เดลีมาร์เก็ต 19 ส.ค.52
เจ้าชายฟิลิปไว้เคราเตรียมครองราชย์
เจ้าชายฟิลิป มกุฎราชกุมารแห่งเบลเยียม ซึ่งมักปรากฎพระองค์ด้วยพระพักตร์เกลี้ยงเกลาอยู่เสมอ สร้างความแตกตื่นแก่สื่อมวลชนในช่วงต้นเดือนนี้ ด้วยพระทาฐิกะ (เครา) ที่ทำให้พระองค์ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
รูปลักษณ์ใหม่ของเจ้าชายขี้อาย ก่อให้เกิดข่าวลือว่าอาจเป็นการเตรียมพระองค์ขึ้นครองราชย์ในเร็วๆ นี้
หนังสือพิมพ์เบลเยียมอ้างความเห็น ฟิกาโร ปาสเควล ช่างผมชั้นนำชาวอิตาลี ว่า เจ้าชายฟิลิปในวัย 50 ชันษา ทรงพร้อมที่จะขึ้นครองราชย์แล้ว พระทาฐิกะของพระองค์เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความมั่นใจ
ทางด้านหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสรายงานว่า บางคนมองว่าพระทาฐิกะทำให้เจ้าชายฟิลิปดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น ขณะที่บางคนเห็นว่าการไว้พระทาฐิกะทำให้เจ้าชายดูมีพระชนมายุมากไปหน่อย แต่คงต้องรอดูต่อไปว่าจะทรงเปลี่ยนภาพลักษณ์เป็นการถาวะหรือแค่ชั่วคราว เนื่องจากตอนนี้ทรงอยู่ในช่วงพักร้อน
เจ้าชายฟิลิปทรงเสด็จไปพักร้อนที่ประเทศฝรั่งเศส แต่ต้องรีบเสด็จกลับเบลเยียมกลางคัน เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักคนชรา ที่เมืองเมลล์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย หลังจากทรงเยี่ยมผู้ประสบเหตุแล้วก็เสด็จกลับไปพักร้อนต่อ
อันที่จริง เจ้าชายฟิลิป ทรงได้รับการเตรียมพระองค์ขึ้นครองราชย์มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เนื่องจากพระราชาธิบดีโบดวง พระปิตุลา ไม่มีรัชทายาท แต่เมื่อพระราชาธิบดีโบดวงสวรรคตในปี 2536 เจ้าชายทรงได้รับการพิจารณาว่ายังอ่อนประสบการณ์เกินไปในการปกครองประเทศ เนื่องจากกษัตริย์เบลเยียมจะต้องทรงมีบทบาทสำคัญทางการเมือง ในยามที่รัฐบาลประสบวิกฤติ ดังนั้น เจ้าชายอัลแบร์ พระบิดา ซึ่งเป็นพระอนุชาของพระราชาธิบดีโบดวง จึงได้ขึ้นครองราชย์แทน
ในเวลาต่อมา นักวิจารณ์บางรายแสดงความเห็นว่า เจ้าชายฟิลิปควรสละโอกาสขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากพระบิดา หากพระธิดา คือ เจ้าหญิงเอลิซาเบธ ทรงเจริญวัยพอที่จะรับมอบอำนาจสืบต่อจากพระราชาธิบดีอัลแบร์ ที่ 2 ซึ่งปัจจุบันมีพระชนมายุ 75 ชันษา ขณะที่เจ้าหญิงเอลิซาเบธมีพระชนมายุ 8 ชันษา หากได้ขึ้นครองราชย์จริง เจ้าหญิงเอลิซาเบธก็จะทรงเป็นพระราชนีนาถพระองค์แรกในรอบ 2 ศตวรรษของเบลเยียม
ก่อนหน้านี้ เคยมีเสียงเรียกร้องให้เจ้าชายฟิลิปทรงสละสิทธิในการขึ้นครองราชย์มาครั้งหนึ่งแล้ว เนื่องจากทรงครองความโสดอย่างเหนียวแน่นจนพระชนมายุกว่า 30 ชันษา นักวิจารณ์เห็นว่าทรงควรหลีกทางให้ เจ้าหญิงแอสตริด พระขนิษฐา ขึ้นเป็นรัชทายาทแทน แต่แล้วก็ทรงสร้างความประหลาดใจให้กับพสกนิกรทั้งประเทศ เมื่อทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสก่อนพระชนมายุ 40 ชันษา และทรงมีพระธิดาและพระโอรสถึง 4 พระองค์ ได้แก่ เจ้าหญิงเอลิซาเบธ เจ้าชายแกเบรียล พระชนมายุ 6 ชันษา เจ้าชายเอมมานูเอล พระชนมายุ 4 ชันษา และเจ้าหญิงเอเลนอร์ พระชนมายุชันษาเศษๆ
ทั้งนี้ กษัตริย์เบลเยียมพระองค์ล่าสุดที่ทรงไว้พระทาฐิกะ ได้แก่ พระราชาธิบดีเลโอโปลด์ ที่ 2 ซึ่งปกครองประเทศในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
เจ้าชายฟิลิป มกุฎราชกุมารแห่งเบลเยียม ซึ่งมักปรากฎพระองค์ด้วยพระพักตร์เกลี้ยงเกลาอยู่เสมอ สร้างความแตกตื่นแก่สื่อมวลชนในช่วงต้นเดือนนี้ ด้วยพระทาฐิกะ (เครา) ที่ทำให้พระองค์ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
รูปลักษณ์ใหม่ของเจ้าชายขี้อาย ก่อให้เกิดข่าวลือว่าอาจเป็นการเตรียมพระองค์ขึ้นครองราชย์ในเร็วๆ นี้
หนังสือพิมพ์เบลเยียมอ้างความเห็น ฟิกาโร ปาสเควล ช่างผมชั้นนำชาวอิตาลี ว่า เจ้าชายฟิลิปในวัย 50 ชันษา ทรงพร้อมที่จะขึ้นครองราชย์แล้ว พระทาฐิกะของพระองค์เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความมั่นใจ
ทางด้านหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสรายงานว่า บางคนมองว่าพระทาฐิกะทำให้เจ้าชายฟิลิปดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น ขณะที่บางคนเห็นว่าการไว้พระทาฐิกะทำให้เจ้าชายดูมีพระชนมายุมากไปหน่อย แต่คงต้องรอดูต่อไปว่าจะทรงเปลี่ยนภาพลักษณ์เป็นการถาวะหรือแค่ชั่วคราว เนื่องจากตอนนี้ทรงอยู่ในช่วงพักร้อน
เจ้าชายฟิลิปทรงเสด็จไปพักร้อนที่ประเทศฝรั่งเศส แต่ต้องรีบเสด็จกลับเบลเยียมกลางคัน เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักคนชรา ที่เมืองเมลล์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย หลังจากทรงเยี่ยมผู้ประสบเหตุแล้วก็เสด็จกลับไปพักร้อนต่อ
อันที่จริง เจ้าชายฟิลิป ทรงได้รับการเตรียมพระองค์ขึ้นครองราชย์มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เนื่องจากพระราชาธิบดีโบดวง พระปิตุลา ไม่มีรัชทายาท แต่เมื่อพระราชาธิบดีโบดวงสวรรคตในปี 2536 เจ้าชายทรงได้รับการพิจารณาว่ายังอ่อนประสบการณ์เกินไปในการปกครองประเทศ เนื่องจากกษัตริย์เบลเยียมจะต้องทรงมีบทบาทสำคัญทางการเมือง ในยามที่รัฐบาลประสบวิกฤติ ดังนั้น เจ้าชายอัลแบร์ พระบิดา ซึ่งเป็นพระอนุชาของพระราชาธิบดีโบดวง จึงได้ขึ้นครองราชย์แทน
ในเวลาต่อมา นักวิจารณ์บางรายแสดงความเห็นว่า เจ้าชายฟิลิปควรสละโอกาสขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากพระบิดา หากพระธิดา คือ เจ้าหญิงเอลิซาเบธ ทรงเจริญวัยพอที่จะรับมอบอำนาจสืบต่อจากพระราชาธิบดีอัลแบร์ ที่ 2 ซึ่งปัจจุบันมีพระชนมายุ 75 ชันษา ขณะที่เจ้าหญิงเอลิซาเบธมีพระชนมายุ 8 ชันษา หากได้ขึ้นครองราชย์จริง เจ้าหญิงเอลิซาเบธก็จะทรงเป็นพระราชนีนาถพระองค์แรกในรอบ 2 ศตวรรษของเบลเยียม
ก่อนหน้านี้ เคยมีเสียงเรียกร้องให้เจ้าชายฟิลิปทรงสละสิทธิในการขึ้นครองราชย์มาครั้งหนึ่งแล้ว เนื่องจากทรงครองความโสดอย่างเหนียวแน่นจนพระชนมายุกว่า 30 ชันษา นักวิจารณ์เห็นว่าทรงควรหลีกทางให้ เจ้าหญิงแอสตริด พระขนิษฐา ขึ้นเป็นรัชทายาทแทน แต่แล้วก็ทรงสร้างความประหลาดใจให้กับพสกนิกรทั้งประเทศ เมื่อทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสก่อนพระชนมายุ 40 ชันษา และทรงมีพระธิดาและพระโอรสถึง 4 พระองค์ ได้แก่ เจ้าหญิงเอลิซาเบธ เจ้าชายแกเบรียล พระชนมายุ 6 ชันษา เจ้าชายเอมมานูเอล พระชนมายุ 4 ชันษา และเจ้าหญิงเอเลนอร์ พระชนมายุชันษาเศษๆ
ทั้งนี้ กษัตริย์เบลเยียมพระองค์ล่าสุดที่ทรงไว้พระทาฐิกะ ได้แก่ พระราชาธิบดีเลโอโปลด์ ที่ 2 ซึ่งปกครองประเทศในช่วงต้นศตวรรษที่ 20