหื้อ พูดอย่างกะตัวแกตัวเล็กบอบบางน่าทะนุถนอมนักนิ แกอ่ะ แรงเยอะกว่าชั้นอีก ................ ว่าแต่ จะเอาเพลงนี้เอาเข้าประกวดงานที่จะถึงนี่ด้วยมั้ย รึนายจะเก็บไว้ให้ใครคนนั้นฟังคนเดียว”

“เรื่องประกวดยังไม่รู้เลยว่ะ กับที่ไม่รู้ว่าเขาจะอยากฟังเพลงชั้นมั้ย”

“ปรับเข้าโหมดเศร้ากะทันหันเลยนะแก วันนี้เป็นไรวะ ไอ้มาดดุๆ นิ่งๆ มันหายไปไหนหมด”

“มันคงหลุดไปตอนแกตบหลังชั้นน่ะ ไอ้มือหนัก”

“งั้นเอาอีกซักรอบมั้ย มันจะได้กลับมา”

“เอาซิ คราวนี้มีถีบสวน ไอ้ตี๋”

“พูดงี้สวยดิ ขาชั้นยาวกว่าแกนะอย่าลืม”

และทั้งสองคนก็เถียงกันไปเรื่อยๆ สมาชิกวงคนอื่นๆ คะ ไปไหนกันหมด มาเร็วๆ ซิคะ มันจะเถียงกันตายอยู่แล้ว -“- ดนตรงดนตรีไม่ต้องซ้อมกันแล้วแบบนี้

.
.
.

“นี่เธอ รู้มั้ยยามาชิตะคนน้องเอาเค้กมาให้อาคานิชิอีกแล้ว”

หือออ........อะไรอ่ะ....มีชื่อน้องเราด้วย... โทโมฮิสะที่เดินผ่านมาได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงคนนึงเอ่ยถึงน้องตัวเองจึงหยุดฟัง

“จริงหรอ อีกแล้วหรอ” เสียงผู้หญิงอีกคนถามขึ้น

“อืม เห็นอาคานิชิชมใหญ่เลย ว่าอร่อยนักหนา” ผู้หญิงคนแรกตอบ

“โห~~ แบบนี้แล้วยังจะบอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกันอีกอย่างงั้นหรอ” เสียงของอีกคนในกลุ่ม

“นั่นซิ เห็นเขาว่ากันด้วยนะว่า ทุกครั้งที่วงของอาคานิชิซ้อม จะต้องมียามาชิตะ โทโมอากิไปนั่งดูอยู่ด้วยทุกครั้ง” เพิ่มมาอีกเสียง

“ชัวร์เลย ยามาชิตะคนน้องกับอาคานิชิแฟนกันแน่นๆ แต่ก็ดูเหมาะกันนะ อาคานิชิดูเท่ นิ่งๆ แล้วโทโมอากิก็อ่อนหวาน” นี่ก็ด้วย กลุ่มนี้มีกี่คนเนี่ย คนเขียนไม่ได้นับค่ะ

“ถ้าอย่างงั้นโทโมฮิสะล่ะ เห็นว่าหวงน้องนักหนา ทำไมถึงได้ยอมให้น้องไปคบกับอาคานิชิได้”

“คงไม่ค่อยจะเต็มใจหรอกมั้ง ไม่เห็นหรอ โทโมฮิสะกับอาคานิชิน่ะ เวลาเจอกันทีไรทะเลาะกันทุกที ถึงจะเป็นคนที่ตัวเองไม่ชอบ แต่ถ้าน้องชายสุดรักชอบล่ะก็คงต้องยอมล่ะมั้ง”

“แล้วตัวโทโมฮิสะเองล่ะ ไม่มีแฟนบ้างหรอ หน้าตาก็น่ารักซะขนาดนั้น”

“คงมีหรอก ถึงจะน่ารักแค่ไหน แต่ดุซะขนาดนั้น คงมีคนทนไหวหรอก นิสัยต่างกับน้องชายฝาแฝดราวฟ้ากับดิน ก็เห็นมีอยู่คนเดียวมั้งที่เอาอยู่”

“ใครอ่ะ”

“ก็คาเมนาชิไง เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเด็กคนนั้นน่ะ”

“จริงๆ แล้ว สองคนนี้เป็นแฟนกันไปซะก็ดีนะ เห็นเข้ากันดีนิ แล้วก็อย่างที่เธอว่า คนอื่นคงทนนิสัยของโทโมฮิสะไม่ได้หรอก”

....ทนไม่ไหวแล้วนะ..... โทโมฮิสะที่ยืนฟังอยู่เริ่มทนไม่ได้เดินตรงเข้าไปหากลุ่มหญิงสาวกลุ่มนั้น

“พวกเธอมีสิทธิอะไรมานินทาชั้นกับน้อง”

คนทั้งกลุ่มสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงของโทโมฮิสะดังมาจากข้างหลัง ก่อนที่หญิงสาวคนที่เป็นคนเริ่มต้นเล่าเรื่องจะหันมาตอบโทโมฮิสะ

“พวกชั้นไม่ได้นินทา แค่พูดเรื่องจริง ทำไมมีตรงไหนที่มันไม่จริงบ้าง”

“เธอ.......”

“ทนฟังไม่ได้รึไง ที่ถูกเอาไปเปรียบกับน้อง เพราะถึงหน้าตาจะเหมือนกัน แต่ใครๆ ก็เลือกน้องนายทั้งนั้นแหละ”

“ยังไม่หยุดพูดอีกนะ..”

“ชั้นอยากพูด ทำไม นายจะทำอะไรได้”

“พี่!” โทโมฮิสะที่กำลังจะก้าวเท้าเข้าไปหากลุ่มผู้หญิงกลุ่มนั้นหยุดชะงักเพราะเสียงเรียกจากน้องชายที่กำลังวิ่งมาทางนี้

“พี่จ๋า มีอะไรกัน”

“ไม่มีอะไรหรอกอากิ แค่พวกนี้มันปากเสีย”

“อย่าไปมีเรื่องกับเขาเลยนะพี่จ๋า กลับกันเถอะ” โทโมอากิเดินมาจับแขนโทโมฮิสะและพยายามดึงให้ออกเดินตามตัวเองไป

โทโมฮิสะนั้นยอมเดินตามแรงดึงของน้องชายก็จริง แต่สายตายังจ้องไปยังกลุ่มนั้นอย่างเอาเรื่อง ทางฝ่ายนู้นเองก็จ้องกลับมาไม่แพ้กัน

.
.
.

(Part 2)

yamapi, pin, jin, pic, kame, kamepi, akanishi

Previous post Next post
Up