รีวิวตอนที่ 2 "The Jenna Thing"

Jul 03, 2010 23:32




มาช้าดังดีกว่าไม่มานะเออ  เพราะเพิ่งจะได้มีโอกาสดู  ดูไปแค่ 2 ตอนก็ตกหลุมรักน้องชะเอมทันที  ก็เธอออกจะน่ารักไปทุกมุม  ไม่ว่าจะทำหน้าเอียงอาย  รึว่าตอนทำหน้าเศร้าก็ยังสวย  ไม่เชื่อก็ลองดูเองละกัน



เพราะฉะนั้นรีวิวตอนนี้(และอาจจะรวมถึงตอนต่อๆไปด้วย)ร้อยละ 80 ของรูปที่cap มาจึงเป็นรูปของชะเอม  จะหาว่าดิฉันลำเอียงก็ได้ อันนี้ยอมรับ  อิอิ  เอาล่ะๆ เชียร์กันพอหอมปากหอมคอ  เชิญไปอ่านรีวิวยาวเหยียดกันตามสบายนะคะ

สำหรับตอนที่แล้วกลับไปอ่านได้ ที่นี่จ้า

~~~~~~~~~~~~~~~~~

Episode 1.02 The Jenna Thing

หลังจากได้รับข้อความปริศนาที่งานศพของแอลิสัน  แก๊งขี้จุ๊เบ่เบ๋ก็เกิดอาการระส่ำระสาย  เย็นนั้นที่ร้านอาหาร พวกสาวๆต่างพากันสงสัยว่าเจนน่ากลับมาทำไม และยัย A เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้รู้ความลับของพวกเธอที่มีแต่แอลิสันเท่านั้นที่รู้  ซึ่งนำไปสู่ความจริงอีกอย่างหนึ่งที่พวกเธอไม่เคยตระหนักมาก่อนก็คือแอลิสันเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องของเพื่อนในกลุ่มแทบทุกอย่าง แต่กลับไม่มีใครรู้เรื่องอะไรของเธอเลย  สเปนเซอร์เลยพูดขึ้นมาว่าเธอรู้ความลับเรื่องหนึ่งของแอลิสัน เธอรู้มาว่าช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้วแอลิสันแอบคบกับหนุ่มคนหนึ่งซึ่งอายุมากกว่าและมีแฟนแล้วด้วย  แต่น่าเสียดายที่เธอไม่รู้ว่าหนุ่มปริศนานี้เป็นใคร ได้ยินอย่างนี้ชะเอมหันขวับทันทีด้วยแรงหึงเลยลืมตัวโพล่งออกไปว่า "ฉันว่าแล้วเชียวว่าเธอปิดบังอะไรบางอย่างจากฉัน เอ้ย...อ่า..จากพวกเรา"  ฮานน่าทักเอมิลี่ว่ายังใส่สายข้อมือที่แอลิสันให้อยู่อีกหรอ  เอมิลี่แก้ต่างให้ตัวเองว่าบอกว่าแอลิสันก็ยังใส่ของตัวเองเหมือนกัน  - -แหม ฮานน่าจ๊ะ กิ๊กเก่าเพื่อนรักให้มาจะไม่ใส่ได้ยังไง ก็มันยังคิดถึงอยู่นี่หน่า- -  ในระหว่างที่สาวๆกำลังนั่งคุยกันอยู่นั้น  จู่ๆเจนน่าก็เดินเข้ามาในร้านทำให้เหล่าขี้จุ๊รีบสลายตัวกลับบ้านกันทันที



เช้าวันถัดมาที่บ้านฮานน่า  ในขณะที่ทีวีกำลังรายงานข่าวเรื่องการตายของแอลิสันอยู่นั้น (สำหรับคนที่สนใจอยากเล่นบทเวโรนิก้า มาร์ส หาข้อมูลไปไขคดีนั้น รายงานข่าวแจ้งว่าแอลิสันมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศรีษะ แต่สาเหตุการตายที่แท้จริงคือขาดอากาศหายใจ)  แอชลีย์ แม่ของฮานน่าแลเห็นลูกสาวสลดไปจึงบอกว่าอย่าคิดมากและให้นึกถึงแอลิสันอย่างที่เคยเป็น  ฮานน่าขอโทษแม่ที่ตนทำเรื่องยุ่งจนแม่ต้องเอาตัวเข้าแลกกับตำรวจนั่น

ตัดมาที่ครอบครัวมอนท์โกเมอรี่  เอลล่าผู้เป็นแม่กำลังนั่งคุยกับลูกสาว  พ่อของอเรียกำลังจะออกไปทำงานและบอกว่าคืนนี้อาจจะกลับดึกหน่อย  อเรียระแวงคิดว่าพ่อแอบไปหาชู้เป็นแน่เลยทำท่าทางไม่ค่อยพอใจ  เอลล่าสังเกตเห็นพฤติกรรมลูกแปลกไปเลยเริ่มชักจะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองพ่อลูก  เพราะก่อนหน้านั้นตอนอยู่ไอซ์แลนด์ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็กำลังดีขึ้นมากอยู่แล้วเชียว

บ้านอื่นจะเป็นไงไม่สำคัญ แต่ไฮไลท์เด็ดสำหรับดิฉันอยู่ที่บ้านเอมิลี่  เธอกำลังนั่งอ่านหนังสือพลางจิบกาแฟไปอยู่ที่ชานบ้าน  มายาก็เดินเข้ามาหา แหมๆๆ รู้สึกว่าผ่านมาแค่ 2 ตอน มาหยารัศมีก็เป็นฝ่ายรุกเข้าทำแต้มแบบไม่ยั้งจนชะเอมแทบตั้งตัวไม่ติด  เผลอไม่ได้เชียวเป็นต้องอ่อยชะเอมอยู่เรื่อยอย่างกับว่าเธอบรรลุเกรฺดาบัน(gaydar)มีญาณรู้แจ้งมองออกว่าชะเอมของดิฉันไม่ค่อยstriaght เหมือนฉากหน้านัก จู่ๆก็มาขอดื่มกาแฟจากแก้วของชะเอมหน้าตาเฉย (ดูซิ ดู๊! แก้วอื่นไม่เอาด้วยนะ) แถมยังโอดครวญเรียกร้องความเห็นใจว่าหมู่นี้นอนไม่ค่อยหลับเพราะผีแฟนเก่าชะเอมตามหลอกหลอนมีข้าวของของแอลิสันยังหลงเหลืออยู่ในห้องนอนเธอและห้องใต้ดิน หนำซ้ำหลังบ้านยังมีคนแวะเวียนมาจุดเทียนไว้อาลัยให้อีก  ใครพูดถึงชื่อแอลิสันไม่ได้ค่ะชะเอมทำหน้าเศร้าทันที  มาหยารัศมีเห็นสบโอกาสเหมาะเลยพุ่งตัวเข้ารับชะเอมมาไว้ในอ้อมกอดอย่างแนบแน่น  แต่กรรมการเข้ามาเป่านกหวีดบอกว่าเป็นการพุ่งเข้าเสียบเพื่อจะเอาลูกโทษ - -เฮ้ย! ไม่ใช่บอลเว้ย! ...แหะๆๆ ขออภัยค่ะ เอาใหม่ๆ- -  แม่ของชะเอมกลับมาพอดี  มาหยารัศมีรีบเข้าไปอ้อนขอทำคะแนนกับคุณแม่  คุณแม่ได้ฟังก็เห็นใจกับสถานการณ์ของมายา เลยชวนเธอมานอนค้างกับเอมิลี่ที่บ้าน  - -เหอะๆๆ สงสัยหม่าม้านี่ไม่รู้ถึง hidden agenda ของมาหยารัศมี  เกิดชะเอมบุบสลายไปแล้วอย่ามาหาว่าไม่เตือนนะคะ- -



พอหม่าม้าเปิดไฟเขียวแล้ว  เอมิลี่เลยพาว่าที่แฟนใหม่เพื่อนใหม่ไปโชว์ตัวกับเพื่อนเก่าสเปนเซอร์  มายาได้เจอกับสเปนเซอร์ก็คิดว่าเธอออกจะเป็นคนเคร่งเครียดเอาจริงเอาจัง  เอมิลี่บอกว่าถ้าได้เห็นครอบครัวของสเปนเซอร์แล้วก็จะเข้าใจเอง

ที่โรงเรียบน ด.ญ.อารียามาขอถอนวิชากับครูอิสระ  ครูอิสระขอร้องว่าอย่าถอนเลย ตัวเองจะเป็นฝ่ายเก็บความรู้สึกและสงวนท่าทีไว้เอง  แต่ด.ญ.อารียาบอกว่าหนูคงทำไม่ได้หรอกค่ะเพราะครูหล่อเร้าใจซะขนาดนี้และถึงจะทำได้ก็ไม่อยากทำด้วย  ฉะนั้นรีบตัดไฟแต่ต้นลมเสียก่อนที่จะห้ามใจไม่อยู่  ครูอิสระก็เลยต้องจำใจเซ็นใบคำร้องให้  แต่เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งไม่ยอมให้ตำนานรักต้องห้ามศิษย์-อาจารย์นี้จบลงเร็วเกินไป  คำร้องของหนูอเรียเลยถูกฝ่ายวิชาการปฏิเสธ  ต้องกลับมานั่งส่งสายตาในชั้นเรียนของครูอิสระตามเดิม

ถ้ายังจำกันได้  เมื่อตอนที่แล้วเอมิลี่เคยเปรยๆไว้ว่าเธอมีแฟนแล้ว  ในที่นี้หมายถึงแฟนหนุ่ม(บังหน้า)นะคะ  แฟนสาวกิ๊กลับคนนั้นไม่นับ  ซึ่งในเอพพิโสดนี้เราจึงได้เห็นหน้าค่าตา "เบน" แฟนหนุ่มของเอมิลี่  เบนเดินมาหาเธอที่ล็อคเกอร์เพื่อชวนเธอออกไปดูหนังด้วยกันคืนนี้  แต่ชะเอมปฏิเสธเพราะว่ามีนัดกับมายาให้มาsleep overที่บ้าน  ซึ่งดิฉันมั่นใจว่าชะเอมรู้สึกตื่นเต้นกว่าไปดูหนังกับเบนเป็นไหนๆ  เบนแอบหยอกว่าไม่รู้ว่าคืนนี้มายาจะใส่ชุดนอนแบบไหนกันนะ



อืม...ดูจากสีหน้าชะเอมแล้ว  ไม่รู้ว่าอีตาเบนแกจะรู้ตัวรึเปล่าว่าได้ปลุกจินตนาการ(แนวอีโรติค)ของชะเอมให้เตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนๆแล้ว

แต่ก่อนที่ชะเอมจะใช้สายตาเปลื้องผ้ามาหยารัศมีมากไปกว่านี้  ก็มีเสียงประกาศเรียกตัว 4 สาวให้ไปพบที่ห้องพักครู (เพิ่งจะรู้ว่าชื่อเต็มๆของชะเอมคือ Emily Fields อุ้ยตาย! จะบังเอิญไปคล้ายอะไรกันนักกันหนากับ Emily Fitch คะเนี่ย  ดีนะที่เอมิลี่เวอร์ชั่นละครไม่ได้มีผมแดงเหมือนกับที่บรรยายไว้ในหนังสือ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น  ดิฉันชักจะเริ่มคิดว่าเคที่อาจจะไม่ใช่ฝาแฝดที่แท้จริงของเอมิลี่ก็เป็นได้  อาจจะเป็นชะเอมนี่แหละที่ถูกจับแยกใส่ตะกร้าให้ลอยข้ามแอตแลนติกมาเกยตื้นที่อเมริกา) ระหว่างที่มองหน้ากันเลิ่กลักอยู่นั้น แมสเซจหลอนของยัย A ก็ดังขึ้นปรากฏข้อความว่า "เตรียมขึ้นเขียงกันได้แล้ว"



คุณตำรวจแดร์เรนรูปหล่อคือคนที่เรียกพวกเธอมาเพื่อทบทวนคำให้การที่สาวๆเคยให้ไว้หลังจากแอลิสันหายสาบสูญไปคืนนั้นโดยอ้างว่าเป็นระเบียบของทางราชการ  4สาวต่างปิดปากเงียบสนิทอ้างแต่ว่าคืนนั้นหลับกันสนิทไม่รู้เรื่องอะไรเลย  ส่วนสเปนเซอร์ก็อ้างว่าเธอได้ยินเสียงกรีดร้องเลยตื่นขึ้นและลุกออกไปข้างนอก  แดร์เรนดูจะไม่เชื่อเรื่องที่พวกเธอเล่าและสงสัยว่าพวกเธออาจจะเตี๊ยมกันมา

แหงล่ะคะ  มันต้องเตี๊ยมมาอยู่แล้ว เพราะเมื่อถึงเวลาพักเที่ยงแก๊งขี้จุ๊เบ่เบ๋ก็มานั่งรวมกลุ่มปรึกษากันเรื่องที่ไม่ได้บอกตำรวจไปว่าคืนนั้นพวกเธอดื่มเหล้ากัน  - -โถ..อีหนูเอ๊ย! โดนตำรวจจับข้อหาดื่มเหล้ากับเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม อันไหนมันน่ากลัวกว่ากันเนี่ย ห๊า!- -   เอมิลี่อยากจะบอกตำรวจเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจนน่า  แต่อเรียบอกว่าพวกเธอมีโอกาสที่จะหยุดเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจนน่า แต่พวกเธอก็ไม่ได้ห้ามแอลิสันไว้  สเปนเซอร์เห็นด้วยบอกว่าถึงบอกไปตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์แต่จะยิ่งทำให้พวกเธอเดือดร้อนกันมากขึ้นไปอีก  กำลังคุยๆกันหน้าดำคร่ำเครียด  เจนน่าก็โผล่มาให้ขี้จู๊เบ่เบ๊ใจหายใจคว่ำกันอีกครา  แต่คราวนี้วงไม่แตกฮือเพราะอเรียเป็นฝ่ายไปชวนเจนน่ามานั่งร่วมโต๊ะด้วย  เจนน่าบอกว่าหลังจากที่เธอประสบอุบัติเหตุที่ทำให้ตาบอดครั้งนั้น  แอลิสันเป็นเพียงคนเดียวที่ไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล  เจนน่าบอกว่าเธอรู้ว่าแอลิสันไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆคิด ทำให้เหล่าขี้จุ๊ยิ่งนิ่งสนิท

ภาพ flashback ไปยังคืนที่เกิดอุบัติเหตุกับเจนน่า  4สาวกำลังลองชุดอยู่ในห้องนอนของเอมิลี่อย่างสนุกสนาน (โปรดสังเกตว่าระหว่างนั้นชะเอมก็แอบperv แอลิสันไปด้วย เหมือนกับที่เอมิลี่perv นาโอมิตอนไป pajamas party ที่บ้านแพนดอร่ากับตอนไปกระโดดน้ำที่สระเลย)  จู่ๆแอลิสันก็ร้องขึ้นมาว่าเห็นผู้ชายปีนต้นไม้มาแอบถ้ำมอง  ซึ่งก็มีแต่แอลิสันที่เห็นอยู่คนเดียวคนอื่นกลับไม่มีใครเห็น  แอลิสันนั่งยันนอนยันว่ามีจริงๆและบอกว่าคนๆนั้นคือโทบี้  แอลิสันคิดแผนการแสบเอาคืนด้วยการเอาระเบิดควันไปปาใส่โรงรถของโทบี้  สาวๆตามหัวหน้าแก๊งไปด้วยอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก  เกิดความผิดพลาดขึ้นเมื่อมีไฟลุกไหม้ท่วมโรงรถ แก๊งขี้จุ๊เบ่เบ๋เลยต้องรีบวิ่งหนีเอาตัวรอด



กลับมาที่ภาพปัจจุบัน โทรศัพท์ของ 4 สาวดังขึ้นอีกครั้ง  คราวนี้ A ส่งข้อความมาว่า  ถ้ายัยเจนน่ามองเห็นได้ล่ะก็  คงได้เห็นว่าพวกหล่อนๆทำหน้ารู้สึกผิดแค่ไหน

เย็นนั้นที่บ้านของฮานน่า  เธอกับฌอนแฟนหนุ่มกำลังทำการบ้านกันอยู่ - - เอ่อ...การบ้านจริงๆนะคะ ไอ้แบบที่เขียนรายงานส่งครูอ่ะ  ไม่ใช่"การบ้าน"แบบนั้น เหอๆๆอย่าคิดลึก เดี๋ยวจะหาว่าดิฉันชอบเล่นคำสองแง่สองง่าม- -  แต่ไปๆมาๆ ฮานน่าคงจะเบื่อเลยอยากจะทำ"การบ้าน"อย่างหลังมากกว่า  จึงพยายามลวนลามฝ่ายชาย  แต่ฌอนก็รักนวลสงวนตัวสมกับเป็นกุลบุรุษ  ฮานน่าจึงตัดพ้อว่าเป็นเพราะฌอนยังคงมองฮานน่าเป็นแค่เพื่อน ยังคงติดภาพของเธอในอดีตใช่ไหม  แต่ฌอนปฏิเสธ  ดิฉันคิดว่าไอ้ที่ไม่อยากชิงสุกก่อนห่ามคงเป็นเพราะการที่เขาเป็นลูกของบาทหลวง/นักเทศน์(?)มากกว่า   และก่อนที่ฌอนจะเพลี่ยงพล้ำเสียตัวตกเป็นของฮานน่า  แม่ของฮานน่าก็กลับบ้านมาพอดีพร้อมกับแดร์เรนเป็นอาหารค่ำ (อันนี้คิดลึกๆเลยค่ะ ตามสบาย หุหุ)



และแล้วคืนนี้ที่รอคอยก็มาถึง  มายามานอนค้างที่บ้านเอมิลี่  ก่อนนอนก็ต้องมีforeplayกันนิดนึงใช่ไหมค่ะ หุหุ  มายาสังเกตรูปถ่ายของเหล่าขี้จุ๊เบ่เบ๋ว่าต้องมีแอลิสันที่อยู่ตรงกลางเป็นจุดสนใจเสมอ  เอมิลี่บอกว่าแอลิสันเป็นจุดศูนย์รวมของกลุ่ม มายาบอกว่าเธอรู้จักคนแบบนี้ดี  พวกนี้มักทำให้เธอรู้สึกกลัวจนอยากจะวิ่งหนี (หึๆๆ ทีกะชะเอมวิ่งเข้าใส่)  ชะเอมไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างมาหยารัศมีจะกลัวใครเป็น  มาหยารัศมีไม่ตอบแต่เปลี่ยนเรื่องไปถามว่าปกติชะเอมนอนข้างไหนพร้อมกับปีนขึ้นไปบนเตียงเพื่อยั่วยวน   ชะเอมบอกว่าชอบนอนตรงกลาง  มายาบอกว่าเธอก็เช่นกัน  555+ เอาละเหวย  คืนนี้จะรอดพ้นเงื้อมมือของมาหยารัศมีไปได้ไหมชะเอมเอ๋ย   วุ้ย! ลุ้นอย่างกับฉากเข้าพระเข้านางในละครหลังข่าวบ้านเราแน่ะ



ส่วนคนบ้านแฮสติ้งค์ไปทานอาหารค่ำนอกบ้านกัน  เมลิสซ่าพี่สาวของสเปนเซอร์มาพร้อมกับเร็นคู่หมั้นของเธอ  ในขณะที่พ่อกับพี่สาวกำลังเล่นเกมเกทับกันอย่างสนุกสนาน  มือของสเปนเซอร์และเร็นก็กำลังเล่นเกมของมันเองอย่างสนุกสนานเช่นกัน



ชะเอมนอนมองเพดานถอนหายใจเฮือกๆแทบทั้งคืน  ใจคงเต้นตึกตักกระสับกระส่ายกลัวว่ามาหยารัศมีจะแอบทำมิดีมิร้ายระหว่างหลับ (เอ๊ะ! รึกลัวว่าจะไม่ทำกันแน่หว่า เลยไม่กล้าหลับกลัวพลาดเวลาสำคัญ อิอิ)  ไม่รู้ว่ามาหยารัศมีจะแกล้งหลับรึเปล่า  แต่ที่แน่ๆพอชะเอมพลิกตัวหันข้างปุ๊บ  มาหยารัศมีก็ขยับตัวตามเอามือตะปบเอวชะเอมปั๊บอย่างรู้คิว  ยิ่งทำให้ชะเอมยิ่งใจสั่นนอนไม่หลับเข้าไปใหญ่  เฮ้อ...ก็มันยั่วยวนใจซะนี่กระไร   และในที่สุดชะเอมก็อดใจไม่ไหวจนได้ขอจับมือซะหน่อยล่ะวะ  กำลังนอนอมยิ้มเตรียมจะหลับฝันหวานถึงคนข้างๆอยู่แท้ๆ  ยัย A จอมป่วนก็ส่งแมสเซจมาอีกแระ   ตอนนี้ดิฉันรู้สึกเกลียดยัย A ขึ้นมาจับใจเหมือนโดนคนอื่นมาแย่งรีโมทเปลี่ยนช่องในขณะที่ละครเรื่องโปรดกำลังอยู่ในฉากเข้มข้นเข้าได้เข้าเข็มยังไงยังงั้น   ชะเอมเองก็ยังอุตส่าห์ลุกขึ้นไปอ่านแมสเซจอีกด้วยแน่ะ   เป็นดิฉันหน่อยไม่ได้จะนอนหลับตาพริ้มให้กอดต่อยันเช้า  แมสส่งแมสเซจไม่สนมันหรอกค่ะนาทีนี้  ยัย A ยังคงส่งข้อความมาแซวแกมขู่เอมิลี่เหมือนเดิม  ชักสงสัยซะแล้วสิว่ายัย A แอบมาติดกล้องวงจรปิด รึไม่ก็เป็นผีจูออนนอนอยู่ใต้เตียงของชะเอมเป็นแน่

เช้าวันรุ่งขึ้นเบนขับรถไปรับเอมิลี่และมายามาโรงเรียนด้วยกัน  เบนถามมายาว่าไหนๆเธอก็ได้นอนกับชะเอมแล้วซึ่งถือว่าก้าวหน้ากว่าตัวเองเยอะ  บอกมาหน่อยซิว่ามีอะไรอื่นที่เขาควรรู้บ้าง  มาหยารัศมียิ้มกรุ้มกริ่มบอกว่าหญิงดีเค้าไม่กินในที่ลับแล้วไขในที่แจ้งหรอกยะ   อีตาเบนยังคงสัปดนต่อถามว่าเมื่อคืนพวกเธอหลับกันสบายดีรึเปล่าเพราะถ้าเป็นเขาคงนอนไม่หลับแน่(หารู้ไหมว่าแฟนแกนั่นแหละไม่ได้หลับได้นอนทั้งคืน เหอๆๆ)  มายาตอบว่าสำหรับเอมิลี่นะไม่รู้  แต่เธอน่ะหลับปุ๋ยทั้งคืน(ไม่จริงๆอ่ะ ไม่เชื่อ  เห็นๆอยู่ว่าแกล้งหลับเพื่อหาโอกาสกอดชะเอม)  เสร็จแล้วเธอก็ลงจากรถไป  ทิ้งให้ชะเอมอยู่กับเบนตามลำพัง เบนถามว่าทำไมชะเอมทำตัวแปลกๆก็แค่แซวเล่นกันเฉยๆ  ชะเอมไม่ตอบแต่กลับจูบเบนอย่างร้อนแรงซะจนคนผ่านไปผ่านมาข้างนอกล้อ  ชะเอมลงมาจากรถเจอกับฮานน่า  ฮานน่าบอกว่าเธอไม่คิดว่าเอมิลี่จะเป็นพวกที่ชอบแสดงความรักในที่สาธารณะ  เอมิลี่พึมพำออกไปว่าเธออาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆคิดก็ได้



อเรียกับแม่ไปดูหนังด้วยกัน  เผอิญไปเจอกับครูอิสระที่หน้าโรงหนัง  เอลล่าเลยชวนมานั่งด้วยกัน  สร้างความอึดอัดให้กับอเรีย ดิฉันเชื่อว่าเมื่อหนังจบแล้วไปถามอเรียว่าหนังเกี่ยวกับอะไรเธอคงเล่าไม่ถูกแน่ๆ



เอมิลี่ยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง  แม่เดินเข้ามาเห็นเธอนั่งหน้าเศร้าอยู่ในห้อง  เอมิลี่คิดว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับเธอและก็ไม่รู้แล้วว่าอะไรที่เรียกว่าปกติหรือไม่ปกติ  แต่แม่กลับนึกว่าเธอยังคงเศร้าใจเรื่องแอลิสันเลยพยายามปลอบลูกบอกให้หาทางปล่อยวาง  ทั้งยังแนะให้ชวนเพื่อนๆในกลุ่มมาปรึกษาหาวิธีอำลาแอลิสันด้วยกัน  โดยเชื่อว่าสิ่งนั้นจะช่วยทำให้พวกเธอกลับมาแน่นแฟ้นขึ้น

เร็นเดินผ่านห้องสเปนเซอร์เห็นเธอกำลังง่วนกับรายงาน  เร็นเลยเสนอทีเล่นว่าจะช่วยนวดหลังให้อีก  ทำให้อารมณ์ของสเปนเซอร์ผ่อนคลายลง  เร็นแสดงความเห็นใจที่สเปนเซอร์ได้รับความกดดันมากจากครอบครัวแบบนี้  คุยๆหยอกๆกันอยู่ อารมณ์มันคงพาไป เร็นเลยจูบว่าที่น้องเมียซะงั้น  เคราะห์ร้ายที่เมลิสซ่าเดินผ่านมาเห็นฉากสำคัญพอดิบพอดี  วันรุ่งขึ้นเร็นเลยถูกเมลิสซ่าเฉดหัวออกจากบ้านทันที



คุณตำรวจแดร์เรนยังคงสะกดรอยตามฮานน่าไปถึงห้าง  ฮานน่าไม่พอใจที่แดร์เรนยังคงมาป้วนเปี้ยนอยู่กับครอบครัวเธอ  แดร์เรนบอกว่าเขารู้เรื่องที่แก๊งขี้จุ๊เบ่เบ๋กินเหล้าเมาในคืนนั้น  แต่เขาไม่สน  เขาสนแต่เรื่องที่พวกเธอรู้ว่าใครที่อาจจะเป็นคนที่ฆ่าแอลลิสัน  และเขาจะต้องสืบให้รู้ให้ได้  แต่ก่อนที่จะถึงตอนนั้น ฮานน่าก็จะต้องทนเห็นหน้าเขาต่อไป

ด.ญ.อารียา อดใจไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว  แพ้ใจตัวเองและความหล่อของครูอิสระแอบไปพลอดรักกันในรถกลางสายฝน



พอกลับถึงบ้าน  ไบร่อนผู้เป็นพ่อขอคุยด้วยเรื่องที่อเรียดูจะเก็บอาการไม่ค่อยอยู่ กลัวว่าความจะแตกเรื่องตนไปมีชู้  ไบร่อนขอร้องลูกว่าบอกความจริงไปก็ไม่มีประโยชน์ ยิ่งจะทำให้ต้องเจ็บปวดกันทุกฝ่าย  อาจจะเป็นเพราะเธอสงสารแม่ อเรียจึงยอมปิดปากสนิทเรื่องนี้ต่อไป

ปิดท้ายตอนจบด้วยฉากสเปนเซอร์วิ่งจ๊อกกิ้งและบังเอิญไปเห็นเจนน่ากำลังส่งข้อความทางโทรศัพท์  และนั้นทำให้เธอกลายเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็น A ประจำเอพพิโสดนี้



จบแล้วค่ะสำหรับตอนนี้   ติดตามไขปริศนากับ Pretty Little Liars ได้ใหม่ในตอนหน้านะคะ  (^_^)

~~~~~~~~~~~~~~~

ตอนที่ 3 เสร็จเรียบร้อยแล้ว อ่านต่อได้ที่นี่

tv series: pretty little liars, discussion, review

Previous post Next post
Up