เดลีมาร์เก็ต พุธ 6 เม.ย.54
พิพิธภัณฑ์นโปเลียนในคิวบา
นโปเลียน โบนาปาร์ต นายพลชาวฝรั่งเศสผู้กลายเป็นจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ปกครองประเทศระหว่างปี 2347-2357 ไม่เคยเดินทางไปคิวบาเลยสักครั้ง แต่กลับมีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในกรุงฮาวานา เมืองหลวงของคิวบา
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งรวบรวมสมบัติจากยุคปฏิวัติฝรั่งเศสจนถึงรัชสมัยของจักรพรรดินโปเลียนมากที่สุดนอกยุโรป โดยมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 8,000 ชิ้น ถือเป็น 1 ใน 5 พิพิธภัณฑ์นโปเลียนที่สำคัญที่สุดในโลก และสมบูรณ์แบบที่สุดในละตินอเมริกา
สาเหตุที่พิพิธภัณฑ์มาตั้งอยู่ในคิวบา ก็เพราะ นายแพทย์ฟรานเซสโก อันตอมมาร์ชี ชาวคอร์ซิกา ผู้ถวายการรักษาในช่วงบั้นปลายชีวิตของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ย้ายไปอยู่คิวบาหลังจากจักรพรรดินโปเลียนสิ้นพระชนม์เมื่อปี 2364 โดยนำ "หน้ากากแห่งความตาย" ของพระองค์ติดตัวไปด้วย และกลายเป็นสมบัติชิ้นเอกของพิพิธภัณฑ์
ทั้งนี้ หน้ากากแห่งความตาย เป็นหน้ากากที่หล่อด้วยขี้ผึ้งหรือปูนปลาสเตอร์ตามใบหน้าของผู้เสียชีวิต เพื่อเป็นที่ระลึกตามธรรมเนียมตะวันตกในสมัยโบราณ
สมบัติอื่นๆ ในพิพิธภัณฑ์ ที่เคยเป็นของจักรพรรดินโปเลียน รวมถึง กล้องส่องทางไกลทำจากบรอนซ์ คริสตัล และไม้ เสื้อคลุมในสมัยเป็นกงสุล หมวก และนาฬิกาทองคำ ที่ทายาทของนายแพทย์อันตอมมาร์ชี เพิ่งมอบให้ประธานาธิบดีราอูล คาสโตร แห่งคิวบา เมื่อเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ภายในพิพิธภัณฑ์ ยังมีงานศิลปะ ภาพวาด รูปปั้น เสื้อผ้า เหรียญ และอาวุธ ตลอดจนหนังสือที่เกี่ยวข้องกับยุคของจักรพรรดินโปเลียนอีกประมาณ 5,000 เล่ม เป็นภาษาฝรั่งเศส สเปน และอังกฤษ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ซึ่งเปิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2504 ปิดปรับปรุงนานถึง 3 ปี และเพิ่งเปิดให้เข้าชมอีกครั้งเมื่อวันที่ 29 มี.ค. โดยมีนายฌอง เมนเดลซัน เอกอัคคราชทูตฝรั่งเศสประจำคิวบา เป็นผู้ทำพิธีเปิด ร่วมกับ อลิกซ์ เดอ ฟอเรสตา เจ้าหญิงนโปเลียน ชายาหม้ายของ หลุยส์ มารี โบนาปาร์ต เจ้าชายนโปเลียน ทายาทของกษัตริย์เจอโรเม แห่งเวสต์ฟาเลีย พระอนุชาองค์สุดท้องของจักรพรรดินโปเลียน
เจ้าหญิงนโปเลียน ซึ่งเคยเยือนคิวบาพร้อมเจ้าชายนโปเลียนเมื่อปี 2494 รู้สึกปลื้มปิติกับพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์ครั้งนี้ และมอบชุดอาหารกระเบื้องเคลือบให้ทางพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาไว้ด้วย
นโปเลียน โบนาปาร์ต นายพลชาวฝรั่งเศสผู้กลายเป็นจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ปกครองประเทศระหว่างปี 2347-2357 ไม่เคยเดินทางไปคิวบาเลยสักครั้ง แต่กลับมีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในกรุงฮาวานา เมืองหลวงของคิวบา
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งรวบรวมสมบัติจากยุคปฏิวัติฝรั่งเศสจนถึงรัชสมัยของจักรพรรดินโปเลียนมากที่สุดนอกยุโรป โดยมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 8,000 ชิ้น ถือเป็น 1 ใน 5 พิพิธภัณฑ์นโปเลียนที่สำคัญที่สุดในโลก และสมบูรณ์แบบที่สุดในละตินอเมริกา
สาเหตุที่พิพิธภัณฑ์มาตั้งอยู่ในคิวบา ก็เพราะ นายแพทย์ฟรานเซสโก อันตอมมาร์ชี ชาวคอร์ซิกา ผู้ถวายการรักษาในช่วงบั้นปลายชีวิตของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ย้ายไปอยู่คิวบาหลังจากจักรพรรดินโปเลียนสิ้นพระชนม์เมื่อปี 2364 โดยนำ "หน้ากากแห่งความตาย" ของพระองค์ติดตัวไปด้วย และกลายเป็นสมบัติชิ้นเอกของพิพิธภัณฑ์
ทั้งนี้ หน้ากากแห่งความตาย เป็นหน้ากากที่หล่อด้วยขี้ผึ้งหรือปูนปลาสเตอร์ตามใบหน้าของผู้เสียชีวิต เพื่อเป็นที่ระลึกตามธรรมเนียมตะวันตกในสมัยโบราณ
สมบัติอื่นๆ ในพิพิธภัณฑ์ ที่เคยเป็นของจักรพรรดินโปเลียน รวมถึง กล้องส่องทางไกลทำจากบรอนซ์ คริสตัล และไม้ เสื้อคลุมในสมัยเป็นกงสุล หมวก และนาฬิกาทองคำ ที่ทายาทของนายแพทย์อันตอมมาร์ชี เพิ่งมอบให้ประธานาธิบดีราอูล คาสโตร แห่งคิวบา เมื่อเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ภายในพิพิธภัณฑ์ ยังมีงานศิลปะ ภาพวาด รูปปั้น เสื้อผ้า เหรียญ และอาวุธ ตลอดจนหนังสือที่เกี่ยวข้องกับยุคของจักรพรรดินโปเลียนอีกประมาณ 5,000 เล่ม เป็นภาษาฝรั่งเศส สเปน และอังกฤษ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ซึ่งเปิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2504 ปิดปรับปรุงนานถึง 3 ปี และเพิ่งเปิดให้เข้าชมอีกครั้งเมื่อวันที่ 29 มี.ค. โดยมีนายฌอง เมนเดลซัน เอกอัคคราชทูตฝรั่งเศสประจำคิวบา เป็นผู้ทำพิธีเปิด ร่วมกับ อลิกซ์ เดอ ฟอเรสตา เจ้าหญิงนโปเลียน ชายาหม้ายของ หลุยส์ มารี โบนาปาร์ต เจ้าชายนโปเลียน ทายาทของกษัตริย์เจอโรเม แห่งเวสต์ฟาเลีย พระอนุชาองค์สุดท้องของจักรพรรดินโปเลียน
เจ้าหญิงนโปเลียน ซึ่งเคยเยือนคิวบาพร้อมเจ้าชายนโปเลียนเมื่อปี 2494 รู้สึกปลื้มปิติกับพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์ครั้งนี้ และมอบชุดอาหารกระเบื้องเคลือบให้ทางพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาไว้ด้วย