Title: Beyond The Mountain
Series: ~Shine a Light Behind The Scene~
Rating: G
Artist: Icys
Band: Bigbang
Summary: Whether the stage is empty or not, Taeyang wouldn't leave him to suffer alone.
Note: My first idea on writing fanfiction of real people. I don't want to ruin their personality so it will be very IC.
All characters appearing in this work are fictitious. This is fanfiction for entertainment purpose only.
Original post
here.
-------------------------------------------------------------------------
"ข้อความ" = คำพูด
'ข้อความ' = ความคิด
-------------------------------------------------------------------------
แสง จากมือถือส่องกระทบดวงหน้าของเค้าในขณะที่เค้ากำลังเช็กข้อความในมือถือนับ ร้อยที่ทะลักเข้ามาท่ามกลางดวงไฟที่หริหรี่บนเวที สายไฟพันยาวระเกะระกะบนพื้นเวทีและกล่องเครื่องมือวางกระจัดกระจายราวกับว่า เจ้าของไม่แยแสที่จะเก็บกวาดมัน ปกติแล้วเค้าจะไม่ยอมให้ใครมาทิ้งข้าวของเรี่ยราดแบบนี้เด็ดขาดและจะสั่งให้ ทุกคนเก็บของให้เรียบร้อย แต่ทว่าตอนนี้สิ่งที่เกลื่อนกลาดรอบตัวกลับถูกเพิกเฉย เค้าไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำ ในเมื่อความรู้สึกของเค้ายังคงตกอยู่ในห้วงลึกของความเศร้าสลด บัดนี้เค้านั่งห้อยขาอยู่บนเวทีที่เคยเป็นของเค้า ข้างหน้าของเค้าคือที่นั่งคนดูนับพันที่ครั้งหนึ่งเคยมีแฟนเพลงของเค้านั่ง เต็มขนัด เสียงฝนจากนอกอาคารแผ่วดังเข้ามาเป็นระยะ แต่ก็ไม่สามารถดึงความเศร้าของเค้าที่กัดกินหัวใจออกได้เลย
เสียงเม โลดี้คุ้นหูดังจากในมือเค้าอีกครั้ง เวลาของข้อความถูกเขียนไว้ว่าส่งมาเมื่อเวลาตีสามสิบนาทีทำให้เค้ารู้ว่าตอน นี้ตัวเองนั่งอยู่ที่นี่ราวสองชั่วโมงแล้ว เค้าก้มลงมองข้อความที่ส่งเข้ามา ชื่อผู้ส่งกระพริบว่าเป็นชเวซึงฮยอนนั่นเอง ถึงจะรู้ว่าข้อความข้างในไม่น่าจะต่างกับของคนอื่นๆนักแต่เค้าก็รู้สึกดีใจ ที่พี่ใหญ่เจียดเวลามาให้กำลังใจเค้า
เค้านั่งนิ่งอยู่นานขณะอ่านข้อ ความก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินมากจากข้างหลัง เค้าไม่ได้ใส่ใจนักในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร
แทยังนั่งลงข้างๆ เค้าและไม่ได้เอ่ยอะไร พลางมองไปเบื้องหน้าที่เป็นที่นั่งว่างเปล่า ปล่อยให้เพื่อนรักก้มหน้าอ่านข้อความต่อไป ทั้งสองนั่งเงียบกันอยู่นานโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ไม่มีคำถาม ไม่มีคำปลอบโยน สิ่งที่ทั้งคู่พูดผ่านความเงียบนั้นเกินกว่าจะหาคำใดๆมาเปรียบได้ มันมากกว่าคำว่า'ไม่เป็นไรนะ?' ทั้งสองต่างเข้าใจซึ่งกันและกันโดยไม่ต้องใช้คำพูดใดๆ
จียงเป็นคนแรกที่เงยหน้าขึ้นมาก่อนจะถอนหายใจ "ชั้นเห็น.." เค้าเอ่ยเสียงเบาขณะที่มองจ้องข้างหน้า "...ภูเขาน่ะ"
แทยังไม่ได้พูดอะไรตอบ เพียงแต่จรดสายตาไปข้างหน้าเช่นกัน
"ภูเขาลูกใหญ่ อุปสรรคที่ต้องก้าวข้ามไป..."
ใน มือของเค้าสั่นระทมหากแต่ไม่ใช่เพราะความโกรธเกรี้ยว เค้ากำมันแน่นราวกับเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวสิ่งเดียวที่สามารถหยุดจิตใจอัน บ้าคลั่งของเค้า เสียงของเค้าสั่นก่อนจะก้มหน้ากลับไปจ้องมือถือในมือต่อ
"ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย? มีแต่เรื่องน่าปวดหัวเข้ามาเรื่อยเลย... ทำไมต้องเป็นแบบนี้? ยังกับว่าทั้งโลกเกลียดชั้นงั้นแหละ"
เมื่อ เสียงของเค้าเงียบลงอีกครั้ง เค้าหลับตาข่มไว้ การตีโพยตีพายกับเรื่องที่เกิดไปแล้วมันไม่ได้ประโยชน์อะไร สมองของเค้ากำลังพยายามคิดหาทางออก แต่ร่างกายของเค้ากลับบอกว่า'ขออีกนิดนึง... เมื่อชั้นหายเศร้าแล้วชั้นจะลุกขึ้นมาใหม่เอง'
แทยังเลื่อนสายตาขึ้นไปที่เพดานประดับด้วยดวงไฟสปอตไลท์พลางหลับตาลง
"แต่ชั้น... ได้ยินนะ"
จียงเงยหน้าขึ้นมามองอย่างสงสัย แทยังกวาดมือไปรอบๆราวกับจะชี้ให้เค้าเห็นทุกที่นั่งของคนดู
"นายไม่ได้ยินหรอ? ลองหลับตาอีกครั้งสิ เสียงพวกเค้ายังเรียกร้องหานาย"
แทยังเอ่ยก่อนจะหันมาสบตาเพื่อนรัก
"พวกเค้ายังต้องการนายอยู่นะ ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเค้ายังเชื่อในตัวนายอยู่"
จี ยงหลับตา บรรยากาศในคืนคอนเสิร์ตนั้นยังตราตรึงหัวใจของเค้า ทุกเสียงทุกสิ่งสัมผัสที่เค้ารับรู้ในคอนเสิร์ตของเค้าเค้าครั้งแรกนั้นจะ ลืมลงได้อย่างไร ทุกเสียงยังดังก้องอยู่ในหู มันค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆจากภายในใจเค้าและกลืนความเศร้าสร้อยที่อยู่ในหัวใจ ให้มลายหายสิ้น เค้าค่อยๆซึมซับความรู้สึกในวันนั้นก่อนจะยิ้มน้อยๆที่มุมปากและไม่ได้พูด อะไร
เสียงในใจของเค้าเองกลับดังก้องเองว่า 'ไม่เป็นไร...'
มือ ถือในมือของเค้าสั่นอีกครั้งพร้อมกับข้อความเข้าใหม่ของแดซอง ในคราวนี้เค้าไม่รีรอที่จะอ่านข้อความนั้นและลุกขึ้นยืนพร้อมกันดึงมือแทยัง ให้ลุกขึ้นด้วย แทยังล้วงมือเข้ากระเป๋า อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ แต่เค้าอดยิ้มไม่ได้ที่เห็นไฟในตัวเพื่อนของเค้ายังไม่มอดดับไป
เสียงเล็กๆทว่าแข็งแกร่งของจียงดังขั้นอีกครั้งก่อนจะลากเค้าลงจากเวที
"ไปกันเถอะ"
End(?)