[Fiction] Once Upon a time...Two [2]

May 29, 2011 00:15



Title : Once Upon a time...Two

Writer : Nalikakeaw

Rate : Not Sure

Pairing : .........

งานแถลงข่าวเปิดกล้องละครถูกเลื่อนให้เร็วขึ้นสามสัปดาห์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ทันใจผู้ชมที่เฝ้ารออยากเห็นฮารุมะและยูยะแสดงละครร่วมกันอย่างใจจดใจจ่อ  ยิ่งไปกว่านั้น ภาพเบื้องหลังการถ่ายทำเป็นสิ่งที่คนดูกระหายอยากจะดูมากที่สุด เพราะทุกคนอยากจะเห็นภาพคู่รัก  ที่ตอนนี้กลายเป็นคู่รักแห่งปีไปแล้ว

นิตยสารทุกฉบับที่มีรูปคู่ของทั้งสองคนขายดีเป็นอันดับหนึ่ง หรือแม้แต่ภาพที่ไม่ได้ถ่ายแบบคู่กันก็ยังขายหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว  ไหนจะภาพแอบถ่ายที่เหล่าปาปารัสซี่คอยตามเป็นขโยงรัวกดชัตเตอร์จับภาพไว้ทุกอิริยาบทก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า  กรณีสุดท้ายนี่ทำให้ยาบุปวดหัวมาก เพราะนอกจากจะต้องมานั่งจัดการตารางงานของทั้งคู่ให้ลงตัวกับคิวถ่ายละครแล้ว ยังต้องมาจัดการพวกปาปารัสซี่นี่อีก

"ที่จริง นายไม่ต้องยุ่งกับปาปารัสซี่พวกนี้ก็ได้ เรื่องแอบถ่ายแค่นี้พวกฉันชินกันแล้ว"

"ไม่ได้!! เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีก ไม่อยากตามมาแก้ข่าวทีหลัง  โอ๊ยยย!!!! อยากจะแยกร่างอีกซักยี่สิบร่าง!!!!"

"ไม่ใช่เพราะอยากเจอใครหรอกเหรอ"

ยาบุหัวเราะหึๆที่ถูกรู้ทัน เงยหน้าจากกองเอกสารมองยูยะในชุดนักเรียนมัธยมปลายแบบที่เรียกได้ว่าไม่ถูกระเบียบเลยซักข้อ พอๆกับของฮารุมะ ชุดนี้ฝ่ายเสื้อผ้าของกองละครจัดมาให้อย่างเร่งด่วนพอๆกับงานแถลงข่าว ตอนนี้ฮารุมะกำลังสำรวจผมที่เพิ่งไปทำไฮไลท์มาแบบสดๆร้อนๆ ก่อนหน้างานจะเริ่มแค่ไม่กี่ชั่วโมง

จะว่าไปก็เหมาะดี...

"ฉลาดอีกแล้วนะยูยะ ทำไมคนที่รู้ทันฉันถึงเป็นนายทุกที"

แต่ฮารุมะขมวดคิ้วใส่ยาบุ พูดแบบนี้หมายความว่าเขาไม่ฉลาดหรือยังไง

"ฉันแค่พูดว่ายูยะฉลาด ไม่ได้บอกว่านายโง่นี่หว่า  เอ้านี่!"

ฮารุมะรับเอกสารจากมือยาบุมาดูกับยูยะ ในนั้นมีทั้งประวัติ รูปถ่าย ของคนคนหนึ่งที่ ทั้งฮารุมะและยูยะคุ้นหน้า แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน

"ยาโอโตเมะ ฮิคารุ คนที่ฉันเคยไปตามตื๊อให้มาเป็นนายแบบในสังกัดไง"

"อ๋อ... แล้วก็โดนตอกกลับมาซะหน้าหงายน่ะเหรอ?"

"ทีเรื่องแบบนี้ล่ะฉลาดจำ"

ถึงฮารุมะไม่ย้ำ ยาบุก็จำเรื่องวันนั้นได้ดี  นายยาโอโตเมะคนนั้น ปฎิเสธยาบุอย่างไร้เยื่อใย แล้วยังตอกกลับมาให้เจ็บใจด้วยว่า มีวิธีหาเงินได้เยอะกว่าการเป็นนักแสดงหรือนายแบบในสังกัดกระจอกๆของยาบุ

เพิ่งจะรู้ว่างานที่ว่าก็คือการเป็นปาปารัซซี่นี่เอง

"มิน่า ..ถึงบอกว่าหาเงินได้มากกว่า สงสัยว่าเงินที่ได้จากการขายภาพหลุด คงมากกว่าค่าตัวเราสองคนซะอีกละมั้ง คนนี้สินะตัวต้นเหตุ"

ยูยะยังไร้ความรู้สึกเหมือนเคย ยังพูดถึงคนที่ทำให้ชีวิตวุ่นวายแบบไม่แค้นเคืองซักนิด  ผิดกับคนข้างๆที่ทำตาวาวด้วยความโกรธจัด  งานนี้ยาโอโตเมะคนนั้นจะโดนอาถรรพ์อย่างที่ใครๆเขาลือกันไหมว่า นักข่าวคนไหนที่คิดจะมายุ่มย่ามกับสองคนนี้  จะมีอันเป็นไปเสียทุกคน

"ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น ฉันมีวิธีจัดการ รับรองว่าจะทำให้หมอนั่นเลิกอาชีพนี้แบบถาวรไปเลย  นายสองคนมีหน้าที่แสดงละครให้ดีก็พอ"

"แล้ววันนี้เราต้องแสดงละครอีกรึเปล่า"

ยาบุละเกลียดสีหน้าเฉยๆไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับอะไรของคนตรงหน้านี่เสียจริงๆ  ไม่รู้ว่าฮารุมะมันรักยูยะที่ตรงไหน  ตุ๊กตาแสนสวยนี่มีดีอะไรฮารุมะถึงได้หวงหนักหนา  ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมายาบุยังไม่เคยเห็นยูยะยิ้มนอกเหนือจากเวลางานเลยซักครั้ง  เวลาอยู่ด้วยกันก็เหมือนอยู่กับหุ่นกระบอก  แล้วเวลาที่อยู่ด้วยกันสองคนจะเป็นยังไง

"คงไม่ต้องหรอก ทำตัวเป็นปกตินั่นแหละ สวีทมากไปคนจะเบื่อเอา"

...................................................................

....................................

...............

...

งานแถลงข่าววันนี้มีนักข่าวมามากกว่าที่เคย เพราะเป็นการเปิดกล้องละครฟอร์มใหญ่ที่มีนักแสดงที่มีชื่อเสียง และนักแสดงดาวรุ่งน่าจับตาร่วมแสดงอยู่หลายคน  แต่ที่สื่อให้ความสนใจถ่ายภาพมากที่สุดก็หนีไม่พ้นฮารุมะกับยูยะ ทั้งสองคนถูกนักข่าวขอร้องให้ยืนคู่กันเพื่อถ่ายภาพนานเกือบครึ่งชั่วโมง  กว่าจะได้ถ่ายรูปร่วมกับนักแสดงคนอื่นๆ

"ไอ้ผัวเมียจอมขโมยซีนเอ๊ย"

ฮารุมะหันไปแยกเขี้ยวใส่ อิชิงุระ ฮิเดโอะ ที่เดินเข้ามาแทรกระหว่างทั้งสองคน วาดแขนโอบไหล่ทั้งฮารุมะและยูยะเอาไว้ และแน่นอน ฮารุมะเอื้อมไปดึงยูยะออกจากอ้อมแขนนั้นทันที

"อยากมาเป็นแทนมั๊ยล่ะ ยิ้มจนเหงือกจะบานอยู่แล้ว"

"ถ้าได้ทาคาคิคุงมาอยู่ข้างๆฉันก็ยอมนะ"

มิอุระ โชเฮ เข้ามากอดยูยะจากด้านหลัง ทั้งฮิเดโอะ และโชเฮ  เป็นทั้งนักแสดงและนายแบบที่ฮารุมะและยูยะเคยได้ร่วมงานกันหลายครั้ง จึงได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองคนและสนิทสนมกันมากพอสมควร  แต่ต่อให้สนิทกันยังไง ฮารุมะก็ไม่อนุญาตให้มากอดยูยะนะเว้ย

"ออกไปห่างๆเลยถ้าไม่อยากตาย"

"หวงไรนักหนาว๊า~ ทาคาคิคุงก็เป็นเพื่อนฉันนะเว้ย  เฮ้ย!!"

โชเฮกระโดดหลบเท้าฮารุมะ พร้อมๆกับที่นักแสดงอีกสองคนเดินเข้ามาพอดี ทั้งนากามะ  จุนตะ และคิริยามะ อาคิโตะ  เลยต้องกระโดดเข้าไปหลบอยู่ข้างหลังยูยะอย่างพร้อมเพรียง

"อะไรวะ! แค่นี้ก็ไม่ได้ หวงชิบ-"

โชเฮหันไปพยักเพยิดกับอาคิโตะและจุนตะที่ยิ้มร่าอยู่ข้างหลัง ทั้งสองคนนั้นต่างก็รู้จักและสนิทสนมกันเช่นเดียวกับฮิเดโอะและโชเฮ  พอมาเจอกันทีไรก็เลยรวมหัวกันแกล้งฮารุมะแบบนี้ทุกที

"เลิกเล่นเถอะน่า"

เสียงปรามเบาๆจากคนที่ถูกดึงไปมาอยู่ตรงกลาง ตอนนี้ยูยะแทบจะแยกร่างได้อยู่แล้ว ข้างหนึ่งก็ฮารุมะ  ข้างหนึ่งก็บรรดาผองเพื่อน เล่นกันจนกลายเป็นจุดสนใจให้นักข่าวรัวชัตเตอร์ แสงแฟลชจากรอบทิศทำให้ยูยะแสบตาไปหมด

"เพิ่งเคยอยู่ต่อหน้าสื่อมวลชนมากขนาดนี้เป็นครั้งแรกคงยังไม่ชินสินะ พวกดาราใหม่ก็แบบนี้แหละ"

ดาราสาวรุ่นพี่คนหนึ่งเดินผ่านไปพร้อมกับเอ่ยขึ้นมาลอยๆ บรรยากาศเงียบลงไปครู่หนึ่งก่อนที่บรรดาสื่อมวลชนจะส่งเสียงวิจารณ์กันให้แซ่ด  ว่าคุณเธออิจฉาที่บรรดาสื่อให้ความสนใจกลุ่มนักแสดงหนุ่มๆมากกว่า แต่ก็มีใครคนหนึ่งโพล่งขึ้นมาว่า

"สงสัยจะอิจฉาที่ทาคาคิคุงสวยกว่าละมั้ง"

ทุกคนฟังแล้วหัวเราะก๊าก เว้นแต่ดาราสาวคนนั้นที่หันกลับมามองจ้องเขม็งอย่างขุ่นเคือง และยูยะที่มองตอบกลับไปด้วยสีหน้าและสายตาเรียบเฉย...

...................................................................

....................................

...............

...

ถึงเวลาสัมภาษณ์กลุ่มนักแสดงเด็กหนุ่มถูกจัดให้นั่งด้วยกันด้านหลังนักแสดงนำคนอื่นๆ ที่ผลัดกันตอบคำถามจากสื่อมวลชนไปเรื่อยๆจนครบทุกคน ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งคำถามสุดท้าย

"อยากทราบว่าฮารุมะซังกับทาคาคิซังเป็นคนรักกันจริงๆหรือเปล่าครับ"

บรรยากาศในห้องสัมภาษณ์เงียบกริบ  ทุกคนรวมทั้งนักแสดงที่นั่งอยู่ด้วยกันต่างก็หันมามองฮารุมะกับยูยะเป็นตาเดียว แต่ทั้งสองคนยังนั่งเงียบจนพิธีกรต้องพูดแทรกเพื่อทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี้

"เอ่อ คุณนักข่าวครับ คำถามนี้ไม่เกี่ยวกับละครนะครับ ผมว่า.."

"ไม่เห็นเป็นไรนี่ ถือว่าเป็นคำถามส่งท้าย ทุกคนในห้องก็อยากรู้เหมือนกันใช่มั๊ยล่ะ"

เจ้าตัวหันไปมองเพื่อนนักข่าวด้วยกัน และทุกคนก็พยักหน้ากลับมาด้วยองศาเดียวกัน พร้อมเพรียงกันเหมือนนัดกันมา

"ผมคิดว่าผมพูดไปหมดแล้วตอนให้สัมภาษณ์ครั้งก่อน"

ฮารุมะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาหลังจากที่สะกดความไม่พอใจเอาไว้ได้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเมื่อถูกฝ่ายนั้นตอกกลับมาเป็นชุด

"นั่นมันยังไม่พอ ฮารุมะคุงพูดอยู่ฝ่ายเดียวแฟนๆคงไม่เชื่อหรอก ต้องให้ทาคาคิคุงพูดบ้าง จริงไหมครับ?"

"อะไรทำให้คุณคิดว่าเราไม่ใช่คนรักกัน"

นักข่าวจอมตื๊อยิ้มออกมาอย่างมีชัย ที่สามารถทำให้ยูยะยอมเปิดปากได้ แล้วพล่ามต่อไปด้วยคำพูดที่เตรียมมาเป็นอย่างดี เพื่อหลอกล่อคำตอบจากนักแสดงหนุ่มที่ได้ชื่อว่าปากหนักที่สุดของวงการ

"เพราะคุณดูไม่เหมือนคู่รักกันน่ะสิ  ดูเหมือนคู่รักโปรโมททำให้ทุกคนสนใจละครมากขึ้น เรตติ้งช่องดีขึ้น ในสายตาผมน่ะพวกคุณดูเหมือนเป็นคู่นอ-"

คำพูดหลังจากนั้นถูกกลืนหายเหลือเพียงเสียงขลุกขลักในลำคอที่ไม่มีใครแปลความหมายได้  ฮารุมะเห็นนักข่าวคนนั้นอยู่ๆก็หน้าแดงจัดเหมือนคนกำลังจะเป็นลมแดดแต่ก็ไม่ใช่  สายตาจ้องตรงมายังเวทีที่เขานั่ง  คนที่นั่งข้างๆเขา

ยูยะนั่งกอดอก มือหนึ่งเท้าคางให้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากที่ยกยิ้มน้อยๆ ก้มหน้าลงนิดหน่อยเพื่อให้นักข่าวที่ตอนนี้ยืนนิ่งเป็นท่อนไม้ได้เห็นสายตาจิกเล็กๆ

รอยยิ้มยั่วยวนที่น้อยคนนักจะได้เห็น  รอยยิ้มยั่วยวนที่ทำให้อารมณ์และเลือดในกายของคนมองสูบฉีดจนแทบบ้า   รอยยิ้มพิฆาตที่ยูยะใช้เพื่อกำจัดคนบางคน ที่ทำให้ไม่พอใจ ให้ทรมานไปกับความต้องการตามสัญชาตญาณทางเพศที่ยูยะจงใจทำให้มันเกิดขึ้น

แม้ว่ายูยะจะเป็นฝ่ายยั่วก่อน   ความโกรธของฮารุมะก็พุ่งตรงไปที่นักข่าวคนนั้นทันทีในคราวแรก แต่ก็หายโกรธทันทีที่เห็นว่าหมอนั่นกำลังเข่าอ่อนด้วยอารมณ์เร่าร้อนที่ตนเองไม่อาจควบคุมได้     จนต้องยกมือปิดส่วนที่โป่งพองขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

หึ!! อ่อนชะมัด!! แค่สบตายูยะก็มีอาการถึงขนาดนี้แล้ว  แต่ก็เอาเถอะ  ไหนๆก็ถูกทำให้อับอายขนาดนี้แล้ว ฮารุมะจะช่วยสงเคราะห์ให้ซักครั้ง

"ยูยะ มากไป"

เสียงกระซิบที่กะให้ได้ยินเฉพาะยูยะ  ดังจนได้ยินชัดเจนไปทั้งห้องเพราะลืมไปว่าตัวเองพูดต่อหน้าไมค์โครโฟน กับท่าทางที่ยูยะทำเป็นเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว  เรียกเสียงหัวเราะน้อยๆจากนักแสดงรุ่นใหญ่ที่นั่งอยู่ด้วยกัน หรือแม้กระทั่งบรรดานักข่าวก็อดยิ้มไปด้วยไม่ได้

วินาทีนี้ไม่มีใครที่จะไม่เชื่ออีกแล้วว่าฮารุมะกับยูยะไม่ใช่คนรักกัน

แม้ว่ามัน....จะเป็นความจริงก็ตาม...

To Be Con....

Previous post
Up