Original by
maayacola here:
http://maayacola.livejournal.com/20052.html Steal My Heart (Pin, NC-17) [1/4]
Title: Steal My Heart
Rating: NC-17
Pairing: Pin
Summary: หลังจากเงียบไป 4 เดือน โทโมฮิสะไม่ลังเลเลยที่จะรับโทรศัพท์จากรินะ ในเวลาตี 5 ของเช้าวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ
Wordscount: 3,028
*************
หลังจากเงียบไป 4 เดือน โทโมฮิสะไม่ลังเลเลยที่จะรับโทรศัพท์จากรินะ ในเวลาตี 5 ของเช้าวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ
“รินะ?” โทโมฮิสะกรอกเสียงลงโทรศัพท์เบาๆ เพราะจินยังหลับอยู่ห้องข้างๆ และเขาไม่อยากจะปลุกจิน เพราะจินเพิ่งจะกลับมาจากห้องอัดเมื่อกี่ชั่วโมงก่อนนี้เอง “อยู่ที่ไหนน่ะ”
“โทโมะ ชั้นทำพลาดไปแล้ว” รินะพูดและนั่นทำให้โทโมฮิสะตื่นสนิททันที
“รินะ อยู่ที่ไหน? ปลอดภัยดีรึเปล่า?”
“อืม ชั้นปลอดภัยดี” รินะตอบ ลมหายใจเธอสะดุด “ชั้นต้องให้พี่ช่วย”
“ได้ทั้งนั้น” โทโมฮิสะตอบ และนั่นเป็นเรื่องจริง เพราะรินะเป็นน้องสาวของเขา ถึงแม้จะไม่ได้คุยกันมาเป็นเดือนๆก็เถอะ ถึงโทโมฮิสะจะงานยุ่ง แต่ก็ไม่เคยยุ่งจนไม่มีเวลาเมื่อยามที่รินะมีปัญหา
“ทุกอย่างเลยหรอ?” รินะถาม พลางหัวเราะอย่างขมขื่น “พี่อาจจะอยากรอดูก่อนว่าชั้นจะขอให้ช่วยอะไร”
*************
น้องสาวของเขายืนอยู่ตรงประตูหน้าอาพาร์ทเม้น เธอใส่หมวกอันใหญ่พร้อมด้วยแว่นกันแดด ทั้งๆ ที่ตอนนี้มันก็ 4 ทุ่มแล้ว ไม่มีแสงอาทิตย์เลยซักนิด รินะใช้ประเป๋าแบรนด์แนมใบโปรดที่เข้าคู่กับรองเท้า และยังทาลิปสติกเสียดิบดี เมื่อรินะถอดแว่นกันแดดออกมาแล้วเก็บไว้ในกระเป๋า ทำให้เห็นว่าดวงตาของเธอก็ถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางค์มาอย่างดี เธอไม่ได้ดูเหมือนคนกำลังมีปัญหาแม้แต่น้อย
แต่ก็มีร่องรอยให้เห็นเล็กน้อยว่ามีบางอย่างผิดปกติไป บนเล็บของเธอมีรอยกระเทาะของน้ำยาทาเล็บ และดูเหมือนว่าดวงตาของเธอจะบวมอยู่เล็กน้อยด้วย ถ้าโทโมฮิสะจะมองจ้องดีๆ
“พี่โทโมะ” เธอเรียก แล้วโผเข้ากอดเขา โทโมฮิสะกอดเธอแน่น ผมของรินะยังคงหอมเหมือนเมื่อก่อน มันทำให้โทโมฮิสะยิ้มออกมาได้แม้ในสถานการณ์อย่างนี้
“รินะ” เขาเรียก และรินะก็ผละออกจากอ้อมกอดและก้มลงไปที่เบาะรถที่วางอยู่บนพื้นข้างตัวเธอ และสิ่งที่เธอยกออกมาคือมนุษย์ตัวเล็กที่สุดเท่าที่โทโมฮิสะเคยเห็นมาเลย รินะค่อยๆ ส่งเด็กให้โทโมฮิสะอย่างระมัดระวัง โทโมฮิสะเองลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะยื่นมือออกไปรับ เขารู้สึกว่ามือของเจาเองนั้นทั้งใหญ่และแข็งแรงอย่างไม่น่าเชื่อ
โทโมฮิสะอุ้มเด็กน้อยเข้ามาในอ้อมกอด เขารู้สึกถึงความอุ่นที่ซึมผ่านผ้าห่มออกมา และเขาก็ก้มลงไปมองใบหน้าเล็กน่ารักที่ถูกซ่อนอยู่ใต้หมวกใบน้อย “เด็กคนนี้อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ” โทโมฮิสะกระซิบถาม และรินะก็เริ่มตัวสั่น
“8 วันแล้ว” เธอตอบ
โทโมฮิสะเงยหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “เด็กคนนี้เด็กเกินกว่าที่จะแยกจากแม่นะ รินะ เขายังเด็กเกินไป..”
“เขาชื่อเท็ตซึยะ” สะอื้นออกมา พยายามที่จะไม่ร้องไห้ขณะที่ก้าวถอยหลังไป ห่างออกไปจากโทโมฮิสะและเด็กน้อย “เขาเป็นเด็กดีมาก” เธอพูดต่อ “เขาแทบจะไม่ร้องกวนเลย อารมณ์ไม่แปรปรวนด้วย”
รินะหยุดพูด ยื่นนิ่งมองก้อนผ้าห่มในมือของโทโมฮิสะ เขาสังเกตุเห็นรอยมาสคาร่าที่ตอนนี้เลอะเปื้อนลงมาตามแก้มของเธอ “พี่จะดูแลเขาให้” โทโมฮิสะพูด
“ชั้นรู้ว่าพี่จะดูแลเขา” รินะพูด “แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ” เธอยืนยันกับโทโมฮิสะ “ไม่ใช่ตลอดไปหรอก ชั้นแค่...ชั้นยังไม่พร้อม ชั้นไม่รู้จะเอาหน้าที่ไหนไปเจอแม่ แล้วชั้นก็เพิ่งจะได้เล่นหนัง ไม่มีใครให้ผู้หญิงลุกติดที่ยังไม่ได้แต่งงานเล่นหนังหรอกนะ ที่นี่มันญี่ปุ่น...” เธอเริ่มพูดเรื่อยเปื่อยแต่ก็หยุดตัวเองได้ “ดูแลเขาให้ชั้นแค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ ทุกๆ คนให้อภัยพี่อยู่แล้วที่แอบไปมีลูก” รินะว่า “เพราะพี่คือ ยามาชิตะ โทโมฮิสะ”
โทโมฮิสะพยักหน้ารับ และเด็กในอ้อมแขนก็ขยับตัวเล็กน้อย ซุกตัวเข้ากับหน้าอกเขา เสื้อของโทโมฮิสะเปียกเป็นรอยจากปากของเด็กน้อย “ชั้นมีของใช้เด็กบางอย่างมาด้วย..” รินะพูด “มีผ้าอ้อม นมผง แล้วก็เสื้อผ้าเด็กอีกนิดหน่อย นี่หน้าจะอยู่ได้ซักอาทิตย์นึง” แต่โทโมฮิสะไม่ได้ฟังที่น้องสาวพูดเลย เพราะเขามัวแต่กำลังตกหลุมรักเด็กตัวเล็กในอ้อมแขน
*************
ใช้เวลาตั้ง 3 ชั่วโมงหลังจากรินะกลับไปแล้วกว่าโทโมฮิสะที่กำลังเป็นกังวล จะหลับลงได้ เขานอนอยู่บนเตียงจ้องมองเพดาน ตื่นสนิท ที่ข้างตัวมีเด็กน้อยนอนอยู่ด้วย เมื่อเขาขยับตัวเขาก็จะมีเสียงสูดลมหายใจดังมาเป็นระยะๆ
เป็นเด็กที่เงียบจริงๆ ด้วย โทโมฮิสะคิด เขารู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันเหมือนกับว่าหัวในของเขาอยู่ในอุ้งนิ้วเล็กๆ ของเท็ตซึยะ นิ้วเท้าน้อยๆ ของเท็ตซึยะ และสิ่งที่กำลังจะกลายเป็นรอยยิ้มของเท็ตซึยะ
เมื่อโทโมฮิสะเข้าครัวไปชงชา เขาห่อตัวเท็ตซึยะไว้ในผ้าห่มผืนเล็กๆ ที่รินะทิ้งไว้ให้ แล้ววางเท็ตซึยะลงบนโซฟาในที่ๆ เขาสามารถมองเห็นได้ในขณะที่เขาต้มน้ำ แต่เท็ตซึยะก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมา แล้วำอโทโมฮิสะนั่งลงที่โต๊ะในห้องครัวเขาก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว
โทโมฮิสะไม่รู้ว่ากี่โมงแล้วตอนที่เขารู้สึกตัวขึ้นมา แต่เขารู้ตัวว่าทำไมเขาถึงตื่น จิน ที่มึกลิ่นอาเตอร์เชฟและกลิ่นแชมพูติดตัวอยู่ ยื่นอยู่ข้างหลัง ลมหายใจรดต้นคออย่างน่าขนลุกพร้อมกับเขย่าตัวโทโมฮิสะอย่างแรง “พี...ตื่น”
“ม่าย” โทโมฮิสะตอบเสียงงวงเงีย เพราะว่าร่างกายเขายังไม่ยอมตื่น และเปลือกตาก็ไม่ยอมเปิด
“ยามาชิตะ โทโมฮิสะ ตื่นเดี๋ยวนี้นะโว้ย”
“ไมอ่ะ?” โทโมฮิสะถามออกมาอย่างคร่ำครวญ ก่อนที่เขาจะได้สติและลืมตาขึ้นมาทันที สิ่งที่เขาเห็นตอนนี้คือโต๊ะไม้ในครัวและแขนของเขากันแสงเอาไว้ไม่ให้แยงเข้าตา
“พี ชั้นไม่รู้ว่านายจะสังเกตมั้ย แต่มีเด็กทารกนอนอยู่บนโซฟาของเรา”
โทโมฮิสะส่งเสียงคราง “ชั้นรู้” เขากล่าว แต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะ เขาหวังว่าตัวเองยังคงกำลังฝันอยู่ “นั่นเท็ตซึยะ”
“โอเค” จินพูดออกมาช้าๆ ทำเหมือนโทโมฮิสะเป็นคนโง่ไม่รู้เรื่องรู้ราว “เด็กคนนี้มาจากไหน? บ้านเขาอยู่ที่ไหน?”
“บ้านเขาคือที่ที่เขาอยู่ตอนนี้เนี่ยแหละ” โทโมฮิสะว่า เลิกล้มความพยายามที่จะนอนต่อ แล้วยกแขนขึ้นมาบิดขี้เกลียด แสงนี่แยงตาชะมัดเลย
จินละสายตาจากโทโมฮิสะ มองไปที่เด็กน้อยที่นอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มของเขาแล้วยิ้มออกมาน้อยๆ “จริงหรอ ตอนนี้อ่ะนะ?”
โทโมฮิสะมองเพื่อนร่วมห้องอย่างระแวงขณะจินกระดี้กระด๊าไปที่โซฟาแล้วนั่งยองๆ ลงจนอยู่ในระดับเดียวกับเท็ตซึยะ จินค่อยๆ เอานิ้วจิ้มเข้าไปในผ้าห่มเบาๆ นั่นทำให้โทโมฮิสะรีบตามจินเข้ามาในห้องนั่งเล่น เพื่อมาดูหรือเพื่อมาค่อยกันเขาเองก็ยังไม่ค่อยมั่นใจ
เท็ตซึยะตื่นเพราะจินจิ้ม และเจ้าหนูน้อยก็ห้าวปากกว้าง ลิ้นเล็กๆ แลบออกมาขณะที่เขาสะอึก และโทโมฮิสะก็ตกหลุมรักเด็กคนนี้อีกครั้ง
“ลูกใครกัน พี?” จินถามพลางใช้นิ้วเกลี่ยแก้มเท็ตซึยะอย่างหลงใหล จินยิ้มเมื่อหนูน้อยหัวเราะคิกคักและส่งเสียงอ้อแอ้
“อืมมมมม......ลูกชั้น” โทโมฮิสะตอบ และเมื่อเขาพูดมันออกไป ก็เริ่มรู้สึกว่ากลายเป็นเรื่องจริง
เขาก้มลงมองเด็กน้อย ดวงตาคู่นั้น ตาของรินะ ตาของโทโมฮิสะ ก็จ้องมองกลับมา ดวงตากลมโตขี้สงสัยและบริสุทธิ์ โทโมฮิสะรู้สึกถึงความรักและความหวงแหนเด็กคนนี้มาซะจนเขาอยากจะกอดเอาไว้ในอ้อมแขนตลอดไป
“เขาเป็นลูกชั้น” โทโมฮิสะย้ำอีกครั้ง และจินก็ว่างมือลงบนบ่าของเขา
“ชั้นอยากมีลูกมาตั้งนานแล้ว” จินบอกเขา และนั่นก็ทำให้โทโมฮิสะยิ้มออกมา
*************
จินช่วยเขาไว้
จินที่ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้เรื่องเกี่ยวกับการเลี้ยงเด็กไปซะทุกเรื่อง ทั้งวิธีการอุ้ม ทั้งวิธีการป้อนนมเด็ก และจินก็หลงเท็ตซึยะเอามากๆ อาจจะมากพอๆ กับตัวโทโมฮิสะเองซะด้วยซ้ำ แม้ตัวโทโมฮิสะเองจะคิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้
แม่ของจินแวะมาหาด้วย และเธอก็ไม่ได้ถามโทโมฮิสะเลยแม้แต่น้อยว่าเด็กคนนี้มาจากไหน หรือว่าเขาวางแผนยังไงที่จะยังเป็นซุปเปอร์สตาร์แล้วก็มีลูกด้วย
เธอแค่มาช่วยพวกเขาจัดบ้านที่จะไม่เป็นอันตรายกับเด็กเท่านั้นเอง และโทโมฮิสะก็คิดว่าเธอมีความสุขมากในการเทเบียร์นอกของจินทิ้งลงท่อ พร้อมกับคำเตือนที่ว่าไม่ควรมีใครดื่มเหล้าในอาพาร์ทเม้นเวลามีเด็กเล็กขนาดนั้นอยู่ด้วย จินทำปากยื่น แต่ก็ไม่ได้เถียงอะไร และบางทีนั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้แม่ของจินพอใจมากที่สุด เพราะว่าขณะที่เธอมองดูจินใส่ถุงเท้าสีฟ้าอมม่วงให้เท็ตซึยะ รอยยิ้มของเธอกว้างขึ้นเรื่อยๆ เวลาจินจั๊กจี้เท็ตซึยะและกระซิบอะไรซักอย่างที่ทั้งเธอและโทโมฮิสะไม่ได้ยิน
โทโมฮิสะคิดว่ารอยยิ้มเดียวกันก็อาจจะระบายอยู่บนใบหน้าของเขาด้วยเช่นกัน เพราะว่าจินอ่อนโยนมาก และจินดูดีมากเวลายิ้มอย่างนั้น
โทโมฮิสะไม่ได้กะว่าจินจะเลี้ยงเด็กเก่งขนาดนี้ เขาไม่แน่ใจว่าเขาคาดหวังอะไร แต่ที่แน่ๆ มันไม่ใช่การที่จินลดเสียงทีวีลงครึ่งนึงเพื่อที่เท็ตซึยะจะได้ไม่ตกใจ และที่แน่ๆ ไม่ใช่การที่จินเตรียมน้ำที่ซิงก์และอาบน้ำให้เท็จซึยะอย่างระมัดระวังด้วยฟองน้ำ เพราะเท็ตซึยะยังเล็กและบอบบางเกินไปที่จะอาบในอ่างอาบน้ำ
และมันก็ไม่ใช่การที่จินอุ้มเท็ตซึยะไว้ในอ้อมแขนแล้วหลับไปบนโซฟา ทั้งสองคนหายใจเข้าออกพร้อมกัน ร่างเล็กๆ ของเท็ตซึยะขยับขึ้นลงตามหน้าอกของจิน เมื่อโทโมฮิสะกลับมาจากร้านสะดวกซื้อแล้วเห็นเข้า เขาทำได้แค่ยืนอยู่ตรงทางเดินแล้วจ้องมอง เพราะว่ามันเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบอย่างไม่น่าเชื่อ อุ้งมือเล็กของเท็ตซึยะยึดสองนิ้วของจินไว้ และศรีษะของจินหนุนอยู่บนที่วางแขนของโซฟา ราวกับว่าเขาหลับไปกำลังดูเท็ตซึยะ
และโทโมฮิสะยังคงรอที่จะตกใจ แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรอย่างนั้น เขาคิดว่าบางทีเขาควรที่จะตกใจ เพราะเขาเป็นคนโสดซึ่งงานยุ่งที่สามารถหลบมาได้แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง และตอนนี้เขามีลูก และเขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
“ชั้นควรจะกลัวมากกว่านี้” เขาบอกกับจินในวันหนึ่ง “ชั้นควรจะกลัวมากกว่านี้มาก”
“ทำไมล่ะ?” จินถามเขา ขณะที่กำลังเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เท็ตซึยะ พลางทำหน้าตลกๆ ให้เท็ตซึยะดูและเป่าลมแรงๆ ใส่ท้องของเท็ตซึยะ “เราโตพอที่จะมีลูกแล้วนะ”
โทโมฮิสะกลืนน้ำลาย “ชั้นมีพ่อที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่” โทโมฮิสะบอกจิน “ชั้นเลยไม่รู้ว่าจะเป็นพ่อที่ดีได้ยังไง”
จินเงยหน้ามามองเขาด้วยใบหน้าจริงจัง “งั้นเรามาเรียนรู้ไปพร้อมกัน” สิ่งที่จินแสดงออกมานั้นอ่อนโยน “เหมือนที่เราแก้ปัญหาเรื่องอื่นๆ ไง ใช่มั้ย คู่หู?”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทุอย่างจะเรียบร้อย เพราะเขามีเท็ตซึยะที่ได้ส่วนหนึ่งของหัวใจเขาไปแล้ว และเพราะเขามีจิน คนที่ ถ้าโทโมฮิสะซื่อสัตย์กับตัวเอง ได้หัวใจส่วนที่เหลือของเขาไปนานแล้ว
*************
“ผมอยากจะพักงานครับ” โทโมฮิสะกล่าว และคุณจอนนี่ซึ่งยืนสูบซิกการ์อยู่ที่ระเบียงพยักหน้ารับ
“ชั้นเข้าใจ มันไม่เป็นผลดีกับชื่อเสียงของเธอรู้มั้ย ที่เธอมีลูกและไม่มีใครรู้ว่าแม่ของเด็กเป็นใคร เธอควรจะตามหาผู้หญิงคนนั้นแล้วแต่งงานกันซะ” คุณจอนนี่สูบซิกการ์ด้วยลมหายใจยาว โทโมฮิสะถอดหนีโดยอัตโนมัติ เพราะบุหรี่นั้นไม่ควรสูบเวลาที่อยู่ใกล้เด็ก และโทโมฮิสะก็ต้องอยู่กับเด็กตลอดเวลา
“นั่นมัน....เป็นไปไม่ได้ครับ”
คุณจอนนี่หันสายตาคมมามองเขา “งั้นหรอ...ถ้าอย่างงั้น ถ้านี่เป็นสิ่งที่เธอต้องการ ยามะพี”
โทโมฮิสะนึกถึงปรอยผมอ่อนนุ่มของเท็ตซึยะ ผมที่ปกคลุมหัวเล็กๆ แทบจะไม่ทั่ว และนึกถึงประกายระยิบระยับในสายตาอยากรู้อยากเห็นของเท็ตซึยะ โทโมฮิสะไม่คิดว่าเขาต้องการอะไรต่างไปจากนี้
*************
“ชั้นจะพักงาน” เมื่อโทโมฮิสะพูด ทั้งห้องก็เงียบ “ยังไม่รู้ว่าจะนานเท่าไหร่หรอกนะ”
“เอ่อ...แกไปทำเชี่ยไรมาวะ?” เรียวถาม และถึงแม้คนอื่นจะไม่พูดแบบนี้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าทุกคนรู้สึกเหมือนกับเรียว “อย่างแกไปทำไรมาถึงได้ต้องพักงานเนี่ย”
“ชั้นขอหยุดพักเองแหละ” โทโมฮิสะตอบ และโคยามาก็เดินเข้ามาเอามือว่างไว้บนบ่าให้กำลังใจโทโมฮิสะ
“ทุกอย่างโอเคนะ ลีดเดอร์?” และทันใดนั้นทุกคนก็ตั้งใจรอฟังคำตอบ เทโกชิดูเป็นห่วง และเรียวยืนกอดอกเอาเท้าเคาะพื้นอย่างกังวล
“พูดมา” เรียวขึ้นเสียง แต่พอชิเงะหรี่ตามอง เรียวก็กลับดูอายขึ้นมา “โทษที”
“ชั้นแค่...อยากใช้เวลาส่วนตัวบ้าง” โทโทฮิสะกล่าว เขารู้ว่าเขาไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อน เพราะว่าเขารักงานของเขา และเมื่อตอนที่ NEWS ถูกพักงาน เขาคิดว่าเขาอาจจะตายเพราะความเบื่อก็ได้ แต่....ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว
“ลีดเดอร์ถูกเปลี่ยนตัวกับเอเลี่ยน” มัสสึหัวเราะเบาๆ และเรียวยิ้มอย่างมีเลศนัย
“เป็นไปได้มากกว่าที่ว่า” เรียวพูด “ลีดเดอร์ถูกเปลี่ยนตัวกับมนุษย์
โทโมฮิสะยิ้มตอบ
*************
โทโมฮิสะไม่รู้ตัวว่าจินกลับมาถึงบ้านแล้วจนกระทั่งเขาเงยหน้าจากกองเท็ดดี้แบร์ที่เขาสะมไว้มาเจอรอยยิ้มกว้างของจิน
“จิน!” โทโมฮิสะร้อง ใบหน้าซับสีระเรื่อ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้จินยิ้มกว่าขึ้นและหลุดขำออกมา
“ชั้นอยากว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปน่ะ” จินพูด “เกิดอะไรพอหมียามะพีกับหมีจินไปถึงปราสาทเวทมนตร์
โทโมฮิสะยิ้มหวานให้จิน ก่อนที่เขาจะปาหมีจินทิ้งไปใต้โซฟา “โชคร้ายนะ หมีจินถูกฆ่าโดยมังกรไฟ และก็ไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลย”
จินขมวดคิ้ว “เนื้อเรื่องนายห่วยว่ะ” จินว่า แต่โทโมฮิสะขำ “อย่าใจร้ายใส่ชั้นต่อหน้าเท็ตซึยะซิ เดี๋ยวเขาจะติดเป็นนิสัย” จินนั่งคุกเข่าลงข้างโทโมฮิสะ แล้วดันโทมโมฮิสะออกไป เพื่อที่เขาจะได้ก้มลงไปจูบที่หน้าผากของเด็กน้อย
“เขาเด็กเกินกว่าที่จะเรียนรู้อะไรพวกนั้นน่ะ” โทโมฮิสะตอบ และใช้ไหล่ชนจิน จินชนเขากลับ
“พวกเด็กๆ น่ะ เริ่มเรียนรู้ตั้งแต่ยังเล็กมากนะ” จินว่า “เราต้องทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี”
“งั้นนายก็ควรที่จะเริ่มหวีผมซะที” โทโมฮิสะพูด “ไม่งั้นลูกชายชั้นก็คงจะมีพวกสัตว์เข้าไปอยู่ในผมของเขาเหมือนนาย”
“เฮ้ย” จินร้องประท้วง แต่ด้วยเสียงที่เบา แล้วโทโมฮิสะก็เลื่อนมือไปลูบผมของจินเป็นเชิงขอโทษ จินเอียงรับสัมผัสนั้น แก้มของเขาวางอยู่ตรงข้อมือของโทโมฮิสะ
แล้วอยู่ๆ เท็ตซึยะก็หัวเราะขึ้นมา แล้วโทโมฮิสะก็หลุดจากภวังค์ ลดมาคงมาจากผมของจินขณะที่ทั้งสองหันมามองเท็ตซึยะ ดวงตาของเท็ตซึยะเปิดกว้าง และความคล้ายคลึงของนี้เองทำให้ทั้งสองทึ่ง “เขาเหมือนนายมากเลยนะ” จินพูด และโทโมฮิสะก็ใช้สายตาไล่มองตามโครงหน้าของเท็ตซึยะแล้วก็ต้องเห็นด้วย
โทโมฮิสะไม่รู้ตัวจนกระทั่งเขากำลังอุ่นขวดในหม้อน้ำเดือดว่าเขาเรียกเท็ตซึยะว่าลูกชายของเขา
[Part 2]