Title You’re My (3/?)
By pop
Pairing YBGD
Rate NC-17
Status Shot fic / WIP
Warning ยองเบตบจูบนะคะเรื่องนี้ xD และ ตอนนี้แอบมีฉากเจาะหวาดเสียวนะก๊ะ บอกช้าไปป่าวเนี่ย ^^'>
ปล. เค้าตัดที่เจาะๆ ออกไปหน่อยนะฮับ เนื่องจาก ดูคลิปแล้ว เลือดเค้าออกไม่เยอะกันเท่าไหร่แหะ -_-lll คือไม่เคยเห็นเจาะอันนี้ไง (มีสองแบบแฮะ แบบเจาะไปเลยกะแบบใช้กรรไกร สยองพอกัน แต่ดูเหมือนกรรไกรไม่ค่อยเจ็บ) เคยเห็นแต่เจาะสะดือ (เพื่อนไปเจาะ) เลือดท่วมพุงจนคนเจาะบ่นเลย xD เปลืองทิชชู่
++++++++++++++++++++++++
ที่หน้าร้าน รุ่นพี่ซองเบคคยองนั่งเอนหลังไขว่ห้างอยู่ที่เก้าอี้ยาวโทรมๆ ในมุมที่จียงไม่ทันมองตอนเดินเข้ามา ผู้ชายใส่หมวกทับเสื้อฮู้ดไปยืนอยู่บนเคาน์เตอร์ แขนยาวยกสูง ในมือขาวจัดมีตุ๊กตาหมีหน้าตาประหลาดตัวหนึ่งอยู่ เขาโบกแขนไปมาและหัวเราะอย่างสนุกสนาน คนที่โดดเหยงๆ อยู่ตรงหน้า พยายามจะแย่งหมีประหลาดคืน จียงจำได้ว่าเป็นรุ่นพี่ปีสองที่ดังมากๆ อีกหนึ่งเด็กเกประจำโรงเรียน ชเวซึงฮยอน ที่ดังก็เพราะความหล่อและเพราะแทบไม่เคยเข้าเรียนเลย... ที่จียงไม่เคยคิดก็คือ... คนหน้าตาแบบชเวซึงฮยอนจะทำอะไรแบบนี้
“เอาคืนมานะ บอกให้เอาคืนมาไงเล่า”
ทำเสียงง้องแง้งงอแงใส่คนที่ยังยกหมีหนีมือที่พยายามคว้านั่น
“พี่เท็ดดี้อ่ะ เอาคืนม๊า”
ไม่ต้องพูดถึงหน้าหล่อๆ ที่สาวๆ หลงใหล ตอนนี้บูดเบี้ยวเหยเกเหมือนเด็กโดนขัดใจ
จียงเดินเลี่ยงๆ มองฉากตรงหน้าอย่างตื่นตาตื่นใจ
“ไอ้แห้ง แกชื่อควอนจียงป่ะ?”
แต่เสียงเล็กๆ ที่ฟังดูกร่างที่สุดทำให้จียงหันไป
ซองเบคคยองจ้องเขาอยู่ ดวงตาของคนตัวเล็กยังฉายแววประหลาดเหมือนกำลังมองของเล่นชิ้นใหม่ จียงกลืนน้ำลายฝืด เขายังไม่อยากเป็นของเล่นของใครหรอกนะ... เด็กหนุ่มตัวผอมเพียงแต่พยักหน้ารับแล้วโค้งให้รุ่นพี่นิดหนึ่ง และได้รอยยิ้มมุมปากกลับมา
ยองเบโอบแขนรอบเอวเขาแล้วดึงเข้าไปหาตัวหน้าตาเฉย จียงหันมองคนข้างตัวงงๆ ยองเบเตี้ยกว่าเขาเล็กน้อยแต่หนากว่าเยอะ
“เจาะเสร็จแล้วก็ไปจ่ายตังค์ดิ่ เฮ้ย เท็ดดี้! จะแกล้งไอ้อ้วนอีกนานมั้ย คิดตังค์ด้วย”
เสียงตะโกนของคนตัวเล็กทำให้สองคนที่เล่นเจ้าล้อเอาเถิดหันมามอง
“แสนวอน รวมจิวเวลรี่แล้ว”
ผู้ชายตัวสูงบนเคาน์เตอร์เอ่ยเรียบๆ นั่งยองๆ ลงแล้วคว้าคอรุ่นพี่หน้าหล่อมาล็อคไว้ คนโดนล็อคไม่สนใจอะไร มือรีบคว้าตุ๊กตาหมีออกจากมือของอีกฝ่ายทันที
“แสนวอน?....” จียงทวนอย่างไม่อยากเชื่อ แสนวอนอะไร? เขาจะเอาเงินขนาดนั้นมาจากไหน? หันไปมองคนข้างตัวก็เห็นยังทำหน้าเฉย จียงค่อยๆ ขยับตัวออกจากวงแขนนั้นช้าๆ เขาหันกลับไปโค้งให้รุ่นพี่ตัวเล็ก
“ขอโทษครับ วันนี้ผมไม่มีเงิน แล้วจะนำมาให้วันหลัง” ในใจของจียงหวิวๆ แปลกๆ นี่เขากำลังเอาตัวเองมาเจอกับอะไร? โดนลากมาเจาะสะดือ แล้วเรียกเก็บเงินอีกแสนวอน คนพวกนี้เป็นยากุซ่าใช่มั้ย ขณะที่ จียงคิดมากจนเกือบร้องไห้ หูก็แว่วเสียงกลั้นหัวเราะคึกคึก พอเงยหน้าขวับขึ้นมาก็เห็นรุ่นพี่ชเวซึงฮยอนกลั้นยิ้มจนแก้มบวม
“หุบปากไปเลยไอ้ท็อป”
พี่เบคคยองหยิบใบปลิวบนโต๊ะข้างโซฟาปั้นเป็นก้อนกลมแล้วขว้างใส่ แต่หนุ่มหล่อตัวสูงเอี้ยวตัวหลบ ก้อนกระดาษกระเด็นไปโดนผู้ชายใส่ฮู้ดที่ยังคล้องคออีกฝ่ายอยู่หลวมๆ
“พี่เค้าล้อเล่นน่ะ” ยองเบที่แอบอมยิ้มหันมาบอกในที่สุด แต่จียงยังไม่วางใจ
“ฉันเป็นคนเจาะ ฉันไม่คิดเงินนาย โอเค๊? จิวเวลรี่ที่ใส่ฉันก็ซื้อให้ นายไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งนั้น” สิ้นเสียงยองเบพี่เบคคยองก็ส่งเสียงขึ้นจมูกเหมือนหมั่นไส้สุดขีด
“ชิ ไอ้ยองเบ ทำเป็นป๋า”
ไม่ใช่เสียงของคนที่อยู่ในห้อง จียงหันไป คนที่พูดเพิ่งก้าวออกจากห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง ใบหน้ากลมเหมือนพระจันทร์ ดวงตาเรียวยาวดูเจ้าเล่ห์
“นี่พี่จินฮวาน ช่างใหญ่ของร้าน” ยองเบบอกจียงเสียงเรียบ
“ศิลปินประจำร้านโว้ย งานฉันน่ะไม่ได้ดาดๆ เหมือนที่ไอ้พวกนี้ทำหรอก” คนพูดกอดอกเชิดหน้า กวาดตามอง “ไอ้พวกนี้” ที่นั่งอยู่ในห้อง
“เดี๋ยวไล่ออกเลยมึง ปากดี” ผู้ชายตัวขาวบนเคาน์เตอร์โดดลงมาแล้วเดินไปคิดเงินลูกค้าที่เดินตามจิน ฮวานออกมาจากห้อง
“ร้านนี้เป็นของพี่เท็ดดี้กับเบคกี้น่ะ” ยองเบดึงมือจียงไปนั่งที่เก้าอี้สตูลหลังเคาน์เตอร์ แล้วผละเข้าห้องที่เมื่อครู่จินฮวานเพิ่งออกมา ทิ้งให้จียงหัวเอียงกับชื่อแปลกๆ ที่ยองเบเรียก
“น้อยๆ หน่อย ร้านนี้ของฉันต่างหาก” ซองเบคคยองพลิกหน้านิตยสารลายสักภาษาอังกฤษดูอย่างไม่ยี่หระ
“ร้านพ่อฉันก็ต้องเป็นของฉัน กะอิแค่หม่าม้าไอ้เท็ดมาแต่งกับพ่อฉันแล้วบังเอิญมันแก่กว่าฉัน ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นเจ้าของร้านนะเว่ย”
จียงเห็นหนุ่มเสื้อฮู้ดหลังเคาน์เตอร์แค่นหัวเราะทีหนึ่ง แล้วหันไปยกนิ้วกลางให้คนตัวเล็กที่ยกกลับอย่างไม่กลัวเกรง
แต่ที่แน่ๆ จียงกลัวไปแล้ว พี่พวกนี้คุยกันเหมือนจะทะเลาะกัน เล่นกันเหมือนจะชกกัน ขึ้นเสียงใส่กันแต่ละครั้งเล่นเอาจียงสะดุ้ง เขาหันมองไปทางห้องที่ยองเบหายเข้าไปเหมือนจะหาตัวช่วย ตอนที่ใบหน้ากลมเหมือนพระจันทร์ที่มีดวงตาเรียวยาวจู่ๆ ก็โผล่มาตรงหน้า
“ผิวละเอียดดีจัง...” นิ้วยาวๆ เลื่อนมาลูบผิวที่ท่อนแขน
“สักหน่อยมั้ย น้องชาย?” ใบหน้านั้นยิ้มให้ แต่ดวงตาไม่ยิ้ม จียงกลืนน้ำลายเหนียวหนืด เขากลัว...
แล้วเงาร่างของใครบางคนก็ทะมึนค้ำหัวคนตรงหน้า
“ถ้าจียงจะสัก ผมจะเป็นคนสักเอง” ยองเบดันร่างรุ่นพี่ออกไป ก่อนจะคว้ามือจียงดึงให้ยืนขึ้นอีกครั้ง
“ห้องทำเสร็จแล้ว ผมกลับล่ะ” ยองเบดึงเขาเดินตาม จียงเห็นพี่ซึงฮยอนโบกมือบ๊ายบายให้ แต่พี่จินฮวานกลับรั้งไหล่ยองเบไว้
“โห ไอ้ยองเบ ยังไม่ทันเป็นอะไรกันเลยทำเป็นหวง... มาเลยมึงอ่ะ มาให้กูลองมือซะดีๆ” จียงหน้าซีด ดูเหมือนเขาทำให้ยองเบตกที่นั่งลำบาก
แต่คนที่ดูเหมือนจะตกที่นั่งลำบากเพียงแต่จิ๊ปากขัดใจ
“อะไรอีกพี่ เมื่อครั้งก่อนแผลยังไม่หายดีเลย” แต่คนเป็นพี่ไม่ตอบ เพียงแต่ล็อคคอคนตัวเล็กกว่าลากเข้าห้องไป
“แกก็เข้าไปดูมันสิ ไอ้แห้ง ไปดูว่ามันโดนที่ไหนอีก” เสียงของพี่เบคคยองกลั้วหัวเราะ จียงยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะตามไปดีหรือไม่ แต่พี่ซึงฮยอนเดินนำเข้าไปแล้ว
จียงทำใจอยู่อีกพักใหญ่ ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องเล็กอย่ากล้าๆ กลัวๆ เสียงแรกที่ทักทายหูของเขาคือเสียงซี้ดปากอย่างเจ็บปวดของยองเบ
จียงหน้าซีด เขามองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา มือเล็กยกมาปิดปากกลั้นเสียงหวีดร้อง ชเวซึงฮยอนหันมาเห็นเข้า เลยลากคอเขาไปตบบ่าปลอบใจ
“มันไม่เจ็บเหมือนที่เห็นหรอก” เสียงทุ้มเอ่ยให้กำลังใจ จียงอยากจะหันไปแหวเอานัก ว่าพี่เคยโดนเหรอ ถึงได้รู้ว่าไม่เจ็บ
บนเก้าอี้แบบเดียวกับที่จียงนั่งเมื่อครู่ ทงยองเบนั่งเปลือยท่อนบน มือบีบเท้าแขนเก้าอี้จนข้อขึ้นขาว กัดฟันแน่นจนกรามเป็นสันนูน พี่จินฮวานที่สวมถุงมือยางเรียบร้อยนั่งอยู่ตรงหน้า มือหนึ่งกำลังดึงยอดอกของยองเบ อีกมือหนึ่งกดเข็มขนาดใหญ่และยาวมีรูกลวงเพื่อใส่เครื่องประดับรูปห่วงที่เตรียมไว้ให้แทงเข้าไปในผิวหนังบอบบางตรงนั้น
เลือดที่ไหลซึมลงมาตามแผงอกแกร่งทำให้จียงรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ดีที่มีอ้อมแขนของซึงฮยอนพยุงไว้ ไม่เช่นนั้นเขาคงล้มคว่ำแน่ๆ
วูบหนึ่งเขาเห็นเหมือนยองเบหันมา และขยับจะลุกมาหา ติดที่เข็มขนาดใหญ่ที่ยังปักอยู่ที่ยอดอก
“เร็วๆ สิพี่” เสียงของยองเบแหบ และฟังดูห้วนห้าว แต่จินฮวานเพียงแต่แค่นหัวเราะ
“ใจเย็นสิวะ มันโค้งนะเว้ย แกอยากหัวนมขาดหรือไง นั่นไอ้ซึงฮยอนนะ หวงอะไรวะ”
จียงได้ยินยองเบคำรามอย่างขัดใจ ก่อนจะครางออกมาดังลั่นอย่างเจ็บปวดเมื่อเข็มยาวนั่นแทงทะลุเนื้อ และเืลือดซึมออกมาอีกครั้ง
จียงทนดูไม่ได้อีกต่อไป เขายกมือปิดตาหันหน้าหนี ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองซบบ่ารุ่นพี่ตัวสูงข้างตัว จนมีมือใหญ่ๆ มากระชากร่างเขาออกไปนั่นแหละ
“โว๊ะ อิคนขี้หวง” พี่จินฮวานด่าเสียงสูง ส่วนคนตัวสูงที่ยืนข้่างๆ เพียงแต่หัวเราะหึหึ แต่จียงไม่ได้สนใจ ดวงตาเขาจับจ้องที่เครื่องประดับรูปห่วงสีดำมีตุ้มกลมที่ห้อยอยู่กับยอดอกของคนที่ยืนหน้าบึ้งอยู่ตรงหน้า รอบๆ แผลยังบวมแดงและดูช้ำเลือดอย่างเห็นได้ชัีด กลิ่นของแอลกอฮอล์ปนกลิ่นเลือดชวนให้คลื่นเหียน
ตอนนี้จียงเห็นแล้ว ว่าทงยองเบเจาะอะไรบ้าง … มากมายที่หู หนึ่งหมุดที่ลิ้น ดัมเบลโค้งๆ เหมือนของเขาแต่ประดับเพชรสีขาวที่สะดือ และ....ห่วงสีดำที่หัวนมหนึ่งข้าง
“เจ็บมั้ย” จียงถามเสียงเบา เขายกมือขึ้น แต่ไม่กล้าแตะห่วงดำๆ นั่น รู้ดีว่าตัวเองคงหน้าตาเหยเกแน่ๆ
“เจ็บกว่าที่สะดือหน่อย” ยองเบที่ตอนนี้ดูอารมณ์ดีขึ้นตอบเบาๆ แต่เสียงคนเจาะที่ฟังดูหมั่นไส้เต็มแก่แทรกขึ้น
“เจ็บกว่าที่สะดือเยอะเว้ย หัวนมเส้นประสาทเยอะกว่า แถมยังเจาะสด ไอ้ยองเบมันเป็นมาโซ แกจะเตะต่อยมันมั่งก็ได้นะไอ้แห้ง”
จียงเห็นยองเบหันไปค้อนรุ่นพี่ตาขวาง
“ถ้าผมไม่อยู่ให้พี่เจาะ ระวังเหอะ จะเหงามือตาย” จียงหัวเอียง แล้วก็ถามขึ้นในที่สุด
“นายกับพวกพี่ๆ ... ดูสนิทกันจังเลยนะ”
“พี่จินฮวานเป็นเพื่อนกับพี่ชายฉันน่ะ” ยองเบยิ้มนิดหน่อย ก่อนจะค่อยๆ สวมเสื้อนักเรียน จียงแอบได้ยินคนตัวหนาซื้ดปากเล็กน้อยเมื่อเนื้อผ้าแตะโดนแผลที่เพิ่งเจาะ
“ยองเบ นายไม่พาจียงกลับบ้านเหรอ นี่มันดึกแล้วนะ” เป็นชเวซึงฮยอนที่เปิดม่านยื่นหัวเข้ามาบอก
ยองเบพยักหน้ารับแล้วจูงจียงออกไป หัวใจคนตัวเล็กตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อมองนาฬิกา สามทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว จียงไม่เคยกลับบ้านช้าขนาดนี้มาก่อน เขารีบวิ่งไปที่กระเป๋านักเรียน แล้วล้วงหาโทรศัพท์ออกมา
ตายแน่ๆ ตาย ตาย 10 สายที่ไม่ได้รับ จียงจะแก้ตัวยังไงดี
“ไปติวบ้านเพื่อน” เสียงเล็กดังมาจากโซฟา เจ้าของเสียงยังพลิกหน้านิตยสารลายสักเหมือนไม่ยี่หระอะไรในโลก
“มุขนี้ใช้ได้ตลอดนั่นแหละ ถึงฉันจะไม่เคยต้องใช้” เบคคยองพูดต่อโดยไม่เงยมองหน้า จียงพึมพำขอบคุณแล้วรีบโทรหาแม่
“ฮัลโหล... แม่ครับ...”
แน่นอนว่าจียงโดนแม่ดุยกใหญ่ที่ไม่โทรมาบอกล่วงหน้า เขาบอกแม่ว่าอาจารย์เรียกติวด่วน และเขารับโทรศัพท์ไม่ได้เพราะอยู่ในห้องเรียน แม่วางสายไปเหมือนกับไม่เชื่อเท่าไหร่ จียงเองก็ไม่คิดว่าแม่จะเชื่อ แต่วันนี้มีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้นเยอะเหลือเกิน เยอะเกินกว่าเขาจะรับได้ทั้งหมด
“มาสิ จะไปส่ง” ยองเบยื่นหมวกกันน็อคให้ จียงที่ยังไม่สบายใจนักกับการต้องโกหกแม่รับมันมาอย่างงุนงง ยองเบคว้ากระเป๋านักเรียนเขาเดินนำออกไปก่อน
“ไปเหอะ เดี๋ยวจะดึกกว่านี้” ผู้ชายตัวสูงผิวขาวเงยหน้าจากการ์ตูนขึ้นมาพูดกับเขาเป็นครั้งแรก จียงพยักหน้ารับ แล้วก้มหัวลาทุกคนในร้าน ก่อนจะเดินตามยองเบออกไป
จียงพบว่าคนตัวหนาสตาร์ทเครื่องรถรออยู่แล้ว มอร์เตอร์ไซค์คันไม่ใหญ่ที่เขาไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร แต่งเหมือนพวกรถแข่ง ดูเหมาะกับคนตัวเล็กใจร้อนแบบยองเบบอกไม่ถูก จียงก้าวขึ้นซ้อนท้าย รับกระเป๋านักเรียนมากอดไว้
“เกาะเอวฉันแน่นๆ ถ้าไม่อยากตก” ยองเบหันมาบอกก่อนจะปิดหน้ากากหมวกกันน็อคแล้วออกตัว จียงต้องคว้าเอวคนตรงหน้ากอดไว้แน่น สมองที่มึนงงของเขาเหมือนกลิ้งหลุดออกมาจากหัวเพราะความเร็วและฉวัดเฉวียนที่ไม่คุ้นเคย
“ย่ะ.. ยองเบ... ช้าหน่อย ฉันกลัว”
จียงพยายามตะโกนฝ่าเสียงเครื่องยนต์ ไม่รู้ว่าลมพัดเสียงเขาไปเข้าหูยองเบบ้างหรือไม่ แต่เมื่อรถติดไฟแดง มือหนาข้างหนึ่งก็ละจากแฮนด์เลื่อนมาทาบบนมือเขาที่กอดแน่นอยู่รอบเอวสอบไม่ยอมปล่อย
ถึงแม้รถจะจอดแล้วก็ยังไม่ปล่อย ก็เกิดมาจียงไม่เคยนั่งมอเตอร์ไซค์ ไม่ต้องพูดถึงมอเตอร์ไซค์ที่ยังกะรถแข่ง คนขับยังเจาะทั้งตัวแถมบ้าระห่ำแบบนี้
จียงกดหน้าแนบบ่าหนาของยองเบแน่น เขากลัวจนฉี่จะราด กลัวจนปากสั่น กลัวจนเจ็บใจตัวเองที่ไม่มีความกล้าให้มากกว่านี้
และยิ่งเจ็บใจมากขึ้นเมื่อได้ยินเสียงทงยองเบหัวเราะหึหึ
tbc...