เดลีมาร์เก็ต พุธ 1 ก.ย.53
เจ้าชายแฮร์รี่ร่วมเรียลลิตี้โชว์
เจ้าชายแฮร์รี่ พระโอรสองค์รองในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารอังกฤษ จะปรากฎพระองค์ในรายการเรียลลิตี้โชว์ทางสถานีโทรทัศน์บีบีซีเร็วๆ นี้ แต่ไม่ใช่ในฐานะผู้ร่วมการแข่งขัน
รายการดังกล่าวมีชื่อว่า Goldie's Band - By Royal Appointment ออกอากาศทางช่อง 2 ของบีบีซี เป็นการติดตามภารกิจของ โกลดี้ นักดนตรีและดีเจชาวอังกฤษ ในการค้นหาเด็กรุ่นใหม่จากทั่วประเทศ อายุ 17-24 ปี ที่มีความสามารถและหลงใหลในดนตรีทุกประเภท ตั้งแต่ ฮิพฮอพ ร็อค จนถึงคลาสสิค จากนั้นจะคัดเลือกเหลือ 12 คน ให้มาอยู่ในบ้านเดียวกันเป็นเวลา 3 วัน และรับการเทรนจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญในวงการ รวมถึง กาย แชมเบอร์ส นักแต่งเพลงคู่บุญของร็อบบี้ วิลเลียมส์
เมื่อผ่านการเคี่ยวกรำจากเทรนเนอร์มืออาชีพแล้ว ผู้เข้ารอบทั้ง 12 คน จะต้องขึ้นเวทีคอนเสิร์ตที่พระราชวังบักกิ้งแฮมในเดือนตุลาคม เพื่อให้แขกพิเศษรับชม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เจ้าชายแฮร์รี่
ผู้ใกล้ชิดราชวงศ์เผยว่า เจ้าชายแฮร์รี่โปรดรายการประเภทเรียลลิตี้โชว์อยู่แล้ว แต่รายการนี้เป็นเรื่องของการฝึกสอนและให้กำลังใจเด็ก ไม่มีใครถูกโหวตออก หรือถูกหัวเราะเยาะ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องเสียหายที่เจ้าชายจะทรงเข้าไปมีส่วนร่วม
ด้าน ดีเจโกลดี้ กล่าวว่า รายการของเขาเป็นการค้นหาเพชรในตมจากทั่วเกาะอังกฤษ เด็กๆ เหล่านั้นเป็นผู้มีความสามารถทางดนตรี ที่ไม่เคยได้รับโอกาสเปล่งประกายอย่างที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตาม รายการค้นหาเพชรในตมครั้งนี้ออกอาการสะดุดเล็กน้อย เมื่อ มิส ไดนาไมต์ นักร้องอาร์แอนด์บีชื่อดัง หนึ่งในเทรนเนอร์ของรายการ พูดออกอากาศเปรียบเทียบทหารกับมือระเบิดฆ่าตัวตาย ซึ่งทำให้เจ้าชายแฮร์รี่ไม่พอพระทัย เนื่องจากพระองค์ก็เป็นนายทหาร และเคยไปร่วมรบในอัฟกานิสถานมาแล้ว
มิส ไดนาไมต์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับการที่กองทัพอังกฤษบุกเข้าไปในอิรัก โดยกล่าวว่า กองทัพอังกฤษก็แย่พอๆ กับมือระเบิดฆ่าตัวตาย อังกฤษบุกรุกประเทศของคนอื่นและสังหารผู้คนในประเทศนั้นเหมือนกับผู้ก่อการร้าย และทำในระดับใหญ่ด้วย
โฆษกของบีบีซี ออกมายอมรับว่า การแสดงความเห็นของนักร้องดังเป็นเรื่องที่ไม่อาจแก้ไขได้ ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะพูดออกมาอย่างนั้น แม้เธอไม่ได้เอ่ยถึงเจ้าชายแฮร์รี่โดยตรง
ผู้ใกล้ชิดราชวงศ์กล่าวว่า เจ้าชายแฮร์รี่ก็เสด็จไปประเทศอื่นที่มีประชาชนถูกฆ่าตาย ซึ่งตามมาตรฐานของ มิส ไดนาไมต์ เจ้าชายก็ต้องเป็นผู้ก่อการร้ายไปด้วย ซึ่งพระองค์ไม่โปรดอย่างยิ่งกับข้อกล่าวหานี้
เจ้าหญิงวิกตอเรียพ้นมลทิน
เจ้าหญิงวิกตอเรีย มกุฎราชกุมารีสวีเดน ทรงหลุดพ้นจากข้อกล่าวหารับสินบน หลังจากนายกุนนาร์ สเตทเลอร์ หัวหน้าอัยการฝ่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นของสวีเดน ตัดสินเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ของขวัญวันอภิเษกสมรสที่เจ้าหญิงและพระสวามีได้รับจากนายเบอร์ทิล ฮัลต์ มหาเศรษฐีอันดับสามของประเทศ ไม่เข้าข่ายสินบน และสมาชิกราชวงศ์ไม่อยู่ในกลุ่มบุคคลที่จะถูกดำเนินคดีการรับสินบน
ก่อนหน้านี้ มีผู้ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการกล่าวหาว่า ของขวัญที่นายฮัลต์จัดถวายเจ้าหญิงวิกตอเรียและสวามี ถือเป็นการให้สินบนเพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ทางธุรกิจในอนาคต โดยของขวัญเหล่านั้น รวมถึง การเสด็จไปฮันนีมูนที่เกาะตาฮิติ โดยเครื่องบินเจ็ตและเรือยอร์ชส่วนตัวของนายฮัลต์
ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์เจ้าหญิงวิกตอเรีย ประเมินว่าของขวัญจากนายฮัลต์มีมูลค่าหลายแสนยูโร แต่นายสเตทเลอร์ กล่าวว่า ของขวัญดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 1 ล้านโครน หรือประมาณ 105,000 ยูโรเท่านั้น
นายสเตทเลอร์ กล่าวด้วยว่า กฎหมายคอร์รัปชั่นที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีความลักลั่น และเรียกร้องให้รัฐสภาสวีเดนปรับปรุงกฎหมายเสียใหม่ โดยยกตัวอย่างว่า หากเขามอบของขวัญราคาแพงให้นายกรัฐมนตรี ก็อาจถูกสอบสวนในข้อหาคอร์รัปชั่น แต่ถ้าเขาถวายของขวัญแด่สมาชิกราชวงศ์ ก็จะไม่ได้รับโทษแต่อย่างใด เพราะสมาชิกราชวงศ์ไม่อยู่ในข่ายที่จะต้องถูกสอบสวน
เจ้าชายแฮร์รี่ พระโอรสองค์รองในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารอังกฤษ จะปรากฎพระองค์ในรายการเรียลลิตี้โชว์ทางสถานีโทรทัศน์บีบีซีเร็วๆ นี้ แต่ไม่ใช่ในฐานะผู้ร่วมการแข่งขัน
รายการดังกล่าวมีชื่อว่า Goldie's Band - By Royal Appointment ออกอากาศทางช่อง 2 ของบีบีซี เป็นการติดตามภารกิจของ โกลดี้ นักดนตรีและดีเจชาวอังกฤษ ในการค้นหาเด็กรุ่นใหม่จากทั่วประเทศ อายุ 17-24 ปี ที่มีความสามารถและหลงใหลในดนตรีทุกประเภท ตั้งแต่ ฮิพฮอพ ร็อค จนถึงคลาสสิค จากนั้นจะคัดเลือกเหลือ 12 คน ให้มาอยู่ในบ้านเดียวกันเป็นเวลา 3 วัน และรับการเทรนจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญในวงการ รวมถึง กาย แชมเบอร์ส นักแต่งเพลงคู่บุญของร็อบบี้ วิลเลียมส์
เมื่อผ่านการเคี่ยวกรำจากเทรนเนอร์มืออาชีพแล้ว ผู้เข้ารอบทั้ง 12 คน จะต้องขึ้นเวทีคอนเสิร์ตที่พระราชวังบักกิ้งแฮมในเดือนตุลาคม เพื่อให้แขกพิเศษรับชม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เจ้าชายแฮร์รี่
ผู้ใกล้ชิดราชวงศ์เผยว่า เจ้าชายแฮร์รี่โปรดรายการประเภทเรียลลิตี้โชว์อยู่แล้ว แต่รายการนี้เป็นเรื่องของการฝึกสอนและให้กำลังใจเด็ก ไม่มีใครถูกโหวตออก หรือถูกหัวเราะเยาะ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องเสียหายที่เจ้าชายจะทรงเข้าไปมีส่วนร่วม
ด้าน ดีเจโกลดี้ กล่าวว่า รายการของเขาเป็นการค้นหาเพชรในตมจากทั่วเกาะอังกฤษ เด็กๆ เหล่านั้นเป็นผู้มีความสามารถทางดนตรี ที่ไม่เคยได้รับโอกาสเปล่งประกายอย่างที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตาม รายการค้นหาเพชรในตมครั้งนี้ออกอาการสะดุดเล็กน้อย เมื่อ มิส ไดนาไมต์ นักร้องอาร์แอนด์บีชื่อดัง หนึ่งในเทรนเนอร์ของรายการ พูดออกอากาศเปรียบเทียบทหารกับมือระเบิดฆ่าตัวตาย ซึ่งทำให้เจ้าชายแฮร์รี่ไม่พอพระทัย เนื่องจากพระองค์ก็เป็นนายทหาร และเคยไปร่วมรบในอัฟกานิสถานมาแล้ว
มิส ไดนาไมต์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับการที่กองทัพอังกฤษบุกเข้าไปในอิรัก โดยกล่าวว่า กองทัพอังกฤษก็แย่พอๆ กับมือระเบิดฆ่าตัวตาย อังกฤษบุกรุกประเทศของคนอื่นและสังหารผู้คนในประเทศนั้นเหมือนกับผู้ก่อการร้าย และทำในระดับใหญ่ด้วย
โฆษกของบีบีซี ออกมายอมรับว่า การแสดงความเห็นของนักร้องดังเป็นเรื่องที่ไม่อาจแก้ไขได้ ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะพูดออกมาอย่างนั้น แม้เธอไม่ได้เอ่ยถึงเจ้าชายแฮร์รี่โดยตรง
ผู้ใกล้ชิดราชวงศ์กล่าวว่า เจ้าชายแฮร์รี่ก็เสด็จไปประเทศอื่นที่มีประชาชนถูกฆ่าตาย ซึ่งตามมาตรฐานของ มิส ไดนาไมต์ เจ้าชายก็ต้องเป็นผู้ก่อการร้ายไปด้วย ซึ่งพระองค์ไม่โปรดอย่างยิ่งกับข้อกล่าวหานี้
เจ้าหญิงวิกตอเรียพ้นมลทิน
เจ้าหญิงวิกตอเรีย มกุฎราชกุมารีสวีเดน ทรงหลุดพ้นจากข้อกล่าวหารับสินบน หลังจากนายกุนนาร์ สเตทเลอร์ หัวหน้าอัยการฝ่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นของสวีเดน ตัดสินเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ของขวัญวันอภิเษกสมรสที่เจ้าหญิงและพระสวามีได้รับจากนายเบอร์ทิล ฮัลต์ มหาเศรษฐีอันดับสามของประเทศ ไม่เข้าข่ายสินบน และสมาชิกราชวงศ์ไม่อยู่ในกลุ่มบุคคลที่จะถูกดำเนินคดีการรับสินบน
ก่อนหน้านี้ มีผู้ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการกล่าวหาว่า ของขวัญที่นายฮัลต์จัดถวายเจ้าหญิงวิกตอเรียและสวามี ถือเป็นการให้สินบนเพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ทางธุรกิจในอนาคต โดยของขวัญเหล่านั้น รวมถึง การเสด็จไปฮันนีมูนที่เกาะตาฮิติ โดยเครื่องบินเจ็ตและเรือยอร์ชส่วนตัวของนายฮัลต์
ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์เจ้าหญิงวิกตอเรีย ประเมินว่าของขวัญจากนายฮัลต์มีมูลค่าหลายแสนยูโร แต่นายสเตทเลอร์ กล่าวว่า ของขวัญดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 1 ล้านโครน หรือประมาณ 105,000 ยูโรเท่านั้น
นายสเตทเลอร์ กล่าวด้วยว่า กฎหมายคอร์รัปชั่นที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีความลักลั่น และเรียกร้องให้รัฐสภาสวีเดนปรับปรุงกฎหมายเสียใหม่ โดยยกตัวอย่างว่า หากเขามอบของขวัญราคาแพงให้นายกรัฐมนตรี ก็อาจถูกสอบสวนในข้อหาคอร์รัปชั่น แต่ถ้าเขาถวายของขวัญแด่สมาชิกราชวงศ์ ก็จะไม่ได้รับโทษแต่อย่างใด เพราะสมาชิกราชวงศ์ไม่อยู่ในข่ายที่จะต้องถูกสอบสวน