Midnight Sun; chapter 7: Melody 2

Jan 01, 2010 00:34



Chapter 7: Melody 2

“ไม่มีใครเคยสอนเหรอ ว่าอย่าเล่นของกิน?” ผมตะโกนใส่เอ็มเม็ตต์
“โอ้ว ว่าไง เฮ็ดเวิร์ด!” เขาตะโกนกลับมา ยิ้มกว้างพร้อมกับโบกมือให้ผม หมีถือโอกาสที่เอ็มเม็ตต์เผลอตะปปเข้ากลางหน้าอกเขา กรงเล็บคมๆฉีกเสื้อเขาขาดเป็นทาง เล็บโดนผิวเขาเสียงดัง

หมีคำรามสุดเสียง
‘ชิบหาย เสื้อตัวนี้โรสให้นี่!’
เขาคำรามคืนใส่หมีที่กำลังโกรธ

ผมถอนหายใจแล้วนั่งลงบนก้อนหิน คงจะอีกซักพัก

แต่เอ็มเม็ตต์ก็เกือบไป เขาให้หมีได้ลองตะปปอีกครั้ง แล้วก็หัวเราะพอแรงเด้งกลับทำเอาหมีเซไปข้างหลัง หมีคำรามแล้วเอ็มเม็ตต์ก็คำรามตอบพร้อมเสียงหัวเราะ ก่อนเข้าจู่โจมหมีที่ยืนด้วยขาหลัง แล้วล้มลงทั้งคู่ ทำเอาต้นสนใกล้ๆล้มไปด้วย เสียงหมีหายไปพร้อมกับเสียงน้ำไหลโครก

สองสามนาทีต่อมา เอ็มเม็ตต์ก็วิ่งเหยาะๆมาหาผม เสื้อขาดรุ่งริ่ง เปื้อนเลือด ยางเหนียวติดตามตัว ขนสัตว์ติดเต็มไปหมด ผมสีเข้มหยักของ ก็ดูแย่ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่หน้าตายิ้มแย้มสุดขีด
“ตัวนี้แข็งแรงน่าดู ตอนมันตะปปเกือบรู้สึกได้เลยนะ”
“เล่นเป็นเด็กๆ”
เขามองเสื้อเรียบๆขาวสะอาดของผม “ล่าสิงโตไม่ได้ล่ะสิ?”
“ได้อยู่แล้ว ฉันแค่ไม่ได้กินแบบรุนแรง”
เอ็มเม็ตต์หัวเราะเสียงดัง “อยากให้มันแข็งแรงกว่านี้ จะได้สนุกๆหน่อย”
“ใครบอกให้สู้กับของกินล่ะ”
“ใช่ แล้วจะให้ฉันสู้กับใครล่ะ? นายกับอลิส ก็ขี้โกง โรสไม่อยากให้ผมยุ่ง แล้วเอสเม่ก็จะโกรธถ้าฉันสู้กับแจสเปอร์”
“ชีวิตใครๆ ก็ลำบากทั้งนั้นล่ะ”
เอ็มเม็ตต์ยิ้มให้ผม ขยับตัวเปลี่ยนท่าพร้อมต่อสู้
“เอาหน่อยน่า ปิดเจ้านั่นแล้วมาสู้กันแฟร์ๆซักตั้ง”
“ปิดได้ที่ไหนล่ะ” ผมเตือนเขา
“อยากรู้จริงๆว่าเด็กคนนั้นทำยังไง ถึงกันนายออกไปได้?” เอ็มเม็ตต์พึมพำ “เธอจะบอกเคล็ดลับให้ไหมนะ”
อารมณ์ขันของผมหายวับ “อยู่ห่างๆเธอเลย” ผมคำราม
“จี้จุดเข้าแล้ว”
ผมถอนหายใจ เอ็มเม็ตต์นั่งลงบนหินข้างๆผม
“โทษที ฉันรู้ว่านายกำลังลำบาก ฉันก็พยายามไม่ทำตัวเป็นไอ้งั่งที่ไร้ความรู้สึกจนเกินไป แต่นั่นมันก็ฉันน่ะน้า...”
เขารอให้ผมหัวเราะกับโจ๊กของเขา แล้วก็ทำหน้าบึ้ง
‘ต้องซีเรียสตลอดเวลาสิน่า อะไรกำลังกวนใจอยู่ล่ะ? ’
“คิดถึงเธออยู่ ที่จริงก็กังวลแหละ”
“อยู่ที่นู่นมีอะไรให้กังวล? ก็นายอยู่ที่นี่” เขาหัวเราะเสียงดัง
อีกครั้งที่ผมไม่สนใจโจ๊กของเขา แต่ก็ตอบคำถาม “เคยคิดไหมว่าพวกเขาบอบบางแค่ไหน? มีเรื่องเลวร้ายหลายอย่างเลย ที่เกิดขึ้นกับพวกเขาได้”
“ก็ไม่ค่อยหรอก แต่เดาว่า ฉันพอจะเข้าใจ นายหมายถึงอะไร แรกๆฉันก็สู้หมีไม่ได้ ใช่ไหมล่ะ?”
“หมี?” ผมพึมพำ แล้วก็เริ่มกลัว “เพราะโชคร้ายของเธอน่ะสิ? ถ้ามีหมีหลงป่าในเมือง มันคงดิ่งไปหาเบลล่าเลยล่ะ”
เอ็มเม็ตต์หัวเราะ “ฟังดู นายนี่เหมือนบ้าไปแล้ว รู้ตัวไหม?”
“ลองคิดดูซักนาทีนึงนะเอ็มเม็ตต์ ว่าโรซาลีเป็นคน เธออาจจะไปเจอหมีเข้า... โดนรถชน... ฟ้าผ่า... ตกบันได ... ป่วย ติดโรค!” คำพูดพรั่งพรูออกมา ผมสบายใจที่ได้พูด มันกร่อนอยู่ในใจผมมาทุกสุดสัปดาห์ “ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ทอร์นาโด! อ๊าก! นายดูข่าวล่าสุดเมื่อไหร่? เคยเห็นไหม ว่าเกิดอะไรกับพวกเขาได้บ้าง? ปล้น ฆ่า...” ผมกัดฟัน รู้สึกเดือดดาลขึ้นมาทันทีเมือนึกว่ามีมนุษย์คนไหนทำร้ายเธอ ผมโกรธจนหายใจไม่ออก
“โว โวว! เดี๋ยวก่อน ไอ้น้อง เธออยู่ที่ฟอร์คนะ จำได้ไหม? ที่เธอจะเจอก็มีแต่ฝนเท่านั้นล่ะ” เขายักไหล่
“ฉันว่าเธอเป็นคนโชคร้ายอย่างแรง เอ็มเม็ตต์ จริงๆนะ คิดดูสิ ที่ในโลกมีอีกตั้งเยอะ แต่ดันมาอยู่เมืองที่แวมไพร์ชอบอยู่”
“ก็ใช่ แต่พวกเราเป็นมังสวิรัต นั่นไม่ถือว่าโชคดีเหรอ ไม่ได้แย่ขนาดนั้นใช่ไหม?”
“ทั้งที่กลิ่นเธอเป็นยังงี้เนี่ยนะ? แย่สุดๆ แล้วก็ยิ่งแย่หนัก ที่กลิ่นเธอทำกับฉันยังงี้” ผมมองมือตัวเอง เกลียดมันขึ้นมาอีกแล้ว
“ยกเว้นที่นายเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้ดีที่สุดในบรรดาพวกเรา ไม่นับคาร์ไลส์ นั่นก็โชคดีเหมือนกัน”
“รถตู้ล่ะ?”
“อุบัติเหตุ”
“นายไม่เห็นว่ามันเข้าหาเธอยังไงบ้าง เอ็ม เดี๋ยวมา เดี๋ยวมา สาบานได้ เหมือนเธอดูดมันเข้ามาหาตัวยังงั้นล่ะ”
“แต่นายก็อยู่แถวนั้นพอดี ถือว่าโชคดี”
“จริงดิ? ไม่ใช่จะโชคร้ายสุดขีดที่มนุษย์จะเจอหรอกเหรอ ที่มีแวมไพร์มาตกหลุมรักเข้าน่ะ?”

เอ็มเม็ตต์นึกครู่หนึ่ง นึกถึงเธอ แล้วก็เห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ ‘เอาจริงๆนะ ฉันไม่เห็นเลยว่าน่าสนใจตรงไหน’
“ฉันก็ไม่เห็นว่าโรซาลี่จะน่าหลงไหลตรงไหนเหมือนกัน” ผมพูดอย่างหยาบคาย “บอกตามตรง กับเธอมันดูต้องลงทุนเยอะกว่าสิ่งที่จะได้รับจากหน้าสวยๆนั่น”
เอ็มเม็ตต์หัวเราะ “จะไม่เล่าให้ฟังหน่อย...”
“ฉันไม่รู้ ปัญหาของเธอหรอก เอ็มเม็ตต์” ผมโกหก พร้อมกับยิ้มให้เขาในทันที

ผมรู้เจตนาของเขาเลยไหวตัวทัน เขาพยายามผลักผมตกก้อนหิน เสียงหินแตกดังขึ้นพร้อมกับร่องหินที่อยู่ระหว่างเราแยกออกจากกัน
“ขี้โกง” เขาพึมพำ

ผมรอให้เขาลองอีกที แต่คราวนี้ความคิดเขาเปลี่ยนไปคนละทาง เขานึกถึงเบลล่าอีกครั้ง แต่คราวนี้จินตนาการว่าเธอตัวขาว ตาสีแดงก่ำ....
“ไม่” ผมเค้นเสียงพูด
“แก้ปัญหาเรื่องตายที่นายกังวลไง? แล้วนายก็ไม่อยากฆ่าเธอด้วยใช่ไหมล่ะ แบบนี้ไม่ดีที่สุดหรอกเหรอ?”
“กับฉัน? หรือกับเธอ?”
“กับนาย” เขาตอบอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงเขาออกแนว ของมันแน่อยู่แล้ว
ผมหัวเราะทั้งที่ไม่ขำ “ผิดแล้ว”
“ฉันไม่สนหรอก” เขาบอก
“โรซาลีสน”

เขาถอนหายใจ เราทั้งคู่ต่างก็รู้ว่า โรซาลียอมทุกอย่าง ทำอะไรก็ได้ ขอเพียงเธอได้กลับมาเป็นคนเท่านั้น แม้แต่เอ็มเม็ตต์
“ใช่โรสสน” เขาตอบเบาๆ
“ฉันทำไม่ได้... ไม่ควร...ฉันไม่ทำลายชีวิตของเบลล่าหรอก นายไม่รู้สึกเหมือนกันเหรอ ถ้าเป็นโรซาลี่บ้าง?”
เอ็มเม็ตต์คิดแล้วตอบ ‘นายรักเธอจริงๆเหรอ?’
“ฉันอธิบายไม่ได้ด้วยซ้ำ เอ็มเม็ตต์ จู่ๆ เธอก็คือทั้งโลกของฉัน ฉันสนเรื่องอื่นๆในโลกที่ไม่มีเธอไม่ได้อีกแล้ว”
‘แล้วนายก็จะไม่เปลี่ยนเธอ? เธอไม่อยู่ตลอดไปนะ เอ็ดเวิร์ด’
“ฉันรู้” ผมครวญ
‘แล้วนายก็เพิ่งบอกว่า เธอออกจะบอบบาง’
“เชื่อเถอะ อันนั้น ฉันก็รู้”
เอ็มเม็ตต์ไม่ใช่คนซับซ้อน เขาไม่ถนัดถกเรื่องยากๆ เขาเริ่มดิ้นรน พยายามไม่ให้ดูเกินเลยไป
‘นายโดนตัวเธอได้เหรอ? หมายถึง รักกัน... มันก็ต้องอยาก แบบ แตะต้องกัน...?’
เอ็มเม็ตต์กับโรซาลีรักใคร่กันดูดดื่ม เขากำลังสงสัยว่าจะรักกันโดยไม่มีเรื่องอย่างนั้นได้อย่างไร
ผมถอนหายใจ “แค่คิดก็ไม่ได้แล้ว เอ็มเม็ตต์”
‘ว้าวว งั้นจะทำยังไงได้บ้างล่ะ?’
“ฉันก็ไม่รู้” ผมกระซิบ “ฉันกำลังหาทาง... ไปจากเธอ ฉันไม่รู้ว่า ทำยังไงถึงจะอยู่ห่างเธอได้...”

แว่บนั้นผมก็รู้สึกพอใจขึ้นมา เมื่อนึกได้ว่าตอนนี้ผมต้องอยู่ อย่างน้อยก็ยามที่ปีเตอร์กับชาร์ลอตมาเยี่ยมแบบนี้ เธอปลอดภัยเวลามีผมอยู่ด้วย ชั่วคราวน่ะนะ ปลอดภัยกว่าเวลาที่ผมจากเธอไปแล้ว ช่วงนี้ผมจะเป็นผู้คุ้มครองที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ให้เธอ

ความคิดนั้นทำให้ผมกังวล ผมอยากกลับ แล้วก็ไปรับบทบาทนั้นให้นานเท่าที่จะทำได้
เอ็มเม็ตต์สังเกตเห็นว่าสีหน้าผมเปลี่ยน ‘คิดอะไรอยู่?’
“ตอนนี้” ผมยอบรับอายๆ “อยากวิ่งกลับฟอร์ค แล้วก็ไปเช็คเธอ ฉันไม่รู้จะอยู่ถึงคืนวันอาทิตย์ได้หรือเปล่า”
“โอ๊ะ โอ! นายกลับบ้านไวขึ้นไม่ได้นะ ให้โรซาลี่อารมณ์เย็นก่อนดิ นะ! เห็นแก่ฉันเถอะ”
“จะพยายาม” ผมตอบแบบไม่แน่ใจ

เอ็มเม็ตต์ตบโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อผม “เดี๋ยวอลิสก็โทรมา ถ้ามีอะไรที่นายกลัวเกิดขึ้น เธอก็บ้าเด็กคนนั้นพอกัน”
ผมทำหน้าเศร้า “ก็ได้ ไม่เกินวันอาทิตย์นะ”
“ไม่เห็นต้องรีบกลับ แดดจะออกนี่นา อลิสบอกว่าเราไม่ต้องไปโรงเรียนถึงวันพุธ”
ผมส่ายหัว
“ปีเตอร์กับชาร์ลอตรู้ว่าต้องทำตัวยังไง”
“ฉันไม่สนหรอกเอ็มเม็ตต์ โชคร้ายแบบเบลล่านะ เธออาจจะเดินเข้าป่าผิดที่ผิดเวลาแล้วก็---” ผมสะดุ้ง “ปีเตอร์ไม่ได้ควบคุมตัวเองเก่งนักหรอก ฉันจะกลับวันอาทิตย์”
เอ็มเม็ตต์ถอนหายใจ ‘เหมือนคนบ้าจริงๆ’

เบลล่านอนหลับอย่างสงบตอนที่ผมปีนเข้าไปในห้องเธอตอนเช้าตรู่วันจันทร์ คราวนี้ผมเอาน้ำมันมาด้วย หน้าต่างที่ขวางทางผมก็เลยเปิดได้อย่างเงียบเชียบ

ดูจากผมเรียบๆแล้ว น่าจะแปลว่าเธอหลับสบายกว่าครั้งที่แล้ว เธอนอนสอดมือใต้แก้มเหมือนเด็กๆ ปากเผยอเปิดเล็กน้อย ผมได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกผ่านริมฝีปากเธอด้วย

โล่งอย่างเหลือเชื่อที่ได้มาอยู่ที่นี่ ได้เห็นเธออีกครั้ง ผมรู้ว่าผมไม่สบายใจจริงๆหรอกนอกจากจะได้เห็นเธอ อะไรๆก็ผิดไปหมดเวลาอยู่ห่างจากเธอ

แต่ก็ไม่ใช่ว่าอะไรๆก็ถูกไปซะหมดเวลาอยู่กับเธอนะ ผมหายใจ แล้วปล่อยให้ความกระหายถล่มผมอีก ผมห่างความรู้สึกนี้นานเกินไป ช่วงเวลาที่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดและไม่รู้สึกอยาก ทำให้ตอนนี้มันรุนแรงขึ้น ตอนนี้ก็แย่พอแล้ว ที่ผมกลัวจะนั่งคุกเข่าลงข้างเตียง แล้วอ่านปกหนังสือของเธอ ผมอยากรู้ว่าเรื่องอะไรกำลังอยู่ในหัวเธอ แต่ผมกลัวอย่างนึงมากกว่าเรื่องกระหายนะ ผมกลัวว่าถ้าผมปล่อยตัวเองให้เข้าใกล้เธอ ผมคงอยากเข้าใกล้มากขึ้น มากขึ้น จนกระทั่ง...

ริมฝีปากเธอช่างดูอ่อนนุ่มและอบอุ่นเหลือเกิน ผมจินตนาการว่าใช้นิ้วแตะ แค่เบาๆครับ....
นี่แหละครับข้อผิดพลาดที่ผมต้องเลี่ยงให้ได้

ผมมองหน้าเธอ ดูแล้วดูอีก ดูว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง คนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผมเศร้าเมื่อคิดถึงว่าผมพลาดอะไรไปบ้าง...

ผมคิดว่าเธอดู...เหนื่อยๆครับ เหมือนเธอนอนไม่พอในช่วงเสาร์อาทิตย์นี้ เธอไปเที่ยวกลางคืนหรือเปล่า?
ผมแค่นหัวเราะเบาๆ เมื่อคิดถึงว่านั่นทำให้ผมไม่พอใจเลย ถ้าเธอไปแล้วจะทำไมล่ะ? ผมไม่ได้เป็นเจ้าของเธอซะหน่อย เธอไม่ใช่ของผมนะ

มือข้างนึงของเธอกระตุก และผมสังเกตเห็นรอยตื้นๆ ยังไม่หายดี บาดฝ่ามือเป็นทาง เธอเจ็บตัวเหรอ? ถึงจะชัดว่าแผลไม่ได้รุนแรงอะไร แต่ก็ยังรบกวนผมอยู่ดี ผมมองตำแหนงแล้วก็สรุปว่า เธอคงจะหกล้ม คิดๆดูแล้วก็เป็นคำตอบที่น่าเชื่อถือได้

พอคิดว่า ต่อไปผมคงไม่ต้องมานั่งเดาเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เกิดกับเธออีก มันก็สบายใจดีเหมือนกันครับ ตอนนี้เราเป็น “เพื่อน” กันแล้ว ไม่ก็ ลองพยายามเป็นดู ผมถามเธอได้ครับ ว่าเสาร์ อาทิตย์ ไปทำอะไรมา เที่ยวชายหาดเป็นยังไง หรือแม้แต่ว่าทำอะไรดึกดื่นถึงได้ดูเหนื่อยยังงี้ ผมถามได้ด้วยว่ามือเธอไปโดนอะไรมา แล้วผมก็จะหัวเราะได้ด้วย ถ้าเธอบอกแบบที่ผมคิดไว้

ผมยิ้มหน่อยๆพอสงสัยว่าเธอตกทะเลมั่งหรือเปล่า สงสัยว่าเธอสนุกไหน สงสัยว่าเธอคิดถึงผมบ้างหรือเปล่า ซักเศษเสี้ยวน้อยๆที่ผมคิดถึงเธอ

ผมพยายามนึกภาพเธอใต้แสงแดดที่ชายหาด ภาพไม่ชัดเจนครับ เพราะผมไม่เคยไปเฟิร์สบีชมาก่อน ผมเคยเห็นแต่ในรูปภาพเท่านั้น...

ผมรู้สึกหวั่นใจขึ้นมาเมื่อคิดถึงสาเหตุที่ผมไปหาดนั้นไม่ได้ หาดสวยๆที่อยู่ห่างจากบ้านเราแค่ไม่กี่นาที เบลล่าใช้เวลาทั้งวันที่ลาพุช ที่ต้องห้ามตามข้อตกลง ที่ที่คนแก่ๆยังจำพวกเราคัลเลนได้ จำได้และเชื่อตามนั้นด้วย ที่ที่ความลับของพวกเราไม่ใช่ความลับ...

ผมสั่นหัว ไม่มีอะไรต้องกังวล พวกควิลีทส์ยังรักษาข้อตกลง ต่อให้เบลล่าไปเจอคนแก่เหล่านั้น พวกเขาก็จะไม่ปริปาก แล้วเรื่องอะไรเบลล่าถึงจะพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ? ทำไมเบลล่าถึงคิดว่าต้องถามเรื่องที่เธอสงสัยที่นั่นล่ะ? ไม่หรอก ผมไม่ต้องกังวลเรื่องควิลีทส์

ผมโกรธดวงอาทิตย์ที่มันเริ่มขึ้นแล้ว มันเตือนผมว่า ผมจะไม่ได้ถามเธอในอีกสองสามวันนี้ ทำไมแดดถึงจะต้องมาออกช่วงนี้ด้วยนะ?

ผมถอนหายใจแล้วมุดออกทางหน้าต่าง ก่อนจะแสงมากพอแล้วคนเห็นว่าผมมาที่นี่ ผมตั้งใจจะไปแอบอยู่ชายป่าใกล้ๆบ้านเธอ รอดูเธอไปโรงเรียน แต่พอผมไปถึงป่าก็ต้องแปลกใจที่ได้กลิ่นเบลล่าตามทางเดินในป่า

ผมเดินตามทางทันที ด้วยความสงสัย ผมเริ่มกังวลมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อกลิ่นยังคงลึกเข้าไปในป่า เบลล่าออกมาทำอะไรที่นี่?
จากนั้นกลิ่นก็หายไป กลางป่า เธอเดินออกจากเส้นทางไปเล็กน้อย เข้าไปกลางป่าเฟิร์น ตรงที่เธอแตะลำต้นของต้นไม้ที่ล้มอยู่ เธออาจจะนั่งพักที่นี่....
ผมนั่งลงตรงนั้นแล้วมองไปรอบๆ ที่เธอจะมองเห็นได้ ก็มีแต่ป่ากับต้นเฟิร์นเท่านั้น บางทีตอนนั้นฝนอาจจะตกด้วย เพราะกลิ่นเธอเหมือนโดนชะล้างไป กลิ่นไม่ฝังลึกบนต้นไม้ต้นนี้
ทำไมเบลล่าถึงมานั่งที่นี่คนเดียว (เธออยู่คนเดียว ไม่ต้องสงสัยเลยครับ) กลางป่าชื้นๆ ครึ้มๆ นี่?

ไม่เมคเซ้นส์เลยครับ แล้วเรื่องนี้จะถามเธอก็ยากด้วย มันไม่เหมือนเรื่องที่ผมสงสัยเรื่องอื่นๆ
‘เบลล่า ฉันตามกลิ่นเธอเข้าไปในป่า หลังจากออกมาจากห้องเธอ ฉันแอบเข้าไปดูเธอหลับ....’ ครับ คงจะทำให้เธอรู้สึกสบายๆได้หรอก

ผมคงไม่มีทางได้รู้หรอกว่าเธอคิดอะไร มาทำอะไรที่นี่ และนั่นทำให้ผมกัดฟันด้วยความผิดหวัง ที่แย่กว่านั้นคือ มันดันเหมือนที่ผมคุยกับเอ็มเม็ตต์ - ที่เบลล่าเดินเข้าป่า แล้วกลิ่นเธอก็ดึงดูดคนที่ได้กลิ่นแล้วก็ตามรอยเธอ...
ผมครวญ เธอไม่ได้แค่โชคร้ายเท่านั้น แต่ยังหาเรื่องใส่ตัวเองด้วย

แต่ ตอนนี้เธอมีคนคุ้มครองแล้ว ผมจะคอยดูเธอ ไม่ให้เธอได้รับอันตราย ให้นานเท่าที่ผมจะทำได้
จู่ๆผมก็เกิดอาการอยากให้ปีเตอร์กับชาร์ลอตต์อยู่นานขึ้นมา

Previous post Next post
Up