Kis-My-World Concert Tour 2015 in Tokyo Dome
ตอนแรกคิดว่าน้องๆคงจะมีคอนลากยาวไปจนถึงปลายปีแบบปีที่แล้ว ก็กะว่าคงได้ไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อากาศเย็นบ้างหนาวบ้าง แต่เอาเข้าจริงๆ ประกาศคอนแบบรวบรัดสุดๆ ส.ค. เล่นโอซาก้าโดม ก.ย. เล่นฟุกุโอกะโดม และโตเกียวโดมแบบ 2 สัปดาห์ติด หมดกัน!! มันผิดแผนไปมาก เพราะส.ค. มีทริปไปดูคาบุกิของทักกี้ที่สิงคโปร์ ขืนมีทริปต่างประเทศ 2 ครั้งในเดือนเดียว คงได้โดนตัดออกจากกองมรดกแน่ๆ ^^” สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกโตเกียวโดม ด้วยความหวังที่ว่า อากาศมันจะไม่ร้อนตับแตกเท่าเดือน ส.ค. ที่เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของปีของญี่ปุ่น พอตกลงเรื่องเมืองกันได้ ก็แบ่งหน้าที่กันจองตั๋ว เราจองรอบวันที่ 19 ก.ย. ไป ส่วนอุ้มมี 2 เมม ก็จองรอบวันที่ 18 กับ 20 ไป พอประกาศผล ปรากฏว่าเมมเราไม่ได้ตั๋ว ส่วนอุ้มได้ทั้ง 2 เมมเลย ก็ยังโชคดีที่ได้ดู 2 รอบ แต่ช่วงก่อนจะมีคอน เรารู้สึกได้เลยว่าไทปี้ต้องโดนพักงานแหงๆ (คงมาจากข่าวเป็นแฟนกับน้องมิโอริจังนั่นแหละ) ช่วงนั้นน้องไม่มีงานนอกค่ายเลย รายการทีวีที่นอกจากรายการของวงที่ต้องออกพร้อมกันแล้ว ไทปี้ไม่ได้ไปออกรายการอื่นเลย มันก็เลยทำให้เรา 2 จิต 2 ใจ ว่าจะดูเพิ่มอีกรอบดีมั้ย สุดท้ายก็ลองไปส่องๆราคาตั๋วอ็อคดู มันก็ไม่ได้แพงเวอร์อะไร ก็เลยตัดสินใจอ็อคเพิ่มอีก 1 รอบ โดยยึดราคาตั๋วเป็นหลัก รอบไหนถูกกว่า ก็เอารอบนั้น สุดท้ายก็ได้ตั๋วรอบวันที่ 17 มาครอบครอง
2015.09.17 รอบเวลา 18:00 น. สแตนด์ชั้น 1 ประตูย่อยที่ 30 แถวที่ 25 เลขที่นั่ง 145 ตำแหน่งมันจะอยู่ตรงกลางแต่ค่อนไปทางซ้ายหน่อย ตอนดูผังมันโอเคเลยนะ แต่พอเข้ามาดูจริงๆ ดันเจอเสาบังซะงั้น ฮือๆๆๆ แต่พอหันมาดูเวทีที่ยื่นออกมาด้านหน้าสุด มันก็ใกล้อยู่แฮะ! ได้อย่างเสียอย่างก็ยังดีล่ะว๊า พอแสงไฟในโดมดับลง จอบนเวทีก็ฉายภาพน้องๆทีละคน พร้อมเพลง 4th Overture น้องๆอยู่ในชุดผ้าคลุมแบบแฮร์รี่พอตเตอร์ ชื่อของแต่ละคน ก็ใช้ฟ้อนต์จากเรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์เช่นกัน พอแนะนำตัวเสร็จ ทั้ง 7 คนในชุดเสื้อคลุมก็ออกมายืนกลางเวที แต่.. นั่นไม่ใช่น้องๆตัวจริง เพราะตัวจริงโผล่มาจากเวทีหน้าสุดด้วยการโหนสลิงขึ้นมาจากด้านล่าง เราก็กรี๊ดดดด!! เสียงหลงเลย แล้วคราวนี้น้องๆโหนสลิงสูงมากกก สูงขึ้นไปถึงสแตนด์ชั้น 3 เลย (มารู้ทีหลังจากข่าวทีวีว่าเป็นการโหนสลิงที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของคอนค่ายจอห์นนี่ส์เลย)
น้องๆเปิดตัวด้วย Brand New World แล้วก็ต่อด้วย Kiss Damashii / Everybody Go! แล้วก็จัดเพลงชุดใหญ่ เอาจริงๆเราว่าลิสเพลงช่วงแรก มันไม่ค่อยต่างจากคอนครั้งก่อนๆเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยได้สนใจเพลง เอาแต่มองน้องๆสลับกับมองบรรยากาศภายในโดม จากนั้นก็... จำอะไรไม่ได้แล้ว 555 จนมาถึงเพลง Kimi ni aeru kara เพลงโปรดของเราที่เอาไปทำเป็นริงโทนในมือถือด้วย ช่วงท้ายของเพลงนี้ ทามะกับมิยาตะหายไป ก็รู้เลยว่าเพลงต่อไปคือเพลงอะไร พอบนจอขึ้นภาพการ์ตูน Y เท่านั้นแหละ กรี๊ดดดดแตกกันทั้งฮอลล์ แล้วก็ตามด้วยภาพพรีเวดดิ้งของทามะกับมิยาตะ แล้วทั้ง 2 คนก็ออกมาในเพลง BE LOVE ทามะในชุดสูทสีขาว มิยาตะในชุดสูทสีดำ ค่อยๆเดินลงบันไดกันมา ก็มีแหย่กัน ผลักกัน จนลงมาถึงโซฟา มิยาตะก็คร่อมทามะเลย แล้วมิยาตะก็ควักแหวนเพชรวงเบ้อเริ่มออกมา คุกเข่าลงก็แล้วพูดขอทามะแต่งงาน ทามะอ้าปากหวอพอเห็นแหวนเพชรเม็ดตู้ม แล้วทามะก็พยักหน้าตกลง ทั้ง 2 เดินมาตรงเวทีกลาง ทามะใช้ผ้าคลุมปิดหน้าเจ้าสาว มิยาตะก็มาเปิดผ้าคลุมแล้วก็จ๊วบบบ!! แล้วทั้ง 2 ก็ได้แต่งงานกัน จั๊กกะเดี๋ยมจริงๆ 555
พอคู่นี้จบไป คู่ใหม่ก็มา จอบนเวทีฉายภาพน้องหมาน่ารัก แล้วไทปี้กับโยโกก็ออกมาในชุดน้องหมาสีชมพูหวานแหวว เคยเห็นรูปจากคอนรอบก่อนๆแล้วนะ แต่พอเห็นของจริง โอ๊ย!! โคตรน่ารัก เต้นกันดุ๊กดิ๊กๆ เวลาที่ไทปี้อยู่กับโยโกนี่ยอมทำทุกอย่างจริงๆ 555 แต่อันนี้น่ารักมาก ให้ผ่าน โดยเฉพาะฉายเหินฟ้าไล่ตามกระดูก โคตรน่าร๊ากกกกกกกก!! ไทปี้ท่าทางจะชอบเหินฟ้านะ เพราะท่าสวยตลอด พอนึกถึงแล้วก็อยากดู DVD เร็วๆจังเลย จากนั้น อีก 5 หนุ่มก็ขึ้นมาร้องเพลง ส่วนไทปี้กับโยโกก็รีบวิ่งเข้าไปเปลี่ยนชุด แล้วก็ออกมาพร้อมกัน เดินขึ้นเวทีไปเจอกันตรงกลาง แล้วก็วิ่งกึ่งกระโดดคู่กันไป น่ารักอีกแล้ว 555 ช่วงนี้ก็จัดเพลงเซ็ตใหญ่ไปอีก 1 เซ็ต แต่ที่ดีใจมากๆก็คือ น้องๆเอาเพลง Summer Lover มาร้องด้วย สงสัยเพราะเป็นคอนหน้าร้อนมั้ง ก็ได้แต่แอบหวังว่า ถ้ามีคอนช่วงหน้าหนาว น้องๆจะเอาเพลง Winter Lover มาร้องบ้างนะ เพราะเราชอบเพลงนี้มากกกกกกกกก
ในช่วง MC ก็ออกมาคุยนู่นนี่นั่นกัน แต่เราฟังไม่เข้าใจสักกะอย่าง แหะๆ จะรู้ก็แค่ตอนที่แนะนำผลงานซึ่งทามะกวาดเรียบ ทั้งหนัง ทั้งละคร ทั้งดรีมบอย ที่มีมิยาตะกับเซนกะแสดงด้วย ด้านคิตายาม่าก็กำลังจะมีละคร โยโกก็กำลังจะได้ออกรายการ วาไรตี้แบบฉายเดี่ยว จะมีก็ไทปี้กับนิกะ ที่เงียบเชียว จากนั้นบุไซขุก็กลับเข้าไปเปลี่ยนชุด เหลือ 3 หนุ่มไทปี้ คิตายาม่า ทามะ รับหน้าที่ MC กันต่อ ก็คุยกันไป แซวเรื่องตะกร้าน้ำอะไรก็ไม่รู้ คือ.. ไทปี้กับทามะช่วยกันถือตะกร้าขวดน้ำ แล้วคิตายาม่าก็แซวๆไร 2 คนนี้ไม่รู้ พอเถียงกันไปมาสักพัก ทามะกับไทปี้ก็พากันถือตะกร้าเข้าไป แล้วอยู่ๆไทปี้ก็เดินออกมาคนเดียว เหมือนไทปี้จะบอกว่าโดนทามะไล่ให้ออกมานะ 555 ก็เลยเหลือไทปี้ยืนคุยกับคิตายาม่าแค่ 2 คน (แอบเกร็งกันมั้ยล่ะเนี่ย ^^”) พอจบช่วง MC บุไซขุก็ขึ้นมาทั้งร้องทั้งเต้นในเพลง Busaiku และ TTii Tii Tii Terette Tereti Ti Ti ~Dare no Ketsu~ จากนั้นอีก 3 หนุ่มก็ออกมาสมทบ แล้วก็ร้องเพลงไปอีกชุดใหญ่ จนมาจบด้วยเกมลอดบาร์ ด้วยการทำสถิติลอดบาร์ให้ได้ต่ำที่สุด วันนี้ลอดไป 3 รอบ ไม่แน่ใจว่าได้กี่ cm. เอาเป็นว่า ลอดผ่านได้ 2 ครั้ง ครั้งที่ 3 เดี้ยงละ จากนั้นทั้ง 7 หนุ่มก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วกลับออกมาในชุด “ภูติจิ๋วติดปีก” (เราตั้งเองนะ) ทุกคนจะใส่ชุดแบบภูติจิ๋วตามสีของตัวเอง พร้อมกับติดปีกด้วย มิยาตะรับหน้าที่พิธีกรช่วงนี้ แนะนำเมมเบอร์แต่ละคน ที่จะออกท่าออกทางแตกต่างกันไป คนอื่นทำท่าไรบ้างจำไม่ได้ละ แต่เราจำของไทปี้ได้แม่นมาก เพราะไทปี้ขึ้นมา แล้วก็พูดคำเดียวสั้นๆว่า “GETS!” แล้วก็ไปนั่งหัวเราะ 555 พอแนะนำครบ ก็จะเป็นคำถามให้ตอบ คราวนี้เราไม่เข้าใจเลยสักกะรอบ T-T แต่ไอ้ว่า GETS ของไทปี้เนี่ย โดนเซ็นจังเอาไปเล่นมุกตั้ง 2 รอบแน่ะ อิอิ รอบนี้ ถ้าใครตอบคำถามแล้วไม่ถูกใจกรรมการ ก็จะโดนทำโทษด้วยการให้เกาะลูกโป่งใหญ่ลูกเท่าคน แล้วลูกโป่งก็จะถูกเจาะให้แตก พอตอบคำถามครบ ก็ร้องเพลงドキドキでYEEEAAAHHH!! พร้อมกับท่าน่ารักๆ ก่อนจะกลับเข้าไปหลังเวที และจอ LED ก็ฉายภาพทั้ง 7 คนกลับเข้าไปในบ้าน แล้วก็จะสับคัทเอ้าท์อันใหญ่ที่อยู่ด้านบน แต่เพราะมันอยู่สูง เลยสับไม่ถึง ก็คิดหาวิธีกันไป อันนี้เล่าไม่ถูกอะ รู้แต่ตลกมากกกกก อยากให้ใน DVD เอามาออกทุกรอบเลย เพราะแต่ละรอบ วิธีการก็ไม่เหมือนกัน แต่ฮาทุกอัน คอนเฟิร์ม!!!
จากนั้นทั้ง 7 หนุ่มก็ออกมาพร้อมกับรองเท้าสเก็ตติดไฟในเพลง Kis-My-Venus ดีใจ ที่ได้ฟังเพลงนี้แบบสดๆสักที เซ็ตนี้ก็ ร้องกันชุดใหญ่และมีอุปกรณ์เป็นร่มติดไฟมาใช้แปรขบวนกันด้วย จากนั้นก็ถึงคิวดูโอ้ เซนกะกับนิกะจังในเพลง Double Up 2 คนเต้นกันสุดๆเลย ตอนแรกเต้นอยู่กลางเวที แล้วอยู่ๆก็มาโผล่เวทีหน้าสุด พอ 2 หนุ่มลงไป ก็ถึงคิวไทปี้กับคิตะตรงเวทีกลาง ขึ้นมาพร้อมกับกีตาร์คู่ที่คิตายาม่าซื้อให้ตัวเองและให้ไทปี้ ก่อนจะเล่นก็มีคุยกันแบบ ถามคำ ตอบคำ ถามโดยใช้เสียงกีตาร์ช่วยสร้างบรรยากาศประหนึ่งตลกคาเฟ่ แล้วทั้ง 2 คนก็เล่นกีตาร์สด ร้องสดในเพลง Akashi เพราะมากกกกกกกก ร้องไปกลางเพลง ดนตรีชุดใหญ่ก็เริ่มบรรเลง แต่จริงๆร้องเพลงนี้ไม่จบทั้งเพลงหรอก มันถูกตัดไปหน่อยนึง เพราะทั้งคู่เอาเพลง FIER!!! ขึ้นมาร้องต่อ พอคล้องแขนกัน แฟนๆก็กรี๊ดดดอีกตามเคย 555
หมดช่วงดูโอ้ ก็เข้าสู่โหมดเพลงร็อค เริ่มด้วยเพลง Hair แล้วหนุ่มๆก็เดินมาตรงเวทีด้านหน้าสุดในเพลง Eternal Mind ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราโคตรชอบ เพราะเอ็ฟเฟ็กกระจาย ทั้งพลุ ทั้งไฟ เพลงก็มันส์อยู่แล้ว มาเจอพลุที่ดังปังๆ ดังทีเราก็กรี๊ดที เพราะมันตกใจ พอไฟพุ่งขึ้นทีก็ร้อนว้าบเลย กว่าจะจบเพลงนี้ เผลอกรี๊ดเพราะตกใจไปตั้งไม่รู้กี่รอบ 555 แล้วไฟอะ มันร้อนมากจริงๆ ขนาดเราอยู่ห่างจากเวที ยังร้อนขนาดนี้ แล้วน้องๆที่อยู่บนเวที จะร้อนขนาดไหนเนี่ย??
แล้วก็เข้าสู่ช่วงซึ้งๆกับเพลง Sakura Hirari ที่เป็นเพลงที่เราชอบมากกกกอีกเพลง และดีใจมากกกกที่ได้ฟังแบบสดๆ เพลงนี้ทำให้บรรยากาศในคอนสวยมากกกก เพราะต้องใช้แท่งไฟเข้าช่วย แท่งไฟคราวนี้จะกดเปลี่ยนสีได้ทั้งหมด 8 สี คือสีประจำตัวน้องๆ 7 สี กับสีขาวอีก 1 สี ซึ่งสีมันจะเรียงตามลำดับการร้องของน้องๆในเพลง Sakura Hirari นี่แหละ ก่อนจะร้อง คิตะก็จะสอนก่อนว่าต้องทำยังไง บนจอจะมีรูปนาฬิกากำลังแกว่งอยู่ แล้วพอตัวเลขที่มา 3 2 1 ก็ให้กดเปลี่ยนสีที่แท่งไฟ ระหว่างร้องเพลงนี้ ให้ดูสัญญาณ 3 2 1 บนจอไปด้วย แล้วก็กดไปเรื่อยๆ จนจบเพลง โดยจะเริ่มจากสีชมพูของไทปี้ - สีเขียวของนิกะจัง - สีแดงของคิตะ - สีเหลืองของทามะจัง - สีม่วงของมิยาตะ - สีส้มของโยโก - สีฟ้าของเซนจัง - ปิดท้ายเพลงด้วยสีขาว แต่พอจบเพลงก็มีเซอร์ไพรส์ เนื่องจากวันนี้ เป็นวันเกิดครบ 30 ปีของคิตายาม่า ก็เลยมีการทำโปรเจ็คเบิร์ทเดย์ให้กับคิตะ ตอนจบเพลงแท่งไฟทุกคนจะเป็นสีขาว แต่แฟนๆที่นั่งอยู่ในโซนโปรเจ็ค จะเปลี่ยนสีแท่งไฟเป็นสีแดง เพื่อแปรอักษรเป็นคำอวยพรวันเกิดให้คิตายาม่า จากนั้นไทปี้กับโยโกก็เข็นเค้กสุดครีเอทก้อนใหญ่ออกมา เป็นเค้กที่มีรูปคิตะ ตกแต่งด้วยเกี๊ยวซ่ากับลูกชิ้นแผ่นเกลียวสีชมพูที่ใส่ในราเมน เพราะคิตะชอบกินเกี๊ยวซ่ากับราเมน จากนั้นก็จุดเทียน แล้วทุกคนก็ร่วมกันร้องเพลง Happy Birthday ให้คิตะ แล้วพอคุยไปคุยมา สรุปว่าเค้กก้อนนี้ เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของไทปี้นั่นเอง เมมเบอร์สงสัยกันว่าเกี๊ยวซ่าเนี่ย มันของจริงป่าว ก็เลยให้คิตะลองกินเกี๊ยวซ่าดูว่าใช่ของจริงมั้ย คิตะก็หยิบมากินชิ้นนึง สรุปว่ามันเป็นช็อกโกแลต เท่านั้นยังไม่พอ ไทปี้ยังเซอร์ไพรส์ด้วยของขวัญอีก 3 ชิ้น แฟนๆก็ตะโกนให้แกะๆๆ คิตะก็แกะแล้วแง้มๆดู แล้วก็บอกว่ากล่องมันสีดำๆแฮะ มิยาตะบอกว่า สงสัยเป็นเครื่องเล่น MD แหงๆเลย (อ้อ.. มิยาตะมีแซวทีเล่นทีจริงว่าวันเกิดตัวเองไม่ตรงกับคอน เลยไม่มีเซอร์ไพรส์แบบนี้บ้าง) แต่สุดท้าย คิตะก็ไม่ยอมแกะของขวัญออกมาโชว์ T-T ก่อนหน้านี้รู้สึกมาตลอดว่าไทปี้กับคิตะต้องมีปัญหาไรกันแหงๆ เพราะตอนก่อนเดบิวต์กับหลังเดบิวต์ ความสัมพันธ์ของ 2 คนนี้ดูต่างกันมาก ดูพวกเบื้องหลังยิ่งเห็นชัด เพราะไม่มีช็อต 2 คนนี้ด้วยกันเลย แถมยังมีปฏิกิริยาแปลกๆจากเมมเบอร์ด้วย ทั้งในคอน ทั้งในรายการวาไรตี้ จนมาถึงช่วงที่คิตะซื้อกีตาร์ให้ไทปี้นั่นแหละ อะไรๆถึงได้ดูดีขึ้น จริงๆมันก็มีแฟนๆฝั่งที่คิดว่า 2 คนนี้มีปัญหากัน และฝั่งที่คิดว่าไม่มีอะไรกันหรอก แต่ก็คงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเจ้าตัวอะนะ แต่ถึงจะมีหรือไม่มีปัญหากันก็ช่างมันเถอะ เพราะตอนนี้ทุกอย่างมันก็เข้าที่เข้าทางแล้วล่ะ ^^
พอเบิร์ทเดย์ให้คิตะจบ ก็มาถึงเพลงสุดท้าย กับเพลง KISS & PEACE ทั้ง 7 คนถอดเสื้อคลุมออก เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมหมวกตามสีประจำตัว แล้วก็นั่งบนชิงช้าที่ลอยตัวสูงขึ้น ไปข้างบน พอร้องไปจนถึงช่วงท้ายเพลง เซนกะก็บอกให้ทุกคนเก็บแท่งไฟกับพัดลงไป (เราฟังไม่รู้เรื่องหรอก อาศัยดูจากชาวบ้านเอา 555) จากนั้นก็ให้ทุกคนจับมือกัน ด้านขวาเราเป็นคุณน้าผู้หญิง ด้านซ้ายเราเป็นสาววัยรุ่น ก็จับมือกัน ร้องเพลงกันไปจนจบเพลง แล้วหนุ่มๆก็ร่ำลากลับเข้าไปหลังเวที
ตามทำเนียมคอนญี่ปุ่น มันต้องมีอังกอร์ แล้ว 4 หนุ่มบุไซขุก็ออกมาพร้อมอาวุธครบมือ มิยาตะประจำกลอง เซนกะประจำคีย์บอร์ด นิกะจังประจำที่เบส และโยโกประจำที่กีตาร์ แล้วทั้ง 4 ก็บรรเลงเพลง Yacchatta กันแบบเมามันส์ รายการ UTAGE มันดีจริงๆ ที่ช่วยดันน้องๆได้ถึงขนาดนี้ ยอมรับเลยว่าช่วงนี้มันส์กันมากกกกกก จากนั้นทั้ง 7 คนก็สอนท่าเต้นเพลง Thank you jan! ให้ร้องให้เต้นไปพร้อมๆกัน ถ้าจำไม่ผิด มียิงสายรุ้งในเพลงนี้นี่แหละ จริงๆเราคว้าได้นะ แต่คุณน้าข้างเราดึงไม่ปล่อยเลย เราก็เลยยอมปล่อยให้แกไป แต่แอบงงตรงคนข้างหน้าที่หันมาถามแกว่าได้สายรุ้งมั้ย แกดันบอกว่าไม่ได้ คนข้างหน้าก็ตัดของตัวเองแบ่งให้แกไปครึ่งนึง รู้งี้ไม่ปล่อยให้แกซะก็ดี เหอๆๆๆ จากนั้น น้องๆก็เข้าไปอีก แต่แฟนๆก็ยังไม่กลับ
อังกอร์รอบ 2 น้องๆออกมาพร้อมกับรถเข็นคันใหญ่ ร้องเพลงอื่นๆที่ยังไมได้ร้องในคอนอย่าง Hikari no Signal / Kimito no Kiseki / Kiss-My-Calling! ในเพลง Kiss-My-Calling! คิตะกับไทปี้มีเปลี่ยนเนื้อกันด้วยนะ ไทปี้เนื้อที่ต้องพูดถึงคิตะเป็น Omedatou Kitayama-kun แล้วคิตะก็ตอบกลับว่า Arigato Fujigaya ประมาณนี้แหละ แล้วคอนรอบแรกของโตเกียวโดมก็จบลงอย่างสวยงาม
2015.09.18 รอบเวลา 18:00 น. สแตนด์ชั้น 1 ประตูย่อยที่ 36 แถวที่ 23 เลขที่นั่ง 266 วันนี้ที่นั่งค่อนมาทางซ้ายของเวทีมากกว่าเดิม และไม่โดนเสาบังแล้ว คอนวันนี้ก็สนุกเหมือนเดิม แต่จำไม่ได้แล้วว่ามีอะไรต่างจากรอบแรกบ้าง ข้ามไปรอบสุดท้ายเลยก็แล้วกัน :P
2015.09.20 รอบเวลา 17:00 น. สแตนด์ชั้น 3 ประตูย่อยที่ 10 แถวที่ 27 เลขที่นั่ง 183 เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งยอดโดม ยอดแบบแถวสุดท้ายของโดมอะ เตรียมพร้อมยืมกล้องส่องทางไกลของเพื่อนมาเรียบร้อย แต่พอมาถึงหน้าโดม เห็นมีบูธขายกล้องส่องทางไกลของโตเกียวโดมอยู่ ก็เลยไปหยิบๆมาดู ปรากฏว่ามันเวิร์คมาก เทพมากก ราคาก็ไม่แพงด้วย ก็เลยได้ถอยกล้องส่องทางไกลยี่ห้อ Tokyo Dome เป็นของตัวเอง แล้วก็ใช้ตัวนี้ส่องตลอดตั้งแต่ต้นจนจบคอนเลย คอนคราวนี้ ลำดับเพลงทุกรอบเหมือนกันหมดเลย จะต่างก็ตรงช่วง MC กับช่วงภูติจิ๋วติดปีกนั่นแหละ แต่รอบนี้มันเด็ดตรงช่วง MC เพราะพอเข้าช่วง MC น้องๆยังไม่ทันจะได้พูดได้คุยอะไรสักเท่าไหร่ อยู่ๆแฟนๆก็พากันกรี๊ดดดด น้องๆก็งง กรี๊ดไรกัน ไทปี้นี่งงมาก ถึงกับมองหันซ้าย หันขวา หันหน้า หันหลัง ว่ามีอะไร สักพัก กล้องก็ตามไปจบภาพได้ว่าแฟนๆกรี๊ดอะไร พอภาพขึ้นจอเท่านั้นแหละ กรี๊ดดดสัน่นกันทั้งโดม เพราะนากาอิซัง SMAP กำลังเดินแจกหนังสือพิมพ์อยู่ แล้วนากาอิก็เอาไปแจกให้เมมเบอร์ด้วย พออ่านดู มันคือข่าวอัลบั้มแรกของบุไซขุ บุไซขุดีใจกันยกใหญ่ ส่วนอีก 3 หนุ่มก็ยืนกันนิ่งๆ แล้วทามะกับไทปี้ก็หลบไปอยู่ข้างหลัง ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือพิมพ์กัน คิตายาม่าก็ถามบุไซขุว่ารู้เรื่องนี้มาก่อนมั้ย ทั้ง 4 คนก็บอกว่าไม่รู้เรื่องเลย นี่งงมาก แต่ก็ดีใจมากกกก MC วันนี้ เลยยกเวทีให้บุไซขุไปเลย แต่ถึงเวลาที่บุไซขุเข้าไปเปลี่ยนชุด อีก 3 หนุ่มก็ทำหน้าที่ MC ต่อไป แต่วันนี้บุไซขุเปลี่ยนชุดกันนานมาก นานจนอีก 3 คนไม่รู้จะคุยไรกันแล้วล่ะ เมื่อคอนยังคงดำเนินไปตามสคริปต์เดมแป๊ะๆ จนถึงช่วงอังกอร์ ตามปกติ รอบสุดท้ายของทัวร์ จะมีอังกอร์รอบ 3 ปีนี้ก็ยังคงปิดท้ายด้วยเพลง Goob bye, Thank you เช่นเคย แล้ว Kis-My-World Concert Tour 2015 ก็ปิดฉากอย่างสมบูรณ์ แต่มีสิ่งนึงที่แปลกไปจากเดิม คือปกติรอบสุดท้าย ตอนเริ่มคอน มันจะขึ้นคำว่า FINAL แต่คราวนี้ไม่ยักกะขึ้นแฮะ สุดท้าย พอคอนจบไปได้สักพัก ก็มีการประกาศคอนรอบนาโกย่าเพิ่มในเดือน ต.ค. ซะงั้น มิน่าล่ะ มันถึงไม่ขึ้นคำว่า FINAL บนจอ แต่ก็งงว่าทำไมถึงไม่ประกาศซะตั้งแต่แรก ไม่งั้นเราคงไปดูรอบนาโกย่าแทนแล้วล่ะ T-T
ปีหน้าจะเป็นปีที่ครบรอบเดบิวต์ 5 ปีของน้องๆ แต่ยังไม่ทันข้ามปี น้องก็ออกซิงมา 2 ตัวติดกันซะแล้ว แล้วเดี๋ยวไทปี้จะมีละครใหม่อีก คาดว่าคงจะมีอีกซิงตามมาในอีกไม่ช้า เดาๆเอาว่า ปีหน้าน่าจะมีคอนช่วงครึ่งปีแรกด้วยซ้ำ แต่แอบคิดว่ามันคงมีอะไรพิเศษช่วงปลายปีอีกแหง เราคงต้องรีบเก็บตังค์ซะแล้วล่ะ คาดว่าปีหน้า.. เงินคงไปสะพัดที่ญี่ปุ่นบานเลย :P
2015.09.17 รอบเวลา 18:00 น. สแตนด์ชั้น 1 ประตูย่อยที่ 30 แถวที่ 25 เลขที่นั่ง 145 ตำแหน่งมันจะอยู่ตรงกลางแต่ค่อนไปทางซ้ายหน่อย ตอนดูผังมันโอเคเลยนะ แต่พอเข้ามาดูจริงๆ ดันเจอเสาบังซะงั้น ฮือๆๆๆ แต่พอหันมาดูเวทีที่ยื่นออกมาด้านหน้าสุด มันก็ใกล้อยู่แฮะ! ได้อย่างเสียอย่างก็ยังดีล่ะว๊า พอแสงไฟในโดมดับลง จอบนเวทีก็ฉายภาพน้องๆทีละคน พร้อมเพลง 4th Overture น้องๆอยู่ในชุดผ้าคลุมแบบแฮร์รี่พอตเตอร์ ชื่อของแต่ละคน ก็ใช้ฟ้อนต์จากเรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์เช่นกัน พอแนะนำตัวเสร็จ ทั้ง 7 คนในชุดเสื้อคลุมก็ออกมายืนกลางเวที แต่.. นั่นไม่ใช่น้องๆตัวจริง เพราะตัวจริงโผล่มาจากเวทีหน้าสุดด้วยการโหนสลิงขึ้นมาจากด้านล่าง เราก็กรี๊ดดดด!! เสียงหลงเลย แล้วคราวนี้น้องๆโหนสลิงสูงมากกก สูงขึ้นไปถึงสแตนด์ชั้น 3 เลย (มารู้ทีหลังจากข่าวทีวีว่าเป็นการโหนสลิงที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของคอนค่ายจอห์นนี่ส์เลย)
น้องๆเปิดตัวด้วย Brand New World แล้วก็ต่อด้วย Kiss Damashii / Everybody Go! แล้วก็จัดเพลงชุดใหญ่ เอาจริงๆเราว่าลิสเพลงช่วงแรก มันไม่ค่อยต่างจากคอนครั้งก่อนๆเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยได้สนใจเพลง เอาแต่มองน้องๆสลับกับมองบรรยากาศภายในโดม จากนั้นก็... จำอะไรไม่ได้แล้ว 555 จนมาถึงเพลง Kimi ni aeru kara เพลงโปรดของเราที่เอาไปทำเป็นริงโทนในมือถือด้วย ช่วงท้ายของเพลงนี้ ทามะกับมิยาตะหายไป ก็รู้เลยว่าเพลงต่อไปคือเพลงอะไร พอบนจอขึ้นภาพการ์ตูน Y เท่านั้นแหละ กรี๊ดดดดแตกกันทั้งฮอลล์ แล้วก็ตามด้วยภาพพรีเวดดิ้งของทามะกับมิยาตะ แล้วทั้ง 2 คนก็ออกมาในเพลง BE LOVE ทามะในชุดสูทสีขาว มิยาตะในชุดสูทสีดำ ค่อยๆเดินลงบันไดกันมา ก็มีแหย่กัน ผลักกัน จนลงมาถึงโซฟา มิยาตะก็คร่อมทามะเลย แล้วมิยาตะก็ควักแหวนเพชรวงเบ้อเริ่มออกมา คุกเข่าลงก็แล้วพูดขอทามะแต่งงาน ทามะอ้าปากหวอพอเห็นแหวนเพชรเม็ดตู้ม แล้วทามะก็พยักหน้าตกลง ทั้ง 2 เดินมาตรงเวทีกลาง ทามะใช้ผ้าคลุมปิดหน้าเจ้าสาว มิยาตะก็มาเปิดผ้าคลุมแล้วก็จ๊วบบบ!! แล้วทั้ง 2 ก็ได้แต่งงานกัน จั๊กกะเดี๋ยมจริงๆ 555
พอคู่นี้จบไป คู่ใหม่ก็มา จอบนเวทีฉายภาพน้องหมาน่ารัก แล้วไทปี้กับโยโกก็ออกมาในชุดน้องหมาสีชมพูหวานแหวว เคยเห็นรูปจากคอนรอบก่อนๆแล้วนะ แต่พอเห็นของจริง โอ๊ย!! โคตรน่ารัก เต้นกันดุ๊กดิ๊กๆ เวลาที่ไทปี้อยู่กับโยโกนี่ยอมทำทุกอย่างจริงๆ 555 แต่อันนี้น่ารักมาก ให้ผ่าน โดยเฉพาะฉายเหินฟ้าไล่ตามกระดูก โคตรน่าร๊ากกกกกกกก!! ไทปี้ท่าทางจะชอบเหินฟ้านะ เพราะท่าสวยตลอด พอนึกถึงแล้วก็อยากดู DVD เร็วๆจังเลย จากนั้น อีก 5 หนุ่มก็ขึ้นมาร้องเพลง ส่วนไทปี้กับโยโกก็รีบวิ่งเข้าไปเปลี่ยนชุด แล้วก็ออกมาพร้อมกัน เดินขึ้นเวทีไปเจอกันตรงกลาง แล้วก็วิ่งกึ่งกระโดดคู่กันไป น่ารักอีกแล้ว 555 ช่วงนี้ก็จัดเพลงเซ็ตใหญ่ไปอีก 1 เซ็ต แต่ที่ดีใจมากๆก็คือ น้องๆเอาเพลง Summer Lover มาร้องด้วย สงสัยเพราะเป็นคอนหน้าร้อนมั้ง ก็ได้แต่แอบหวังว่า ถ้ามีคอนช่วงหน้าหนาว น้องๆจะเอาเพลง Winter Lover มาร้องบ้างนะ เพราะเราชอบเพลงนี้มากกกกกกกกก
ในช่วง MC ก็ออกมาคุยนู่นนี่นั่นกัน แต่เราฟังไม่เข้าใจสักกะอย่าง แหะๆ จะรู้ก็แค่ตอนที่แนะนำผลงานซึ่งทามะกวาดเรียบ ทั้งหนัง ทั้งละคร ทั้งดรีมบอย ที่มีมิยาตะกับเซนกะแสดงด้วย ด้านคิตายาม่าก็กำลังจะมีละคร โยโกก็กำลังจะได้ออกรายการ วาไรตี้แบบฉายเดี่ยว จะมีก็ไทปี้กับนิกะ ที่เงียบเชียว จากนั้นบุไซขุก็กลับเข้าไปเปลี่ยนชุด เหลือ 3 หนุ่มไทปี้ คิตายาม่า ทามะ รับหน้าที่ MC กันต่อ ก็คุยกันไป แซวเรื่องตะกร้าน้ำอะไรก็ไม่รู้ คือ.. ไทปี้กับทามะช่วยกันถือตะกร้าขวดน้ำ แล้วคิตายาม่าก็แซวๆไร 2 คนนี้ไม่รู้ พอเถียงกันไปมาสักพัก ทามะกับไทปี้ก็พากันถือตะกร้าเข้าไป แล้วอยู่ๆไทปี้ก็เดินออกมาคนเดียว เหมือนไทปี้จะบอกว่าโดนทามะไล่ให้ออกมานะ 555 ก็เลยเหลือไทปี้ยืนคุยกับคิตายาม่าแค่ 2 คน (แอบเกร็งกันมั้ยล่ะเนี่ย ^^”) พอจบช่วง MC บุไซขุก็ขึ้นมาทั้งร้องทั้งเต้นในเพลง Busaiku และ TTii Tii Tii Terette Tereti Ti Ti ~Dare no Ketsu~ จากนั้นอีก 3 หนุ่มก็ออกมาสมทบ แล้วก็ร้องเพลงไปอีกชุดใหญ่ จนมาจบด้วยเกมลอดบาร์ ด้วยการทำสถิติลอดบาร์ให้ได้ต่ำที่สุด วันนี้ลอดไป 3 รอบ ไม่แน่ใจว่าได้กี่ cm. เอาเป็นว่า ลอดผ่านได้ 2 ครั้ง ครั้งที่ 3 เดี้ยงละ จากนั้นทั้ง 7 หนุ่มก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วกลับออกมาในชุด “ภูติจิ๋วติดปีก” (เราตั้งเองนะ) ทุกคนจะใส่ชุดแบบภูติจิ๋วตามสีของตัวเอง พร้อมกับติดปีกด้วย มิยาตะรับหน้าที่พิธีกรช่วงนี้ แนะนำเมมเบอร์แต่ละคน ที่จะออกท่าออกทางแตกต่างกันไป คนอื่นทำท่าไรบ้างจำไม่ได้ละ แต่เราจำของไทปี้ได้แม่นมาก เพราะไทปี้ขึ้นมา แล้วก็พูดคำเดียวสั้นๆว่า “GETS!” แล้วก็ไปนั่งหัวเราะ 555 พอแนะนำครบ ก็จะเป็นคำถามให้ตอบ คราวนี้เราไม่เข้าใจเลยสักกะรอบ T-T แต่ไอ้ว่า GETS ของไทปี้เนี่ย โดนเซ็นจังเอาไปเล่นมุกตั้ง 2 รอบแน่ะ อิอิ รอบนี้ ถ้าใครตอบคำถามแล้วไม่ถูกใจกรรมการ ก็จะโดนทำโทษด้วยการให้เกาะลูกโป่งใหญ่ลูกเท่าคน แล้วลูกโป่งก็จะถูกเจาะให้แตก พอตอบคำถามครบ ก็ร้องเพลงドキドキでYEEEAAAHHH!! พร้อมกับท่าน่ารักๆ ก่อนจะกลับเข้าไปหลังเวที และจอ LED ก็ฉายภาพทั้ง 7 คนกลับเข้าไปในบ้าน แล้วก็จะสับคัทเอ้าท์อันใหญ่ที่อยู่ด้านบน แต่เพราะมันอยู่สูง เลยสับไม่ถึง ก็คิดหาวิธีกันไป อันนี้เล่าไม่ถูกอะ รู้แต่ตลกมากกกกก อยากให้ใน DVD เอามาออกทุกรอบเลย เพราะแต่ละรอบ วิธีการก็ไม่เหมือนกัน แต่ฮาทุกอัน คอนเฟิร์ม!!!
จากนั้นทั้ง 7 หนุ่มก็ออกมาพร้อมกับรองเท้าสเก็ตติดไฟในเพลง Kis-My-Venus ดีใจ ที่ได้ฟังเพลงนี้แบบสดๆสักที เซ็ตนี้ก็ ร้องกันชุดใหญ่และมีอุปกรณ์เป็นร่มติดไฟมาใช้แปรขบวนกันด้วย จากนั้นก็ถึงคิวดูโอ้ เซนกะกับนิกะจังในเพลง Double Up 2 คนเต้นกันสุดๆเลย ตอนแรกเต้นอยู่กลางเวที แล้วอยู่ๆก็มาโผล่เวทีหน้าสุด พอ 2 หนุ่มลงไป ก็ถึงคิวไทปี้กับคิตะตรงเวทีกลาง ขึ้นมาพร้อมกับกีตาร์คู่ที่คิตายาม่าซื้อให้ตัวเองและให้ไทปี้ ก่อนจะเล่นก็มีคุยกันแบบ ถามคำ ตอบคำ ถามโดยใช้เสียงกีตาร์ช่วยสร้างบรรยากาศประหนึ่งตลกคาเฟ่ แล้วทั้ง 2 คนก็เล่นกีตาร์สด ร้องสดในเพลง Akashi เพราะมากกกกกกกก ร้องไปกลางเพลง ดนตรีชุดใหญ่ก็เริ่มบรรเลง แต่จริงๆร้องเพลงนี้ไม่จบทั้งเพลงหรอก มันถูกตัดไปหน่อยนึง เพราะทั้งคู่เอาเพลง FIER!!! ขึ้นมาร้องต่อ พอคล้องแขนกัน แฟนๆก็กรี๊ดดดอีกตามเคย 555
หมดช่วงดูโอ้ ก็เข้าสู่โหมดเพลงร็อค เริ่มด้วยเพลง Hair แล้วหนุ่มๆก็เดินมาตรงเวทีด้านหน้าสุดในเพลง Eternal Mind ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราโคตรชอบ เพราะเอ็ฟเฟ็กกระจาย ทั้งพลุ ทั้งไฟ เพลงก็มันส์อยู่แล้ว มาเจอพลุที่ดังปังๆ ดังทีเราก็กรี๊ดที เพราะมันตกใจ พอไฟพุ่งขึ้นทีก็ร้อนว้าบเลย กว่าจะจบเพลงนี้ เผลอกรี๊ดเพราะตกใจไปตั้งไม่รู้กี่รอบ 555 แล้วไฟอะ มันร้อนมากจริงๆ ขนาดเราอยู่ห่างจากเวที ยังร้อนขนาดนี้ แล้วน้องๆที่อยู่บนเวที จะร้อนขนาดไหนเนี่ย??
แล้วก็เข้าสู่ช่วงซึ้งๆกับเพลง Sakura Hirari ที่เป็นเพลงที่เราชอบมากกกกอีกเพลง และดีใจมากกกกที่ได้ฟังแบบสดๆ เพลงนี้ทำให้บรรยากาศในคอนสวยมากกกก เพราะต้องใช้แท่งไฟเข้าช่วย แท่งไฟคราวนี้จะกดเปลี่ยนสีได้ทั้งหมด 8 สี คือสีประจำตัวน้องๆ 7 สี กับสีขาวอีก 1 สี ซึ่งสีมันจะเรียงตามลำดับการร้องของน้องๆในเพลง Sakura Hirari นี่แหละ ก่อนจะร้อง คิตะก็จะสอนก่อนว่าต้องทำยังไง บนจอจะมีรูปนาฬิกากำลังแกว่งอยู่ แล้วพอตัวเลขที่มา 3 2 1 ก็ให้กดเปลี่ยนสีที่แท่งไฟ ระหว่างร้องเพลงนี้ ให้ดูสัญญาณ 3 2 1 บนจอไปด้วย แล้วก็กดไปเรื่อยๆ จนจบเพลง โดยจะเริ่มจากสีชมพูของไทปี้ - สีเขียวของนิกะจัง - สีแดงของคิตะ - สีเหลืองของทามะจัง - สีม่วงของมิยาตะ - สีส้มของโยโก - สีฟ้าของเซนจัง - ปิดท้ายเพลงด้วยสีขาว แต่พอจบเพลงก็มีเซอร์ไพรส์ เนื่องจากวันนี้ เป็นวันเกิดครบ 30 ปีของคิตายาม่า ก็เลยมีการทำโปรเจ็คเบิร์ทเดย์ให้กับคิตะ ตอนจบเพลงแท่งไฟทุกคนจะเป็นสีขาว แต่แฟนๆที่นั่งอยู่ในโซนโปรเจ็ค จะเปลี่ยนสีแท่งไฟเป็นสีแดง เพื่อแปรอักษรเป็นคำอวยพรวันเกิดให้คิตายาม่า จากนั้นไทปี้กับโยโกก็เข็นเค้กสุดครีเอทก้อนใหญ่ออกมา เป็นเค้กที่มีรูปคิตะ ตกแต่งด้วยเกี๊ยวซ่ากับลูกชิ้นแผ่นเกลียวสีชมพูที่ใส่ในราเมน เพราะคิตะชอบกินเกี๊ยวซ่ากับราเมน จากนั้นก็จุดเทียน แล้วทุกคนก็ร่วมกันร้องเพลง Happy Birthday ให้คิตะ แล้วพอคุยไปคุยมา สรุปว่าเค้กก้อนนี้ เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของไทปี้นั่นเอง เมมเบอร์สงสัยกันว่าเกี๊ยวซ่าเนี่ย มันของจริงป่าว ก็เลยให้คิตะลองกินเกี๊ยวซ่าดูว่าใช่ของจริงมั้ย คิตะก็หยิบมากินชิ้นนึง สรุปว่ามันเป็นช็อกโกแลต เท่านั้นยังไม่พอ ไทปี้ยังเซอร์ไพรส์ด้วยของขวัญอีก 3 ชิ้น แฟนๆก็ตะโกนให้แกะๆๆ คิตะก็แกะแล้วแง้มๆดู แล้วก็บอกว่ากล่องมันสีดำๆแฮะ มิยาตะบอกว่า สงสัยเป็นเครื่องเล่น MD แหงๆเลย (อ้อ.. มิยาตะมีแซวทีเล่นทีจริงว่าวันเกิดตัวเองไม่ตรงกับคอน เลยไม่มีเซอร์ไพรส์แบบนี้บ้าง) แต่สุดท้าย คิตะก็ไม่ยอมแกะของขวัญออกมาโชว์ T-T ก่อนหน้านี้รู้สึกมาตลอดว่าไทปี้กับคิตะต้องมีปัญหาไรกันแหงๆ เพราะตอนก่อนเดบิวต์กับหลังเดบิวต์ ความสัมพันธ์ของ 2 คนนี้ดูต่างกันมาก ดูพวกเบื้องหลังยิ่งเห็นชัด เพราะไม่มีช็อต 2 คนนี้ด้วยกันเลย แถมยังมีปฏิกิริยาแปลกๆจากเมมเบอร์ด้วย ทั้งในคอน ทั้งในรายการวาไรตี้ จนมาถึงช่วงที่คิตะซื้อกีตาร์ให้ไทปี้นั่นแหละ อะไรๆถึงได้ดูดีขึ้น จริงๆมันก็มีแฟนๆฝั่งที่คิดว่า 2 คนนี้มีปัญหากัน และฝั่งที่คิดว่าไม่มีอะไรกันหรอก แต่ก็คงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเจ้าตัวอะนะ แต่ถึงจะมีหรือไม่มีปัญหากันก็ช่างมันเถอะ เพราะตอนนี้ทุกอย่างมันก็เข้าที่เข้าทางแล้วล่ะ ^^
พอเบิร์ทเดย์ให้คิตะจบ ก็มาถึงเพลงสุดท้าย กับเพลง KISS & PEACE ทั้ง 7 คนถอดเสื้อคลุมออก เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมหมวกตามสีประจำตัว แล้วก็นั่งบนชิงช้าที่ลอยตัวสูงขึ้น ไปข้างบน พอร้องไปจนถึงช่วงท้ายเพลง เซนกะก็บอกให้ทุกคนเก็บแท่งไฟกับพัดลงไป (เราฟังไม่รู้เรื่องหรอก อาศัยดูจากชาวบ้านเอา 555) จากนั้นก็ให้ทุกคนจับมือกัน ด้านขวาเราเป็นคุณน้าผู้หญิง ด้านซ้ายเราเป็นสาววัยรุ่น ก็จับมือกัน ร้องเพลงกันไปจนจบเพลง แล้วหนุ่มๆก็ร่ำลากลับเข้าไปหลังเวที
ตามทำเนียมคอนญี่ปุ่น มันต้องมีอังกอร์ แล้ว 4 หนุ่มบุไซขุก็ออกมาพร้อมอาวุธครบมือ มิยาตะประจำกลอง เซนกะประจำคีย์บอร์ด นิกะจังประจำที่เบส และโยโกประจำที่กีตาร์ แล้วทั้ง 4 ก็บรรเลงเพลง Yacchatta กันแบบเมามันส์ รายการ UTAGE มันดีจริงๆ ที่ช่วยดันน้องๆได้ถึงขนาดนี้ ยอมรับเลยว่าช่วงนี้มันส์กันมากกกกกก จากนั้นทั้ง 7 คนก็สอนท่าเต้นเพลง Thank you jan! ให้ร้องให้เต้นไปพร้อมๆกัน ถ้าจำไม่ผิด มียิงสายรุ้งในเพลงนี้นี่แหละ จริงๆเราคว้าได้นะ แต่คุณน้าข้างเราดึงไม่ปล่อยเลย เราก็เลยยอมปล่อยให้แกไป แต่แอบงงตรงคนข้างหน้าที่หันมาถามแกว่าได้สายรุ้งมั้ย แกดันบอกว่าไม่ได้ คนข้างหน้าก็ตัดของตัวเองแบ่งให้แกไปครึ่งนึง รู้งี้ไม่ปล่อยให้แกซะก็ดี เหอๆๆๆ จากนั้น น้องๆก็เข้าไปอีก แต่แฟนๆก็ยังไม่กลับ
อังกอร์รอบ 2 น้องๆออกมาพร้อมกับรถเข็นคันใหญ่ ร้องเพลงอื่นๆที่ยังไมได้ร้องในคอนอย่าง Hikari no Signal / Kimito no Kiseki / Kiss-My-Calling! ในเพลง Kiss-My-Calling! คิตะกับไทปี้มีเปลี่ยนเนื้อกันด้วยนะ ไทปี้เนื้อที่ต้องพูดถึงคิตะเป็น Omedatou Kitayama-kun แล้วคิตะก็ตอบกลับว่า Arigato Fujigaya ประมาณนี้แหละ แล้วคอนรอบแรกของโตเกียวโดมก็จบลงอย่างสวยงาม
2015.09.18 รอบเวลา 18:00 น. สแตนด์ชั้น 1 ประตูย่อยที่ 36 แถวที่ 23 เลขที่นั่ง 266 วันนี้ที่นั่งค่อนมาทางซ้ายของเวทีมากกว่าเดิม และไม่โดนเสาบังแล้ว คอนวันนี้ก็สนุกเหมือนเดิม แต่จำไม่ได้แล้วว่ามีอะไรต่างจากรอบแรกบ้าง ข้ามไปรอบสุดท้ายเลยก็แล้วกัน :P
2015.09.20 รอบเวลา 17:00 น. สแตนด์ชั้น 3 ประตูย่อยที่ 10 แถวที่ 27 เลขที่นั่ง 183 เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งยอดโดม ยอดแบบแถวสุดท้ายของโดมอะ เตรียมพร้อมยืมกล้องส่องทางไกลของเพื่อนมาเรียบร้อย แต่พอมาถึงหน้าโดม เห็นมีบูธขายกล้องส่องทางไกลของโตเกียวโดมอยู่ ก็เลยไปหยิบๆมาดู ปรากฏว่ามันเวิร์คมาก เทพมากก ราคาก็ไม่แพงด้วย ก็เลยได้ถอยกล้องส่องทางไกลยี่ห้อ Tokyo Dome เป็นของตัวเอง แล้วก็ใช้ตัวนี้ส่องตลอดตั้งแต่ต้นจนจบคอนเลย คอนคราวนี้ ลำดับเพลงทุกรอบเหมือนกันหมดเลย จะต่างก็ตรงช่วง MC กับช่วงภูติจิ๋วติดปีกนั่นแหละ แต่รอบนี้มันเด็ดตรงช่วง MC เพราะพอเข้าช่วง MC น้องๆยังไม่ทันจะได้พูดได้คุยอะไรสักเท่าไหร่ อยู่ๆแฟนๆก็พากันกรี๊ดดดด น้องๆก็งง กรี๊ดไรกัน ไทปี้นี่งงมาก ถึงกับมองหันซ้าย หันขวา หันหน้า หันหลัง ว่ามีอะไร สักพัก กล้องก็ตามไปจบภาพได้ว่าแฟนๆกรี๊ดอะไร พอภาพขึ้นจอเท่านั้นแหละ กรี๊ดดดสัน่นกันทั้งโดม เพราะนากาอิซัง SMAP กำลังเดินแจกหนังสือพิมพ์อยู่ แล้วนากาอิก็เอาไปแจกให้เมมเบอร์ด้วย พออ่านดู มันคือข่าวอัลบั้มแรกของบุไซขุ บุไซขุดีใจกันยกใหญ่ ส่วนอีก 3 หนุ่มก็ยืนกันนิ่งๆ แล้วทามะกับไทปี้ก็หลบไปอยู่ข้างหลัง ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือพิมพ์กัน คิตายาม่าก็ถามบุไซขุว่ารู้เรื่องนี้มาก่อนมั้ย ทั้ง 4 คนก็บอกว่าไม่รู้เรื่องเลย นี่งงมาก แต่ก็ดีใจมากกกก MC วันนี้ เลยยกเวทีให้บุไซขุไปเลย แต่ถึงเวลาที่บุไซขุเข้าไปเปลี่ยนชุด อีก 3 หนุ่มก็ทำหน้าที่ MC ต่อไป แต่วันนี้บุไซขุเปลี่ยนชุดกันนานมาก นานจนอีก 3 คนไม่รู้จะคุยไรกันแล้วล่ะ เมื่อคอนยังคงดำเนินไปตามสคริปต์เดมแป๊ะๆ จนถึงช่วงอังกอร์ ตามปกติ รอบสุดท้ายของทัวร์ จะมีอังกอร์รอบ 3 ปีนี้ก็ยังคงปิดท้ายด้วยเพลง Goob bye, Thank you เช่นเคย แล้ว Kis-My-World Concert Tour 2015 ก็ปิดฉากอย่างสมบูรณ์ แต่มีสิ่งนึงที่แปลกไปจากเดิม คือปกติรอบสุดท้าย ตอนเริ่มคอน มันจะขึ้นคำว่า FINAL แต่คราวนี้ไม่ยักกะขึ้นแฮะ สุดท้าย พอคอนจบไปได้สักพัก ก็มีการประกาศคอนรอบนาโกย่าเพิ่มในเดือน ต.ค. ซะงั้น มิน่าล่ะ มันถึงไม่ขึ้นคำว่า FINAL บนจอ แต่ก็งงว่าทำไมถึงไม่ประกาศซะตั้งแต่แรก ไม่งั้นเราคงไปดูรอบนาโกย่าแทนแล้วล่ะ T-T
ปีหน้าจะเป็นปีที่ครบรอบเดบิวต์ 5 ปีของน้องๆ แต่ยังไม่ทันข้ามปี น้องก็ออกซิงมา 2 ตัวติดกันซะแล้ว แล้วเดี๋ยวไทปี้จะมีละครใหม่อีก คาดว่าคงจะมีอีกซิงตามมาในอีกไม่ช้า เดาๆเอาว่า ปีหน้าน่าจะมีคอนช่วงครึ่งปีแรกด้วยซ้ำ แต่แอบคิดว่ามันคงมีอะไรพิเศษช่วงปลายปีอีกแหง เราคงต้องรีบเก็บตังค์ซะแล้วล่ะ คาดว่าปีหน้า.. เงินคงไปสะพัดที่ญี่ปุ่นบานเลย :P