ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณคนอ่านทุกท่านที่เป็นกำลังใจกับคณะผู้แปลนะคะ ความรู้สึกแย่ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนของรียา ตอนนี้ก็ค่อยยังชั่วแล้วค่ะ ก่อนจะปิดโปรเจ็คนี้ก็มีเรื่องขอชี้แจงนิดนะคะ
สำหรับในตอนที่สี่ มีคนออกความเห็นเรื่องคำว่ารั้ง มา รียาไปเปิดพจนานุกรมมาแล้วขอชี้แจงดังนี้ค่ะ
รั้ง ก. หน่วงเหนี่ยวเอาไว้ เช่น รั้งไว้ก่อน, ยกขึ้นมา เช่น แขนเสื้อรั้ง
(
Read more... )
วันต่อมาก็ผ่านไปอย่างราบรื่น- จินไม่ได้โทรมาหาตอนที่เขาอยู่ในโรงเรียนเลย...แต่ก็ยังวางใจไม่ได้เสียทีเดียว..เพราะค่ำคืนนี้ยังมาไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ อะไรก็อาจเกิดขึ้นได้
คนตัวเล็กฮัมเพลงไปตลอดทางระหว่างเดินกลับบ้าน จนกระทั่งร่างบางรู้สึกถึงอ้อมแขนแกร่งที่เข้ามาโอบรอบเอวเขาไว้จากเบื้องหลังแล้วลากตัวเขาออกไป
แทบจะไม่มีเวลาให้คนตัวเล็กได้ตั้งตัวว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ คาซึยะก็รู้สึกว่าแผ่นหลังของตัวเองสัมผัสกับกำแพงที่เย็นยะเยือกของบ้านจินเสียแล้ว
อีกฝ่ายกำลังตรึงแขนของเขาเอาไว้ด้านข้าง พร้อมกับพรมจูบลงมาอย่างหิวกระหาย
แล้วเขาจะหลุดรอดออกจากสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร?
รสจูบจากจินช่างหอมหวานเหลือเกิน... คาซึยะนิ่งคิดอยู่ในใจขณะส่งลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดโต้ตอบกับอีกฝ่าย มือบางของอีกฝ่ายก็เลื่อนไล้เข้าไปภายใต้เสื้อเชิ้ตของจิน สัมผัสถึงผิวเนื้อนุ่มหยุ่นภายใต้ปลายนิ้วที่แตะต้องมันอยู่
เขาควรปฏิเสธด้วยการผลักไสจินออกไปไม่ใช่เหรอ? แต่จูบที่ได้รับก็ทำให้เขารู้สึกดีเหลือเกิน... แถมยังมีความรู้สึกดีๆ ยามที่เขาได้สัมผัสผิวเนื้อของจินด้วยนิ้วของเขาเอง มาช่วยตอกย้ำให้เขามั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม
บางที เขาน่าจะปล่อยตัวปล่อยใจให้เพลิดเพลินไปกับรสสัมผัสจากจิน
เมื่อมือหนาของจินเริ่มปลดกระดุมกางเกงของร่างบางออก ก่อนจะสอดมือข้างนั้นเข้าไปในกางเกงชั้นในของอีกฝ่ายเพื่อสัมผัสลูบไล้ส่วนที่ชูชัน จิตใจส่วนลึกของคาซึยะเหมือนจะคอยจะตะโกนบอกให้หยุดการกระทำเช่นนี้ของจิน.....แต่เมื่อมือหนาทำการเคลื่อนไหวเช่นนี้ ร่างบางก็ดูเหมือนหลงลืมทุกอย่างไปในวินาทีนั้นเอง
“อ๊า...” คาซึยะเปล่งเสียงครางออกมา ขณะที่มือของจินยังคงเคลื่อนไหวต่อเนื่อง โดยที่มันเคลื่อนไหวเป็นจังหวะช้าๆ แต่ยั่วเย้าให้กระหายยิ่งขึ้น
และก่อนที่ร่างบางจะสูญเสียการควบคุมตัวเองทั้งหมด จินกัดเบาๆ ลงบนซอกคอขาวเนียน ส่งผลให้ประสาทสัมผัสของคนตัวเล็กตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง
นี่เขาไร้กำลัง อำนาจในการควบคุมตัวเองมากเสียจนไม่อาจจะทนอยู่ให้ห่างจินได้นานเลย...ถึงจะรู้ดีว่าการปล่อยตัวปล่อยใจให้เตลิดตามรสสัมผัสในครั้งนี้ จะทำให้เขาต้องสูญเสียจินไปตลอดกาล...แต่ตัวเขาก็ยังไม่อาจจะควบคุมร่างกายของตัวเองไว้ได้เลย....
ความคิดที่แล่นเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด ทำให้คาซึยะรีบผลักจินออกห่าง พร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำไปด้วยความอับอาย
คาซึยะพยายามข่มความอับอายรีบติดกระดุมกางเกงของตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนจะจัดการเช่นเดียวกันกับเสื้อเชิ้ตที่เขาสวมอยู่ จนไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าท่าทางของอีกฝ่ายเลยสักนิด
ร่างบางเอื้อมมือไปจับลูกบิดแล้วเปิดประตูออกไป ขณะที่ร่างบางเดินออกไปข้างนอก จินได้แต่มองตามโดยไม่เอื้อนเอ่ยคำพูดอะไรออกมาสักคำ
“ผมต้องรีบกลับ...พรุ่งนี้ผมมีสอบ เพราะอย่างนี้...ผมค้างที่นี่ไม่ได้” คาซึยะบอกออกมา โดยที่ไม่ยอมสบตากับจิน เพราะคนตัวเล็กกำลังกลัวว่าจินจะจับได้ว่าเขากำลังพูดโกหกออกมา
คาซึยะมองเห็นสายตาของจินที่จ้องมองมาที่เขาอยู่ชั่วขณะหนึ่งก่อนที่ประตูจะปิดลง
ทำไมใบหน้าจินเมื่อครู่ถึงมีแววของความเศร้าฉายออกมา? ไม่หรอกน่า, จินก็คงแค่ผิดหวังที่ไม่ได้มีอะไรกับเขาอย่างที่อีกฝ่ายหมายมั่นเอาไว้แค่นั้นเอง
อย่างน้อยวันนี้เขาก็สามารถหลบหน้าจินมาได้อีกหนึ่งวัน แต่เขาจะสามารถยืดเวลาให้อยู่กับจินให้นานขึ้นอย่างนี้ไปได้อีกสักเท่าไหร่กัน?
+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+
Reply
Leave a comment