ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณคนอ่านทุกท่านที่เป็นกำลังใจกับคณะผู้แปลนะคะ ความรู้สึกแย่ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนของรียา ตอนนี้ก็ค่อยยังชั่วแล้วค่ะ ก่อนจะปิดโปรเจ็คนี้ก็มีเรื่องขอชี้แจงนิดนะคะ
สำหรับในตอนที่สี่ มีคนออกความเห็นเรื่องคำว่ารั้ง มา รียาไปเปิดพจนานุกรมมาแล้วขอชี้แจงดังนี้ค่ะ
รั้ง ก. หน่วงเหนี่ยวเอาไว้ เช่น รั้งไว้ก่อน, ยกขึ้นมา เช่น แขนเสื้อรั้ง
(
Read more... )
“จิน, นายตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?”
“อย่ามากวนฉันได้ไหม”
“ชิ, แล้วทำไมนายถึงอารมณ์ไม่จอยอย่างนี้ล่ะ?” ยามะพีถามออกมา
“คาซึยะนะสิจู่ๆ ก็หลบหน้าฉัน โดยที่ฉันไม่รู้สาเหตุเลยว่าเขาทำอย่างนั้นทำไม ฉันไม่คิดเลยนะว่าเขาจะไม่สนใจเลยว่าฉันจะรู้สึกยังไง”
“ฉันรู้สาเหตุแล้วล่ะ...”
“นายพูดอะไรอออกมาน่ะ?”
“จิน! นายนี่เป็นไอ้โง่ตัวจริงเลย”
“หือ? ฉันไม่เข้าใจที่นายพูดออกมาเลยว่ะ,พี นี่นายดื่มมาหรือเปล่า? พูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอยเลย ทุกทีนายจะต้องคอยพูดตำหนิฉัน แต่วันนี้นายไม่พูดอะไรเลย แต่นายก็มาเรียกฉันว่าไอ้โง่ ฉันทำอะไรให้นายคิดว่าฉันโง่กันวะ?”
“ก็นายมันโง่จริงๆ นี่หว่าไอ้บ้าจินเอ๊ย ลองคิดทบทวนดูให้ดี แล้วก็อย่าทำอะไรโง่ๆ ลงไปอีก เข้าใจใช่ไหม?” จินกระพริบตาด้วยความงุนงง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคนรอบๆ ตัวเขากันแน่? คนหนึ่งก็เอาแต่หลบหน้าเขา อีกคนก็ต่อว่าเขา นี่มันอะไรกันใครอธิบายให้เขาเข้าใจได้บ้างไหมเนี่ย
จินยักไหล่ขึ้นอย่างไม่แยแส ช่วงหลายวันที่ผ่านมามันทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในขุมนรก..เพราะได้ตระหนักอยู่ในใจลึกๆว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เป็นเหมือนที่เขาเคยได้วาดหวังไว้เลย คาซึยะไม่ได้ต้องการให้เขาอยู่เคียงข้างกายเลยสักนิด
+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+
หลังจากที่ได้พูดคุยกับเพื่อนถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้คาซึยะรู้สึกสบายใจขึ้น ถึงแม้จะได้ไม่ได้บอกเรื่องราวทั้งหมดกับพวกเพื่อนๆ แต่พวกเขาก็พร้อมใจกันหาทางช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่
หัวใจของเขาเต้นระรัวจนแทบจะกระโดดออกมานอกอก เมื่อมองเห็นร่างสูงของจินดักรออยู่หน้าประตู
ร่างบางนึกสาปแช่งตัวเองที่ไม่เตรียมตัวคาดการณ์เรื่องนี้มาล่วงหน้า ตอนนี้เขาหมดข้อแก้ตัวที่จะหลบหน้าเพราะเขาเองก็เพิ่งจะกลับเข้ามาในบ้าน
เมื่อทั้งสองคนสบตากัน ทั้งคู่นิ่งเงียบไปหลายนาทีสร้างบรรยากาศตึงเครียดขึ้นมา แต่ก็ไม่มีใครยอมถอยออกไปจากจุดที่ยืนอยู่
หัวใจของคาซึยะเต้นแรงขึ้นเมื่อเห็นจินลุกขึ้นยืน คนตัวเล็กอยากจะวิ่งหนีออกไปให้ไกลจากจิน แต่ร่างกายของเขากลับยืนนิ่งอยู่กับที่ราวกับถูกสาป
“ฉันมาเก็บหนี้ครั้งสุดท้าย” จินบอกด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าการกระซิบนิดเดียว
Reply
Leave a comment