[Thai Trans] EYE AI 2010.11

Oct 12, 2010 16:55


EYE AI 2010.11

KAT-TUN

Going! ~KAT-TUN WORLD BIG TOUR 2010~

Photo by Yow Kobayashi

Text by Noriko Kobayashi

Translation by Minami Matsushima

Thai Translation by อิชั้นเอง [osakisan@lj]

KAT-TUN หนึ่งในกลุ่มศิลปินที่โด่งดังที่สุดของจอห์นนี่ ได้ทำการฉลองครบรอบ 5 ปีของพวกเค้าในปีนี้ด้วยการเปิดการแสดง KAT-TUN LIVE TOUR 2010 WORLD BIG TOUR โดยเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมาที่โตเกียวโดม และพวกเค้าไม่ได้ทำทัวร์นี้แค่ในโตเกียว หรือ โอซาก้า เท่านั้น แต่ยังไปถึงเกาหลี และ ไต้หวัน อีกด้วย

คาเมนาชิ คาซึยะ, อายุ 24 ปี, ด้วยทักษะในการร้องได้อย่างไม่มีที่ติของเค้า ส่งผลให้เค้ากลายเป็นนักร้องนำไปโดยธรรมชาติ ในปีนี้ เค้ามีผลงานละครทีวีเรื่อง “Yamato Nadeshiko Shichi Henge” และในตอนนี้ ก็ยังมีรายการกีฬา “Going! Sports & News” ทางช่อง NTV โดยเค้ารับหน้าที่เป็นซัพพอตเตอร์ในช่วงเบสบอล ซึ่งตัวของเค้าเอง ก็เคยเป็นนักเบสบอลมาก่อน โดยได้เข้าร่วมในการแข่งขันเบสบอลระดับโลกเมื่อตอนที่เค้าเล่นในลีคก์เยาวชน

ทากุจิ จุนโนะสุเกะ, อายุ 24 ปีเช่นกัน, เป็นผู้ที่มีใบหน้าที่หล่อเหลาและรูปร่างที่สมส่วน เค้าถูกปฏิบัติด้วยราวกับว่าเป็นเจ้าชายนิด ๆ และชอบที่จะเล่นมุขแป้ก ๆ บ่อย ๆ มุขตลกที่เค้าเล่นเพื่อเป็นการแนะนำตัวเอง มุขอย่าง “Iriguchi, Deguchi, Taguchi Desu” ได้กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเค้าไปซะแล้ว

แรพเพอร์ ทานากะ โคคิ, อายุ 24 ปีเช่นกัน, ได้แต่งคำร้องแรพโดยใช้ชื่อแทนตัวว่า “JOKER” ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เค้าได้ร่วมแสดงในละครทีวีตอนพิเศษ “Rikon Syndrome” และเค้ายังได้ร่วมแสดงในละครซีรี่ย์เรื่องดัง “Hissatsu Shigotonin 2010” ซึ่งนั่นทำให้เค้าได้รับการยอมรับในฐานะนักแสดงที่ดีคนหนึ่ง

อุเอดะ ทัตซึยะ, อายุ 27 ปี, แต่งเพลงโซโล่ของตัวเองและใช้เซ้นส์ความเป็นเอกลักษณ์ทางด้านดนตรีและการมองโลกของเค้าในการสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับ เค้าแสดงใน “MOUSEPEACE” โซโล่ทัวร์ครั้งที่ 2 ของเค้าร่วมกับ FiVe ในระหว่างการทำการแสดง KAT-TUN World Tour ด้วย

นากามารุ ยูอิจิ, อายุ 27 ปี, เป็นพิธีกรร่วมในรายการ “The Shonen Club” ทางทีวีช่อง NHK ซึ่งมีศิลปินสมาชิกของจอห์นนี่อีกมากมายร่วมด้วย รวมถึง Koyama Keiichiro จาก NEWS ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยูอิจิ ยังไปร่วมในรายการ “Tensai wo Tsukuru! Galileo Noken” รายการเกมส์โชว์ทางช่อง Asahi อยู่บ่อย ๆ อีกด้วย อีกทั้งยังร่วมแสดงในละครทีวีตอนพิเศษทางช่อง TBS เรื่อง “Hanchou-Jinnansho Azumihan Series 3” ด้วยเช่นกัน

สมาชิก KAT-TUN ทั้งหมดยังมีรายการวิทยุเป็นของตัวเองด้วย คาเมนาชิมีรายการ “Kamenashi Kazuya’s Ks by Ks” (ออกเสียงว่า Case by Case) ในขณะที่ทากุจิ และ ทานากะ มีรายการ “KAT-TUN Style” ส่วน อุเอดะ และ นากามารุ มีรายการ “R-ONE KAT-TUN”

ก่อนหน้าที่จะเริ่ม World Tour ในระหว่างที่มี Press Conference ที่โตเกียวโดมนั้น วงได้ให้สัมภาษณ์ว่าพวกเค้ามักจะเล่นเพลงฮิต ๆ ในช่วงอรีน่าทัวร์ แต่โดมทัวร์นั้นเป็นที่สำหรับอัลบั้มใหม่ “NO MORE PAIN” ของพวกเค้า พวกเค้ายังกล่าวอีกว่า พวกเค้าตื่นเต้นมากที่จะได้พบกับแฟน ๆ ในต่างประเทศ เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่พวกเค้าได้ไปเล่นคอนเสิร์ตในต่างประเทศและพวกเค้าตั้งใจไว้ว่าทัวร์ครั้งนี้จะประสบความสำเร็จอย่างงดงามแน่นอน

The Tour

Kis-My-Ft2 เป็นผู้ออกมาในตอนต้นของคอนเสิร์ต โดยที่พวกเค้าเคยได้ร่วมงานเป็น Back Dancers ในคอนเสิร์ตของ KAT-TUN เมื่อปี 2008 ดังนั้น พวกเค้าค่อนข้างจะคุ้นเคยกับแฟน ๆ ของคัตตุนเป็นอย่างดี “พวกเรากำลังสื่อสารไปยังแฟน ๆ ของพวกเราทั่วโลก! K-A-T-T-U-N, KAT-TUN!!” หลังจากที่ประกาศจบ วีดีโอ “N.M.P (NO MORE PAIN)” ก็ถูกฉายขึ้นบนฉากหลังของเวที ตามมาด้วยภาพใบหน้าของทากุจิ, นากามารุ, อุเอดะ, ทานากะ และ คาเมนาชิ และการปรากฏขึ้นของใบหน้าของเมมเบอร์แต่ละคนนั้น ก็เรียกเสียงเชียร์จากแฟน ๆ ได้อย่างกึกก้อง จากนั้นสมาชิกทั้ง 5 ของวงก็ปรากฏตัวขึ้นที่ระเบียงที่อยู่สูงเสียดเพดานที่เวทีหลัก พวกเค้าสวมเสื้อคลุมแขนกุดสีดำและร้อง “N.M.P.” พวกเค้าค่อย ๆ ลงมาจากระเบียงนั้นและมาหยุดอยู่ตรงกึ่งกลางของพิรามิด นั่งอยู่บนเวที เมมเบอร์ถอดเสื้อคลุมของพวกเค้าออกและเริ่มเพลงเจ๋ง ๆ อย่าง “FALL DOWN” ซึ่งเป็นเพลงถัดไปด้วยเสียงระเบิดดัง ๆ และพิรามิดที่ถล่มลงมา ส่งผลให้คนดูตื่นตัวเป็นอย่างมาก จากนั้น เมมเบอร์ก็ขึ้นไปยังเวทีเลื่อนเพื่อเคลื่อนตัวเข้าสู่ใจกลางของเวทีหลัก และเมื่อพวกเค้าร้องเพลงเดบิว “REAL FACE” จบ เมมเบอร์แต่ละคนก็พลัดเปลี่ยนกันกระตุ้นผู้ชมให้ตื่นตัวมากขึ้นอีก

ทานากะ พูดว่า “พวกคุณสนุกกันมั๊ย? อะไรนะ? ไม่เห็นจะได้ยินเลย, พูดให้ดังกว่านี้เซ่!!” นากามารุพูดต่อว่า “มาทำวันนี้ให้ดีที่สุดเลยกันเถอะ! อยู่กับพวกเราจนจบนะ” จากนั้นก็เป็นทากุจิ “Iriguchi, Deguchi, Taguchi Desu มาสนุกกับคอนเสิร์ตกัน!” แล้วอุเอดะก็แทรกเข้ามา “พวกคุณพร้อมจะระเบิดรึยัง? ไม่ได้ยินเลย!” จากนั้น คาเมนาชิก็เข้ามาเป็นคนสุดท้าย “Hey โตเกียว! พวกเราจะทำให้ที่นี่เป็นค่ำคืนที่ร้อนแรงที่สุดที่เคยมี!!”

แฟน ๆ เองก็ตอบสนองได้อย่างร้อนแรงเช่นกันในแต่ละครั้ง

จากนั้น เมมเบอร์ก็แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มและร้อง “ONE DROP” พวกเค้าเดินไปรอบ ๆ ทางเดินด้านนอก และนั่นก็ทำให้แฟน ๆ ตื่นเต้นถึงขนาดยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้เลยทีเดียว KAT-TUN เดินกลับไปที่เวทีหลักและร้อง “KEEP THE FAITH”และในตอนจบของเพลงนี้ก็มีพลุแสงสีนับไม่ถ้วนดังขึ้น เวทีส่องสว่างไปด้วยสีรุ้งมากมาย ทำให้ดูเหมือนกับเป็นบรรยากาศแบบ Neo-Futuristic จากนั้นก็เป็นเพลงจังหวะเต้นรำอย่าง “THE D-MOTION” ตามมาด้วยเพลงประกอบละครทีวีอย่าง “LOVE YOURSELF ~ KIMI GA KIRAI NA KIMI GA SUKI~” ความตื่นเต้นของแฟน ๆ ก็ยิ่งทวีคูณมากเข้าไปอีก

จากนั้นเมมเบอร์ก็ลงจากเวทีไป มีเพียงคาเมนาชิที่กลับขึ้นมาบนเวทีและเดินไปยังกลองที่ตั้งอยู่ หลังจากที่ถอดเสื้อออก เค้าก็ตีมันด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม แฟน ๆ ต่างก็ตื่นเต้นกับการแสดงที่คาดไม่ถึงนี้และส่งเสียงเชียร์ตามจังหวะที่เค้าเล่น ซึ่งทำให้เกิดเสียงที่สอดรับกันอย่างงดงาม

ในขณะที่แฟน ๆ ยังคงตื่นเต้นอยู่กับการแสดงของคาเมนาชินั้น ทานากะ โคคิก็ปรากฏตัวขึ้นมาบนเวที สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปียกปอน กับเนคไทสีดำหลวม ๆ และกระซิบบอกคนดูด้วยท่าทางเซ็กซี่ “มานี่สิ” และเริ่มเพลงโซโล่ของเค้า “MAKE U WET ~CHAPTER 2~” เค้าแสดงการเต้นที่แสนจะเซ็กซี่กับแดนเซอร์สาว ๆ ที่สวมเดรสสีแดง ซึ่งนั่นก็ทำให้เค้าได้รับเสียงกรีดร้องจากคนดูอย่างท่วมท้น ในตอนจบของโซโล่ โคคิถูกคลุมด้วยผ้า และเมื่อเปิดผ้าออกมา ก็กลายเป็นทากุจินอนอยู่ข้างใต้นั้น ทากุจิพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงียว่า “Oops ถึงเวลาแล้วเหรอเนี่ยะ? ถ้างั้น ก็ถึงเวลาที่เราจะมาเต้นด้วยกันแล้ว!” จากนั้นเค้าก็แสดงเพลงโซโล่ “LOVE MUSIC” ของเค้า

จากนั้นทั้งฮอลล์ก็มืดไป เมมเบอร์ทั้งหมดปรากฏตัวอีกครั้งในชุดกิโมโน และนี่ก็เป็นการเริ่มธีม “WA” ของคอนเสิร์ตครั้งนี้ ทานากะออกมายังเวทีหลักและเริ่มตีกลอง อุเอดะห้อยโหนอยู่กับสลิงที่ทางเดินด้านข้างและเปิดกล่องสีทองให้ม้วนหนังสือโบราณกรีดกรายลงมายังด้านล่างทำให้เค้าดูราวกับเป็นนางฟ้าที่งดงาม จากนั้นที่เวทีหลักก็มีการแสดงกายกรรมของทากุจิและนากามารุ โดยพวกเค้าใช้สลิงในการบินและหมุนร่ม ในขณะที่เวทีตรงกลาง คาเมนาชิได้ปรากฏตัวขึ้นโดยสวมใส่หน้ากากโนะ (NOH) ที่น่าสะพรึงกลัวและซ่อนใบหน้าของเค้าไว้หลังพัดญี่ปุ่นขนาดใหญ่ เมื่อเค้าลดพัดให้ต่ำลงจากใบหน้า เค้าก็จ้องมองมายังคนดูด้วยใบหน้าที่แสนเซ็กซี่ซึ่งทำให้ผู้ชมส่งเสียงกรีดร้องไม่หยุด ท่ามกลางกลีบซากุระที่ร่วงโรยลงมา เค้าได้ทำการแสดงที่สง่างามโดยที่ทำราวกับว่าเค้ากำลังโบยบินอยู่เหนือพัดญี่ปุ่นขนาดใหญ่นั่น

จากนั้นเมมเบอร์ทุกคนก็ถอดชุดกิโมโนที่คลุมชุดของพวกเค้าออก และนากามารุก็แสดงโซโล่เมดเล่ย์ซึ่งประกอบไปด้วย “UNDERSTANDABLE” และ “KEY OF LIFE” เค้าแสดงอยู่ด้านหน้า KAT-TUN ที่เหลือ และเพลง “FILM” จากอัลบั้มของเค้าก็ทำให้ผู้คนส่งเสียงเชียร์ได้อย่างท่วมท้น

โลโกของ ‘Going!’ ได้ปรากฏขึ้นบนจอและก็เข้าสู่ช่วงเวลาของ KAT-TUN TV โปรแกรมประกอบไปด้วยรายการ “Going! Sports & News” ของคาเมนาชิ และเค้าก็พูดอย่างติดตลกไปยังรายการ “Galileo Noken” จากนั้นก็เป็นรายการโฆษณาทางทีวี และได้มีการแนะนำเครื่องโกนหนวดไฟฟ้าที่คาเมนาชิเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ และยังมี Edition ใหม่ของ “Deco Tomo DX” ของ KAT-TUN อีกด้วย

จากนั้นที่จอก็ฉายมิวสิควีดีโอ “DON’T YOU EVERY STOP” และ KAT-TUN ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งบนเวทีเพื่อแสดงมัน จากนั้นในเพลง “RESCUE” ทานากะก็ได้แสดงการแรพของเค้าประกอบการเต้นโซโล่ของเมมเบอร์แต่ละคน เปลวไฟที่พวยพุ่งขึ้นรอบ ๆ เวทีช่วยกระตุ้นความสนุกสนานให้กับแฟน ๆ ได้เป็นอย่างดี

สำหรับเพลง “LIPS” และ “AI NO COMMAND” สมาชิกวงทั้ง 5 ถูกยกขึ้นไปบนเครนสูงและโบกไม้โบกมือลงมาให้กับคนดู ในระหว่างที่ร้องเพลง “GOLD” พวกเค้าเดินไปรอบ ๆ ทางเดินด้านนอกและพยายามทักทายแฟน ๆ ด้วยการโบกมือให้กับแฟน ๆ ทื่ยืนอยู่ด้วยความตื่นเต้นที่ที่นั่งของตน บรรดาแฟน ๆ ดูจะมีความสุขเป็นอย่างมากที่วงพยายามใกล้ชิดกับพวกเค้ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ในช่วง MC เมมเบอร์บางคนเริ่มที่จะพูดเรื่องซน ๆ จนทำให้เมมเบอร์คนอื่น ๆ และคนดูหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน จากนั้นวงก็แสดงความขอบคุณโดยพูดว่า “พวกเราซึ้งใจเป็นอย่างมากที่อัลบั้มของพวกเรา “NO MORE PAIN” ได้เข้าสู่อันดับ 1 ใน Oricon Chart ที่เป็นอย่างนี้ได้ก็เพราะได้รับแรงสนับสนุนมากมายมหาศาลจากทุก ๆ คน” จากนั้นพวกเค้าก็ประกาศชื่อโซโล่อย่างเป็นทางการของอุเอดะ “MOUSE PEACE uniting with FiVe” และประกาศว่า ละครเพลง “DREAM BOYS” ของคาเมนาชิจะมีการแสดงอีกครั้งในปีหน้า

Kis-My-Ft2 ทำการแสดงอีกครั้ง โดยแสดงแพลง “INORI” และ “FIRE BEAT” และในเพลง “FIRE BEAT” นี้เอง KAT-TUN ปรากฏตัวขึ้นบนเวทีอีกครั้งและทำการแสดงร่วมกัน

แสงสปอตไลท์สาดส่องไปที่วงดนตรี FiVe และ KAT-TUN ก็เดินเข้าไปประจำยังเครื่องดนตรีต่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ และหยิบยื่นเครื่องดนตรีอคูสติคให้ พวกเค้าแปลงเพลงบัลลาดอย่าง “BOKURA NO MACHI DE” และ “FAR AWAY” ให้อยู่เป็นในรูปของอคูสติค และในขณะที่แฟน ๆ กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับอารมณ์ของเพลงบัลลาด ไฟทั้งหมดก็ถูกเปิดขึ้นจนสว่างจ้าไปทั่วทั้งเวทีและทั้งสองวงก็แสดงเพลงที่มีจังหวะเร็วขึ้นอย่าง “RIGHT NOW” และ “HELLO”

โซโล่ของอุเอดะในเพลง “MARIE ANTOINETTE” ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในอัลบั้มชุดใหม่ของคัตตุน ดังนั้น มันจึงเป็นครั้งแรกที่แฟน ๆ ได้ยินมัน อุเอดะนอนลงกับโซฟายาวโดยมีแสงสีชมพูส่องไปที่ตัวเค้าและถูกล้อมรอบไปด้วยแดนเซอร์ผู้หญิงที่สวมชุดสาวใช้ “มารี ผู้เห็นแก่ตัว” ถูกแสดงโดยอุเอดะ ผู้ซึ่งถูกแวดล้อมด้วยบรรดาสาวใช้ที่แสนจะยั่วยวน ด้วยการผสมผสานกับดนตรีเทคโนทำให้นี่กลายเป็น “โลกของอุเอดะ” โดยสมบูรณ์แบบ และดึงดูดผู้ชมเป็นอย่างมาก

โซโล่ของคาเมนาชิเป็นการรีมิกซ์ระหว่างเพลงในอัลบั้มอย่าง “SWEET” กับเพลงที่แสนจะโด่งดังจากอรีน่าทัวร์อย่าง “LOST MY WAY” ในตอนแรก บรรดาแฟน ๆ คงจะต้องคิดว่าจะแสดงแค่เพลง “SWEET” แน่ ๆ แต่ด้วยเสียงฟ้าร้องประกอบกับแวมไพร์ Kis-My-Ft2 พวกเค้าต่างก็รู้แน่ว่า “LOST MY WAY” จะต้องถูกแสดงด้วยอย่างแน่นอน การเต้นเซ็กซี่ ๆ ของคาเมนาชิกับ Kis-My-Fts2 เป็นไปอย่างสนุกสนาน แต่ความสามารถในการหายตัวไปจากหีบศพและเปิดฉากการเป็นแวมไพร์ผู้ซึ่งมีความสามารถในการจุดไฟจากกระสุนปืนที่ถูกยิงได้ด้วยปลายนิ้วนั้น ทำให้คนดูสนุกสนานกันถ้วนหน้ากับความสามารถในการสร้างภาพลวงตาเหล่านี้

จากนั้นนากามารุก็ออกมามีส่วนร่วมในช่วงล้อเลียนตลก ๆ โดยแสร้งว่าตัวเองเป็นหมอฟัน คาเมนาชิยังคงแต่งตัวเป็นแวมไพร์ และปรากฏตัวอยู่ในคลินิกทันตกรรมของนากามารุ โดยที่เค้านั่งรออยู่ที่ห้องนั่งรอและหลังจากนั้นไม่นานก็ถูกว่าว่าให้ช่วยเงียบ ๆ หน่อยในระหว่างที่เค้านั่งรอ จากนั้นเค้าก็เริ่มอ้างว่า “ผมคิดว่าผมควรจะทำอะไรบางอย่างที่มันน่ากลัว ๆ เพราะว่าสต๊าฟจากละครทีวีสยองขวัญ “Yamato Nadeshiko Shichi Henge” มาที่นี่ด้วยในวันนี้ (ละครเรื่องที่คาเมนาชิแสดงนำ) และนั่นก็ทำให้คนดูหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

ทันใดนั้น บนจอก็ฉายภาพเมมเบอร์ที่สวมชุดสีดำทั้งหมดกำลังตกลงมา พวกเค้าร้องเรียกชื่อกันและกัน “อยู่นั่นรึเปล่า?” และโผล่ออกมาจากท่อด้วยชุดสีขาวที่เวทีหลัก พร้อม ๆ กับตะโกนว่า “Here we go, Tokyo!” และเริ่มร้องเพลง Going!

ก่อนที่คอนเสิร์ตจะจบลง KAT-TUN ก็ได้แสดงเพลงประจำอย่าง “YOROKOBI NO UTA”, “WILDS OF MY HEART” และ “PEACEFULDAYS” เมื่อวงเรียกให้แฟน ๆ กระโดด “JUMP!” แฟน ๆ ทั้งหมดก็กระโดดไปกับพวกเค้าพร้อม ๆ กัน ทำให้วงและแฟน ๆ รวมกันเป็นหนึ่งเดียว

ท่ามกลางแสงสีน้ำเงินในฮอลล์นั้น วงแสดงเพลงบัลลาด “PROMISE SONG” เป็นเพลงสุดท้ายของพวกเค้า แฟน ๆ บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาให้กับเพลงนี้ คาเมนาชิกล่าวขอบคุณและอำลา “ขอบคุณมากครับและลาก่อนนะครับ” ในขณะที่ยกนิ้วก้อยของเค้าขึ้นมา - แสดงให้เห็นถึงว่า เค้าได้สัญญาอะไรบางอย่าง จากนั้นวงก็หายไปกับแสงที่มืดลงบนเวที

แฟน ๆ ตะโกนร้องเรียก Encore ทันที และ KAT-TUN ก็ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อม ๆ กับการขี่ม้าออกมาจากเวทีในเพลง “N.M.P!” พวกเค้าขี่ไปรอบ ๆ ทางเดินด้านนอก จากนั้นก็ลงมาและเริ่มร้องเพลง “JUMPIN’ UP” และในระหว่างเพลง “ROCKIN’ ALL NIGHT” พวกเค้าก็โยนแผ่นลายเซ็นให้กับแฟน ๆ เพลงสุดท้ายของพวกเค้าคือเพลง “SMILE” และ KAT-TUN ก็ได้กระตุ้นให้แฟน ๆ มีส่วนร่วมในการร้องท่อนสุดท้ายด้วย

แฟน ๆ ทั้ง 55,000 คน ร่วมร้องเพลงไปกับพวกเค้าทำให้ทั้งฮอลล์นั้น อบอวลไปด้วยเสียงสะท้อนที่ทุก ๆ คนเปล่งออกมาอย่างไพเราะ ซึ่งนั่นก็ทำให้คาเมนาชิเอ่ยปากชมว่า “Hyaku ni-juu ten!” (ให้ 120 คะแนน - หมายถึงมันมากกว่าคำว่า Perfect Score)

เมมเบอร์ทั้ง 5 คนจับมือกันและตะโกน “We are KAT-TUN!” และม่านการแสดงก็ถูกปิดลงสำหรับการแสดงในวันแรกของ World Big Tour ของพวกเค้า

KAT-TUN แสดงใน Kyocera Dome ที่โอซาก้า และที่เกาหลี และ ไต้หวัน โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมดทั้งสิ้น 356,000 คน และก่อนหน้า World Big Tour พวกเค้าก็ได้แสดงใน Arena Tour ในเดือนพฤษภาคม และ มิถุนายน โดยมีผู้เข้าชมทั้งสิ้น 222,000 คน ดังนั้น ก็เท่ากับว่า พวกเค้าได้แสดงต่อหน้าแฟน ๆ ทั้งสิ้น 578,000 คนในปีนี้

ในการพูดถึงเกี่ยวกับอนาคตของพวกเค้า พวกเค้าได้กล่าวว่า พวกเค้าอยากจะทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่กว่านี้อีกในปีหน้า “การทำให้ KAT-TUN ยิ่งใหญ่ขึ้นก็เป็นภารกิจและความฝันของพวกเรา”

+++

T/N:

1. เป็นการแปลตามที่เขียนโดยไม่ได้แก้ข้อมูลให้ในบางจุดที่คลุมเครือนะคะ เช่น ครบรอบเดบิว 5 ปีแล้วเหรอ ไม่ใช่ 4 แล้วกำลังจะเข้า 5 เหรอ อะไรแบบนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่านิตยสารเล่มนี้เค้านับแบบไหนยังไง

2. เป็นรายงานคอนที่ค่อนข้างรวบรัดและไม่ลงลึกใด ๆ เลย ข้อมูลบางอย่างก็ไม่เหมือนกับที่ได้ไปดู น่าจะทำการบ้านหน่อยเน้อ….

3. ประเทศไทยอยู่ที่ใด????

translation

Previous post
Up