Title:
Hoshi wo mezashite (Chapter 4.2 / 5)Author:
simph8Fandom: Hey!Say!JUMP
Pairing: Yabu Kota x Inoo Kei, Takaki Yuya x Inoo Kei, Takaki Yuya x Chinen Yuri, Yabu Kota x Yaotome Hikaru
Rating: NC-17
Waring: Death!fic, Violence, Au!, Underage
Disclaimer: The story belongs to
simph8 I just translated into Thai language.
credit:
vogue91 ยูริมองชายที่ตนรักกำลังร้องสะอื้น กองอยู่กับพื้น อ้อนวอนร้องขอชีวิต
แต่ยูริให้ตามที่ขอร้องไม่ได้ เขาบอกโคตะไปแล้ว แต่นี่เป็นครั้งเดียว ที่เขาไม่ปรารถนาจะทำอย่างที่ได้บอกออกไปแล้ว เขารู้สึกว่าตนถูกยูยะหักหลัง ทั้งที่เขาเองก็รู้ดี ว่าเขาไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เขาควรรู้สึกเช่นนั้น
เพราะไม่มีอะไรเลยระหว่างเขาสองคน นอกจากเซ็กซ์ แต่เมื่อได้เห็นยูยะเสี่ยงชีวิตปกป้องเคย์ มันกลับทำให้ยูริรู้สึกเจ็บ
ยูยะยังคงอยู่ที่พื้น
ยูริอยากจูบเขา อยากสัมผัสแตะต้อง และร่วมรักกัน
เป็นครั้งสุดท้าย
แต่ก็ไม่สามารถทำได้
เขาหรี่ตา จดจำภาพครั้งสุดท้ายที่ได้อยู่ด้วยกัน จดจำว่าเขาน่าเวทนาแค่ไหน แต่กระนั้น ในตอนนั้นเขาก็มีความสุข
เขาหยิบปืนออกมาจากกระเป๋าด้านหลัง ตรวจดูกระสุน แล้วบรรจุลงตลับปืน
เขาเกลียดงานนี้
เกลียดที่เคย์หนี เกลียดยูยะที่ตัดสินใจสละชีวิตของตนเพื่อจะได้อยู่กับเคย์
เขาเกลียดทุกสิ่ง เกลียดทุกคน
แล้วยูริก็รู้สึกถึงน้ำตาที่เปื้อนแก้ม เขาเกลียดการร่ำไห้
แย่ แย่กว่าทุกครั้ง
เพราะเขาเห็นมือตนเองที่ถือปืนเล็งไปที่ศีรษะของยูยะกำลังสั่นเทา
เขาหรี่ตา พยายามเค้นหาความกล้าที่จะฆ่ายูยะ
ยิงออกไป
หนึ่งนัด
กลิ่นเขม่าปืนผสมปนเปกับกลิ่นคาวเลือด
เข่าทรุดลง ไร้สิ้นเรี่ยวแรง แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด
เขาพยายามขยับเข้าไปใกล้ร่างของยูยะ สัมผัส แล้วประคองใบหน้านั้น ลูบไล้ผิวหน้าที่ยังคงอุ่น แล้วจูบแผ่วเบา
ริมฝีปากนั้นยังคงอุ่นและนุ่ม ราวกับว่ายังคงมีชีวิตอยู่
ยูริร้องไห้คร่ำครวญเสียงดังยิ่งขึ้น ร่างกายตนเองสั่นไหวด้วยหยาดน้ำตา
เขาลุกขึ้นยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ พยายามสงบจิตใจ
แล้วสวมแว่นตาดำปิดบังนัยน์ตาที่บวมแดง แล้วเดินออกจากบ้านหลังนั้น ทิ้งร่างชายที่ตนรักไว้เบื้องหลัง
**
เคย์ค่อยๆ ปิดประตูตามหลัง
โคตะถอดรองเท้าออก หงุดหงิดเสียจนกระแทกตัวนั่งลงกับเก้าอี้ แล้วหยิบบุหรี่มาสูบ มวนต่อมวน เคย์ได้แต่ยืนนิ่ง
โคตะพูดอะไรเลยตลอดทางกลับบ้าน
ยูริก็ไม่ปริปากเช่นกัน เขานั่งชันเข่าข้างหนึ่งตรงที่นั่งข้างคนขับ มองออกไปนอกหน้าต่าง สูบบุหรี่ โดยไม่พูดอะไรเลย
โคตะเปิดทีวี ไม่มีท่าทีจะสนใจคนอายุน้อยกว่า
เคย์จึงเดินเข้าไปในห้องนอน
ยืนรอให้โคตะเดินเข้ามาลงโทษ เขาไม่ได้ล้างคราบเลือดออกจากใบหน้าตน
แต่โคตะก็ไม่เดินเข้ามา ไม่กลับเข้ามานอนกับเขา
เคย์ปิดเปลือกตา ร่ำไห้ให้กับการจากไปของยูยะ
เคย์เดินออกมาจากห้องในเช้าวันถัดมา โคตะไม่อยู่แล้ว เขาจึงนั่งลงที่เก้าอี้ และปิดทีวีที่เปิดค้างไว้ บนโต๊ะมีโน้ตบอกไว้ว่ายูริบอกว่าเคย์ไม่ต้องออกไปทำงานสักสองสามวัน
เคย์ทำตามที่บอก นั่งจ่อมอยู่ที่เก้าอี้จนกระทั่งเย็น แล้วจึงกลับเข้าไปในห้องนอน
ไม่มีวี่แววของโคตะ
บ้านยังคงเงียบ
เคย์กินอาหารเข้าไปเล็กน้อย ไม่รู้สึกหิวหรือกระหาย แต่เขาบังคับตนเองให้กิน เพื่อจะได้ไม่หิว
สี่วันผ่านไปแล้ว
และในที่สุดประตูก็เปิดออก
โคตะเดินเข้ามาในบ้าน โยนกระเป๋าลงกองไว้ที่พื้น ถอดรองเท้าออก และเดินเข้าไปในห้องน้ำไม่ได้ปริปากพูดอะไร
เคย์ได้ยินเสียงน้ำฝักบัว จึงเอนหลังกับโซฟา มองทีวีที่ไม่ได้เปิด
หลังจากนั้นคนโตกว่าจึงเดินออกมา โดยมีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว และผมที่ยังเปียก
เคย์เดินตามเข้าไป ตัดสินใจว่าจะยอมรับผลที่จะตามมา
แต่โคตะหันมาทางเขา “ฉันไม่อยากนอนกับนาย” เขาพึมพำก่อนที่เคย์จะปิดประตู
เคย์อยากจะร้องออกมา แต่ได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง ช็อคเกินจะปริปากพูดอะไรออกมา แล้วจึงค่อยๆ เข้ามาในห้อง
โคตะนอนตะแคง ไม่หันมามองเคย์ที่กำลังเดินเข้ามา
เคย์นอนลงข้าง วางมือลงบนสะโพกคนโตกว่า แต่ถูกปัดทิ้ง
“อย่าแตะตัวฉัน เคย์” โคตะบอกอย่างฉุนเฉียว
เคย์เมินเฉยต่อคำพูดนั้น ยังคงวางมืออย่างนั้น เขาได้ยินเสียงโคตะถอนหายใจ มือกำหมัดแน่น แต่เขาไม่หยุด
มือของเคย์สัมผัสไปยังด้านหลังคอของตนเอง ลูบรอยสัก ที่แผ่ไปถึงไหล่ทั้งสองข้าง
รอยสักนี้คือหลักฐานว่าเขาเป็นของโคตะ เป็นของโคตะได้เพียงคนเดียวเท่านั้น
แผ่นอกเคย์สัมผัสหลังโคตะ อิงศีรษะแนบข้าง และอยู่นิ่งแบบนั้น
“นายรู้สึกขมขื่นใช่มั้ย” โคตะพูดเสียงเรียบ
“อะไรนะ” เคย์ถามเสียงเบา
“ชีวิตของนาย มันน่ารังเกียจ ขมขื่น เมื่อนึกถึงการตายของทาคาคิใช่มั้ย”
เคย์ได้แต่นิ่งเงียบ ก่อนจะพยักหน้า
โคตะกำหมัดแน่นกว่าเดิม เลือดไหลหยดลงมา
เคย์ทำอะไรไม่ได้เลย รู้สึกผิด ผิดเกินกว่าจะแก้ตัว และได้แต่เงียบ และท่าทีผิดหวังและรังเกียจของโคตะก็ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลย
“คงประทับใจกว่านี้อีกนะ ถ้านายจะกรีดข้อมือตัวเองด้วย” โคตะปัดมือเคย์
“โคตะ นายมันโคตรเลว ฉันถูกขายให้กับคนที่จ่ายเงินมากที่สุดทุกคืนๆ นายคิดว่าฉันควรจะว่าไงล่ะ บอกว่าฉันโคตรแฮปปี้งั้นเหรอ” เคย์ตะโกน ลุกขึ้นนั่ง
“เออ อย่างน้อยก็แกล้งทำเป็นแฮปปี้ เพราะถ้านายไม่แฮปปี้ ก็ฆ่าตัวตายไปซะ” คนโตกว่าพูดเสียงเหนื่อยหอบ
“เพราะนาย เพราะนายมันถึงได้เป็นแบบนี้ โคตะ เพราะนาย ที่ฉันต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะนาย!”
โคตะหันมาหาเคย์ น้ำคลอดวงตา เขาอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วก็ปิดปาก ก่อนจะถอนหายใจหนักหน่วง เขาส่ายศีรษะ ราวกับว่าเหนื่อยที่จะทะเลาะกับผนัง
เคย์รู้สึกว่าลมหายใจของตนเองหนักอึ้ง เมื่อคนโตกว่าขยับเข้ามาหา มือไปประคองใบหน้า จูบเบาๆ ที่ใบหน้า คอ และดวงตาที่ปิดสนิท แล้วส่ายศีรษะ
“ฉันโทษตัวเองมาตลอดเก้าปี ทุกวันๆ เคย์ ฉันเหนื่อยแล้ว” โคตะพึมพำเบาๆ เขาแนบใบหน้ากับมือของอีกฝ่าย “ฉันเหนื่อยกับความรู้สึกผิด และได้แต่หวังว่าฉันไม่น่าไว้ชีวิตนาย ฉันรู้ว่าฉันทำผิด และฉันก็ไม่ได้อยากให้นายมาคอยย้ำฉันอยู่ทุกวินาทีแบบนี้” เขายังคงพูดเสียงเบา โดยไม่สบตาอีกฝ่าย
เคย์ส่ายศีรษะ ค่อยๆ ขยับเข้าไปชิดอย่างช้าๆ อยากรู้สึกถึงไออุ่นของมือคู่นั้น เหมือนเช่นทุกวัน
เขาเกลียดแววตาของโคตะที่มองมา เขาเกลียดที่โคตะข่มเหงเขา แต่ไม่เป็นไรเลย เพราะไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม
เพราะเขาแค่อยากอยู่ใกล้ๆ โคตะ เพราะเขารู้ดี ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา การที่เขาได้รักโคตะนับว่าเป็นเรื่องดีเพียงเรื่องเดียวที่เกิดขึ้น เขารักโคตะ
แม้ว่าเขาจะหนีไปกับยูยะ แม้ว่าช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาความรู้สึกของเขาจะเรรวน แม้ว่าเขายินดีที่จะได้รับความอ่อนโยนจากยูยะซึ่งเป็นลูกค้า แต่เขาก็อยู่โดยปราศจากโคตะไม่ได้
ตอนที่ยูยะขอให้เขาหนีไปด้วยกัน เขาลังเล เพียงเพราะเขาคิดว่าเขาไม่มีทางลืมโคตะได้ และตอนนี้เคย์เสียใจ ที่ตอนนั้นตนเองตอบตกลงที่จะหนีตามยูยะไป เพราะยูยะไม่สมควรที่จะต้องจบชีวิตลงแบบนั้น
ยูยะไม่สมควรที่จะต้องตายเพราะเขาที่หนีไปไม่พ้นโคตะ
เขาอยากย้อนกลับไปแก้ไข แต่ก็รู้ดีว่าทำไม่ได้
คนที่ตายไปแล้วไม่มีวันกลับมาอีก
“ทำไมตอนนั้นนายถึงไว้ชีวิตฉัน โคตะ” เคย์ถามเบาๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เคย์เอ่ยปากถามโคตะ
เขาไม่เคยกล้าพอที่จะมองหน้าแล้วถาม เพราะโคตะมักจะบอกว่าเขาเป็นแค่สิ่งของชิ้นหนึ่ง เป็นแค่ที่ระบาย มีค่าพอแค่ให้โคตะปลดปล่อยสิ่งที่อัดแน่นอยู่ภายใต้กางเกง
“ไม่กี่เดือนก่อนแม่ของฉันตาย ฉันทุ่มเทให้กับงานโดยไม่คิดจะหยุดพัก เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่จะทำให้ฉันลืมทุกๆ เรื่อง แล้วฉันก็ได้รับงานให้ไปจัดการแม่ของนาย แล้วก็ได้เจอนาย...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เหมือนบางอย่างในหัวฉันมันคลิก ฉันตัดสินใจว่าฉันต้องมีนาย ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม ตอนนั้นฉันมันบ้า โง่เง่า”
“เพราะอย่างนั้นนายถึงไว้ชีวิตฉันเหรอ แล้วทำไมนายถึงบ้าแบบนั้น” เคย์ถามเสียงอ่อน
โคตะลูบใบหน้าอีกฝ่าย
“ฉันหลงนายไง เคย์ นายไม่เข้าใจหรอก ถ้าไม่มีนายแล้ว ฉัน...” เขากัดริมฝีปากตนเอง ลังเลที่จะพูดต่อ “แล้วนายเองที่เป็นคนช่วยฉัน ฉัน...ฉันจำเป็นต้องมีนายเพื่อตัวฉัน ฉันรู้ว่านายไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันพูด แต่ว่าฉันหมายความตามนั้น” มือยังคงลูบไล้ “ความสวยของนายไม่ใช่มีดีแค่เปลือกนอก เคย์ นายมีค่ามากกว่าแค่มีหน้าตาสวย มากกว่าแค่ร่างกายที่มีไว้เพื่อร่วมรัก นายคือทุกอย่าง จำไว้นะ”
“การตายของแม่นาย ทำให้นายเสียศูนย์มากเลยใช่มั้ย” คนอายุน้อยกว่าถาม
“ใช่...” โคตะถอนหายใจ “ฉันไม่รู้ว่าทำไมแม่ฆ่าตัวตาย วันนึงในเดือนมกราคม ยูริกับฉันพบแม่แขวนคอห้อยลงมาจากเพดาน พวกคนครัวพูดถึงแม่ ว่าก่อนที่แม่จะตาย แม่มักจะพูดว่า...ว่าเป็นเพราะฉันเป็นตัวอัปมงคล ว่าฉันไม่ควรเกิดมา แม่เคยพยายามทำแท้ง แต่พ่อห้ามไว้ บางทีนั่นอาจเป็นสาเหตุที่แม่ฆ่าตัวตาย” โคตตะกลั้นน้ำตา ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง แล้วจุดบุหรี่สูบ
“ความคิดของพ่อกับแม่ไม่ค่อยลงรอยกัน แม่เกลียดฉัน ส่วนพ่อเกลียดยูริ บางทีนั่นคงเป็นเหตุผลที่ฉันได้เป็นหัวหน้าของตระกูล” โคตะยักไหล่ หัวเราะในลำคอ “แม่ฆ่าตัวตายในวันเกิดของฉัน” เขาพูดเสียงแผ่ว
เคย์ลูบรอยสักที่แผ่นหลังของโคตะ แล้วบีบไหล่เบาๆ
ช่วงปีแรก เคย์เคยจะถามเรื่องราวในชีวิตของโคตะ แต่กลับถูกทุบตีอย่างเกรี้ยวกราด จนเขาไม่เคยคิดจะถามอีก
ความเศร้าโศกที่ผ่านมาเก้าปียังคงไม่จางหาย กลับเหมือนเพิ่งเกิดขึ้น บางที วันหนึ่ง เขาอาจจะห้ามเลือดไม่ให้ไหลรินออกจากบาดแผลนี้ได้
เคย์ไม่ได้พูดอะไร
ตอนนี้โคตะเริ่มเปิดใจให้เขา เคย์จึงไม่อยากพูดอะไรที่ทำให้โคตะอาจจะปิดตัวเองอีก เคย์สำนึกผิดอย่างขมขื่นที่เขาตัดสินใจหนีไป
แววตาสิ้นหวังของโคตะเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด เขาไม่อาจทนเห็นแววตาสิ้นหวังของโคตะได้
“วันนี้วันเกิดฉัน เมื่อเก้าปีก่อน แม่ฆ่าตัวตาย พร้อมๆ กับที่สาปแช่งฉันและการถือกำเนิดของฉัน
เคย์สวมกอดโคตะ จูบที่แก้ม เขาลุกขึ้นนั่งและโอบแขนรอบคอโคตะ ให้โน้มเข้ามา
เขาขยับช้าๆ หรี่ตา แล้วจูบโคตะ
ก่อนนี้คนโตกว่ามักขโมยจูบเขาบ่อยๆ แต่ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่เคย์เป็นฝ่ายต้องการเริ่มจูบก่อน และรสจูบของโคตะเป็นสิ่งที่เคย์ไม่คิดจะลืม
และเคย์ก็รู้สึกถึงสองมือของโคตะบนแผ่นหลังของตน เขาครางเบาๆ โดยไม่ละริมฝีปากออก ต่างจูบกันอย่างตะกละตะกลาม แล้วมือของโคตะก็เลื่อนไปที่จุดนั้นของเคย์ แล้วขยับมือ กระตุ้นรอบส่วนนั้นช้าๆ
“โค-โคตะ นาย.... ?”
“เงียบเถอะ” อีกฝ่ายกระซิบ “อย่าขัดจังหวะดีๆ ด้วยคำพูดน้ำเน่าของนายเลยน่า” เขางึมงำแล้วจูบ
เคย์ทิ้งตัวลงอิงร่างโคตะ ปล่อยให้สองมือของคนโตกว่าเร้าให้ใจของเขาเตลิด เพริดไปกับทุกวินาที
โคตะคว้าเอว แล้วเอนร่างของคนอายุน้อยกว่าให้เอนราบลงกับที่นอน แล้วขยับร่างตนเองอยู่ตรงหว่างขา
เคย์ร้องครางเมื่อลิ้นของคนโตกว่าโอบรัดส่วนกลางหว่างขาของตน แล้วริมฝีปากเผยอด้วยความตกใจเมื่อถูกเร้าทางด้านหลัง
สองมือยึดผมของโคตะ ราวกับจะทึ้งออก แต่อีกฝ่ายยังคงไม่หยุดสิ่งที่ตนกำลังทำอยู่กับร่างของเคย์
โคตะยันตัวขึ้น แล้วสอดใส่เข้ามาช้าๆ สองมือของเคย์สั่นระริกเกาะกุมไหล่ของคนโตกว่า ครวญครางชื่อโคตะ จนกระทั่งรู้สึกถึงส่วนนั้นของโคตะที่ปลดปล่อยเข้ามาในร่างกายของตน
เคย์สะท้านไหว แล้วทรุดลงกับที่นอน เขากอดก่าย ลูบไล้แผงอกคนโตกว่า
โคตะจะไม่มีวันพูดถึงเรื่องเมื่อครู่ ว่าทำไมเขาถึงได้อ่อนโยนกับเคย์นัก และเคย์ก็จะไม่บอกว่าเขารู้สึกมีความสุขกับเซ็กซ์แบบเมื่อครู่กับโคตะ และปรารถนามานานแค่ไหนแล้ว
“ฉันมีของขวัญที่อยากจะให้นาย ฉันจะซื้อของขวัญให้นะ”
“ไม่จำเป็น ฉันไม่ชอบพวกของขวัญอะไรหรอก” โคตะยักไหล่ “ฉันไม่ฉลองวันเกิดด้วยซ้ำ ปกติแล้ว...ฉันจะซื้อของบ้าง แล้วก็ไปพวกภัตตาคารหรูหราระดับมิชลินในโตเกียว โคตรสนุกเลยตอนที่พวกพนักงานเสิรฟ์คอยทำตามคำสั่งฉัน” คนโตกว่าหัวเราะ
“ฉันรู้ แต่ว่าฉันอยากให้ นายอยากได้อะไรล่ะ”
โคตะกอดเคย์ไว้แน่น
“งั้น...ถ้านายมีเสื้อผ้าดีๆ นายก็ออกไปกับฉันคืนนี้ ตกลงมั้ย” โคตะงึมงำทั้งที่ริมฝีปากจรดอีกฝ่าย
“ฉันไม่ค่อยได้ไปร้านหรูๆ” เคย์ตอบก่อนจะจูบอีกฝ่าย “แต่คืนนี้ นายจะทำอะไรกับฉันก็ได้อย่างที่นายต้องการ โคตะ”
คนโตกว่ารั้งร่างเคย์เข้ามากอด เกี่ยวด้วยสองขา พรมจูบไม่ได้หยุด
“ฉันอยากจับนายมัดติดเตียง แล้วทำให้นายกรีดร้อง” โคตะกระซิบ
“ได้สิ”
“ฉันอยากให้นายอ้อนวอนขอร้อง”
“ได้สิ” เคย์ตอบเสียงกระเส่า ท่วมท้นด้วยความตื่นเต้นที่ถาโถมเข้ามา
“และฉันอยากให้นายร้องครางชื่อฉัน”
“ได้สิ โคตะ” เคย์คราง
ร่างของเคย์แนบชิดกับโคตะ ปล่อยให้อีกฝ่ายชักพาเขาไปซ้ำแล้วซ้ำอีก เคย์ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน และไม่อยากที่จะลืม
**
เคย์ถูกตรึงไว้กลางเตียง เชือกแต่ละข้างพันธนาการข้ออมือของเขาไว้แน่นกับหัวเตียง ขณะที่โคตะสอดเข้ามาในกายเขา
หลายชั่วโมงแล้ว นับจากกลับมาจากทานมื้อค่ำราวเที่ยงคืน จนตอนนี้แสงอรุณรุ่งเริ่มปรากฎนอกหน้าต่าง
แต่เคย์กลับพอใจ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าตนได้รับความรัก มือใหญ่คู่นั้นเปะปะไปทั่วร่างกายของเขาไม่ได้หยุด และรั้งไม่ให้เขาปลดปล่อยด้วยห่วงรัดที่จุดนั้น
เคย์หอบเสียงดัง หอบกระเส่า ขานชื่อโคตะ และเคย์ก็ไม่คิดจะหยุด เพราะเสียงของโคตะเป็นสิ่งที่ปลุกเร้าเขาอย่างที่สุด
รอยขบกัดปรากฎบนบริเวณอกและหลังเป็นรอยแผล แต่เคย์ไม่ใส่ใจ
เมื่อถึงจุดหนึ่ง โคตะก็ถอนส่วนนั้นของตนออกจากด้านหลังของเคย์ แล้วนอนทาบร่าง กลางหว่างขา ให้ส่วนนั้นของทั้งคู่เสียดสีกัน เคย์กรีดร้อง ใบหน้าถูไถซอกคอโคตะ จนคนโตกว่ารู้สึกได้ถึงน้ำตาที่เปียกชื้น
“ให้ฉันได้ปล่อยออกมาเถอะนะ ขอร้องล่ะ” เคย์อ้าปาก หายใจหอบ “ฉันทนไม่ไหวอีกแล้ว”
คนโตกว่ายิ้มให้เคย์ ก้มหน้าลงเลียส่วนนั้นของเคย์ช้าๆ
เคย์ดันส่วนนั้นของตนเข้าไปในโพรงปาก และโคตะก็ไม่ได้ขัดขืน
แต่ทว่าโคตะชอบเห็นสีหน้าเจ็บปวดทรมานของเคย์ โดยเฉพาะความเจ็บปวดทรมานแบบนี้ โคตะถอนริมฝีปากออก ทิ้งเคย์ให้ค้างคาไว้อย่างนั้น
“ฉันจะทำให้นายทรมานกว่านี้อีก” เขากระซิบข้างหู
เคย์ส่ายหน้า ไม่มีแรงจะปริปากพูด
โคตะยันตัวขึ้น คนอายุน้อยกว่าไม่โอกาสจะทันได้พูดหรือทำอะไร
เคย์เห็นและรู้สึกถึงสัมผัสจากโคตะที่สอดประสานกับส่วนนั้นทื่ตื่นตัวของเคย์
โคตะครางเสียงต่ำ ขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่น อ้าปากหอบหายใจ
ครั้งแรก เขารู้ดีว่าครั้งแรกจะต้องเจ็บ แต่เขาก็ทำ ถึงแม้จะไม่มีเหตุผลก็ตาม จากนั้นจึงรู้สึกถึงลมหายใจของตนที่ค่อยๆ กลับมาปกติช้าๆ ทั้งที่น้ำตายังคลอดวงตา เขาก้มหน้าจรดอก ขณะที่เคย์มองเขาอย่างตกตะลึง
“นายกำลังทำอะไรอยู่”
แต่โคตะไม่ตอบ ยังคงขยับร่างของตนที่ยังสอดประสานกับเคย์อย่างเก้อเขิน และครางเสียงดังด้วยความหฤหรรษ์เมื่อความเจ็บปวดกระจายไปทั่วทุกอณูของร่างกาย
โคตะโน้มตัวลงไปปลดห่วงรัดออกจากคนอายุน้อยกว่า กอดอีกฝ่ายกระชับแน่น และจากนั้นก็รู้สึกถึงสเปิร์มของเคย์ที่เติมเต็มภายในตนเอง
เขายังคงนิ่งอยู่ท่านั้น ไม่ขยับอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงยันตัวขึ้น แล้วทิ้งตัวลงนอนข้างเคย์ ก่อนจะปลดเชือกที่รัดข้อมือเคย์ออก
“นายทำทำไม โคตะ” เคย์ถาม ตัดสินใจว่าต้องได้รับคำตอบ
“ทำอะไร”
“นายทำแบบนเมื่อกี้ทำไม แล้วอย่างวันนี้ ทำไมนายมีเซ็กซ์กับฉันแบบนี้ ฉัน...ไม่เคยคาดหวังว่าจะได้รับอะไรแบบนี้จากนายเลย”
“ก็เพราะอย่างงั้น ฉันถึงทำ เพราะว่านายตกหลุมรักทาคาคิเพราะว่าเขาทำแบบนั้น แล้วฉันก็ยอมรับไม่ได้ที่นายรักหมอนั่น”
“เพราะอะไร” เคย์ยังคงถามต่อ
“เพราะว่า...นายเป็นของฉัน รึว่าไม่ใช่ คือ ฉันหมายความว่า...นายต้องอยู่กับฉันไปตลอดกาล” เขาพูดเบาๆ ยักไหล่ จับสองมือของตนเอง
เคย์ส่ายศีรษะ
“เพื่อแค่เรื่องนั้นเองเหรอ” เคย์พูดเสียงแผ่ว ผิดหวัง
เขายอมรับว่าตนเองคาดหวังมาตลอด ว่าบางทีโคตะจะพูดคำที่อ่อนโยน แต่แล้วก็รู้สึกตัว ว่าตนเองวางความคาดหวังผิดที่ผิดทาง
สุดท้ายแล้ว นี่ก็แค่การดิ้นรนเรียกร้องศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของโคตะที่ไร้สาระ ศักดิ์ศรีที่มืดมนและง่อนแง่นที่กัดกร่อนภายในใจของเคย์ ก็แค่เซ็กซ์ที่โคตะได้มีอะไรกับเขา เพื่อย้ำว่าโคตะอยู่เหนือกว่าผู้ชายคนอื่นๆ แค่เพื่อกระตุ้นเสริมอีโก้ของโคตะ และเพื่อโคตะจะได้โชว์ให้คนอื่นเห็น
ความภาคภูมิใจ ที่โคตะอาจฆ่าคนหรือทำให้คนรอบตัวต้องจ็บปวด สำหรับโคตะแล้วก็แค่การเก็บแต้ม เพื่อพิสูจน์ว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่น
โคตะจับไหล่เคย์ แล้วจูบ เคย์ปล่อยให้โคตะทำตามใจ โดยไม่จูบตอบ
“ที่ฉันทำแบบนั้นก็เพราะ....เคย์ นายทำให้ฉันเป็นไอ้โง่” โคตะร้องอย่างตระหนก
คนอายุน้อยกว่าแค่เหลือบตามอง เลิกคิ้วสูง กระตุ้นให้อีกฝ่ายพูดต่อ
“ฉันรักนาย” โคตะพูดให้ฟังเพียงแค่เท่านั้น
เคย์ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะจดจำและประมวลผลคำเหล่านั้นได้ เขาอยากจะถามต่อ ยังมีอีกหลากหลายคำถาม แต่ตัดสินใจว่าปล่อยไว้วันหลังจะดีกว่า
“จริงเหรอ”
เขาเห็นแก้มโคตะสูบฉีดเลือดจนกลายเป็นสีแดง ทำท่าทางเป็นเด็กที่ไม่อยากยอมรับความจริงที่เห็นอยู่ทนโท่
“ชะ-ใช่ ฉันจะไม่พูดซ้ำหรอกนะ” เขาพูดตะกุกตะกัก จากนั้นจึงพลิกตัวตะแคง หันหลังให้เคย์ “ฝันดีนะ”
เคย์กอดคนโตกว่า ซุกหน้ากับเรือนผม ริมฝีปากจรดหูอีกฝ่าย
“ฉันก็รักนาย โคตะ ฉันรักนาย”
เขาเห็นอีกฝ่ายยิ้มและพยักหน้า แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แค่มีโคตะอยู่ข้างกาย อะไรๆ ก็ไม่ยากลำบากเกินไปสำหรับเขา
/ต่อตอนที่ 5.1