เดลีมาร์เก็ต พุธ 18 ส.ค.53
ฮันนีมูนฉาวของเจ้าหญิงวิกตอเรีย
เจ้าหญิงวิกตอเรีย มกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดน และเจ้าชายแดเนียล พระสวามี ที่เพิ่งเข้าพิธีอภิเษกสมรสไปเมื่อเดือนมิถุนายน ทรงเผชิญคำร้องเรียนเกี่ยวกับการรับสินบน หลังจากทรงรับของขวัญราคาแพงหลายรายการจากนายเบอร์ทิล ฮัลต์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจผู้ร่ำรวยเป็นอันดับสามของประเทศ
ของขวัญดังกล่าวรวมถึง การใช้เครื่องบินเจ็ต เรือยอร์ช และบ้านพักส่วนตัวของนายฮัลต์ ระหว่างการฮันนีมูนที่เฟรนช์โปลินีเซียและอเมริกาเหนือ ซึ่งว่ากันว่ามีมูลค่ารวมกันหลายแสนดอลลาร์
คำร้องเรียนระบุว่า ของขวัญที่นายฮัลต์ถวายเจ้าหญิงวิกตอเรียและพระสวามี ถือเป็นสินบนหรือของขวัญที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากเจ้าหญิงวิกตอเรียทรงมีส่วนร่วมในมูลนิธิแห่งหนึ่งของนายฮัลต์ ดังนั้นจึงถือว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ด้านการงาน การมอบของขวัญราคาแพงจึงเข้าข่ายการติดสินบนภายใต้กฎหมายอาญา
นายกุนนาร์ สเตทเลอร์ อัยการฝ่ายต่อต้านการคอร์รัปชั่นของสวีเดน กล่าวว่า ต้องพิจารณาก่อนว่าของขวัญดังกล่าวเข้าข่ายสินบนตามกฎหมายหรือไม่ และเจ้าหญิงทรงอยู่ในฐานะเจ้าพนักงานของทางการหรือไม่ และไม่ใช่ว่าการมอบของขวัญแก่ข้าราชการจะถือเป็นการมอบสินบนเสมอไป ต้องดูที่ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้และผู้รับด้วย
นายปีเตอร์ โวโลดาร์สกี คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ในสวีเดน วิจารณ์ว่า การมอบของขวัญแต่งงานไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่เป็นเรื่องผิดสังเกตที่มกุฎราชกุมารีผู้จะทรงขึ้นครองราชย์ต่อไปในอนาคต ยินยอมให้มหาเศรษฐีผู้หนึ่งรับภาระค่าใช้จ่ายระหว่างการฮันนีมูนของพระองค์ และมีความเป็นไปได้ที่บุคคลผู้นี้หรือกิจการของเขาจะได้รับประโยชน์เป็นการตอบแทน
ทั้งนี้ นายฮัลต์ ซึ่งสนิทสนมกับสมาชิกราชวงศ์สวีเดนมานานหลายสิบปี เป็นเจ้าของธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ภาษา และการศึกษา รวมถึงโรงเรียนสอนภาษา อีเอฟ ซึ่งมีสาขาทั่วโลกรวมทั้งไทย
ทางด้านโฆษกสำนักพระราชวังสวีเดนออกมาชี้แจงว่า การฮันนีมูนของเจ้าหญิงวิกตอเรียและพระสวามีเป็นการเดินทางส่วนพระองค์ และของขวัญที่นายฮัลต์ถวายก็เป็นของขวัญวันอภิเษกสมรสจากพระสหายเก่าแก่ของราชวงศ์
การอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงวิกตอเรียกับอดีตเทรนเนอร์ส่วนพระองค์นี้ เคยได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาก่อนแล้ว เนื่องจากมีการกล่าวหาว่า โคลเอตตา ผู้ผลิตช็อคโกแลตที่ระลึกพระราชพิธีอภิเษกสมรส ใช้โกโก้ที่เก็บโดยแรงงานเด็กในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งทำงานกันภายใต้สภาพเลวร้าย แต่โคลเอตตาแย้งว่า การเพาะปลูกโกโก้ส่วนมากเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัวขนาดเล็ก จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องใช้แรงงานเด็ก
ช็อคโกแลตดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าที่ระลึกหลายรายการ ที่ได้รับพระราชานุญาตอย่างเป็นทางการ เพื่อผลิตและจัดจำหน่าย โดยนำรายได้เข้ากองทุนการกุศลของคู่บ่าวสาว
เจ้าหญิงวิกตอเรีย มกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดน และเจ้าชายแดเนียล พระสวามี ที่เพิ่งเข้าพิธีอภิเษกสมรสไปเมื่อเดือนมิถุนายน ทรงเผชิญคำร้องเรียนเกี่ยวกับการรับสินบน หลังจากทรงรับของขวัญราคาแพงหลายรายการจากนายเบอร์ทิล ฮัลต์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจผู้ร่ำรวยเป็นอันดับสามของประเทศ
ของขวัญดังกล่าวรวมถึง การใช้เครื่องบินเจ็ต เรือยอร์ช และบ้านพักส่วนตัวของนายฮัลต์ ระหว่างการฮันนีมูนที่เฟรนช์โปลินีเซียและอเมริกาเหนือ ซึ่งว่ากันว่ามีมูลค่ารวมกันหลายแสนดอลลาร์
คำร้องเรียนระบุว่า ของขวัญที่นายฮัลต์ถวายเจ้าหญิงวิกตอเรียและพระสวามี ถือเป็นสินบนหรือของขวัญที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากเจ้าหญิงวิกตอเรียทรงมีส่วนร่วมในมูลนิธิแห่งหนึ่งของนายฮัลต์ ดังนั้นจึงถือว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ด้านการงาน การมอบของขวัญราคาแพงจึงเข้าข่ายการติดสินบนภายใต้กฎหมายอาญา
นายกุนนาร์ สเตทเลอร์ อัยการฝ่ายต่อต้านการคอร์รัปชั่นของสวีเดน กล่าวว่า ต้องพิจารณาก่อนว่าของขวัญดังกล่าวเข้าข่ายสินบนตามกฎหมายหรือไม่ และเจ้าหญิงทรงอยู่ในฐานะเจ้าพนักงานของทางการหรือไม่ และไม่ใช่ว่าการมอบของขวัญแก่ข้าราชการจะถือเป็นการมอบสินบนเสมอไป ต้องดูที่ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้และผู้รับด้วย
นายปีเตอร์ โวโลดาร์สกี คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ในสวีเดน วิจารณ์ว่า การมอบของขวัญแต่งงานไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่เป็นเรื่องผิดสังเกตที่มกุฎราชกุมารีผู้จะทรงขึ้นครองราชย์ต่อไปในอนาคต ยินยอมให้มหาเศรษฐีผู้หนึ่งรับภาระค่าใช้จ่ายระหว่างการฮันนีมูนของพระองค์ และมีความเป็นไปได้ที่บุคคลผู้นี้หรือกิจการของเขาจะได้รับประโยชน์เป็นการตอบแทน
ทั้งนี้ นายฮัลต์ ซึ่งสนิทสนมกับสมาชิกราชวงศ์สวีเดนมานานหลายสิบปี เป็นเจ้าของธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ภาษา และการศึกษา รวมถึงโรงเรียนสอนภาษา อีเอฟ ซึ่งมีสาขาทั่วโลกรวมทั้งไทย
ทางด้านโฆษกสำนักพระราชวังสวีเดนออกมาชี้แจงว่า การฮันนีมูนของเจ้าหญิงวิกตอเรียและพระสวามีเป็นการเดินทางส่วนพระองค์ และของขวัญที่นายฮัลต์ถวายก็เป็นของขวัญวันอภิเษกสมรสจากพระสหายเก่าแก่ของราชวงศ์
การอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงวิกตอเรียกับอดีตเทรนเนอร์ส่วนพระองค์นี้ เคยได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาก่อนแล้ว เนื่องจากมีการกล่าวหาว่า โคลเอตตา ผู้ผลิตช็อคโกแลตที่ระลึกพระราชพิธีอภิเษกสมรส ใช้โกโก้ที่เก็บโดยแรงงานเด็กในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งทำงานกันภายใต้สภาพเลวร้าย แต่โคลเอตตาแย้งว่า การเพาะปลูกโกโก้ส่วนมากเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัวขนาดเล็ก จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องใช้แรงงานเด็ก
ช็อคโกแลตดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าที่ระลึกหลายรายการ ที่ได้รับพระราชานุญาตอย่างเป็นทางการ เพื่อผลิตและจัดจำหน่าย โดยนำรายได้เข้ากองทุนการกุศลของคู่บ่าวสาว