Just another Thai entry posted. Exteen seems to hate users like me... OTL
Also, this is kind of.... inappropriate... well, just like that, you'd see it in the rating of this fan fiction. :P
For non-Thai speakers, please just ignore this post. ^^;;;
And, thank you for visiting~!
Title: Unconscious
Language: Thai (ภาษาไทยล้วนๆ ครับ)
Type: BL
Fandom: Shingeki no Kyojin/Attack on Titan
Pairing: Erwin x Rivaille
Rating: R-18
Note: น่าจะมีตอนต่อ (?) คาแรกเตอร์อาจจะหลุดไปบ้าง ยังไงก็ขออภัยนะฮะ... แต่เขียนด้วยความรักจริงๆ นะ แฮ่ก....
ร่างหนึ่ง...นอนนิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าคมประดับรอยช้ำเล็กๆ หันออกไปนอกหน้าต่างพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
เสียงแง้มประตูเปิดดังขึ้น ดึงสติของเขาให้กลับมา ทำให้เขาต้องละสายตาจากท้องฟ้าและหันมาทางต้นเสียงอย่างช้าๆ คิ้วที่มุ่นอยู่แล้วตามปกติยิ่งขมวดมากขึ้นไปอีกเมื่อเขาเห็นบุคคลที่ยืนอยู่หลังประตูบานนั้น...
"ว่าไง?" ร่างที่นอนอยู่บนเตียงเป็นฝ่ายเอ่ยทักก่อนอย่างไม่พอใจนักที่แขกผู้มาเยือนเข้ามารบกวนเวลาพักผ่อนของเขา แต่ครั้นจะไล่ไปก็ไม่ได้ เนื่องจากคนที่เข้ามาใหม่ดันมีตำแหน่งสูงกว่าเขานี่สิ
"แค่มาเยี่ยมน่ะ ขานายโอเคนะ? ไม่เจ็บมากใช่ไหม?" เจ้าของร่างสูงในชุดทีมสำรวจก้าวเดินเข้ามาในห้องอย่างไม่รีบร้อนพร้อมเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ก่อนนั่งลงที่ขอบเตียง เอื้อมมือใหญ่ไปแตะที่ขาข้างหนึ่งของคนบนเตียงที่ถูกผ้าพันแผลพันไว้
"เออ... ก็อย่างที่แกเห็นนั่นแหละ หัดแหกตาดูซะมั่ง" คนเจ็บกึ่งตอบกึ่งบ่น น้ำเสียงเจือความไม่พอใจอยู่เล็กน้อย แต่คนฟังก็ไม่ได้ติดใจอะไร "แล้วนี่จะไปไหนล่ะ สำรวจกำแพง?"
"กำลังจะออกไปนอกกำแพงต่างหาก" คนถูกถามตอบเสียงเรียบนิ่ง แต่ก็ไม่ได้หันไปสบตาคนถามราวกับจะรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายชักสีหน้าไม่พอใจใส่เขาอย่างชัดเจน "อยากไปรวบรวมข้อมูลของไททันให้มากกว่านี้น่ะ พวกร่องรอยหลังจากมันตาย แล้วก็อะไรหลายๆ อย่างด้วย"
"แล้วทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่บอกอะไรฉันก่อนเลยฟะ หา!?" คนเจ็บลุกขึ้นนั่ง มือเล็กคว้าเอาทั้งผ้าคลุมสีเขียวของทีมสำรวจและคอเสื้อของคนที่ทำตัวไม่รู้ร้อนอะไรกับการออกไปนอกกำแพงครั้งนี้ บังคับให้อีกฝ่ายหันมาสบตาเขาตรงๆ
"ไม่จำเป็นต้องบอกนี่ ถึงบอกไปยังไงนายก็ไปด้วยไม่ได้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?" ร่างที่ถูกกระชากคอเสื้อหันมาสบตากับอีกฝ่ายตรงๆ โดยไม่มีการหลบ ดวงตาสีฟ้าครามจ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายนิ่ง ราวกับจะมองทะลุทะลวงลงไปถึงใจของอีกฝ่าย จนคนเจ็บเองต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนี
"เออ... เรื่องของแกแล้วกัน" ร่างที่นอนอยู่บนเตียงตัดบท และปล่อยมือจากคอเสื้อของหัวหน้าทีมสำรวจ รู้สึกถึงความรวดร้าวภายในใจเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงมันออกไป
"พักผ่อนเถอะ ฉันไม่รบกวนนายแล้ว" คนเป็นหัวหน้ายกมือขึ้นลูบศีรษะคนเจ็บเบาๆ ก่อนที่นิ้วชี้ของเขาจะเลื่อนลงมาที่กลางหว่างคิ้วของคนตัวเล็กกว่า "แล้วก็เลิกขมวดคิ้วแบบนี้ได้แล้ว เดี๋ยวก็แก่เร็วกันพอดีหรอก"
"พอกับแกนั่นแหละ เจ้าบ้า!" คนเจ็บปัดมืออีกฝ่ายออก พร้อมๆ กับที่รอยย่นตรงหว่างคิ้วที่หายไปเล็กน้อย "จะไปไหนก็รีบไปไกลๆ เลยไป หนวกหูชะมัด"
หัวหน้าทีมสำรวจไม่ได้เอ่ยตอบอะไรหลังจากนั้น เขาเพียงแค่ลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ เหมือนกับว่าไม่ค่อยจะอยากออกไปเท่าไหร่ ก่อนใช้มือข้างหนึ่งปรับผ้าคลุมสีเขียวเข้มให้เข้าที่ ยืดเส้นยืดสายร่างกายตัวเองอีกเล็กน้อยท่ามกลางสายตาของผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้ชื่อว่าเป็นคนที่เขาเชื่อใจที่สุด
...และก่อนที่เขาจะได้ก้าวขาออกไปจากห้อง เสียงของคนที่อยู่ในห้องก็ดังขึ้นขัดเสียก่อน
"เอลวิน"
เจ้าของชื่อหันกลับมาทางต้นเสียงในขณะที่มือของเขาจับลูกบิดประตูอยู่ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้หันมามองเขาอย่างที่ควรจะเป็น
"ผ้าคลุมของแก..." คนเจ็บก้มหน้าพึมพำเบาๆ ขณะที่มือทั้งสองข้างของเขากำแน่น "...แลกกับของฉันได้ไหม?"
คนฟังไม่ตอบคำ แต่ก็ยอมดึงผ้าคลุมประจำตัวของเขาออกโดยไม่มีข้อโต้แย้งอะไร
"...ของฉันตัวใหญ่นะ นายใส่ได้หรือไง?" ร่างสูงพูดติดตลก แต่ก็ยอมเดินกลับมาที่เตียง แล้วค่อยๆ เอาผ้าคลุมของตนคลุมร่างของอีกฝ่ายแทนผ้าห่ม "เลิกทำหน้าเครียดได้แล้วน่ะ ฉันไม่เป็นไรหรอก"
"ผ้าคลุมของฉันอยู่ในห้อง เอาไปด้วยล่ะ" ร่างเล็กรีบพลิกตัวหันหลังให้เพื่อปิดบทสนทนา ก่อนกระชับผ้าคลุมไหล่ของอีกฝ่ายให้แน่นขึ้น "ใส่ไปด้วยนะ..."
"อา... จะพยายามครับ" แล้วคนเป็นหัวหน้าก็กลายเป็นฝ่ายเชื่อฟังลูกน้องของตนเสียเอง แต่ก็ยังไม่วายแกล้งแหย่อีกฝ่ายเล่น "ถ้าผืนมันไม่เล็ก...โอ๊ย!"
ยังไม่ทันจะพูดจบก็ถูกคนตัวเล็กกว่าศอกกลับมาที่หน้าท้องอย่างจัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ยอมหันกลับมา...
ฝ่ายถูกทำร้ายได้แต่หัวเราะในลำคอเบาๆ กับอาการแสดงนั้น ก่อนที่ฝ่ามือใหญ่จะยกขึ้นลูบเรือนผมสีดำขลับของอีกฝ่ายราวกับเป็นการบอกลา และหมุนตัวเดินออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ
".......อย่าตายนะ... เอลวิน"
เสียงแผ่วๆ เล็ดลอดออกมาจากริมฝึปากสีซีด โดยไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายที่ผละออกจากร่างของเขาไปแล้วนั้นได้ยินหรือเปล่า เขาเพียงได้แต่หวังให้คนๆ นี้รอดจากการโดนไททันฆ่าตายหลังจากออกไปนอกกำแพงในเวลาที่เขาไม่ได้ออกไปด้วยก็พอแล้ว
...ร่างเล็กบนเตียงได้แต่โทษอาการบาดเจ็บของตัวเองอยู่ลึกๆ ที่ทำให้เขาออกไปสำรวจนอกกำแพงกับเอลวินในครั้งนี้ไม่ได้
รีไวล์ได้แต่บอกตัวเองให้หลับตาลง หลับไปเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทนเฝ้าคอยว่าอีกฝ่ายจะกลับมาถึงเมื่อไหร่... เพราะอย่างน้อย การที่เขาหลับไปมันคงพอช่วยย่นระยะเวลาในการรอได้ดีกว่าแน่ๆ
.
.
.
.
.
.
.
".....ไวล์"
"...รีไวล์......"
เสียงคุ้นหูของใครบางคนดังขึ้นหลังจากที่เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ได้ รีไวล์ใช้มือขยี้ตาตนเองเบาๆ ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกเงาขนาดใหญ่ทาบทับ ร่างนั้นค่อยๆ ก้มตัวลงมาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกถึงลมหายใจ รูปหน้าและดวงตาคุ้นเคยปรากฏสู่สายตา
"เอล...วิน...." น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยเรียกชื่อผู้เป็นหัวหน้าหลังจากเริ่มรู้สึกตัว นิ้วมือเรียวไล้ไปตามผิวแก้มและสันกรามแกร่งอย่างเบามือ "กลับมาแล้ว...เหรอ?"
"อืม... นี่หลับตั้งแต่ฉันออกไปเลยเหรอ?" มือแกร่งยกขึ้นกำมืออีกฝ่ายไว้หลวมๆ ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นจะสัมผัสผิวแก้มของร่างที่บาดเจ็บอย่างแผ่วเบา และเปลี่ยนมาจูบที่หลังมือข้างที่เขาจับอยู่อย่างทะนุถนอม
"เสียมารยาทชะมัด แกนี่..." คนถูกจูบบ่นอุบกับการกระทำของชายหนุ่มตรงหน้า แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการปฏิเสธอย่างชัดเจน "แล้วได้อะไรเพิ่มเติมมาบ้างล่ะ?"
"ก็พอสมควรนะ ฮันจิได้ซากไททันมาด้วย เดี๋ยวคงเอาไปตรวจสอบอีกทีว่ามีอะไรต่างจากตัวก่อนๆ รึเปล่านั่นแหละ" หัวหน้าทีมสำรวจรายงานผลการออกสำรวจวันนี้ให้คนเจ็บฟัง ก่อนลุกขึ้นและผละออกจากร่างเล็กช้าๆ "ฉันไปก่อนล่ะ นายเองก็พักผ่อนเถอะ"
"เดี๋ยว..."
"หืม?" เอลวินที่กำลังจะเดินออกจากห้องไปหมุนตัวกลับมาหาอย่างไม่เดือดร้อนอะไรนัก
"ผ้าคลุม..."
"อ้อ จะแลกคืนเหรอ?" ชายหนุ่มผมทองดึงผ้าคลุมไหล่ของตนออก และวางมันไว้ใกล้ๆ กับหัวเตียง "อ๊ะ...ลืมไป ฉันควรพับมันให้นายด้วยสินะ"
"......."
"รีไวล์?" ขายหนุ่มสังเกตได้ถึงความผิดปกติของอีกฝ่ายที่เอาแต่ก้มหน้านิ่งไม่ตอบสนองอะไร จึงลองเอ่ยทัก พร้อมกับจับมือของคนเจ็บบนเตียงไว้ "มีอะไรรึเปล่า?"
"ม...มี...." คนถูกถามชะงัก รู้สึกในลำคอแห้งผากจนพูดไม่ออก มือเรียวเล็กที่ถูกกุมอยู่กำแน่นขึ้น "...มีใครตายไหม?"
คราวนี้เป็นฝ่ายเอลวินที่เงียบไป...
แต่รีไวล์ก็พอเดาได้ถึงคำตอบ...
ในบางครั้ง สำหรับเรื่องบางเรื่อง แม้เขาทั้งสองคนจะไม่ได้คุยกัน แต่กลับรู้คำตอบของกันและกันอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องเอ่ยวาจาใดๆ...
"งั้นเหรอ?" ว่าพลางใช้แขนเกี่ยวลำคอของอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ๆ และซบใบหน้าลงบนบ่ากว้าง "นั่นสินะ... ทั้งๆ ที่ทั้งฉันแล้วก็แกควรจะชินชากับเรื่องแบบนี้ได้แล้วแท้ๆ"
"ฉันไม่เป็นไร นายพักผ่อนเถอะ" ร่างสูงรวบคนเจ็บมากอดหลวมๆ ครั้งหนึ่งราวกับจะปลอบใจอีกฝ่าย แล้วค่อยๆ คลายวงแขนออกช้าๆ ปลอบประโลมด้วยริมฝีปากที่ประทับลงบนหน้าผากของคนตัวเล็กอย่างแผ่วเบา แล้วจึงปล่อยร่างนั้นให้เป็นอิสระ
ร่างเล็กออกแรงดึงแขนแกร่งของอีกฝ่ายเข้าหาตัว ก่อนฉวยโอกาสประกบริมฝีปากกับหัวหน้าของตนโดยไม่ปล่อยให้เขาตั้งตัว เรียวลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้าไปในโพรงปาก หาความอบอุ่นที่มากกว่าผ้าคลุมสีเขียวเข้มที่คลุมร่างของตนอยู่ แต่ในขณะเดียวกัน แขนข้างหนึ่งของชายหนุ่มผมทองก็เลื่อนลงไปที่เอวด้านหลังของอีกฝ่าย รั้งเรือนกายเล็กนั้นเข้ามาแนบชิดราวกับจะรู้ล่วงหน้าว่าต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น มือใหญ่อีกข้างประคองใบหน้าคมนั้นไว้ ริมฝีปากหนาที่เปียกชื้นของชายหนุ่มค่อยๆ เลื่อนไปที่ผิวแก้มขาวทีละนิด ขยับมาหยอกล้อกับติ่งหูนิ่มด้วยปลายลิ้น ก่อนที่ริมฝีปากคู่นั้นจะวกกลับมาที่ปลายจมูก ไล่ลงไปถึงลำคอและฝากรอยช้ำแดงๆ ไว้สองสามรอยอย่างจงใจ
"...เอล..วิน..." ร่างเล็กหอบ สูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ครั้งหนึ่ง หลังจากกลายเป็นฝ่ายถูกอีกฝ่ายช่วงชิงลมหายใจไปเมื่อไรก็ไม่รู้ได้
ฝ่ามือเรียวยึดเรือนผมสีทองของคนตัวใหญ่ไว้ ขณะที่ผิวกายเริ่มถูกสัมผัสด้วยมือใหญ่ที่รั้งเสื้อเนื้อบางของเขาขึ้น ผ้าคลุมที่คลุมอยู่บนร่างเล็กถูกถึงออกอย่างไม่รีบร้อน แต่ก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อน
"อ๊ะ...ขอโทษ ฉันลืมไปว่านายเจ็บอยู่" คนตัวใหญ่กล่าวขอโทษออกมาเบาๆ และหยุดการกระทำทุกอย่าง
"ไม่...นั่นไม่ใช่ปัญหา" รีไวล์ดึงผ้าคลุมผืนที่อยู่ในมือของอีกฝ่ายกลับ ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย มองเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่คนมองกลับรู้สึกได้ถึงความไม่มั่นใจจางๆ ที่ซ่อนอยู่หลังดวงตาที่ดูเป็นเอกลักษณ์คู่นั้น
เอลวินถอยกลับมาตั้งหลัก มือกร้านจับมือเรียวเล็กของอีกฝ่ายขึ้นมาทาบบนหน้าอกข้างซ้ายของตนอย่างไม่รีบร้อน ก่อนเอ่ยประโยคย้ำความรู้สึกให้อีกฝ่ายมั่นใจ
"สัมผัสสิ รู้สึกไหม...?" ร่างสูงหลับตาลง ปล่อยให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงจังหวะของหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ของตน ".....ไม่ได้ตาย....ซะหน่อย...."
"ฉ...ฉันรู้แล้วน่ะ!" ร่างเล็กชักมือกลับหลังจากอีกฝ่ายช่วยยืนยันความไม่มั่นใจนั้นให้ตน แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะคืนผ้าคลุมที่อยู่บนตัวเขาให้เจ้าของ
"ทำไมล่ะ? อยากให้ฉันตายหรือไง?"
"อะ...เอาเป็นว่าฉันขอแลกผ้าคลุมกับแกแล้วกัน แกเอาของฉันไป!" ว่าแล้วก็รีบดึงผ้าคลุมผืนนั้นที่ก่อนหน้านี้เป็นของเอลวินซุกลงไปใต้หมอน ใบหน้าคมที่บัดนี้พยายามหลบสายตาอีกฝ่ายอย่างเต็มที่เริ่มมีสีแดงเรื่อขึ้นมา
"ฉันควรจะดีใจไหมนะ ที่เห็นนายหวงผ้าคลุมนั่นมากกว่าตัวฉันอีก..." น้ำเสียงนิ่ง... แต่ฟังดูราวกับจะตัดพ้อ.....
เป็นเรื่องที่หาดูได้ไม่ง่าย หรือหาดูไม่ได้เลยหากคนๆ นี้ไม่ได้อยู่กับเขา...
"คิดไปเองต่างหาก" รีไวล์งึมงำในลำคอ แต่ไม่ยอมหันกลับมาสบตา ฝ่ามือเรียวยกขึ้นมาปิดหน้า พยายามอย่างยิ่งที่จะซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงของเขา ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางปิดบังอะไรชายหนุ่มตรงหน้านี้ได้ก็ตาม
ร่างสูงใหญ่ขยับเข้ามาใกล้ แขนแกร่งทั้งสองข้างล็อคร่างของอีกฝ่ายไว้ไม่ให้ลุกหนี แล้วแกะมือของอีกฝ่ายออกจากใบหน้าคุ้นเคยนั้นช้าๆ
"ระหว่างฉันกับผ้าคลุมของฉัน นายห่วงอะไรมากกว่า?" เสียงแหบต่ำ หากฟังดูหนักแน่น... เจือไปด้วยความรู้สึกน้อยใจจางๆ "...รีไวล์...."
เสียงกระซิบทุ้มต่ำนั้นดังก้องอยู่ภายในโสตประสาทของคนฟัง ยิ่งทำให้ทั้งจังหวะการเต้นของหัวใจและแรงดันเลือดในร่างของคนเจ็บเพิ่มขึ้นไปอีก...
- หมอนี่... ทั้งๆ ที่เลือดเย็นขนาดปล่อยให้คนอื่นตายไปต่อหน้าต่อตาได้แท้ๆ...
คนเจ็บกำหมัดแน่น ขณะรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ของอีกฝ่ายที่เป่ารดอยู่ข้างใบหูราวกับต้องการจะกลั่นแกล้ง
"แก...น่าจะรู้คำตอบนั้นอยู่แก่ใจ..."
- ไม่ใช่หรือไง?
ได้ยินเสียงหัวเราะหึเบาๆ ในลำคอ ก่อนที่เขาทั้งสองจะปล่อยตัวไปกับความหฤหรรษ์เพียงอย่างเดียวที่สามารถทำให้กันได้ในช่วงที่เหล่ามวลมนุษย์มีสงครามและคนตายมากมายขนาดนี้...
ฝ่ามือแกร่งลูบไล้ไปตามผิวกายสมชายชาตรี ภายใต้เสื้อผ้าชิ้นบางที่ถูกทอขึ้นสำหรับคนเจ็บ ร่างใหญ่ขยับตัวของเขาขึ้นมาทาบทับร่างบนเตียง ก่อนค่อยๆ เลิกเสื้ออีกฝ่ายขึ้นช้าๆ ริมฝีปากหนาพรมจูบไปทั่วบริเวณ สูดกลิ่นกายหอมหวานจากทุกส่วนของร่างนั้นโดยไม่มีเสี้ยวของความเกรงใจเหลืออยู่
มือบางกำเส้นผมสีทองไว้แน่นเมื่อปลายลิ้นร้อนลากผ่านส่วนอ่อนไหวภายใต้กางเกงผ้าเนื้อบาง และใช้เวลาไม่นานนักในการทำให้มันตื่นขึ้นมา... กลีบริมฝีปากบางทั้งสองเม้มแน่น และถูกปิดอีกชั้นด้วยฝ่ามือ พยายามกลั้นไม่ให้ตนปล่อยเสียงน่าอายต่อหน้าหัวหน้าของเขา
...ไม่นาน เสื้อผ้าของรีไวล์ก็ถูกโยนลงไปกองอยู่บนพื้นข้างๆ เตียง... เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าที่ปรากฏสู่สายตาคนมอง
"เอลวิน..." ร่างเล็กเอ่ยเสียงสั่น ก่อนดึงคอเสื้อของอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้และกระชากกระดุมเสื้อของร่างตรงหน้าออก แขนเรียวทั้งสองวนขึ้นไปคล้องคออีกฝ่าย ยกสะโพกขึ้นแนบกับร่างหนาและจูบที่ริมฝีปากอย่างดูดดื่ม ขยับเรื่อยมายังกรามแกร่ง พ่นลมหายใจใส่ใบหูของอีกฝ่ายอย่างจงใจ
"จะให้ทำถึงขนาดนั้นเลยหรือไง?" ร่างสูงเอ่ยถามไปตามมารยาท เพราะถึงคนถามจะปฏิเสธ แต่ถ้ายังทำแบบนี้ต่อไป ขีดความอดทนของเขาก็คงรับไม่ไหวเหมือนกัน
"ก็เห็นแกไม่ยอมเริ่มซักทีนี่..." รีไวล์หัวเราะหึ ไล้มือลงไปปลดสายเข็มขัดที่กางเกงของอีกฝ่าย
"ไม่กลัวคนมาเห็นนายกับฉันในสภาพแบบนี้เหรอ?"
"...ทำซะขนาดนี้ยังมีหน้ามาห่วงเรื่องที่คนอื่นจะเห็นอีก? หน้าด้านชะมัด" คนตัวเล็กตอกกลับหน้าตาย แต่ก็รู้อยู่แล้วว่าเอลวินไม่น่าจะไม่รอบคอบขนาดไม่ล็อคประตูห้องทุกครั้งที่เข้ามาหาเขา
"ฮะๆ... พูดได้ตรงดี สมกับเป็นนาย..."
- ใครจะไปคิดลึกลับ คิดซับซ้อนได้แบบนายกันวะ?
ความคิดนั้นได้แต่อยู่ในใจ ไม่ได้ถูกเอ่ยออกมา...
ปลายนิ้วแกร่งลากผ่านกล้ามเนื้อส่วนหลังของร่างเล็กอย่างเชื่องช้า ขยับเลื่อนไปบริเวณสะโพกมน ก่อนชำแรกเข้าสู่ช่องทางเบื้องหลังอย่างเบามือ เรียกเสียงครางสั่นในลำคอของฝ่ายถูกกระทำได้ชะงัด...
"ถ้าเจ็บก็บอกนะ..." เสียงกระซิบทุ้มต่ำข้างใบหูเจือไปด้วยความเป็นห่วง
"หนวก...หู!" ว่าพลางรั้งลำคอแกร่งไว้แน่นเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยว พร้อมๆ กับเป็นที่ระบายความรู้สึกอื่นๆ ที่ได้รับมาทั้งจากการกระทำและความรู้สึก "...ไม่ใช่ครั้งแรก... ซะหน่อย..."
"ฉันหมายถึง...ขานายด้วย..." แต่ถึงพูดออกไปแบบนั้น เขาก็ไม่ได้หยุดการกระทำ กลับกัน ...ออกจะเพิ่มความเร็วขึ้นเล็กน้อยด้วยซ้ำ
"อ...อ๊ะ" ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก หลังจากที่ถูกอีกฝ่ายสอดแทรกสิ่งแปลกปลอมเพิ่มเข้ามาในร่างกายโดยไม่ทันตั้งตัว
"...ดีไหม?" เสียงทุ้มนุ่มที่ติดจะหอบนิดๆ เอ่ยถามแผ่วๆ ในเวลาเดียวกันกับที่ปลายนิ้วส่วนที่อยู่ในร่างของอีกฝ่ายเริ่มขยับ
คนถูกถามกัดฟันกรอด รู้สึกโมโหกับการกระทำของบุคคลตรงหน้า แต่ร่างกายกลับตอบสนองตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง...
ความรู้สึกวาบจากเรือนกายเบื้องล่างแล่นเข้าสู่ไขสันหลังและส่งตรงไปยังสมองให้แปลผลความรู้สึกนั้นและตอบสนองออกมาเป็นเสียงร้องในลำคอเบาๆ หลังจากที่ปลายนิ้วแกร่งสัมผัสถูกตรงจุดให้ความรู้สึก
ดูเหมือนเอลวินจะรู้ถึงเรื่องนี้ และจงใจสัมผัสที่จุดเดิมซ้ำๆ เพื่อฟังเสียงครางเบาๆ ของอีกฝ่าย พร้อมๆ กับริมฝีปากที่ขบเม้มติ่งเนื้อบนหน้าอกเพื่อช่วยปลุกความต้องการในตัวของร่างเล็กให้มากขึ้นไปอีก
ส่วนรีไวล์... ทำได้แค่ดื่มดำกับความรู้สึกที่เขามอบให้
"ไอ้...บ้าเอ๊ย..." กำปั้นหลุนๆ ทุบเข้าที่แผ่นหลังกว้างด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่เขาจะผลักร่างที่ใหญ่กว่าตนให้ล้มลงนอนบนเตียงคนไข้ที่คับแคบนั่น ส่วนตัวเขาพลิกกลับขึ้นมานั่งคร่อมสะโพกหนาของอีกฝ่ายอยู่ข้างบน "อย่าคิดว่าแกจะได้แกล้งฉันคนเดียวนะ เอลวิน!"
เอลวินไม่ได้มีท่าทีตอบโต้อะไรราวกับจะรู้ล่วงหน้าว่าคนตัวเล็กกว่าจะต้องทำแบบนี้
- ทำหน้าเหมือนรู้ไปหมดทุกอย่างอย่างนั้นแหละ แกนี่มัน...!
"ฉันกลัวนายเจ็บ..." ร่างสูงที่ตกเป็นฝ่ายอยู่ข้างล่างตอบคำถามที่ยังไม่ถูกถามออกมาโดยเสร็จสรรพ ไม่รอให้ร่างเล็กต้องเอ่ยปากถามออกมา "ฉันกลัวว่าฉันจะไปบีบแผลนายเข้าน่ะ..."
- คิดมากไปก็กลายเป็นงี่เง่า ไอ้บ้านี่! ฉันไม่ตายง่ายๆ หรอกเฟ้ย!
"หนวกหู! ไอ้บ้าเลือดเย็นอย่างแกเคยมีความรู้สึกแบบนี้อยู่ในหัวด้วยหรือไง?" ร่างเล็กกระชากเสียงไม่พอใจ
"มีสิ...เมื่อก่อนก็มี แต่คนที่มีความรู้สึกแบบนั้นด้วยน่ะ ตายไปหมดแล้ว... ตายต่อหน้าฉันเลยก็มี..." เขาแค่นหัวเราะ ดวงตาสีฟ้าครามนั้นยังคงนิ่งราวกับเห็นเป็นเรื่องตลก ก่อนที่จะหันมาสบตากับดวงตาสีนิลของอีกฝ่ายที่กำลังสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นภายนอกหน้าต่าง มือแกร่งคว้าเอามือที่เล็กกว่ามาบีบเบาๆ "...เหลือแค่นาย...คนเดียว..."
น้ำเสียงนั้นหนักแน่น... จริงใจ....
ทำเอาคนฟังรู้สึกใจหายกับความจริงนั้น...
จริงๆ แล้วเหตุผลที่เขาเลือดเย็นอาจจะไม่ใช่เพราะเขาไม่รักใคร
...แต่ไม่มีใครหลงเหลือไว้ให้รักแล้วต่างหาก
"เฮอะ... จะยังไงก็ช่างเถอะ" รีไวล์พยายามเบี่ยงประเด็นออกจากเรื่องที่กำลังพูดถึง ก่อนที่ความร้อนและน้ำในร่างกายจะมารวมกันที่ดวงตาเสียหมด "แกไม่ทำฉันทำเอง..."
"ไม่ว่ายังไง... นายก็ห้ามตายนะ รีไวล์..."
"หนวกหู! แกนี่ทำอะไรไม่เคยได้ดั่งใจฉันเลย ให้ตายสิ!" คนเจ็บรีบตัดบทก่อนที่อีกฝ่ายจะได้พูดอะไรต่อ และจัดการกับกางเกงของร่างสูงที่นอนอยู่ภายใต้ร่างของเขาด้วยรู้สึกว่ามันเกะกะลูกตานัก "ฉันไม่ตายง่ายๆ หรอก แต่แกนั่นแหละ....."
ร่างเล็กใช้เวลาไม่นานในการทำให้ความต้องการของอีกฝ่ายนูนขึ้นจากภายใต้กางเกงชั้นใน มือเรียวสัมผัสส่วนนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าสลับกับเรียวลิ้นที่ตวัดชิมรสของมันผ่านผ้าเนื้อบาง พร้อมกับใช้ฟันงับมันเบาๆ อย่างมันเขี้ยวจนอีกฝ่ายต้องส่งเสียงในลำคอระบายความรู้สึกออกมา
"เพิ่งจะเห็นคนตายมา แต่ก็ทำเรื่องแบบนี้ได้หน้าตาเฉยเลยนะ" รีไวล์พูดประชด... แต่ในบางครั้งตัวเขาเองก็เป็นแบบนั้น "รู้สึกดีไหมล่ะ?"
"ไม่ต่างอะไรกับนายนี่" ร่างใหญ่หัวเราะหึ ขณะที่อีกฝ่ายรูดกางเกงชั้นในของเขาลง เผยให้เห็นความต้องการขนาดใหญ่ที่ถูกปลุกเร้ามาอย่างเต็มที่ด้วยฝีมือ...และฝีปากของร่างเล็กตรงหน้า "อยากให้ช่วยไหม?"
"นอนนิ่งๆ ไปเหอะ ฉันทำเองได้ อย่ามาปากดีนักเลย" พูดพลางค่อยๆ ขยับสะโพกของตนขึ้นทาบทับส่วนไวสัมผัสนั้นของอีกฝ่ายโดยไม่รีรอ "อย่าร้องไห้แล้วกัน"
มือหนึ่งเกาะกุมบนหน้าท้องแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อเพื่อพยุงตัว อีกมือหนึ่งรั้งแกนกลางกายของคนตัวใหญ่ที่นอนอยู่เบื้องล่าง ก่อนค่อยๆ สอดแทรกความร้อนที่แทบทำให้หลอมละลายนั้นเข้าไปภายในกายของตนช้าๆ...
เจ็บ...
แต่ได้ความรู้สึกเร่าร้อนกลับมา...
...คุ้มค่าที่จะแลกไหมนะ?
"อึก..." ร่างเล็กพยายามสกัดกลั้นเสียงของตนด้วยมือทั้งสองข้าง ขณะที่สะโพกหนานั้นฉวยโอกาสแทรกกายเข้ามาอีกครั้ง...และอีกครั้ง...
เสียงกายเนื้อที่เสียดสีกันครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงหอบหายใจ เสียงครางสั่นหวานดังก้องไปทั่วทั้งห้อง...
...ทำให้ฝ่ายถูกกระทำต้องหลบหน้าโดยการทิ้งตัวลงซบบนแผ่นอกกว้าง
ใบหน้าคมบัดนี้กลายเป็นสีแดงก่ำ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ด้วยความโกรธ ขณะที่มือใหญ่ยึดสะโพกมนไว้พร้อมกับขยับกายสอดแทรกส่วนร้อนระอุเข้าไปในช่องทางที่ร้อนยิ่งกว่า และถอนมันออกมาก่อนจะดันสิ่งใหญ่โตนั้นกลับเข้าไปอีกด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนร่างกายของคนเจ็บแทบจะแยกเป็นสองส่วน
แต่กลับไม่ถูกปฏิเสธ...
"เอล..." เสียงของรีไวล์ขาดห้วง... "...วิน...."
"...เจ็บ...รึเปล่า?"
"หุบปากไป!" ไม่พูดเปล่าแต่ปล่อยหมัดหนักๆ เข้าที่แผ่นอกกำยำเป็นการสั่งสอน
- ทำขนาดนี้แล้วเพิ่งจะมาถามเนี่ยนะ แกมันโง่หรือซื่อบื้อกันแน่วะ!?
"รีไวล์..." ชายหนุ่มร่างใหญ่ค่อยๆ ผ่อนจังหวะลงช้าๆ และลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ก่อนจัดท่านั่งให้อีกฝ่ายเสร็จสรรพ
ทั้งๆ ที่ส่วนนั้นยังคงคาอยู่ในร่างของอีกฝ่าย...
"อ.. ไอ้บ้า แกจะทำอะไรวะ!" คนตัวเล็กสบถเบาๆ ขณะถูกอุ้มขึ้นมานั่งบนตักของอีกฝ่าย ขาทั้งสองข้างของเขาถูกแยกออกด้วยความกว้างของสะโพก ศูนย์กลางความร้อนที่รุกเข้ามาภายในกายปรากฏสู่สายตาทำให้รู้สึกถึงชีพจรของเจ้าของได้กลายๆ ก่อนที่ใบหน้าและดวงตาจะถูกเบี่ยงขึ้นมาพร้อมๆ กับที่กลีบริมฝีปากทั้งสองถูกครอบครองอีกครั้ง
"ฉันอยากจูบนาย..." คนถูกถามเอ่ยตอบตามตรง ก่อนค่อยๆ บดเบียดสะโพกหนาเข้ากับสะโพกมนอีกครั้งจนคนถูกกระทำสะดุ้งเฮือก
"แก...! ถ้าจูบก่อนแล้วค่อยบอกแบบนี้ไม่ต้องบอกก็ได้โว้ย!" ใบหน้าแดงก่ำแสดงถึงความไม่พอใจราวกับเป็นเด็ก ส่วนคนมองก็ได้แต่ยิ้มจางๆ
"อา...ขอโทษ... งั้นคราวนี้ช่วยกอดคอฉันแน่นๆ ทีสิ" ใบหน้าหล่อเหลาซบลงบนบ่าเล็กๆ ริมฝีปากประทับรอยจูบที่ต้นคอและเลื่อนลงไปที่ติ่งเนื้อทั้งสองข้างบนเผ่นอก ส่วนมือแกร่งทั้งสองข้างยึดสะโพกมนไว้แน่น "ฉันจะทำต่อแล้วนะ..."
เสียงแผ่วๆ ที่ดูเหมือนจะขออนุญาตนั้นไม่ได้รับการตอบกลับ...
แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะไม่อยากตอบ แต่เขาไม่เปิดโอกาสให้ตอบต่างหาก...
"ไอ้...เวรเอ๊ย!" เสียงของรีไวล์หอบหนัก ท่อนแขนเรียวทั้งสองข้างยึดลำคอแข็งแรงของอีกฝ่ายแน่น ขณะที่กายแกร่งชำแรกลึกเข้ามาในร่างกายนับครั้งไม่ถ้วน หลอมละลายส่วนที่เชื่อมต่อกันระหว่างคนสองคนจนแทบจะเป็นจุดเดียว "ถ..ถามแบบไม่รอคำตอบแบบนี้...อะ..."
- คราวหน้า...แกไม่ต้องบอกก็ได้โว้ย!
หยาดเหงื่อผุดพรายขึ้นทีละหยด ทีละหยด... จนร่างทั้งสองร่างเปียกชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ ทั้งบนใบหน้า เรือนผม ผิวหนัง เรือนกายแทบจะทุกส่วน...
เสียงของความเปียกชื้นนั้น ยิ่งขับเร้าอารมณ์ให้ปะทุรุนแรงขึ้นไปอีก...
"อ๊ะ...เอล.... วิน....!" ร่างเล็กซบใบหน้าลงกับบ่ากว้าง พร้อมๆ กับเสียงครางในลำคอเบาๆ ที่ถูกปล่อยออกมาในแต่ละครั้งหลังจากถูกแรงกระแทกจากเรือนกายเบื้องล่าง มือทั้งสองข้างบีบหลังของอีกฝ่ายเพื่อระบายความเจ็บ
"เสียงของนาย..." เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า และกอดร่างเล็กในอ้อมแขนไว้แน่น "ฉันอยากได้ยินมันอีก..."
"ไม่มีทาง! อะ..." รีไวล์ปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ถึงพูดไปแบบนั้นก็ไม่แน่ใจนักว่าจะทำได้ตามที่บอก
...และเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการปล่อยเสียงน่าอาจออกมาด้วยการครอบครองริมฝีปากหนาคู่นั้นแทน
เวลาผ่านไปเร็วนัก....
ร่างเล็กรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ถูกปล่อยออกมาภายในร่างกาย พร้อมๆ กับที่ร่างกายของเขาปลดปล่อยความรู้สึกที่สั่งสมออกมา ลมหายใจหนักหน่วงของคนทั้งสองยังคงไม่เป็นปกติ ทั้งร้อน คาว และชื้นไปด้วยกลิ่นเหงื่อ...
ทว่า... กายแกร่งที่เริ่มอ่อนตัวลงแล้วนั้นไม่ได้ถูกถอนออกจากร่างนั้นโดยทันที....
"ฉัน...อยากทำต่อ" คนเป็นหัวหน้าพูดหน้าตาย แม้ว่าเสียงจะขาดห้วงไปบ้าง แต่อีกฝ่ายไม่ทันได้ใส่ใจฟัง...
และเป็นอีกครั้งที่คนขอไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับ...
'---ซวบ...'
"อ๊าาา---!" เสียงครางสั่นหวานที่ไม่มีการสกัดกลั้นถูกปล่อยออกมาจากลำคอเล็กโดยไม่ทันตั้งตัว "ย...หยุดนะ! ไอ้..บ้านี่!"
- ไอ้กร๊วกเอ๊ยยยยย!!!! ไว้ฉันหายดีเมื่อไหร่ แกเตรียมตัวตายได้เลย เอลวิน!
รีไวล์ได้แต่คิดแค้นแกมเจ็บใจอยู่ในใจ หากแต่ร่างกายกลับไม่ยอมหยุดตอบสนองต่อสัมผัสของอีกฝ่าย ยิ่งทำให้เขารู้สึกอายมากขึ้นไปอีก
"ขอโทษ..." ร่างกำยำเอ่ยขอโทษแผ่วเบา ก่อนผลักร่างนั้นลงนอนบนเตียง "นายมัน...เร่าร้อนเกินไปแล้ว...."
คนฟังทำได้เพียงทำหน้าดุใส่ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้กับเสียงฉ่ำน้ำจากการเสียดสีที่ดังมาจากส่วนล่างของร่างกายและเบือนหน้าหนีไปพร้อมกับใช้ฝ่ามือปิดหน้าของตนไว้ ยิ่งจังหวะสอดแทรกเร่งเร็วขึ้น ยิ่งทำให้เขาอายจนแทบจะมุดดินหนี
ร่างกายของเขากับเอลวิน... ทำเสียงน่าอายขนาดนี้ออกมาได้ยังไงกัน!?
"แก..เป็นไอ้บ้ากามหรือไง?" รีไวล์ถาม เสียงลอดไรฟันออกมา "อ..เอล....ว...อ๊ะ...!"
"เฉพาะวันนี้...และเฉพาะกับนาย เท่านั้นแหละ"
"....."
"...ขอโทษนะ" เอลวินงึมงำในลำคอ และไม่ได้พูดอะไรต่อหลังจากนั้น...
...จนกระทั่งทั้งคู่ได้ปลดปล่อยความสุขสมร่วมกันอีกครั้ง
.
.
.
.
.
.
.
รีไวล์หลับไปหลังจากนั้นไม่นาน ขณะที่เอลวิน หลังจากที่จัดการกับเครื่องแบบตัวเองเรียบร้อยแล้วก็นั่งมองเขาอยู่ที่ขอบเตียงอย่างสงบ โดยไม่ได้พูดอะไรเป็นการรบกวน
สิ่งที่แปลกไปคือแววตาสีฟ้าครามนั้นสั่นไหว เหมือนเริ่มมีการแสดงความรู้สึกทางอารมณ์ขึ้นมา...
ชัดเจน...
เอลวินคว้าเอาผ้าคลุมสีเขียวประจำทีมสำรวจที่ถูกพับวางไว้บนโต๊ะที่หัวเตียงมาคลุมไหล่ตน ไล่สายตามองเจ้าของผ้าคลุมผืนนั้นที่กำลังนอนหลับสนิทเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง
ชายหนุ่มตัดสินใจก้มลงไปกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของอีกฝ่าย...
"ฉัน...ต้องไปแล้วล่ะนะ....."
เสียงนั้นสั่นเครือเบาๆ ผิดกับตัวเขาตอนปกติ....
มือแกร่งยกมือของอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างเบามือ มอบจุมพิตบนหลังมือของคนตัวเล็กเพื่อบอกลา
"ฉันรักนายนะ...รีไวล์..."
.
.
.
.
.
.
.
TBC (?)
Talk:
อนึ่ง... Hidden story ไม่อยากลงใน Exteen ทั้งหมดด้วยเหตุนี้แหละฮะ ฉาก xyz มันยาว เลยคิดว่ามันคงดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่... นะ... ;A;
เพราะงั้นใน Exteen เลยแปะลิงค์ไปโหลดไว้ให้เฉยๆ ฮะ (ไม่รู้มีคนหาเจอไหม ก้ากก)
แต่ในแอลเจนี่คือส่วนใหญ่ไม่มีคนเข้า (ถ้าไม่ได้ไปแจกลิงค์อะไรนัก) เลยคิดว่าคงปลอดภัยกว่าฮะ
แต่ปกติที่แอลเจนี่ผมจะเอาไว้ฝึกภาษาซะมากกว่า เพราะงั้นอย่าแปลกใจที่เจอแต่เอนทรีภาษาปะกิดเน้อขรั่บ ;v;
คอมเมนท์ติชม (และสครีม?) ได้ตามสบายนะฮะ เป็นกะลังใจย์ให้คนเขียน (?) ได้เยอะเลย
ขอบคุณมากที่แวะเข้ามาเยี่ยมกันคร้าบบบ ><
ปล. ของแถม... ในเอ็กซ์ทีนมีไปอันนึงแล้ว แต่อันนี้เป็นอีกอันนีงที่เป็น "คนพากย์" เอลวิน x รีไวล์ ครับผม #ไซโคเบาๆ
ใส่หูฟังก่อนแล้วจิ้มเช่นกันคร้าบบ... เสียงคงไม่เหมือนในอนิเมะซะทีเดียวหรอกนะฮะ แต่เป็นคนพากย์คนเดียวกัน QvQ ขอให้สนุกกับการฟัง ฮิฮิฮิฮิฮิ...
ฟังไปอ่านไปก็ได้นะ XD