Dec 22, 2004 15:56
hmm...yep! I know you can't read it!
------------
เอาล่ะ ผมไม่สนหรอกนะว่าคุณจะทนอ่านหรือไม่แต่ผมก็จะเล่าเรื่องนี้ให้อ่าน ผมเป็นผู้ชายเรียบๆธรรมดาๆไม่มีอะไรน่าสนใจ แถมยังเตี้ยอีกต่างหาก ผู้คนมักจะเข้าผิดว่าผมเป็นเด็กผู้หญิง ผมก็พอจะเข้าใจว่าผมอันแสนยาวของผมทำให้คนเข้าใจผิด แต่ยังไงผมก็ยืนยันว่าจะไม่ตัดมันง่ายๆหรอก กว่าเลี้ยงให้มันยาวได้แถมยังค่าแชมพูที่เอาไว้บำรุงผมอีก ผมว่าเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
เมื่อหลายปีก่อน ผมเก็บข้าวของบอกลาคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นที่รักของผมเข้าโตเกียว พ่อของผมบอกว่าสถานที่แห่งนั้นมันอันตรายนัก ส่วนแม่ที่แสนใจดีของผมนั้นอ้อนวอนผมจนผมเกื่อบใจอ่อน แต่ผมยื่นคำขาดไปแล้วนี่นา เดี๋ยวเสียชื่อลูกผู้ชายหมด แม่ของผมจูบหน้าผากของผมส่งลาที่หน้าบ้านตึกแถวของพวกเรา Apple Pub ที่ที่ผมโตมากับมัน ผมกลั้นน้ำตาไว้เต็มที่เลยล่ะ แม่ของผมน้ำตาคลอเบ้า เข่าผมแทบทรุด แต่ผมก็กัดฟันหันหลังให้พวกเขาแล้วเดินจากมาจนถึงสถานีรถไฟฟ้าเพื่อมันจะได้พาผมไปที่โตเกียวซักที
อีกไม่กี่ชั่วโมงผมก็จะถึงโตเกียวแล้ว หัวใจในอกผมเต้นแรงมากเลย ทั้งตื่นเต้นทั้งกลัว ผมมีกระเป๋าใส่เสื้อผ้าที่หอบมาด้วยใบนึงกีต้าร์อีกตัวกับเงินที่คิดว่าน่าจะพอสำหรับใช้เปิดอพาร์ตเม้น ผู้คนใรถไฟมีมากพอสมควร ยิ่งใกล้ถึงโตเกียวมากเท่าไหร่มันยิ่งแน่นขึ้นเท่านั้น แล้วมันก็จอดที่สถานีที่ผมต้องการจะลง เบียดคนออกมาแทบตายแน่ะ แย่จังเลยเกิดมาตัวเล็ก
พอออกมาจาตัวสถานีได้ผมก็เริ่มเดินแตร่หาอพาร์ตเม้นที่จองไว้ทางโทรศัพท์ก่อนเดินทาง เกื่อบหลงแต่ผมดันเจอคุณลุงใจดีคนนึงเดินผ่านในตรอกที่ผมเดินอยู่แล้วเขาก็นำทางไปจนถึงที่หมาย จากนั้นผมก็เดินเข้าไปในตัวตึก มันดูเก่าๆโทรมๆแต่ก็พออยู่ได้ นี่มันแค่การเริ่มต้น คอยดูนะผมจะเป็นRocker ที่โด่งดังของญี่ปุ่นให้ได้เลย
ในที่สุดผมก็มาถึงห้องของผม มันเป็นห้องเล็กๆ ยังดีที่มันมีห้องน้ำในตัวไม่งั้นคงต้องใช้ห้องน้ำรวม ผมว่ามันคงไม่สนุกแน่ๆ สีในห้องก็เก่าๆหลุดรอกเป็นแห่งๆ ทีนี้ผมต้องเริ่มหางานทำล่ะ เดี๋ยวไม่มีเงินจ่ายค่าเช่ากับค่าอาหาร พอผมจัดข้าวของเป็นที่ มันก็เย็นซะแล้วพรุ่งนี้ผมจะเริ้มตระเวนหางานทำให้ได้
ผมเอาเสื้อของผมมาขดเป็นก้อนกลมๆเพื่อทำเป็นหมอนและผ้าเช็ดตัวเป็นผ้าห่ม ผมนอนบนพื้นเปล่าๆ ตอนนั้นผมคิดถึงเตียงนุ่มๆที่ผมเคนนอนเมื่อคืนก่อนนี้เองแต่ตอนนี้ต้องมาคลุกเป็นคนจนไปก่อน
เช้ารุ่งขึ้นผมเริ่มตระเวนหางานแต่เช้า ท้องของผมก็ร้อง ผมไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อคืนหิวมากเลยล่ะ แต่ยังไงก็ขอให้ได้งานทำก่อน เอาที่แรกที่จะไปสมัครเป็นร้านขายหนังสือเล็กๆแห่งหนึ่ง พอผมเดินเข้าไปผมก็เห็นเจ้าของร้านนั่งอ่านหนังสือพิมอยู่ในร้าน เขาเป็นชายวัยกลางคนดูดุๆ เขามองขึ้นมาที่ผมแสดงท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรซักเท่าไหร่ แถมเขาไว้หนวดซะน่ากลัวเชียว
"นี่ถ้าจะมาอ่านหนังสือฟรีน่ะ เชิญออกไปได้เลย เด็กพวกนี้น่ารำคาญ" นั่นละครับคำทักทายของเขา
"คือผมมาสมัครงานครับ" ผมตอบเขาไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
"ตัวแค่นี้คิดจะมาทำงาน ข้าไม่รับเด็กเข้าทำงานหรอก ไปวิ่งเล่นไปชิ่วๆ"
ผมไม่ตากหน้าอยู่หรอกครับ ผมก็เดินออกจากร้านไปเงียบๆ ไม่ว่าที่ไหนๆก็พูดเหมือนกันยังกับเจ้าของร้านนั้นโทรไปบอกทุกร้านค้าทั่วโตเกียว ผมทั้งหิวทั้งเคื่อง แต่ก็จะพยายามต่อไป ผมมองดูนาฬิกาที่พ่อให้มาเป็นที่ระลึก เห้อ4โมงเย็นยังไม่ได้งานทำเลย เหนื่อยมาทั้งวันแล้วแล้วผมก็ไม่รู้จะไปไหน ไม่รู้จักใครซักคน ผมนั่งพักใจอยู่ในส่วนแห่งหนึ่งพร้อมชมพระอาทิตย์ตกไปเลยและมีเสียงท้องร้องของผมประกอบอย่างงดงาม
ได้เวลากลับบ้านแล้วสินะ ผมไม่อยากจะเรียกห้องเช่าโทรมๆนั่นว่าบ้านเลย แต่มันก็เป็นที่ซุกหัวนอนของผมตอนนี้ ระหว่างทางผมก็เดินผ่านlive house อันหนึ่ง ผมเลยแวะเข้าไปเพื่อได้งานทำ แถมมันยังอยู่ใกล้ห้องเช่าของผมอีกด้วย ผมเดินเข้าไปเงียบๆเดินมองรอบๆ และแล้วก็มีคนมาขอเช็คบัตรผม น่ารำคาญจริงๆ
ผมเลือกที่นั่งตรงบาร์ บาร์เธนเดอร์ก็มาถามว่าผมต้องการจะดื่มอะไร ผมก็ไม่อยากจะใช้เงินเลยเปลี่ยนเรื่องแทน ทำเป็นถามไปว่าจะมีวงอะไรเล่น เขาก็ตอบมาเป็นชื่ออะไรซักอย่างนี่ละ ค่อนข้างยาวแล้วไม่คุ้นหูเลย
พวกเขาเดินขึ้นเวทีผู้คนก็ปรบมือรับตามมรรยาท ผมรู้สึกตื่นเต้นยังไงไม่รู้ นักร้องนำเสียงใสๆ พวกเขาก็มีฝีมือดีนะ ผมต้องมนต์สเน่ท์ของวงนี้อย่างจัง พอพวกเขาเล่นเสร็จก็ลงเวลทีไป ผมก็นั่งจิบเครื่องดื่มที่อุตส่าห์ลงทุนซื้อไว้ รอดูว่าพวกเขาจะกลับขึ้นมาเล่นอีกไหม แต่ก็ไม่มีวี่แววเลย เอาล่ะเครื่องดื่มมันทำให้ผมต้องเข้าห้องน้ำ ผมลุกจากที่นั่งแล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำ อืมเสร็จกิจในห้องน้ำผมก็ล้างมือแล้วก็รีบวิ่งออกมา ผมได้ยินเสียงดนตรีเริ่มขึ้นอีกครั้งผมก็กลัวว่าจะพลาดการแสดงเลยวิ่งไม่ได้ดูทางแล้วก็ไปชนเข้ากับผู้ชายคนนึง ผมกล่าวขอโทษเขาแล้วมองขึ้นไปมองหน้า นั่นล่ะมันเริ่มที่ตรงนั้นล่ะครับ ผมบังเอิญไปชนกับนักร้องนำที่ผมโดนมนต์สะกดเข้าจังๆ เขามองผมกลับไม่ได้พูดอะไร ผมก็ตระกุกตระกรักพูดอะไรไม่ออก
"ต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ" เขาโค้งตัวก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป
สายตาที่เขาจ้องมาที่ผมมันแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ ผมยักไหล่แล้วเดินกลับไปที่นั่งเดิมของผม บาร์เธนเดอร์ก็เข้ามาสนทนากับผมเป็นครั้งคราว ยิ่งดึกคนยิ่งมากขึ้น ผมนั่งตรงนั้นไปซักพัก อยู่นักร้องนำคนนั้นก็วิ่งมาจากไหนไม่รู้แล้วเขาก็ฉุดข้อมือผมเข้าไปที่หลังเวที ผมก็ตามแรงลากเขาไป
"ต้องขอโทษด้วยที่ฉุดคุณมาแบบนี้" เขามองลงมาที่ผมด้วยสาตาที่แปลกประหลาดแบบนั้นอีกแล้ว แล้วผมก็สังเกตว่าเขาหน้าแดงเรื่องๆด้วย
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมกำลังหาวงจะเข้าอยู่พอดี" สิ้นเสียของผม เขาดูอึ้งๆแปลก
"อืมหรอครับ" เสียงของเขาฟังดูผิดหวัง เขาคงจะคิดว่าผมเป็นผู้หญิงอีกแน่ๆเลย "วงของผมกำลังขาดนักร้องนำอยู่พอดี" น้ำเสียงของเขาเปลี่ยน คราวนี้ฟังดูดีขึ้รมาหน่อย "คือเล่นอะไรมาก่อนหรือครับ"
ผมรู้นะว่าเขาจะฉุดผมมาเป็นผู้หญิงหลังเวที แต่ผมก็ตอบกลับไปอย่างสุภาพ
"ผมเคยเป็นนักร้องนำสมัยที่ยังอยู่ที่โอซาก้าน่ะครับ"
"เจ๋งเลย! โอ้ต้องขอโทษด้วย ผมชื่อTetsu ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก" เขาโค้งตัว
"อ่า ผมHidetoครับ" ผมโค้งรับ
"คุณบอกว่าคุณมาจากโอซาก้าใช่ไหมครับ" เขาถามยิ้มๆ
"ใช่ครับ พึ่งย้ายมาโตเกียวเมื่อวานนี้เอง" อยู่ๆผมก็เกิดอาการแปลกๆขึ้น รู้สึกเวียนหัว
"คนบ้านเดียวกัน อื้มฮิเดโตะซัง......." ผมไม่แน่ใจว่าเขาพูดอะไรต่อจากนั้น เพราะอยู่ทุกอย่างมันก็ปกคลุมไปด้วยความมืออย่างรวดเร็ว
---------------------------------------------
สิ่งแรกที่ผมเห็นหลังจากที่ผมได้สติคือTetsu-san ผมสดุ่งตัวขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบ เขาตบไหล่ผมเบาๆแล้วบอกผมว่าไม่ต้องตกใจ ผมเกิดหมดสติระหว่างการสนทนาเมื่อคืนพอดี แล้วเขาก็ไม่รู้จักที่อยู่ของผม เขาเลยพาผมมาที่ห้องเช่าของเขา มันดูใหม่กว่าห้องเช่าของผมอีก คงต้องแพงกว่าแน่ๆ ที่ผมเป็นลมไปคงเพราะว่าผมไม่มีอะไรตกถึงท้องเกื่อบสองวัน Tetsu-san เขายกอาหารมาให้ ง่ายๆตามประสาผู้ชายก็คือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในถ้วยโฟม แต่เวลาหิวอะไรก็อร่อยทั้งนั้นแหละ ผมจัดการเจ้าบะหมี่นั่นจนเรียบน้ำแกงซักหยดก็ไม่เหลือ
"นายคงไม่ได้กินอะไรมาเลยน่ะสิ" เสียงนุ่มๆของTetsu-sun ฟังแล้วอุ่นใจดีจัง
"ต้องขอโทษด้วยนะครับที่รบกวนTetsu-san"
"ไม่เป็นไร" เขาย้ายมานั่งบนเตียงข้างๆผม "เราเข้าใจดี เพราะตอนที่เราย้ายมาใหม่ๆก็หิวโซเหมือนนายนะแหละ" Tetsu-san เป็นคนที่ดูเป็นมิตรมากเลย เขามีผมยาวย้อมออกสีแดงสนิม สูงกว่าผมไม่มากนัก เป็นผู้ชายที่มีผิวขาวเนียน
ผมไม่รู้ว่าจะพูดตอบกลับไปยังไงก็ได้แต่มองหน้าเขายิ้มๆเชิงตอบรับ
"โอ้ นายบอกว่าพึ่งย้ายมาเมื่อวันก่อน แล้วหางานทำได้หรือยัง"
ผมส่ายหัว
"อ่า ไม่เป็นไร ตอนนี้กำลังหาเพื่อนร่วมห้องอยู่ นายมาหุ่นค่าเช่ากับเราไหม"
ผมมองหน้าเขากลับไปยิ้มไม่กล้าพูดอะไร
"นานเป็นอะไรอะ ไม่พูดไม่จายังหิวอยู่หรอ" Tetsu-san ลุกจากเตียงแล้วก็ยกถ้วยบะหมี่เพื่อจะเอาไปทิ้ง
"อ่า ป่าวครับ เพียงแต่ว่าจะดีหรอ ผมมากวนป่าวๆ"
"ไม่กวนหรอก อืมคืนนี้นานน่าจะลองมาลองเสียงนะ" เขายิ้มส่งให้ผมแล้วเดินเอาถ้วยบะหมี่ไปทิ้ง
---------------------------------------
เย็นของวันนั้น Tetsu-san พาผมไปพบกับสมาชิกในวง คือ Hiro-san กับ Pero-san ทั้งสองคนนั้นเล่นเก่งใช้ได้เลย แล้วTetsu-san ก็พอใจกับเสียงร้องของผม และชวนผมขึ้นเวทีในคืนนั้นทันที
ทุกอย่างผ่านไปอย่างสวยงามอย่างที่คาดหวังไว้
คืนนั้นผมเดินกับบ้านกับTetsu-san แล้วเราสองคนก็มองหน้ากันยิ้มๆด้วยดวงตาเป็นประกายแห่งความหวัง ว่าพวกเราต้องเป็นวงที่ยิ่งใหญ่วงนึงของญี่ปุ่นให้ได้
The End