Fiction # 003

Nov 01, 2006 12:43


3rd story of ~In Memoirs~ the series

There u go..

>>>>
[SF]~in memoirs~ 3rd Secret :: Strawberry Kiss
(Taken from series: 俺たちの 記憶 ~in memoirs~ 3rd Secret)
Author : Kuwata
Cast :  A Kanto boy V.S. RYO

Type : SF Series / POV / RPS
Rate : G
Status : Completed
Referent Link(s): Click here!

Copyright © 2004 Kuwata, KWMP/Gansekiz00z. All Rights Reserved.

--------------------------------------------------------------------------------

::Strawberry Kiss::
(Taken from series: 俺たちの 記憶 ~in memoirs~ 3rd Secret)
by Kuwata

"Ueda-kun ni hitokoto! "

....เสียงใสของร่างเล็กดังกังวาน....ร้องเรียกชื่อหัวหน้าวงคัตตุนแห่งกลุ่มคันโตให้ออกมารับคำพิพากษา........
.............ผมยังจำได้ดี.......ความรู้สึกเจ็บใจในครั้งนั้น...........
...ขณะที่พวกเรากำลังถ่ายทำช่วงพิเศษของรายการ The Shonen Gakubu ที่แบ่งเด็กจูเนียร์ออกเป็นฝั่งคันโตกับคันไซ......หลังจากที่คู่ของกัปตันทีม J-2000 กลับเข้าประจำที่แล้ว....สมาชิกคันไซอีกคนหนึ่งก็ก้าวฉับๆขึ้นไปยืนแทนที่อุจิที่เพิ่งกลับลงมา.......

"Ueda-kun ni hitokoto...,"
....เจ้าของเสียงเรียกซ้ำอีกครั้ง.....ผมและเพื่อนๆที่อยู่รายล้อมพากันส่งเสียงโห่ฮา ก่อนจะดันหลังคนถูกเรียกให้ออกไปยืนข้างหน้าอย่างสนุกสนาน....
......................แต่ถึงตอนนี้ผมกลับนึกเสียใจที่ตัวเองทำแบบนั้น....
..................

"Ueda-kun...,
...........nani ni naritai n desuka?"
(อูเอดะคุงน่ะ...อยากจะเป็นอะไรหรือครับ?)

.....................อะ!.......เฮ้ยยยย !!!!???

........สิ้นเสียงของคนตัวเล็กที่อยู่ในชุดเสื้อหนังแขนกุดสีดำสนิทกับผ้าพันคอลวดลายใยแมงมุมเข้าชุด เสียงหัวเราะก็ดังครืนขึ้นทั่วทั้งฮอลล์.....
...นิชิกิโด เรียว ยืนยิ้มแฉ่งอยู่บนแท่นยกระดับเบื้องหน้าคนดู ในขณะที่สปอร์ตไลท์จับไปที่ใบหน้ารูปไข่แดงแปร๊ดของ อูเอดะ ทัตสึยะ ลีดเดอร์ของคัตตุนแห่งคันโต ที่ได้แต่ยืนกำหมัดกัดฟันกรอดๆ.......

......ผมรีบยกมือประท้วงลั่น... " เฮ้ๆ! เดี๋ยวสิ...พูดแบบนั้นได้ไง!!"
..ถึงจะในใจจะยอมรับว่าสะใจกับความตรงไปตรงมาของเรียวที่กล้าถามในสิ่งที่พวกเราสงสัยมาตลอดแต่ไม่มีใครเอ่ยปากก็เถอะ......แต่การที่อยู่ๆ อูเอดะ จะเปลี่ยนตัวเองจากที่เคยร่าเริงสดใสกลายเป็นเคร่งขรึม เก็กเท่ห์ตลอดเวลาแบบนั้นมันก็เป็นเรื่องของเขาไม่ไช่เรอะ!.....บางทีเขาอาจจะแค่อยากเป็นผู้ใหญ่เร็วๆก็ได้.....

............ไอ้คำถามประเภทที่ตีความได้ว่า "..นายอยากจะเป็นอะไรกันแน่?"......แบบนั้นเนี่ย....
................................ฟังยังไง๊...ยังไง..........มันก็ชวนหาเรื่องชัดๆ!!

....โชคดีที่ผู้กำกับเวทีให้สัญญาณว่าต้องควบคุมเวลา จลาจลขนาดย่อมๆที่กำลังจะขยายเลยต้องหยุดตัวเองลงแค่นั้น......พวกเราทั้งคันโตและคันไซยังต้องแสดงร่วมกันต่อไปจนจบรายการ.....แต่ตอนนั้น..จำได้ว่าหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น......ผมแทบจะไม่มองหน้าของเขาอีกเลยครับ....

............ผมโกรธนิดหน่อย.........แต่ก็มากพอดู..........

....มันเป็นความงี่เง่าแบบเด็กๆ....อาจจะดูเหมือนไร้สาระ....แต่เขาคงไม่รู้หรอกว่าผมเฝ้ารอวันนี้มานานแค่ไหน......วันที่ตะวันออกกับตะวันตกจะได้ทำอะไรร่วมกันอีกครั้ง หลังจากที่แยกกันไปเมื่อหลายปีก่อน.....

..........หลังจากที่ผมยื่นกระเป๋าสะพายใบใหญ่ให้กับร่างเล็กๆที่หน้าประตูหอพักของบริษัท...เมื่อ 6 ปีก่อนหน้านี้..........

"...คืนนี้ฉันไปนอนบ้านพีนะ..." เรียวพูดแบบนั้นก่อนจะก้าวขึ้นรถ

ผมได้แต่โบกมืออวยพรขอให้เขาโชคดี.....แล้วเดินน้ำตาซึมเข้าบ้าน......

.........เรียวกลับไปยังโอซาก้าบ้านเกิด....หลังจากนั้นพวกเราก็มีโอกาสได้เจอกันบ้างปีละครั้งหรือสองครั้ง เวลามีคอนเสิร์ตใหญ่ของค่าย......แต่นอกเหนือจากนั้น เราก็แทบจะไม่มีโอกาสได้ทำกิจกรรมอะไรร่วมกันเลย.......เหมือนกับพระเจ้าเล่นตลกให้เราต้องสวนทางกันเสมอ.....เขามาโตเกียวทีไร...ตัวผมก็มักมีเหตุต้องไปทำงานที่โอซาก้าทุกครั้งไป........

...จนผมเริ่มชินกับการไม่เห็นหน้าเขา......ผมหันมาสนุกกับงาน...และกับเพื่อนพ้องที่ร่วมงานอยู่ด้วยกันในโตเกียว.........

.......กระทั่งสัปดาห์ที่แล้ว ที่ได้รับแจ้งมาว่าพวกคันจานิ 8 จะมาร่วมอัดรายการกับพวกเราในวันนี้......ความรู้สึกบางอย่างในตัวผมถึงได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง.......โดยเฉพาะอย่างยิ่ง....เมื่อได้เห็นใบหน้าใสปรากฏขึ้นต่อสายตา......โลกก็เหมือนจะหยุดหมุนไปชั่วครู่.......

............แล้วอยู่ดีๆจะมายั่วให้มีเรื่องผิดใจกันแบบนี้น่ะหรือ !!?.........
เรียวจัง......ไอ้นิสัยแบบนี้ของนายน่ะ.....จะเปลี่ยนสักนิดไม่ได้เลยรึไง......
.........................หากเรื่องคราวนี้ทำให้พวกเราต้องห่างกันไปอีก..........ฉัน....รับไม่ได้นะ....!!.

....เย็นนั้นผมกลับบ้านตามลำพังเช่นทุกวัน.......กลับมานอนคิด........พยายามตีความหมายของรอยยิ้มบนใบหน้าเล็กๆนั้น......
ผมไม่ยอมพูด....ไม่มองหน้าเขาจนกระทั่งจบรายการ..........แต่เขากลับยิ้มให้...ก่อนจะเอ่ยลาแล้วผละจากไป........

…..นับวันผมก็ยิ่งไม่เข้าใจตัวเอง……ทุกทีที่หลับตา....ผมต้องเห็นหน้าเขาวนเวียนอยู่ในหัวทุกครั้ง……
…...........บางทีก็เป็นใบหน้าตอนเด็ก…..รอยยิ้มซุกซน….บางทีก็ดูไร้เดียงสา……
..มโนภาพของเขาที่ผมเห็น…มักจะเรียงแบบนี้ไปเรื่อยๆ…..ตั้งแต่เด็กสมัยที่เรายังพักอยู่ด้วยกัน....จนโต.....จนเขาย้ายไปอยู่โอซาก้า....แล้วมาจบที่ใบหน้าตอนที่เราได้พบกันครั้งสุดท้าย......

.....เป็นแบบนี้ตลอด.....ทุกวัน..ทุกวัน.....
…….ผมไม่เข้าใจเลย

....ในที่สุด..ผมก็ตัดสินใจไปโอซาก้า.....ทำความอยากรู้ของตัวเองให้กระจ่าง.....
...............ใช่....ผมอยากรู้.......อยากรู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับเขากันแน่.....
...
........

...ผมพาตัวเองไปจนถึงบ้านหลังหนึ่งในเขตชานเมือง ไม่ห่างจากเขตชุมชนเท่าไรนัก ..ที่นั่นสงบเงียบ รายล้อมไปด้วยทุ่งหญ้ากว้าง ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ผมสีทองเปิดประตูโรงจอดรถออกมาเลิกคิ้วฉงน ก่อนจะขมวดมันเข้าด้วยกันเมื่อเห็นหน้าผม...

".........."

เขาอึ้งไปครู่แล้วทำท่าจะปิดประตูกลับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"เฮ้ๆ..เดี๋ยวสิ...โยโก.."
“นาย...มาทำอะไรที่นี่!?”
"..หึ!....เย็นชาจริงนะ..."
"บ๊ะ..!" เขาทำท่ารำคาญเปิดประตูจะเข้าบ้าน...แต่แล้วก็กลับดึงข้อมือผมเข้าไปด้วย.. "เอ้า..จะเข้าก็เข้ามา!"

........หึหึ……โยโกเป็นแบบนี้เสมอ……เขาบ่นไปอย่างนั้นเอง แต่ก็เปิดประตูรับผมเข้าไปในบ้านแต่โดยดี
..............ผมยิ้มระรื่น....เดินตามเขาเข้าไป..........
..........สำหรับผม….เขาเป็นเหมือนพี่ชาย…..ที่สามารถอ้อนได้ตลอดเวลา…!

"ถอยไปซิ..เกะกะจริงนายนี่…"

..............แต่ผมจะอ้อนได้ถูกเวลาหรือเปล่า.….....นั่นอีกเรื่อง…......

...ผมขึ้นไปขดตัวอยู่บนโซฟา...โยโกยังคงเดินไปเดินมาหยิบโน่นหยิบนี่ไปเรื่อย....

"โอย~หน้าร้อนนี่มันร้อนชะมัด…อยากไปเล่นสกีจังว้อยยย!!"
"ฮะฮะ..ก็ไปซี่......หน้าหนาวนี้ไปกันดีไหม..."
"...ไปบ้านนายน่ะนะ?"
"อืม...ไปอยู่บ้านฉันก็ได้....ชวนฮินะไปด้วย"
"...ฟิ้ว~!....น่าสนนี่!!"

..หนุ่มผมทองผิวปากชอบใจ เริ่มยิ้มออกมาได้ "ว่าแต่นายเหอะ...มาที่นี่...คงไม่ได้ตั้งใจจะมาชวนฉันกับฮินะไปเที่ยวหรอกใช่ไหม"

.....................ผมยิ้ม.....ยักไหล่.........

..........นายหมีขาวชายหางตามอง....หรี่ตาลงทำหน้าเหม็นเบื่อ.........

"เหอะ-- !" ...โยโกสะบัดหน้าพรืด....ผมหัวเราะลั่น.....ผมว่าเขาคงเอือมกับเด็กกวนประสาทคนนี้เต็มทีแล้ว.....
"ป่านนี้คงกินข้าวอยู่กับพวกอุจิละมั้ง.....จะโทรไปเรียกให้เอาไหม?"
"..........."
......เสียงใหญ่ถามหยั่งเชิง....เขาหันกลับไปเมื่อเห็นผมส่ายหน้า.........

.....................โยโก.....รู้ใจเกินไปแล้ว.........

"รักโยโก~~!!"

"อ๊าากกกกส์!!! ปล่อยนะเฟ้ย! ขนลุก!!!!"
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"
...นิ้วมือด้านๆของโยโกแกะมือผมออกพัลวัน...แต่ผมก็ยังคงกอดเขาไว้แบบนั้น....
"....ฉัน.....คิดถึงน่ะ...."
"ใคร?...ฉัน?.....หรือเจ้าตัวเล็ก...?"
ผมซุกหน้าลงกับแขนแข็งแรงนั่น.....ไม่อยากตอบ.......

"...แต่ก็คิดถึงโยโกกับฮินะด้วยนะ..."

"เชอะ!...ไม่ต้องมาอ้อนเลย....งี่เง่าเอ๊ย" ....คนเสียงดังแยกเขี้ยว......"ไอ้เด็กบ้า"
......มือใหญ่ขยี้เส้นผมของผมไปมา...ก่อนจะเปลี่ยนเป็นลูบเบาๆอย่างอ่อนโยน....
...........................
...............

........สุดท้ายโยโกก็นำผมออกจากบ้าน.....จุดหมายของพวกเราคือย่านร้านอาหาร......โยโกบอกว่าพวกอุจิคุงรออยู่ที่นั่น......

...เมื่อไปถึง สิ่งแรกที่ผมกระทบสายตาผมคือเขี้ยวขาวๆของมารุ.....ต่อจากนั้นจึงเป็นใบหน้าที่แสดงอาการตื่นเต้นดีใจของอุจิ..........ผมยังไม่เห็นแม้แต่เงาของอีกคน.....
"ฮะฮะ...อะไรเนี่ย..มาไม่บอกกล่าวเลยนะ" หนุ่มน้อยเจ้าของร่างผอมเพรียวตบบ่าผมเบาๆ "อ่านเมล์ของผมรึเปล่า?" ผมพนักหน้า ยิ้มให้เขา ...... พยายามสอดส่ายหาคนอีกคนต่อไป....

"..เรียวจัง!....ดูสิใครมา.."
....เสียงใสของอุจิร้องเรียกให้คนที่เพิ่งเดินตามมาถึงพุ่งความสนใจมายังแขกที่ไม่ได้รับเชิญตรงหน้าเขา.......ผมหันหลังกลับไปมอง จึงได้พบว่าดวงตากลมสวยสีน้ำตาลเข้มกำลังจ้องตรงมา......ริมฝีปากบางอ้าค้าง.....

"นายมาอยู่นี่ได้ไง!?" ...เขาถามด้วยความงงงวย....ตาโตเบิกกว้าง...
"ฮะฮะ..มีไกด์พามา..นี่ไง" ...ผมชี้นิ้วโบ้ยไปให้โยโกที่ยืนอยู่ไม่ไกล...
"เหรอ..."
...เรียวมองไปทางโยโก....คนตัวใหญ่ทำไม่รู้ไม่ชี้....แกล้งหันไปคุยกับมารุที่ไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่....
"มาเที่ยวเหรอ?" ....คราวนี้หันมาถามผม... "จะอยู่กี่วันล่ะ...มีที่พักรึยัง?....จะไปนอนบ้านฉันก็ได้นะ"

เฮ้-- มันจะไม่เข้าทางผมไปหน่อยเหรอ...!?

......คนตัวเล็กยิ้มหวานให้.......
.............มันไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่.........เขามักจะยิ้มแบบนี้เสมอ........

.....เรียวจังปากร้ายแต่ใจกว้างเกินตัว.......เขามักจะเสนอตัวชวนเพื่อนๆที่มาเที่ยวโอซาก้าไปพักที่บ้านเป็นปกติอยู่
แล้ว......
..........................แต่ทำไมคราวนี้...ผมถึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษก็ไม่รู้........

..หลังจากหาอะไรรองท้องเรียบร้อย...พวกเราเริ่มเคลื่อนพลเข้าไปในแหล่งชุมชนเพื่อตามหาเหยื่อตกปลาขนาดกำลังดีสำหรับงานอดิเรกของโยโก....

.......โยโกดูท่าทางมีความสุข.....เขายิ้มกว้างสดใส.....บางทีเขาอาจจะขี้เหงายิ่งกว่าที่ผมคิด......
...ทางด้านมารุจังก็ยังคงเป็นนักฟังที่ดีเมื่ออุจิตั้งอกตั้งใจเล่าเรื่องหนังเข้าใหม่ที่เพิ่งไปดูมา......ในขณะที่คนตัวเล็กกับผมอมยิ้ม...เดินตามไปเงียบๆ......

"อ๊ะ ไอติมๆ!!"
อุจิร้องขึ้น แล้ววิ่งตรงไปยังรถเข็นขายไอศกรีมโดยไม่รีรอ...."เอาไหม? ใครจะเอาบ้าง?" ใบหน้าหวานหันมาถาม ...คนที่เหลือส่ายหน้ากันเป็นแถว....

...แน่นอนว่าอุจิคิ้วตก.....ผมปลอบใจเขาด้วยรอยยิ้มแห้ง....ก็มันอิ่มนี่นา...

"มารุ...มาช่วยฉันดูนี่หน่อยซิ" ...พี่ใหญ่รีบดึงแขนมารุหนีเข้าไปในร้านขายอุปกรณ์ตกปลาขนาดย่อมที่อยู่เยื้องไปจากที่พวกเรายืนอยู่ไม่มากนัก........หันมายักคิ้วให้ผม.....

"งั้นเราไปดูทางโน้นกันเถอะ" ..เสียงนุ่มของคนข้างๆเอ่ยชวน..
"เอ่อ..อื้ม..เอาสิ"
....ไม่แปลกใช่ไหมครับที่ผมจะรีบตอบรับ......ดีใจที่เขาเป็นฝ่ายพูดคุย.....

.....เราเดินเคียงกันไปได้ไม่ไกล ผมก็ปล่อยให้เรียวนำไปก่อนเพื่อที่ตัวเองจะได้หยุดยืนมองสิ่งที่อยู่ในตู้กระจกหน้าร้านตรงหน้าสักครู่.......

"อยากได้เหรอ?" เสียงใสตะโกนถาม..

"…อืม….กล้องรุ่นนี้ดีกว่าอันที่มีอยู่ตั้งเยอะ.."

คนตัวเล็กที่เดินย้อนกลับมา...มองเข้าไปในตู้กระจกอย่างตั้งอกตั้งใจ…เขาเพ่งมองป้ายราคาก่อนจะผละจากไป….

"...เก็บตังค์เข้าสิ...ถ้าอยากได้....." เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ..ผมรีบเดินตามไปให้ทัน...

".....เรียวจังล่ะ?...."
"หืมม์?"

"..มีอะไรที่อยากได้ไหม?"

"....รถยนต์....."

............ห๋ะ!?...........รถ.......เลยหรือ.. .?

"มีใบขับขี่แล้วเหรอ?"
"อายุยังไม่ถึง..แต่จะสอบเมื่อไหร่ก็ได้อยู่แล้ว"
"..หึหึหึ....มั่นใจจริงนะ.......งั้นก็เก็บตังค์เข้าล่ะ !"

ผมนำคำพูดเมื่อครู่ของเขากลับมาแหย่เจ้าตัวอีกที.....ตบบ่าเล็กเบาๆ....

............แต่เรียวยังคงยิ้ม....ยิ้มอย่างมั่นใจ....
....เรียวจังเป็นแบบนี้เสมอ....อะไรที่ตั้งใจไว้แล้วก็ต้องทำให้ได้....ผมรู้....คราวนี้เขาคงเอาจริงแน่....

".......มีรถก็ดีหรอกนะ.......แต่สำหรับฉันน่ะ...ตอนนี้ขอแค่กล้องก็พอ..."

......ผมสูดลมหายใจเข้า

"...ถ้าทำได้นะ...ฉันจะเดินทางไปรอบโลก....อยากเก็บภาพสถานที่ที่สวยงามเอาไว้...รอบโลกเลย.."

ผมยิงฟันขาว.....รู้สึกสนุกกับความคิดตัวเองขึ้นมา....รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอยากจะทำให้มันเป็นจริงเสียเดี๋ยวนี้

"..แต่ตอนนี้ยังไม่มีเงินมากขนาดนั้น....ก็คงต้องทำงานต่อไปก่อนล่ะนะ..."

"...เดบิวท์สิ..."

"หือ?"
......ผมหันไปมอง.....เรียวกำลังยิ้มให้.......

"...อีกหน่อย...ถ้านายได้เดบิวท์....ก็คงมีเงินเก็บพอละมั้ง..."
"...ฮะฮะฮะ....อืมเนอะ..."

.....ตอนนั้นพวกเราต่างมีความฝัน....ทั้งที่ยังไม่รู้อนาคตกันเลยด้วยซ้ำ....
.............................ช่างน่าขันจริงๆ...........
...........

..

........

.........."อ่ะ! ของนาย!!"

"นี่มันอะไรกันเนี่ย!?"
"เอาไปเหอะน่า...ฉันไปละ!"

..พอพูดจบร่างสูงใหญ่ของโยโกก็เผ่นแผลวไปทันที....ผมก้มลงมองสิ่งที่อยู่ในมือ........

-ไอศกรีมโคนรส สตรอเบอรี่ !??-

...เรียวขำก๊ากกับท่าทางงงงันของผม... "อุจิคงซื้อเผื่อมั้ง เห็นเราไม่อยู่ก็เลยให้โยโกยาม่าคุง"
"แล้วโยโกก็มาส่งให้ฉันต่อ..?" ....ฮึ่มๆๆ!!... "แล้วหายไปไหนกันหมดแล้วล่ะ?"
"กลับกันไปแล้วมั้ง.."

..............งั้นเหรอ...?.........แปลว่าเหลือแค่ผม..กับเรียวแล้วสินะ.......

"รีบๆกินซะเถอะ..เดี๋ยวละลายนะ" ...ดวงตาสีน้ำตาลกำลังยิ้มบางๆ....

........ผมลองชิมไอศรีมที่อยู่ในมือ...........
..................หวานจัง.......
...................

....เราเดินไปด้วยกัน....ข้ามถนนเส้นเล็ก....แล้วเลือกนั่งลงบนทุ่งหญ้ากว้าง.....ในมือของผมยังมีไอศกรีมสตรอเบอรี่ที่โยโกยัดเยียดให้......
....ผมเริ่มแทะเล็มเจ้าก้อนสีชมพูนั่นช้าๆ......เขายังคงมองผมนิ่ง.....

"นี่..ข้างนี้จะละลายแล้วนะ !"
เสียงนุ่มของอีกคนแหลมขึ้นมาเมื่อไอศกรีมเริ่มหยดลงพื้น....คนตัวเล็กแลบลิ้นเลียส่วนที่ละลายให้หมดไป..
"....หวาน..." เขาทำหน้าเบ้ เหมือนกับไม่ชอบมันเท่าไรนัก
"อร่อยออก"
"งั้นก็กินไปคนเดียวละกัน"
...ผมยักคิ้ว....เลียไอติมต่อไปเรื่อยๆ.....
.....มือเล็กๆเอื้อมมาจับมือของผมแล้วเอียงขึ้นให้ตั้งตรง...
"ถือดีๆหน่อยสิ จะหยดหมดแล้วนะ"
....ใบหน้าสวยย่นยู่อย่างไม่พอใจ........ผมได้แต่อมยิ้ม....

...ผมเชื่อว่าถ้าผมทำเป็นทองไม่รู้ร้อน..กัดกินเฉพาะข้างที่อยู่ฝั่งตัวเอง...ไม่ช้าคนตัวเล็กก็คงจะอดรนทนไม่ได้อีกแน่ๆ........

……แล้วก็เป็นดังคาด……….
…..ริมฝีปากเล็กเคลื่อนเข้ามางับเอาไอศกรีมฟากที่เหลือไปคำใหญ่.......ตัดปัญหาการละลายไปได้เป็นกอง……..

…..เราช่วยกันทำให้เจ้าก้อนสีชมพูเล็กลงเรื่อยๆโดยผลัดกันเลียคนละที…….
…........แต่ก็มีอยู่ครั้งหรือสองครั้งที่พวกเราพร้อมใจกันจู่โจม…..จนกระทั่งหน้าผากสัมผัสกัน.....
"โอ๊ย!...อ๊ะ ข้างนั้นจะหยดอีกแล้วนะ!"

"ข้างเรียวจังก็เหมือนกันแหล่ะน่า.."

.....น้ำหวานสีชมพูข้นเริ่มไหลย้อยจากโคนขนมปังกรอบ....ลงสู่มือใหญ่ของผม....ที่กุมมือเล็กของเขาเอาไว้พร้อมๆกับโคนไอศกรีม.......

.........เกล็ดน้ำแข็งสีชมพูอมแดงเล็กลงเรื่อยๆ......เขาส่งปลายลิ้นเลียเจ้าก้อนน้ำหวานนั่น........
....ในเวลาเดียวกับที่ปากของผม...กำลังงับไปที่เป้าหมายเดียวกันพอดี......

....ปลายลิ้นนุ่มสัมผัสริมฝีปากบนของผมแผ่วเบา....
......ก่อนจะตวัดไอศกรีมเข้าไปในปากได้รูปสีชมพูอ่อน.........

........................ผมรู้.............เขาก็รู้.........
...แต่เราต่างทำเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น.......เป็นเพียงอุบัติเหตุที่ไม่ควรจดจำเท่านั้น......
.........เรายังคงช่วยกันกินต่อไปเรื่อยๆ.........

.......ในที่สุด......เมื่อไอศรีมคำสุดท้าย....ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของผม........
.....ผมได้แต่ปล่อยให้เขาตวัดเจ้าก้อนสีชมพูเข้าปาก........แต่ทว่า...ลิ้นสีแดงสด....คงเรียวเล็กเกินไปที่จะนำพาไอศรีมที่เหลือทั้งก้อนเข้าปากได้อย่างปลอดภัย......

......เกล็ดน้ำหวาน.....เลอะริมฝีปากน่ารักนั่นอย่างช่วยไม่ได้....

"จะเปื้อนแล้วนะ...เรียวจัง........"

....ผมดึงมือเขาเข้าหา....ทำความสะอาดแก้มนิ่มระเรื่อยมาจนถึงริมฝีปากบาง....
.........ด้วยลิ้นของตัวเอง.........

................และนั่น...........ผมจึงได้รู้จักกับรสสัมผัสที่หอมหวานเป็นครั้งแรก......

...................จูบ......รสสตรอเบอรี่..... ........
.................

.....................
...เช้าวันต่อมาผมพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มที่โครงสร้างทำด้วยไม้เนื้ออ่อน…ในห้องของใครคนหนึ่ง….....นัยน์ตาของผมพุ่งตรงไปที่กระถางต้นไม้สีเขียวที่มุมห้อง…...ไม่กล้าขยับตัวเลยแม้แต่น้อย…….
...............คนตัวเล็กที่อยู่ในวงแขนยังคงหลับตาพริ้ม......แก้มใสวางอยู่ใต้จมูกของผม...............
.........หากว่าใครคนใดคนหนึ่งขยับตัวแม้เพียงนิด......ริมฝีปากของเราคงต้องสัมผัสกันเป็นแน่......

............ผมนอนนิ่ง.....แกล้งหลับตาลงเสีย..........

.....แต่แล้ว....เสียงนาฬิกาเจ้ากรรมกลับดังขึ้นแบบไม่ยอมให้ตั้งตัว.....ร่างเล็กลืมตาลุกพรวดขึ้นนั่ง...หันมาทำตาเขียว..
"ตื่นได้แล้วนะ! เดี๋ยวก็สายหรอก!! นี่!!"
เอามือตบ ปุ ปุ ลงบนตัวผมสองสามที ก่อนจะถอดเสื้อยืดออกแล้วเผ่นแผลวไปเข้าห้องน้ำ..

….ไม่มีอะไรที่น่าวิตก….ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว….

….บ่อยครั้งไป…ที่ผมตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ามีร่างบอบบางของเขาอยู่ในวงแขน….
.........…..และไม่ใช่ครั้งแรก…ที่เมื่อเขาลืมตาตื่น…แล้วพบว่ามีใบหน้าของผมอยู่ใกล้ๆ…...

.........เรียวเคยบอกว่า....ความหมายของการกระทำทุกอย่างอยู่ที่เจตนา......อะไรที่ไม่ได้ตั้งใจ......
....ก็คือไม่ตั้งใจ.......

..............
..............................เอ................

......................แล้วจูบเมื่อวานนี้..........ผมตั้งใจรึเปล่านะ.....?
....................................
............

..........................
.........ทั้งหมดนั่นมันเป็นเรื่องผ่านมานานแล้วล่ะครับ.........คงจะครึ่งปี.....หรือหนึ่งปี.....ผมเองก็จำไม่ได้แล้วล่ะ.....
.....แต่ช่างเถอะ......เพราะเดี๋ยวเราก็จะได้พบกันอีกครั้งในไม่กี่นาทีนี้แล้ว.......

“พวกคันไซพร้อมแล้ว บอกพวกเด็กๆให้ไปสแตนด์บายข้างล่างได้เลย!”

สต๊าฟเตรียมพร้อมที่จะเริ่มซ้อมใหญ่ ก่อนถึงเวลาแสดงจริงของรายการ The Shonen Gakubu..ปี2004.
........ผมมองภาพเขาผ่านทางมอนิเตอร์ในห้องควบคุม......
...........ทั้งใบหน้าเวลาร้องเพลง....ทั้งน้ำเสียงที่เปล่งออกมา........มันทำให้ผมตกใจในความเปลี่ยนแปลงของคนที่อยู่ตรงนั้น.....
....คนเราไม่มีทางเหมือนเดิม.....เขา....พัฒนาขึ้น........จนผมตามไม่ทัน..........

.....หลังเสร็จสิ้น camera rehearsal ผมออกจากห้องควบคุม ลงไปดูความเรียบร้อยข้างล่าง….
....หนุ่มหน้าหวานตัวผอมเพรียว..หนึ่งในกลุ่มชาวคันไซหันมายิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าผม....ก่อนที่จะสะกิดให้คนข้างๆที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจความเป็นไปรอบตัวนัก....หันกลับมามองข้างหลังบ้าง......

….ผมยิ้ม.....ยิ้มให้กับใบหน้าที่คุ้นเคยนั้น....

……..เขา...มองหน้าผมนิ่งแล้วยิ้มให้เช่นกัน.....

ไฟบนเวทีพร้อมแล้ว..สต๊าฟให้สัญญาณแสตนด์บาย……ผมกลับเข้าห้องควบคุมอีกครั้ง….

....เสียงดนตรีดังขึ้น….คน 8 คนที่อยู่บนเวทีกำลังขยับร่างกายไปตามจังหวะอย่างลงตัว…..

…........ผมเฝ้าดูร่างเล็กๆของเขาผ่านจอมอนิเตอร์ขนาดไม่ใหญ่นัก......

…...แสงไฟสีส้ม......กระทบกับจี้สร้อยคอรูปลูกโลกสีทอง.....…เกิดเป็นประกายเจิดจ้า.…....
.......ผมเผลอยิ้มออกมา..........

............เดบิวท์สิ......แล้วก็ไปรอบโลก........

…...ผมเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นจับจี้รูปแหวนที่ห้อยคอตัวเองอยู่โดยไม่รู้ตัว......

"หึ..หึ.........ตอนนี้ฉันก็ห้อยพวงมาลัยไว้ที่คอเหมือนกันนะ....เรียวจัง....."

.........ไม่ว่าคนที่กำลังร้องเพลงอยู่บนเวทีนั่นจะได้ยินหรือไม่ก็ตาม........

- ผมเห็นรอยยิ้มของเขา....ตอบกลับมาอย่างชัดเจน -

~ fin ~

(Taken from Strawberry Kiss 2004 by Kuwata, First post in Kanjaniland Board on 6.8.2004, 12:05:34)

***********

Kuwata's Note:
Who is he?

ถึงตรงนี้แล้ว มีใครยังไม่รู้บ้างไหมคะว่าพระเอกของเรื่องคือใคร? คนแต่งไม่ได้บอกไว้แต่ก็น่าจะเดากันออกเนอะ
เอาเป็นว่าถ้าเดาไม่ถูกจริงๆก็ลองคิดตามคำใบ้นี่ดูละกันนะ (นี่มันเกมรึอะไรเนี่ย!?)
โอเค. คนคนนี้เป็นเด็กคันโตที่สนิทกับคันจานี่ยกแก๊งแถมยังซี้กะคนเค้าไปทั่ว เขาเรียกโยโกว่า “โยโก” เรียกฮินะว่า “ฮินะ” ไม่ใช่ “โยโกยาม่าคุง หรือ มุราคามิคุง” อย่างเด็กรุ่นน้องทั่วไป, ตอนเด็กๆชอบแลกเสื้อกับเรียวใส่ แถมยังชื่นชมเมนูพิสดาร “นัตโตะใส่มายองเนส (!?)" สูตรนิชิกิโด อีกต่างหาก, หนุ่มคนนี้เป็นอดีตลูกหม้อซึบาสะ เป็นมือขวาทักกี้ในการทำงานเบื้องหลัง ปัจจุบันเป็นเจ้าพ่อละครเวที เต้นเก่ง เสียงดี แต่ชวดเดบิวท์ไปสองทีเพราะมัวแต่เล่นละคร (ตอนที่แต่งเรื่องนี้ คือ ปลายปี2003 เราพยากรณ์ว่าอีกปีครึ่งถ้าคัตตุนได้เดบิวท์ หมอนี่อาจผันตัวเองจากนักร้องไปเป็นนักแสดงเต็มตัว....แล้วก็..555)

นึกออกยังเอ่ย...?
ถ้าไม่ออก จะบอกให้อีกนิด (เฮ่ยย...จะมีอยู่เร้อคนที่ยังไม่รู้เนี่ย..) หมอนี่เกิดก่อนเรียวหนึ่งเดือน ชอบเล่นซอกเกอร์ เป็นไม้เบื่อไม้เมากับทักกี้ เล่นสเก็ตได้ดี ตีลังกากลับหลังได้ อักษรย่อของชื่อและนามสกุลเหมือนกับ อิมาอิ ซึบาสะเปี๊ยบ................จบ.

อ่านแล้วเป็นยังไงบ้าง ชอบกันรึเปล่าคะ? (จริงๆคือจะถามว่ารับกันได้มั้ยกับการแต่งแบบนี้ของเราต่างหาก...เอ้อ...)
ชอบไม่ชอบยังไง บอกกันนะคะ ขอบคุณล่วงหน้า

P.S.- ช่วงที่แต่งเรื่องนี้ คันจานี่ 8 กำลังจะเดบิวท์ซิงเกิ้ลแรกออกมาพอดีเลย
間ジャニ8のみんなさん、おめでとう~!!

/////////////////////////

to be cont'd.. 

kuwata, fiction

Previous post Next post
Up