Oct 06, 2011 13:23
Steal My Heart (Pin, NC-17) [4/4]
Title: Steal My Heart
Rating: NC-17
Pairing: Pin
Summary: หลังจากเงียบไป 4 เดือน โทโมฮิสะไม่ลังเลเลยที่จะรับโทรศัพท์จากรินะ ในเวลาตี 5 ของเช้าวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ
Wordscount: 4,399
เท็ตซึยะเรียนรู้อย่างรวดเร็วว่าจินจะหัวเราะเวลาที่เขาสาดน้ำจากซิงค์ใส่โทโมฮิสะ แล้วตอนนี้ทั้งจินทั้งโทโมฮิสะก็ไม่สามารถห้ามไม่ให้หนูน้อยจุ่มมือกลมๆ ลงใต้น้ำ แล้วตีให้น้ำกระเด็นไปทั่วห้องครัว
บางครั้งน้ำก็กระเซ็นไปถูกจินเหมือนกัน ประกายจากหยดน้ำที่ขนตาใต้แสงสีส้มของไปในห้องครัว ดูสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ เขาอ้าปากกว้างหัวเราะอย่างเต็มที่ ทำให้ห้องครัวเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
โทโมฮิสะได้แต่มองจิน เพลิดเพลินกับสิ่งที่เห็น และเท็ตซึยะก็เหมือนกัน โทโมฮิสะคิดว่าอาจเป็นเพราะเขาทั้งคู่รักจินมากก็เป็นได้
เท็ตซึยะเปียกโชกเป็นประจำ แต่จินก็ดูเหมือนจะไม่สนใจ จินจะอุ้มหนูน้อยแล้วเหวี่ยงเขาเป็นวงกลม สายลมอ่อนที่พัดมาจากหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ทำให้อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของฤดูร้อน
***
เมื่อรินะโทรมาบอกว่าเธอจะมาเยี่ยม โทโมฮิสะเริ่มตระหนกและโทรหาจิน แต่จินไม่รับโทรศัพท์ โทโมฮิสะรู้อยู่แล้วว่าจินจะไม่รับ เพราะว่าวันนี้จินมีประชุมกับทางวอร์เนอร์ และเป็นเรื่องสำคัญซะด้วย แต่โทโมฮิสะเองยังคงเป็นกังวลจนสายถูกโอนเข้าไประบบฝากข้อความ
โทโมฮิสะอุ้มเท็ตซึยะขึ้นมาแล้วนั่งลงบนพื้นโยกตัวไปมา พลางคิดว่านี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้ทำแบบนี้ ได้อุ้มเท็ตซึยะไว้กับอกในฐานะพ่อ เขาสงสัยว่า ณ เวลานี้ของวันพรุ่งนี้ ของเล่นที่กระจายอยู่ทั่วห้องนั่งเล่นนี้จะต้องลงไปอยู่ในกระเป๋า อาหารสำหรับเด็กที่อยู่ในตู้เย็นจะต้องเอาไปเก็บลงกล่อง เพื่อเตรียมพร้อมเมื่อรินะจะมารับลูกคืนไป เขาสงสัยว่าในคืนนี้เขาจะเข้านอนโดยต้องมองเห็นแปลเด็กที่ว่างเปล่าหรือไม่
เพียงแค่คิดว่าจะต้องสูญเสียเท็ตซึยะไป เขาก็เจ็บมากเสียจนเหมือนกับโลกทั้งใบของเขากำลังจะพังทลาย ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการคือให้จินกลับบ้านมาแล้วบอกกับเขาว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย แต่ว่าจินกลับมาบ้านตอนนี้ไม่ได้ โทโมฮิสะจึงถูกทิ้งให้จมอยู่กับความคิดตัวเองเพียงลำพัง
แต่แล้วอยู่ๆ ประตูก็ถูกเปิดออก แล้วจินก็โผล่เข้ามา หน้าแดงก่ำ หายใจหอบ ผมเฝ้ายุ่งเหยิง แต่จินกลับดูดีเอามากๆ จินใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแล็ค มีเนคไทสีดำคล้องอยู่หลวมๆ ที่รอบคอ “เป็นไรไป? เท็ตซึยะเป็นไรมั้ย?”
โทโมฮิสะอยากจะตอบจิน อยากจะตอบจริงๆ แต่เขากลับเริ่มร้องไห้ออกมาซะนี่ และเท็ตซึยะ เมื่อเห็นโทโมฮิสะร้องไห้ ก็เริ่มร้องตาม จินจึงคุกเข่าลงแล้วโอบทั้งสองคนไว้ในอ้อมกอด
อ้อมแขนของจินนั้นอบอุ่น โทโมฮิสะซุกใบหน้าของตัวเองลงกับเนื้อนุ่มที่คอจิน เขาสูดดมเอากลิ่นอาฟเตอร์เชฟและแชมพูกลิ่นวานิลาของจิน เขาซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดของจินอย่างไม่คิดอะไรทั้งสิ้น “จิน รินะกำลังมา” พอโทโมฮิสะพูดจบ จินก็นิ่งค้างไป
“อะไรนะ?”
“รินะกำลังจะมา ชั้นคิดว่าน้องจะมาเอาเท็ตซึยะไป” โทโมฮิสะบอก จินสบถออกมา โทโมฮิสะอยากจะดุจิน แต่ตัวเขาเองก็อยากจะสบถออกมาเหมือนกัน
“ไม่มีทางที่จู่ๆ รินะก็จะมาเอาเท็ตซึยะไปได้หรอก ใช่มั้ย?” จินถาม พลางกดหน้าของโทโมฮิสะลงกับคอตัวเองแน่นขึ้น “ชั้นหมายถึง เราเลี้ยงเขามาเป็นปีนะพี เขาไม่ใช่ลูกของรินะซะหน่อย”
“แต่กฎหมายไม่ได้ว่าอย่างนั้นนิ” โทโมฮิสะตอบ “แล้วรินะก็พูดเสมอว่าจะกลับมารับเท็ตซึยะซักวันนึง” โทโมฮิสะผละออกจากจิน เพราะเท็ตซึยะเริ่มส่งเสียงแสดงความอึดอัดออกมา “ชั้นคิดว่าชั้นไม่อยากจะเชื่อว่าเธอพูดจริง”
สายตาที่จินมองโทโมฮิสะนั้นแวววับ โทโมฮิสะอยากที่จะเอื้อมมือไปลูบใบหน้าของจิน เพื่อยืนยันกับตัวเองว่าอย่างน้อยๆ จินก็อยู่กับเขาที่นี่ และบางที ถ้าเขาทั้งสองคนอยู่ด้วยกันทุกอย่างจะไม่เป็นไร
แต่แล้วเท็ตซึยะก็ส่งเสียงอ้อแอ้ออกมา ทำให้หัวใจของโทโมฮิสะนั้นแทบจะหยุดเต้น มันสั่นอยู่ในอกเขา เขารู้ว่าเขาเสียเด็กคนนี้ไปไม่ได้ ถ้าเขาไม่ยังอยากจะรู้สึกว่าสูญเสียส่วนใดส่วนหนึ่งไป
จินอยู่ในครัวตอนที่รินะมาเคาะประตู โทโมฮิสะเป็นคนเดินมาเปิดประตูโดยมีเท็ตซึยะอยู่ในอ้อมอก
รินะยังใช้กระเป๋าแบรนด์แนมที่รองเท้าที่เข้าคู่กัน เครื่องสำอางค์ยังคงตกแต่งอยู่บนใบหน้าอย่างสวยงาม โทโมฮิสะก้มลงมามอง ที่นิ้วของรินะนั้นเพิ่งผ่านการทำเล็บมาใหม่ๆ “หวัดดี พี่โทโม” รินะทักทายเบาๆ โทโมฮิสะเห็นจากสีหน้าของเธอเวลาที่มองมายังเท็ตซึยะ ก็รู้แล้วว่าเธอตั้งใจมาเอาลูกคืน
“ยังหรอก” เสียงของโทโมฮิสะเบาราวกับเสียงกระซิบ และรินะก็มองเขาอย่างแปลกใจ “พี่ยังไม่พร้อม”
“ชั้นบอกพี่แล้ว ว่าแค่ฝากไว้ชั่วคราว” รินะตอบ โทโมฮิสะกอดเท็ตซึยะแนบกับอกแน่นขึ้นอีก เท็ตซึยะเริ่มขยับตัวยุกยิกๆ เพราะอึดอัด โทโมฮิสะก้มลงมองใบหน้ากลมแก้มยุ้ยของเท็ตซึยะ และดวงตาที่เหมือนกับของเขาเป๊ะ “เท็ตซึยะควรได้อยู่กับแม่นะพี่”
“พี่รู้” โทโมฮิสะยอมรับ และเขาก็รู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกพังทลายลงมา
“เราเอาเขาไปไม่ได้นะ รินะ” เสียงจินดังมาจากทางประตู “ยังไงๆ เราก็เอาเขาไปไม่ได้”
“แต่เขาเป็นลูกชั้นนะพี่” รินะตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นคง
จินส่งเสียงออกทางจมูก “เฮอะ ก็แค่ให้กำเนิด”
“จิน” โทโมฮิสะเรียกเบาๆ “อย่าทำให้เรื่องมันยากกว่านี้เลยนะ”
“ไม่ ชั้นจะทำให้มันยากยิ่งกว่านี้เยอะเลย” เสียงจินแหบต่ำ โทโมฮิสะเห็นดวงตาของจินชื้นขึ้นมา “เราทิ้งเขาไว้ที่นี่กับพี่และพีมาเป็นปีแล้วนะรินะ พี่รักเราเหมือนน้องสาวนะ และเราเป็นน้องสาวของพี แต่พี่ไม่มีทางที่จะปล่อยเธอมาทำลายครอบครัวของเราหรอก พี่เป็นคนดังนะ แล้วพี่ก็มีทนายเก่งๆ เยอะ”
รินะตกใจกับคำพูดนั้น ดวงโตของเธอเบิกโพลงขึ้น โทโมฮิสะรู้สึกเหมือนว่าเวลาหยุดหมุน ครอบครัวของเรา เขาคิด นิ้วเล็กๆ ของเท็ตซึยะกำเสื้อของโทโมฮิสะตรงบริเวณหัวใจพอดี จินเดินมาตรงที่โทโมฮิสะนั่งอยู่บนพื้น แล้ววางมือลงที่คอของเขา มือของจินนั้นทั้งนุ่มและอบอุ่น
โทโมฮิสะกลืนน้ำลาย แล้วเลื่อนมือสอดเข้าไปใต้มือของจิน ประสานนิ้วเข้าด้วยกัน “รินะ...” โทโมฮิสะเรียก รินะทำเพียงจ้องมองทั้งสองคน เธอก้มมองเมื่อเท็ตซึยะส่งเสียงอ้อแอ้ แล้วยื่นมือกลมๆ ไปหาจิน เด็กน้อยส่งเสียงที่โทโมฮิสะคิดว่าคงหมายถึงจิน แล้วจินก็อุ้มเท็ตซึยะขึ้น เด็กน้อยก็ดึงปอยผมของจินเข้าปากแล้วเคี้ยวทันที
“พี่ให้เธอเอาเขาไปจากพี่ไม่ได้” โทโมฮิสะบอก ไม่มีครั้งไหนที่เขาหมายความตามที่พูดมากเท่าครั้งนี้เลย เขาไม่รู้ว่าเขาจะมีโอกาสมากน้อยเท่าไหร่ถ้าเรื่องถึงศาล และไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเรื่องนี้ออกสู่สาธารณชน แต่สิ่งที่เขารู้ตอนนี้คือ เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ตราบใดที่เขาจะไม่ต้องตื่นขึ้นมาเห็นเปลที่ว่างเปล่าของเท็ตซึยะในวันพรุ่งนี้
“ชั้นเป็นแม่เขานะ พี่โทโมะ” รินะพูด เสียงของเธอสั่นเทา โทโมฮิสะเกือบจะใจอ่อน แต่จังหวะการเต้นของหัวใจจินที่เขาสัมผัสได้ที่ปลายนิ้วนั้น มั่นคง
“ไม่” โทโมฮิสะกล่าวเบาๆ “พี่ต่างหาก”
“แต่ชั้นอยาก....” รินะเริ่มพูด ก่อนที่เธอจะย่นหน้า แล้วยกแขนขึ้นกอดตัวเอง “ชั้นอยากมีส่วนในชีวิตเขาด้วย”
โทโมฮิสะไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
รินะเป็นน้องสาวของเขา ตอนที่พ่อทิ้งไป แม่ของเขาต้องทำงานทั้งวัน กว่าจะกลับบ้านมาก็เหนื่อยจนสายตัวแทบขาด จึงเหลือเพียงเขากับรินะสองคนเท่านั้น และเธอไว้ใจให้เขาดูแลลูกของเธอ
แต่เมื่อโทโมฮิสะมองไปที่จินที่กำลังใช้แขนขวาอุ้มเท็ตซึยะอยู่ และมือซ้ายของจินเกี่ยวอยู่กับมือโทโมฮิสะเอง เขาก็รู้สึกถึงความหวงที่รุนแรงมากจนเขาแทบหยุดหายใจ เพราะเท็ตซึยะไม่ใช่ลูกของรินะ และเขากับจินก็ช่วยกันเลี้ยงเด็กคนนี้มา
“เธอมีส่วนในชีวิตเขาได้” จินพูด รินะหยุดร้องไห้แล้วเงยหน้ามามองจิน
“พี่หมายความว่ายังไง?”
“เราอาจกำลังจะมีห้องว่างเร็วๆ นี้” จินพูดแล้วก้มลงมองโทโมฮิสะอย่างประหม่า เหมือนกำลังขออนุญาต หรือการตอบรับ หรืออะไรซักอย่างที่บอกว่าโทโมฮิสะเข้าใจที่เขาพูด
“จริงหรอ?” โทโมฮิสะถามกลับอย่างงงๆ จินหน้าแดงและดึงมือออกจากโทโมฮิสะอย่างรวดเร็ว
“บางที่ชั้นคงเข้าใจผิดไปเอง” จินพูดอย่างรวดเร็ว หน้าก็แดงก่ำ “ชั้นว่า ชั้นไม่ควรคิดอะไรไปเองเลย แล้ว...”
ครอบครัวของเรา โทโมฮิสะได้ยินมันอีกครั้งในหัว และเขาก็เข้าใจ ....จิน.....จินของเขา กำลังดูเหมือนกลัวและตื่นเต้นและลังเล และโทโมฮิสะไม่อยากให้จินต้องรู้สึกอย่างงั้นอีก อย่างน้อยก็กับเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเขาเอง
โทโมฮิสะรอจนกระทั่งสายตาเป็นกังวลของจินมองมาที่เขา เขายิ้มให้จิน รอยยิ้มน้อยๆ เท็ตซึยะดึงผมจิน แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้สึก “ทำไมนายถึงคิดเรื่องแบบนี้ออกก่อนตลอดเลยล่ะ?” โทโมฮิสะถาม รอยยิ้มของจินทำให้ทั้งห้องดูสดใสขึ้นมา รวมถึงทุกซอกทุกมุมของของหัวใจโทโมฮิสะด้วย
โทโมฮิสะหันไปหารินะที่ยังมองทั้งเขาและจินคุยกันด้วยสายตาที่มีความสงสัยและความหวัง “น้องอยากอยู่ที่นี่กับเรามั้ย?” โทโมฮิสะถาม “แบบนั้นเธอจะได้เห็นเท็ตซึยะทุกวัน แล้วก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขาด้วย”
“ชั้น...” รินะสำลัก แล้วก็รวบรวมสติได้ เธอยิ้ม รอยยิ้มเพียงเล็กน้อย รอยเครื่องสำอางค์ของเธอทำให้โทโมฮิสะนึกถึงวันที่เธอนำเท็ตซึยะมาฝากเขาในฤดูใบไม้ผลิเมื่อปีที่แล้ว “ชั้นว่าแบบนั้นดีทีเดียว” เธอกล่าว และจินส่งเสียงอย่างร่าเริง ส่วนเท็ตซึยะก็หัวเราะคิกคัก โทโมฮิสะมองทั้งสองคนแล้วรู้สึกเหมือนกับว่าไม่มีอะไรในโลกนี้จะดีไปกว่านี้อีกแล้ว
***
หลังจากรินะกลับไปในคืนนั้น ก็เหลือเพียงจิน โทโมฮิสะ และเท็ตซึยะอีกครั้ง จู่ๆ จินก็รู้สึกประหม่า แล้วเดินหนีออกมาจากห้องนั่งเล่นและเอาเท็ตซึยะที่กำลังง่วงไปด้วย ส่วนโทโมฮิสะถูกทิ้งให้ยื่นงงๆ อยู่ในห้องนั่งเล่นเพียงลำพัง
เท็ตซึยะหลับภายใต้การเฝ้าดูของจินในขณะที่โทโมฮิสะอาบน้ำ สายน้ำอุ่นให้ความรู้สึกร้อนบนหลังของเขา มันช่วยล้างความตรึงเครียดจากเมื่อช่วงค่ำออกไป ทำให้โทโมฮิสะหลงเหลือเพียงจินอยู่ในความคิดเท่านั้น
โทโมฮิสะกำลังใส่เสื้ออยู่ตอนจินปรากฎตัวที่ประตู จินยังคงใส่ชุดเดิมจากเมื่อกลางวัน แต่ตอนนี้เขาปลดกระดุมเม็ดบนออก พับแขนเสื้อขึ้น แล้วก็มัดผมรวบเอาไว้
จินกัดที่ริมฝีปากตัวเอง หัวคิ้วขมวดขึ้นจนชนกันที่กลางหน้าผาก โทโมฮิสะไม่คิดว่าเขาเคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของจินมาก่อน และก็ไม่คิดว่าเขาชอบสีหน้าแบบนี้นัก
“เมื่อกี้ ชั้นขอโทษนะ” จินโพล่งออกมา ส่วนมือก็จะกรอบประตูแน่นซะจนโทโมฮิสะคิดว่านั่นน่าจะเจ็บนะ “ชั้นไม่น่าเลยที่อยู่ๆ ก็โพล่งออกไปแบบนั้น มันไม่ใช่แบบที่ชั้นอยากบอกกับนายซักหน่อยว่าชั้นน่ะ --- แล้วมันก็ไม่ใช่เวลาที่เหมาะที่ชั้นจะพูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแบบนั้น ---” จินพล่ามไปเรื่อยๆ ไม่หยุด โทโมฮิสะคิดว่าเขาไม่เคยเห็นจินที่สมบูรณ์แบบไปกว่านี้อีกแล้ว
“จิน” โทโมฮิสะเรียก “หุบปากน่ะ”
จินกลืนน้ำลายแล้วก้าวเข้าไปในห้อง “โอเค” จินพูด “โอเค”
โทโมฮิสะสอดแขนใส่เสื้อจนเสร็จแล้วจึงเดินอย่างใจเย็นมาหาจิน เมื่อเขาถึงตัวจิน โทโมฮิสะยกมือขึ้นสอดเข้าไปในผมหนาของจิน ดึงยางที่รัดผมออก ปล่อยผมให้ลงมาระอยู่ที่ไหล่ของจิน “ชั้นก็รักนาย” โทโมฮิสะพูด ก่อนจะโน้มตัวเขาไปจูบจิน
มันเป็นเพียงแค่ริมฝีปากประกบกันเบาๆ กลิ่นที่โทโมฮิสะสูดดมได้ตอนนี้จากจินนั้นเหมือนกลิ่นของโลชั่นเด็กผสมกับวานิลา ช่างเป็นกลิ่นที่น่าหลงไหลจนต้องสอดหายใจเข้าไปอีกครั้ง
จินเผยอปากขึ้น ลมหายใจที่ออกมานั้นกระทบกับริมฝีปากของโทโมฮิสะ ปากจินแห้งแตก แต่นั่นไม่สำคัญ เพราะว่าจินยกมือขึ้นมาวางเบาๆ บนไหล่ของโทโมฮิสะและจูบเขาตอบ
ลิ้นของจินยอกล้ออยู่กับกรีบฝีปากของเขา และโทโมฮิสะก็เปิดปากตอบรับแต่โดยดี เพราะว่าเป็นจิน และถึงแม้ทั้งคู่จะไม่เคยจูบกันมาก่อน แต่โทโมฮิสะก็รู้ว่าจะต้องทำยังไงกับจิน เพราะยังไง จินก็เป็นส่วนหนึ่งของเขา
ความรู้สึกที่ลิ้นของจินไล่เรียงไปตามฟันของเขานั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ แต่มันเหมือนกับเป็นการก้าวไปอีกขั้นจากเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมาจนมาถึงการที่ริมฝีปากและลิ้นของทั้งคู่ที่แนบสนิทกันอยู่ขณะนี้ ทั้งความรู้สึกของเล็บจินที่จิกลงบนไหล่ของเขา ทั้งกลิ่นหอมของผมของจินที่อยู่ระหว่างนิ้วมือของเขา
จินอ้าปากหายใจ และโทโมฮิสะก็กลืนเสียงเหล่านั้นลงไปในลำคอแล้วเอียงศีรษะไปทางซ้าย เคลื่อนลิ้นไปตามเพดานปากของจินเพื่อดูว่า จินจะส่งเสียงแบบนั้นอีกรึเปล่า
พอทั้งคู่ผละออกจากกัน โทโมฮิสะจ้องมองจินที่ตอนนี้มองเขากลับสายตาเป็นประกาย ริมฝีปากตึงขึ้นจากการจูบ โทโมฮิสะไม่คิดว่าเขาต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว
“นายทำชั้นเสียแผนที่จะสารภาพรัก” จินพูด ริมฝีปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กๆ “ชั้นวางแผนเอาไว้ซะดิบดี”
“เราไม่จำเป็นต้องมีคำสารภาพรักหรอก จริงมั้ย?” โทโมฮิสะพูด เอื้อมมือไปกำข้อมือของจินไว้ เขารู้สึกถึงการเต้นของหัวใจของจินที่เร็วขึ้น ซึ่งมันเหมือนกับเขา “ก็เป็นพวกเราสองคนนิ แน่นอนอยู่แล้วว่าชั้นรักนาย”
“ชั้นก็ว่างั้น” จินพูด ดึงข้อมือออกจากมือโทโมฮิสะ แล้วโอบแขนรอบเอวเขาแทน จินกดปากลงบนแก้มของโทโมฮิสะ เรื่อยลงมาตามสันกรามจนไปถึงใบหู “แต่ถ้าเรามีคำสารภาพรัก” มือของจินเลื่อนเข้าไปในเสื้อของโทโมฮิสะ ให้รอยสัมผัสอุ่นร้อนอยู่บนหลัง “ถ้าเรามี ชั้นจะบอกนายว่า นาย...เป็นทุกอย่างของชั้นตั้งแต่นายอายุ 17 ชั้นจะบอกนายว่า ที่ชั้นไม่เคยตกหลุมรักใคร เพราะว่า..หัวใจของชั้น..ให้นายไปแล้ว และเพราะอย่างงั้น..มันไม่เหลือไปให้ใครอีกแล้ว ชั้นจะบอกนายว่า นายกับเท็ตซึยะ เป็นสิ่งแรกที่ชั้นนึกถึงยามตื่นนอน และเป็นสิ่งสุดท้ายที่ชั้นคิดถึงก่อนหลับตานอน เมื่อชั้นคิดถึงอนาคต ที่มันทั้งไม่ชัดเจนและไม่แน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่ชั้นมั่นใจแน่นอน..ก็คือ..นาย”
โทโมฮิสะตัวสั่นสะท้าน เขาเลื่อนมือขึ้นไปตามแขนของจิน รู้สึกถึงผิวสัมผัสนุ่มมือของเสื้อและความร้อนจากผิวใต้เสื้อนั้น “ถ้าเรามีคำสารภาพรักนะ..” โทโมฮิสะบอกกับจิน ขณะยกมือขึ้นวางที่ข้างใบหน้าของจินทั้งสองข้าง “..ที่นายพูดมา..ก็น่าฟังใช่น้อย”
โทโมฮะสะเคลื่อนริมฝีปากเข้าหาจินอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่นุ่มนวลอ่อนโยนเหมือนครั้งก่อน มันเร่าร้อนกว่า โทโมฮิสะรู้สึกเหมือนเขาอยู่ท่ามกลางกองไฟ และทุกสัมผัสจากมือใหญ่ของจินก็ยิ่งทำให้เขาร้อนรุ่มขึ้น
โทโมฮิสะละริมฝีปากจากปากของจิน เพื่อไล่ลงไปตามลำคอ จินเอียงคอตอบรับ เสียงแห่งความสุขหลุดออกมาจากจินเบาๆ ในขณะที่ริมฝีปากของโทโมฮิสะยังวนเวียนอยู่ที่ลำคอชองจิน มันทำให้เขาอยากที่จะสัมผัสให้ทั่วทุกส่วนของผิวหนัง มือของเขาปลดกระดุมเสื้อจินอย่าเร่งรีบ แล้วเขาก็ได้เห็นแผงอกกว้างสีแทนของจิน โทโมฮิสะจ้องมองมันอย่างไม่เคยเห็น เพราะในความรู้สึกของเขามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะว่าในที่สุดเขาก็ได้สัมผัสมัน และมันก็หมายความว่าจินเป็นของเขา เหมือนที่เท็ตซึยะเป็นของเขา ทั้งสองคนเป็นของเขา ไม่ใช่ของคนอื่น
แต่จินมีแผนอื่นมากกว่าแค่มอง จินดันโทโมฮิสะให้ถอยหลังไปที่เตียง หัวเข่าของโทโมฮิสะชนกับขอบเตียง เขาจีงนั่งลงแล้วใช้มือทั้งสองดึงที่เสื้อจินให้ล้มตัวลงมาอยู่บนเตียงด้วยกัน โดยที่จินอยู่ด้านบน
ปากของจินเคลื่อนหาโทโมฮิสะ และโทโมฮิสะเองก็ยิ่งกว่ายินดีที่จะเคลื่อนไปหาจิน แล้วเขาก็รู้สึกถึงมือของจิน เหมือนกับว่ามันอยู่ทุกทีทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะลูบไล้ไปตามแผ่นหลังหรือบนหน้าท้อง หรือเลื่อนมาดึงที่ผมเขา โทโมฮิสะหายใจไม่ออก เพราะมีหลายอย่างที่เขาอยากสัมผัสอยากรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นเสียงครางของจิน หรือสัมผัสความแข็งขึงของจินที่อยู่ตรงหน้าขาของเขาผ่านเนื้อผ้าของกางเกงสแล็คที่จินใส่และกางเกงชั้นในของเขาเอง
ทั้งสองผละออกจากกันเพื่อที่จินจะได้ดึงเสื้อของโทโมฮิสะออก โทโมฮิสะได้แต่นึกในใจว่าแล้วจะเสียเวลาใส่ทำไมตั้งแต่แรกล่ะเนี่ย แล้วจินก็ก้มลงมาครอบครองยอดอกของเขาจากนั้นโทโมฮิสะคิดอะไรไม่ออกอีก สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือสอดมือเข้าไปกำแน่นที่ผมของจิน
จินไล่จูบลงมาเรื่อยจนถึงหน้าท้องของโทโมฮิสะ ลิ้นเปียกชื้นไล้เลียที่หน้าท้องที่ถึงแม้จะพักงานมานานก็ยังแบนราบ จินใช้ลิ้นไล้วนอยู่รอบสะดือของเขา แล้วเสียงร้องครางของเขาก็ทำให้จินยิ้มพอใจ
จินยกศีรษะขึ้นเมื่อเขาไล่จูบมาจนถึงขอบกางเกงชั้นในของโทโมฮิสะ และมันมีประกายซุกซนอยู่ในสายตาของจิน
“นายเป็นพวก DILF” จินพูด คำสุดท้ายเป็นภาษาอังกฤษ แต่จากน้ำเสียงของจิน โทโมฮิสะก็รู้ได้ว่ามันส่อเสียดขนาดไหน จินดึงที่ชั้นในของเขา และโทโมฮิสะก็ยกสะโพกตัวเองขึ้นเพื่อให้จินสามารถเลื่อนมันออกไปจากขาเขาได้ “มันหมายถึง ‘Dad I’d like to fuck’ น่ะ” จินอธิบาย แล้วกรีบปากของจินก็ครอบครองส่วนตั้งชันของเขา โทโมฮิสะไม่คิดว่ามันเป็นความคิดที่แย่ซักนิด
“ก็ทำซิ” เขาบอกจิน จินหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะขยับรูดลงตามความยาว ลิ้นและปากของจินทำให้โทโมฮิสะแทบจะปะทุ เขาพยายามจะไม่ดึงผมจินแรงนัก แต่มันก็ช่วยไม่ได้ และดูเหมือนว่าจินจะชอบซะด้วยซ้ำไป เพราะจินส่งเสียงออกมาทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือกรอบส่วนตั้งชั้นของโทโมฮิสะเวลาโทโมฮิสะดึงผมจินแรงๆ
“จิน ได้โปรด” โทโมฮิสะขอร้อง จินหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเร่งจังหวะ โทโมฮิสะรู้สึกถึงความตึงเกร็งเป็นสัญญาณว่าเขากำลังจะปดปล่อย
แต่เสียงที่ดังมาจากห้องเท็ตซึยะทำให้จินหยุดการกระทำทุกอย่าง แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีก จินจึงผละออกจากโทโมฮิสะ “รอก่อนนะพี” จินพูด แล้วโทโมฮิสะก็ถูกปล่อยให้นอนค้างอยู่บนเตียง ในขณะที่จินลุกออกไปดูเท็ตซึยะ
โทโมฮิสะรู้สึกว่ามันยาวนานนับชั่วโมงขณะนอนรอจิน แต่ในความเป็นจริง มันอาจจะเพิ่งผ่านไปเพียงไม่ถึงนาทีเท่านั้นเอง และแล้วจินก็กลับมา “ลูกนายกำลังหลับฝันหวานเลย” จินบอกเขา โทโมฮิสะ ทั้งๆ ที่อารมณ์ค้างอยู่ แต่ก็หัวเราะออกมา
“เขาได้นิสัยนั้นมาจากนาย” โทโมฮิสะตอบ จินโน้มตัวลงมาจูบเขา เชื่องช้าและเร่าร้อน โทโมฮิสะถอดกางเกงตัวนอกออกแล้วดึงบอกเซอร์ลง สัมผัสถึงความต้องการของจิน โทโมฮิสะกำมือรอบส่วนนั้น จินส่งเสียงออกมาเมื่อได้รับสัมผัสนั้น โทโมฮิสะชอบเสียงที่จินเปล่งออกมา เขาใช้นิ้วโป้งตวัดไปที่ส่วนปลาย พยายามจะให้จินทำเสียงแบบนั้นอีก จินจูบเขาหนักขึ้นก่อนจะผละออกมา แล้วมองสบตากับโทโมฮิสะ
“นายมีเจล มีถุงยางมั้ย?”
“ชั้นเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ต้องมีซิ” โทโมฮิสะพูดอมยิ้ม แล้วจินก็หัวเราะออกมา ก่อนจะเอื้อมมือไปที่โต๊ะข้างเตียง ควานหาจนเจอในตะกร้าใบสีชมพูที่เก็บของไว้อย่างเป็นระเบียบ
มือของจินนั้นสั่นขณะที่บีบเจลลงบนนิ้ว โทโมฮิสะจึงยกมือขึ้นไปจับมือจินไว้ไม่ให้สั่น “ไม่เป็นไรนะ”
“ชั้นไม่อยากทำให้นายเจ็บ” จินตอบ แล้วโทโมฮิสะก็ยิ้มให้
“นายไม่ทำชั้นเจ็บหรอก” โทโมฮิสะพูด ก่อนที่จับมือของจินพาไปที่ช่องทางที่รออยู่ เขากัดฟันแน่นเมื่อปลายนิ้วแรกแทรกตัวเข้ามา จินจ้องมองเขาอย่างกังวล ร่างกายของโทโมฮิสะปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อจินขยับนิ้วเข้าและออกอย่างช้าๆ ไม่นานเขาก็ขยับสะโพกตามจังหวะเข้าออกของจิน
“อีกนิ้ว” โทโมฮิสะเผยอปากหายใจ ส่วนจินครางออกมาเสียงดังเมื่อสอดนิ้วที่สองเข้าไปข้างใน เสียงนั้นทำให้โทโมฮิสะรัดรอบนิ้วจินแน่นขึ้น จินจ้องมองเขานิ่งค้างไป
“พี” จินกระซิบ แล้วจูบที่คอของโทโมฮิสะอย่างแสนโหยหา ดูดกลืนผิวบริเวณนั้นจนเกิดเป็นรอยทิ้งไว้
โทโมฮิสะแทบไม่รู้สึกถึงนิ้วที่สามที่สอดเข้าเพราะความม่านความสุขระคนเจ็บที่ปกคลุมเขาอยู่ แต่แล้วอยู่ๆ นิ้วทั้งหมดก็หายไป จินก็เปิดถุงยาง หยิบมันออกมาใส่ ทาเจลลงไปเพื่อให้หล่อลื่นได้ดีขึ้น โทโมฮิสะจ้องมองกริยาเหล่านั้นด้วยสายตาที่พล่าเลือน “ชั้นไม่คิดว่าเราพร้อมที่จะมีลูกอีกคนหรอกนะ” จินพูดติดตลก โทโมฮิสะปล่อยมือจากผ้าปูที่นอนที่เขากำอยู่มาวางที่แก้มจินอย่างแผ่วเบา
“ชั้นรักนาย” โทโมฮิสะบอกกับจิน ก่อนที่จินจะสอดใส่เข้ามาในตัวเขา แล้วโลกทั้งโลกก็เหมือนจะจางหายไป
***
บางครั้งจินมองเขาจากอีกฝั่งนึงของโต๊ะ ผมยังคงยุ่งเหยิงจากการนอน ยังมีรอยเปื้อนจากอาหารเช้าของเท็ตซึยะเป็นรูปมือเด็กทารกอยู่บนเสื้อ และเห็นเคราเล็กน้อยอยู่บนหน้าเนื่องจากเขายังไม่ได้โกนออก
โทโมฮิสะรู้สึกเต็มไปด้วยความรัก ความหวัง และความสุข และเมื่อจินยิ้มให้เขา ยื่มมือข้ามมาประสานนิ้วไว้ด้วยกัน เสียงเท็ตซึยะหัวเราะคิกคัก และอนาคตช่างดูสดใสอย่างไม่น่าเชื่อ
และโทโมฮิสะไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว
THE END
fic,
yamapi,
pin,
jin,
translation,
akanishi