เรื่องราวของผม

Apr 21, 2012 18:11

      หลังจากที่ผมทำงานเสร็จ ผมก็รีบจัดการเปลี่ยนชุดและเก็บข้าวของเข้าล๊อกเกอร์ วันนี้อากาศไม่ค่อยดีนัก แม้ว่าตอนเช้าท้องฟ้าจะแจ่มใสไร้เมฆ มีแดดอ่อนๆ แต่ ณ ตอนนี้ เมฆฝนกลุ่มหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุกท้องฟ้า ผมมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างสิ้นหวังนิดๆ วันไหนที่ผมไม่ได้เอาร่มมา ฝนก็จะตกทุกที ผมถอนหายใจก่อนที่จะเหวี่ยงกระเป๋าเป้ขึ้นบ่า แล้วเดินออกไปจากห้องพักสำหรับพนักงาน

ระหว่างที่ผมเดินออกจากร้าน ผมก็กล่าวลากับพนักงานคนอื่นๆตามมารยาท ผมรีบเดินออกมาโดยเร็วเพื่อไม่ให้ฝนตกเสียก่อน พอผมก้าวออกมาจากร้านเพียงก้าวแรก เม็ดฝนเล็กๆก็เริ่มโปรยปรายลงมาปรอยๆ ผมตัดสินใจเริ่มที่จะวิ่งไปยังสถานีรถไป ระหว่างทาง ฝนก็เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ผมรีบดึงฮูทของเสื้อโค๊ทคนเป็ดขึ้นมาใส่ ผมรู้สึกได้ถึงความชื้นที่ซึมเข้าไปในเนื้อผ้าของกระเป๋าเป้ของผม แต่ผมก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากการวิ่งให้เร็วกว่าเดิม...

ในที่สุด ผมก็มาถึงสถานีรถไฟใต้ดิน โชคดีที่กระเป๋าของผมนั้นเปียกไม่มาก และเสื้อโค๊ทของผมนั้นเป็นหนังกันน้ำจึงไม่เป็นอะไรมาก ผมทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ในรถไฟอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะรีบเช็คดูของที่อยู่ในกระเป๋าว่ามีอะไรเสียหายหรือไม่ ..... ผมวางกระเป๋าลงที่พื้นตรงหว่างขา และถอดเสื้อโค้ทออกมาแขวนไว้ข้างๆ ในตอนนี้คนในรถไฟมีไม่มากนัก ทำให้ผมสามารถวางของได้อย่างไม่ต้องเกรงใจใครมาก ผมหยิบแล็บท้อปออกมาจากกระเป๋าเพื่อทำงานต่อ ที่จริง ผมยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความที่ ผมได้ย้ายมาอยู่กับเพื่อนๆที่หอพักทำให้ผมต้องหาเงินเอง ที่จริง พ่อแม่ของผมก็ส่งเงินมาในเปนรายเดือนเหมือนกัน แต่ผมว่ามันก็คงไม่พอ ผมจึงตัดสินใจหางานพิเศษทำ ผมเปิดโปรแกรม Microsoft Word ขึ้นมา จากนั้นก็เปิดงานที่ผมพิมพ์ค้างไว้ ผมนั่งอ่านมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อหาข้อผิดพลาด ทั้งการแก้ภาษาให้ดูเป็นทางการและเนื้อหาที่ได้เขียนลงไป ผมนั่งแก้มันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงประกาศ ...

"Nächter Halt..." ผมหันขึ้นไปมองตัวอักษรไฟทีวิ่งอยู่บนป้ายของรถไฟ เพื่อดูว่าถูกสถานีหรือเปล่า ทำให้ผมแน่ใจว่านี้แหละ สถานีที่ต้องลง...

ผมลงจากรถไฟโดยไม่ลืมที่จะเอาเสื้อที่แขวนไว้และกระเป๋า ผมเดินต่อไปยังบันไดเลื่อนที่จะนำผมไปสู่ทางออก ผมจัดการใส่เสื้อโค้ทระหว่างที่ยืนอยู่บนบันไดเลื่อนและสะพายกระเป๋าให้เรียบร้อย.... ไม่นานนัก ผมก็มองเห็นท้องฟ้า ผมได้ขึ้นมาถึงพื้นดินแล้ว ฝนยังคงตกอยู่ แต่ก็เพลาลงไปมากแล้ว ผมดึงฮูทขึ้นมาสวมก่อนที่จะเริ่มเร่งฝึเท้าฝ่าฝนออกไป

"เฮ้" พาริส เพื่อนของผม เปิดประตูบ้านออกมา เขามองผมด้วยสายตาแปลกใจ

"ไง ขอเข้าไปก่อนได้มั้ย?" ผมตัดบท เพราะตอนนี้อากาศข้างนอกนั้นหนาวมาก ยิ่งตอนนี้ผมก็เปียก ยิ่งทำให้หนาวเข้าไปใหญ่... พาริสไม่ได้ว่าอะไร เขาหลีกทางให้ผมเข้าไปโดยดี ภายในบ้านนั้นตกแต่งด้วยไฟสีส้ม กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้บรรยากาศเก่าๆได้อย่างดี ตรงข้างฝาติดกับประตูมีรูปแขวนอยู่เต็มไปหมด ทั้งดูเด็ก และรูปผู้ใหญ่ คนแก่ และสถานที่ต่างๆ ผมมองมันไปเรื่อยๆ ระหว่างที่ถอดเสื้อโค้ทไปแขวน

"เป็นไง ทำงานวันนี้?" พาริสที่ยืนพิงผนังถามขึ้น

"ก็ดี แล้วคนอื่นล่ะ?" ผมถามกลับ "คนอื่น" ที่ผมว่านั้นหมายถึงเพื่อนๆคนอื่นๆที่อยู่บ้านเดียวกับเขา โดยปกติ บ้านหลังนึงพวกเราจะอยู่กัน5-6คน เพราะบ้านมันเล็กด้วยเป็นอีกเหตุหนึ่ง

"พวกนั้นมันออกไปหาอะไรกินกันน่ะ" พาริสตอบด้วยน้ำเสียงเฉยชา เขาดูชินแล้วกับการอยู่คนเดียว เพราะเขาเป็นคนที่ไม่ชอบดื่มเบียร์ และไม่ค่อยชอบแอลกอฮอลล์ด้วย ต่างจากคนอื่นๆ พาริสเดินนำไปยังห้องครัวและมีผมเดินตามไป เขารินน้ำเปล่าอัดแก๊ซ(ซั่งเป็นน้ำที่นิยมดื่มกันที่นี้ ด้วยเหตุใด ผมก็ไม่ทราบ) ใส่แก้วก่อนจะยกขึ้นดื่ม ส่วนผมก็นั่งดื่มน้ำที่ผมพกมาอยู่ที่โต๊ะอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณของครัว   อันที่จริง บ้านที่ผมอยู่นั้นคือบ้านที่อยู่ถัดออกไปอีกสองหลัง แต่บ้านของผมนั้น มีคนมาแชร์ห้องทั้งคนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน และคนนอก ทำให้ไม่ค่อยสนิทกันนัก โชคดีที่ผมมีพาริส เพื่อนสนิทของผมที่รู้จักกันมาตั้งแต่ม. ปลาย และเรายังได้เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกันอีกด้วย ผมค่อยปิดฝาขวด ก่อนที่จะท้าวคาวกับโต๊ะแล้วพูดต่อ

"นายไม่คิดจะออกไปไหนเลยหรอ?"

"ไม่อ่ะ นายก็เห็นอยู่ว่าฝนมันตก.." เขาตอบแกมกวนประสาทผม ก็จริงอยู่ ที่ตอนนี้ฝนตก แต่ที่ผมหมายถึงน่ะ คือ นายไม่คิดจะออกไปเที่ยวไหน นอกจากอยู่บ้านทั้งวันทั้งคืนหรอ? ผมขมวดคิ้วกับคำตอบของเขา แต่พาริสกลับขำแล้วพูดต่อ

"ล้อเล่น ไม่อ่ะ ขีเกียจออกไป" พาริสตอบอีกครั้ง

"โอเค" ผมกล่าวสั้นๆ ก่อนที่เสียงข้อความเข้าของผมจะดังขึ้น     '~ring ring'     ผมยกมือถือของผมขึ้นมาดู

"พรุ่งนี้ว่างมั้ย? เจอกันที่ร้านN ตอนบ่าย2 ได้มั้ย?
อยากเจอเธอ คิดถึงนะ<3
ปล. มีของฝากมาให้ เธอต้องชอบมันแน่ๆ!xoxo "
จาก: Allie

ผมกดตอบกลับ....

"พรุ่งนี้ฉันมีทำงาน แต่จะพยายามไป
คิดถึงเธอเหมือนกัน กลับมาเมื่อไหร่ ทำไมไม่บอก?
เจอกันบ่าย2 แล้วกัน "
ถึง: Allie

ผมกดปุ่นส่ง ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาเจอพาริสที่กำลังจ้องผมอยู่

"อะไร?" ผมถาม พาริสยักไหล่ก่อนที่จะหันกลับไปวางแก้วที่ใช้แล้วลงในอ่าง

"แฟนนายชะ?" เขาถามเป็นนัยจะแซวผม

"เออสิ ทำไม?!" ผมตอบเสียงแข็ง เขารู้ดี ว่าผมเป็นคนแบบไหน ไอ้เรื่องแนวๆนี้น่ะ ถ้ามีใครมาแซวผม ผมก็จะเขินแล้วก็ทำไรไม่ถูก... หน้าของผมรู้สึกชาขึ้นมาทันที เกลียดอาการแบบนี้จัง

"เปล๊า~! แค่ถาม" เขาขึ้นเสียงสูง ก่อนที่จะหัวเราะนิดๆแล้วเดินมาหาผม

"นี่ เมื่อไหร่นายจะได้กับยัยนี่ซักทีเนี่ย? นี่มันกี่ปีแล้ว? 2! นายยังจะรออะไรอีก?" เขาถามอย่างไม่อายปาก ยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่กว่าเดิมเข้าไปใหญ่ ไอ้ที่ว่า "ได้กับยัยนี่" ได้ยินก็รู้ชัดแล้วว่า เขาต้องการหมายถึงอะไร

"แกจะบ้าหรือ! ฉันไม่ใช่พวกเอาแต่___(เซนเซอร์) แบบแกซักหน่อย!!" ผมเผลอตอบเสียงดัง

"เฮ้ๆๆ ใจเย็นดิ ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรนายเลยนะ เอาเหอะ ฉันจะรอดูแล้วกันนะ ครั้งนึงในขีวิต เจ้าเด็กน้อย~ ก่อนที่มันจะสายเกินไป ฮ่าๆ" เขาหยิกแก้มผมเป็นการหยอก ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง...

นี่มันจะมากไปแล้วนะ!!! ผมคิคในใจ ก่อนที่ความคิดอีกความคิดจะผุดขึ้นมาแทนที่ ..."ได้กัน"? ผมเม้มปาก แล้วครุ่นคิดซักพัก ผมยังไม่เคยเสียเวอร์จิ้นให้ใคร.. และไม่เคยทำให้ใครต้องเสียเวอร์จิ้น... "ครั้งหนึ่งในชีวิต"..."ก่อนที่มันจะสายเกินไป"...?

ผมคิดหนักกว่าเดิม...

เอาวะ!!! ครั้งหนึ่งในชีวิต ก่อนที่มันจะสายเกินไป!!!!

the end part 1
Previous post Next post
Up